นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอกับเธออีกครั้งในสภาพแบบนี้ ใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยความตกใจทำผมแทบเก็บอาการขำไว้ไม่อยู่
ดูจากสีหน้าของเธอแล้วเหมือนว่าเรื่องคืนนั้นจะไม่ได้มีแค่ผมสินะที่ลืมไม่ลง.....
ผมไม่ได้ดูชื่อตอนที่คุณเนมส่งมาให้เพราะคิดว่าจะใครก็ได้ที่จะมาทำงานตรงนี้ขอแค่ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีก็พอ เรื่องที่ทั้งสองคนรู้จักกันผมเองก็เพิ่งรู้นี่ล่ะ
“คุณเนมกลับเลยก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมสอนงานเธอเอง”
จริง ๆ ผมจะให้เนมสอนงานเธอก็ได้แต่เมื่อเห็นท่าทีตื่นตระหนกของคนตรงหน้าแล้วบอกตามตรงว่าอยากแกล้ง
“แต่ว่า....”
“ไม่เป็นไรครับ ผมจะได้สร้างความคุ้นเคยกันไว้เพราะคงต้องร่วมงานกันไปอีกนาน”
น้ำทิพย์ทำตัวลีบพลางหลบอยู่หลังคุณเนมเมื่อผมจงใจเน้นคำท้ายหนัก ๆ ให้เธอสะดุ้งเล่น ๆ แน่นอนว่ามันได้ผลเพราะใบหน้าสวย ๆ ซีดลงเล็กน้อย
“งั้นเนมขอตัวนะคะ ต้องไปแจกการ์ดอีกหลายที่เลย”
“ครับ”
คุณเนมเดินออกไปจากห้องแล้วเหลือแค่ผมกับเธอแค่สองคนในห้อง เธอดูจะทำตัวไม่ถูกมือไม้ก็ไม่รู้จะเอาไปไว้ตรงไหน
น่ารัก....และน่าแกล้ง
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณน้ำทิพย์ ผมจะให้คนเอาโต๊ะคุณเข้ามาในห้อง....”
“ดะ เดี๋ยวค่ะ ทำไมต้องเอาเข้ามาในห้องล่ะคะ”
ท่าทางตื่นตกใจของเธอทำผมแทบขำออกมาแต่ก็ต้องรีบปรับสีหน้าให้นิ่งเข้าไว้และแกล้งทำหน้างงกลับไป
“ก็ผมต้องสอนงานคุณจนกว่าจะคล่อง ให้ผมเดินเข้า ๆ ออก ๆ มันเสียเวลา”
“อ้ออ เอ่อ ค่ะ เข้าใจแล้ว”
“ดีครับ ระหว่างรอโต๊ะผมรบกวนคุณชงกาแฟมาให้ผมที่ ขอแบบเข้ม ๆ นะครับ”
“ได้ค่ะ”
ผมมองตามร่างบางที่เดินออกจากห้องเพื่อไปชงกาแฟก่อนจะกดโทรศัพท์ภายในโทรบอกให้คนเอาโต๊ะเธอมาตั้งในห้องทำงานโดยให้อยู่ชิดกับผมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ไม่นานน้ำทิพย์ก็กลับมาในห้องพร้อมกับกาแฟในมือ เธอมองโต๊ะที่ตั้งชิดกับผมด้วยความตกใจก่อนจะรีบเก็บสีหน้าไว้และเดินเอากาแฟมาเสริฟให้ผม
“กาแฟค่ะ ท่านประธาน”
“ขอบคุณครับ เรียกผมว่าเวกัสเถอะ เรียกแบบนั้นมันห่างเหินเกินไป”
“แต่....”
“ไม่มีแต่ครับ บริษัทเราอยู่กันเหมือนพี่น้องผมอยากให้เราสนิทกันไว ๆ งานจะได้ไม่มีปัญหา”
“ก็ได้ค่ะ คุณเวกัส”
เธอกัดฟันเล็กน้อยและยอดพูดตามที่ผมขอ คนอะไรน่าแกล้งสุด ๆ ไปเลย นี่คงนึกว่าผมจำเธอไม่ได้งั้นสินะ
ใครจะจำไม่ได้กัน เธอเร่าร้อนขนาดนั้น
ที่แน่ ๆ คือเธอจำผมได้อย่างแน่นอน แววตาและสีหน้าเธอมันฟ้องหมดแล้วว่ากำลังคิดอะไรอยู่ น้ำทิพย์เดินไปนั่งที่โต๊ะก่อนจะลงมือเปิดแฟ้มเอกสารเพื่อดูงานเบื้องต้น
“ตอนนี้คงยังไม่มีอะไรมาก ผมอยากให้คุณดูแลเรื่องการจัดประชุมต่าง ๆ ที่ผมต้องเข้าร่วม จัดตารางงานและตารางการนัดหมายเพื่อพบลูกค้าให้”
“ได้ค่ะ ฉันจะจัดการให้”
“ตรงไหนไม่เข้าใจถามผมได้เลยนะ”
“ค่ะ คุณเวกัส”
ถึงจะอยากหยอกเธออีกสักนิดแต่เหมือนฟ้าไม่เป็นใจเลย งานที่ต้องทำมันกองเป็นภูเขาจนผมแทบไม่ได้แอบมองเธอแม้แต่นิดเดียว ในห้องมีแต่เสียงเปิดเอกสารและเสียงขีดปากกาเท่านั้น
“คุณเวกัสคะ”
“ครับ?”
ผมเงยหน้าขึ้นมาตามเสียงเรียก นี่ผมจดจ้องกับงานจนไม่รู้ตