เวกัสนั่งกินสลัดผักที่น้ำทิพย์อุตส่าห์เตรียมมาให้ด้วยความฝืนใจในห้องลับที่สร้างเอาไว้ใต้ตึก ร่างสูงทำท่าผะอืดผะอมหลายครั้งแต่ก็ยังกลืนมันลงไปทีล่ะคำ ๆ จนหมด
“เฮ้ออ รสชาติห่วยแตก”
เขาพูดพร้อมกับกลืนคำสุดท้ายลงคออย่างยากลำบากก่อนจะคว้าน้ำมาดื่มล้างคอ
“นายน้อยครับ มากันครบแล้วครับ”
“อืม”
เวกัสโยนขวดลงถังอย่างแม่นยำก่อนจะเดินไปหาลูกน้องที่เข้าแถวรออย่างใจจดใจจ่อ แม้จำนวนจะมีไม่มากเท่าเมื่อก่อนแต่ทุกคนก็สามารถเชื่อใจได้
“กูมีเรื่องจะถามแค่เรื่องเดียว.....”
น้ำเสียงที่ผ่อนคลายกลายเป็นตึงเครียดในพริบตา ทุกคนต่างตกอยู่ในบรรยากาศที่กดดันจนเหงื่อแตกเพราะไม่รู้ว่าเวกัสจะคุยเรื่องอะไรกันแน่
“ทำไมช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาถึงไม่มีรายงานเรื่องผู้หญิงที่กูสั่งให้ไปคุ้มกัน”
“....”
นี่คือเรื่องที่เขาคาใจ ต่อให้จะงานยุ่งแค่ไหนแต่เวกัสไม่ใช่คนขี้ลืม เขาจำได้ทุกรายงานที่ลูกน้องส่งเข้ามาและเมื่อนึกย้อนไปก็เจอว่าตัวเองไม่ได้รับรายงานเรื่องน้ำทิพย์มาประมาณสองอาทิตย์แล้ว
มันชนกับช่วงที่เขางานยุ่งและเลขามาขอลาออกพอดีทำให้เขาไม่ทันสังเกตจนไม่รู้ว่าน้ำทิพย์รู้จักกับเนมด้วย
“ไอ้คริส มึงตอบมา”
“นายครับ....”
‘แกร๊ก’
เสียงขึ้นไกปืนจากคนตรงหน้าทำให้คริสต้องกลืนน้ำลาย แววตาของเวกัสฉายแววเอาจริงจนน่าหวั่นใจ ปืนในมือเขาจ่อหัวห่างแค่ไม่กี่มิล
“ตอบมา มึงทำแบบนั้นทำไม?”
“ผม...แค่ไม่อยากให้นายน้อยมีจุดอ่อน”
“จุดอ่อน?”
“ครับ”
คริสสูดหายใจเข้าลึก ๆ และยอมพูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา เขาทำไปก็เพราะหวังดีต่อเวกัสทั้งนั้น ไม่ได้คิดจะทรยศหรือแทงข้างหลังเลยแม้แต่นิดเดียว
“นายน้อยไม่เคยใส่ใจใครเท่าเธอมาก่อน มันทำให้ผมรู้ว่าเธอพิเศษกว่าคนที่ผ่าน ๆ มา”
“....”
เมื่อเห็นว่าเวกัสยังคงไม่ขัดและไม่ลดปืนลงเขาจึงเลือกที่จะพูดมันทั้งหมดและได้แต่หวังว่าเวกัสจะเข้าใจในสิ่งที่เขาทำลงไป
“เธอกำลังทำให้นายน้อยมีจุดอ่อนที่จะถูกเพ่งเล็งได้ง่าย ผมแค่อยากให้เธอห่างออกจากนายน้อยก็เท่านั้นเองครับแต่ผมก็ยังสั่งคนให้คุ้มกันเธอเหมือนเดิม”
“แต่เลือกที่จะไม่รายงานกู?”
“ครับ”
เวกัสรู้ดีที่สุดว่าสิ่งที่มือขวาตัวเองพูดนั้นเป็นความจริง เขากำลังรู้สึกกับเธอมากกว่าแค่คนที่นอนด้วยกันแค่ครั้งเดียว ไม่ใช่เพราะกลัวเธอท้องแต่มันมากกว่านั้น
“กูรู้ว่ามึงหวังดีแต่มึงขัดคำสั่งกู...คงเตรียมใจมาแล้วใช่ไหม”
“ผมเตรียมใจมาแล้วครับ”
“ดี”
เวกัสลดปืนลงก่อนจะโยนมันให้กับลูกน้อง เขาหยิบมีดพกออกมาถือและพยักหน้าให้ลูกน้องข้าง ๆ เอามีดให้กับคริส
“กฎของกูคือใครขัดคำสั่งคนนั้นต้องตาย เข้ามาคริส กูจะสั่งสอนมึงเอาว่ากูปกป้องคนของกูได้และเธอไม่ใช่จุดอ่อนแต่เป็นนายหญิงของพวกมึงทุกคน”
“ผม...ทำไม่ได้ ผมทำร้ายนายน้อยไม่ได้ครับ!”
คริสปัดมีดในมือคนที่เอาเข้ามาให้ออก เขามองหน้าเวกัสคนที่เขาดูแลมาตั้งแต่เด็กและเห็นมาทุกการเติบโต จะให้เขาสู้กับเวกัสเขาทำไม่ได้จริง ๆ
“กูสั่งให้มึงสู้!!”
“อั่ก!!”
เวกัสพุ่งเข้าใส่คริสด้วยความโกรธ เขาเหมือนเสือที่พร้อมล่าเหยื่อมากในตอนนี้ มีดคมกริบจ่อเข้าที่คออีกฝ่ายแล้วออกแรงกดเล็กน้อยจนมีเลือดซึมผ่านผิวหนัง
“จะฆ่าผมก็ได้ครับแต่ผมจะไม่ทำร้ายนายน้อยเด็ดขาด”
ทั้งแววตาและสีหน้าที่พร้อมตายของคริสทำให้ปลายมีดที่กำลังกดลงหยุดชะงักไปเล็กน้อย เวกัสปักมีดเฉี่ยวใบหน้าของอีกฝ่ายไปแค่นิดเดียวก่อนที่เขาจะลุกยืนขึ้นแล้วหันหลังให้กับอีกฝ่าย
“หลังจากนี้มึงไม่เกี่ยวข้องอะไรกับกูอีกแล้ว ไปซะ ถ้ากูเจอมึงอีกจะไม่ใช้แค่มีดที่พุ่งเข้าหามึง”
“นายน้อย....”
“มึงรู้ดีที่สุดว่ากูเป็นคนยังไง คำพูดกูคือคำขาด”
“พวกมึงทุกคนจำเอาไว้ กูจะไม่ปราณีใครเป็นครั้งที่สองเด็ดขาด ถ้าผู้หญิงของกูเป็นอันตรายคนที่รับผิดชอบจะเป็นพวกมึงทั้งหมดและใครกล้าที่จะขัดคำสั่งกูจุดจบของมันก็จะไม่ต่างจากไอ้คริส”
เขาเดินไปหยิบสูทที่พาดไว้ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้ทุกคนที่มาในวันนี้ยืนเงียบไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว อย่างที่เขาบอกนั่นล่ะคำพูดเขาคือคำขาดที่ทุกคนต้องฟังและทำตาม ใครที่กล้าขัดคำสั่งก็ต้องน้อมรับผลที่ตามมาให้ได้
ครั้งนี้เขายังเห็นแก่ที่อีกฝ่ายดูแลเขามาเป็นเวลาหลายปีจึงเลือกที่จะไว้ชีวิตและปล่อยไปแต่หากใครคิดจะทำตามล่ะก็แม้แต่ความปราณีเขาก็ไม่มีให้
»»»»«««««
อีกด้านน้ำทิพย์ที่ดูจะมีความสุขในการทำงานวันแรกก็กำลังโทรคุยกับเนมอย่างออกรสออกชาติ เธอคุยจ้อไม่หยุดจนอีกฝ่ายฟังแทบไม่ทัน
(ดีแล้วล่ะที่เข้ากับคุณเวกัสได้)
“อืมม เขาเป็นคนจริงจังมากเลยนะคะ หนูเห็นเอาแต่ทำงานแทบไม่ออกไปไหนเลย”
(ใช่ คุณเวกัสเขาเป็นพวกบ้างานน่ะ มาทำงานก่อนคนอื่นเลิกงานทีหลังเสมอ)
“แล้ว เอ่อ เขามีแฟนหรือคู่รักอะไรแบบนี้ไหมคะ?”
(หืมม ถามแบบนี้....สนใจท่านประธานเหรอจ๊ะ)
น้ำทิพย์หน้าแดงเล็กน้อย เธอซุกหน้าลงกับหมอนแล้วกรีดร้องออกมาเงียบ ๆ จะให้บอกว่าเคยวันไนท์กับเขาก็ยังไงอยู่
“ปะ เปล่าค่ะ แค่ถามดูเผื่อว่า เอ่อ เผื่อว่า”
(ฮ่า ๆ พี่ล้อเล่น ๆ ทิพย์ก็เห็นแล้วนี่ว่าเขาบ้างานขนาดไหน ถ้าจะมีใครพังกำแพงงานเขาได้ก็คงเป็นสาวบ้างานด้วยกันนั่นล่ะ ใช่ คุณเวกัสไม่มีแฟนหรือคนคุยหรอกนะ)
“อ้อ โอเคค่ะ”
อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ไปนอนกับคนรักของใคร เธอไม่อยากเข้าไปทำให้ความสัมพันธ์ของใครพังลงหรอกนะ มันบาป
(ส่วนเรื่องอาหารคุณเวกัสจะชอบอะไรที่กินง่าย ๆ ขอแค่อย่างเดียวอย่าเป็นผักพอ)
“ผัก....เหรอคะ”
(ใช่ เขาเกลียดผักมากแทบไม่กินเลยถ้าเลี่ยงได้ จะกินแค่ที่ตัวเองชอบพวกกะหล่ำหรือแตงกวานิดหน่อย ยิ่งสลัดผักนี่ยิ่งเกลียดเข้าไส้เลยล่ะ)
เวรล่ะ
“พี่เนม หนูว่าหนูอาจจะโดนไล่ออกเร็ว ๆ นี้แล้วล่ะ”
(อ้าว! ทำไมล่ะ)
“คือ....เมื่อเย็นก่อนกลับบ้านน่ะคะ หนูไม่รู้ว่าเขาไม่ชอบสลัดก็เลยจัดให้เขาไปชามใหญ่เลยค่ะ....”
(พรืด ฮ่า ๆ ๆ ๆ)
“พี่เนมอย่าขำสิคะ หนูไม่รู้นี่ว่าเขาไม่กินผัก เห็นตัวโตหุ่นดีก็นึกว่ารักสุขภาพ....”
(ฮ่า ๆ โอเค ๆ)
ถึงจะพูดแบบนั้นแต่เนมก็ต้องใช้เวลาพักใหญ่กลับมาตั้งสติได้ ส่วนน้ำทิพย์ก็อดอายไม่ได้ที่ทำแบบนั้นลงไปอุตส่าห์โทรไปถามเมนูโปรดแต่ดันลืมถามของที่เกลียดไปซะได้
“เฮ้ออ ทำพลาดตั้งแต่วันแรกเลยเหรอเนี่ย”
(เอาน่า เราก็โก๊ะ ๆ เปิ่น ๆ แบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วไม่ใช่เหรอ ตอนเจอเรากันครั้งแรกก็ไม่ต่างจากนี้มากนะ)
“พูดแล้วยังอายอยู่เลยค่ะ”
น้ำทิพย์อดขำไม่ได้เมื่อนึกย้อนไปถึงวันแรกที่เธอเจอกับเนม ตอนนั้นเธอกำลังจะเอาอาหารไปเสริฟที่โต๊ะของเนมแต่ดันก้าวขาพลาดจนอาหารหกราดไปบนตัวของอีกฝ่าย
ถึงแม้เนมจะไม่ติดใจเอาเรื่องแถมยังให้กำลังใจเธออีกแต่น้ำทิพย์ก็ขอรับผิดชอบด้วยการซื้อชุดใหม่ให้ เนมที่เห็นว่าอีกฝ่ายอยากรับผิดชอบจริง ๆ จึงไม่ขัดใจ
แต่เมื่อเธอซื้อมาจริง ๆ ดันซื้อชุดมาผิดขนาดทั้งที่ถามสัดส่วนไปแล้ว ตอนนั้นเนมอดหัวเราะออกมาไม่ได้และแนะนำว่าให้เธอช่วยอย่างอื่นแทน
หลังจากนั้นเนมก็ให้เธอช่วยเลือกของช่ำรวยที่จะแจกในงานแต่ง ทั้งคู่เลยสนิทกันมากขึ้นจนเนมได้รู้ว่าเธอมีปัญหากับการที่อาแท้ ๆ มาตามรังควานและยังรู้อีกว่าอีกฝ่ายจบอะไรมา
เธอเลยลองเสนองานเลขาให้เพราะคิดว่าน้ำทิพย์น่าจะทำได้และมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ประธานที่เอาแต่ทำงานหามรุ่งหามค่ำถึงขั้นโทรมาหาเธอว่าเลขาคนใหม่ทำงานดีอย่างที่บอกไม่ผิด
เรื่องนี้น้ำทิพย์ไม่รู้เพราะเนมไม่ได้เล่าให้เธอฟัง เธอดูออกว่าทั้งสองน่าจะเคยเจอกันมาก่อนเพราะสีหน้าของน้ำทิพย์ตอนเจอเวกัสมันเหมือนคนเคยมีความหลังกันมาก่อนแต่เนมก็คิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของทั้งสองและไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวเกินความจำเป็น
(คุณเวกัสเขาไม่ไล่ทิพย์ออกหรอก เขาเป็นคนมีเหตุผล พรุ่งนี้ทิพย์ลองเอาขนมไปขอโทษสิ รับรองเขาใจอ่อนแน่ ๆ)
“ขนมเหรอคะ”
(ใช่ เขาติดของหวานน่ะแต่ไม่ยอมรับ ลองซื้อเป็นพวกฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอดไปสิ รับรองหมดภายในไม่กี่นาทีแน่นอน)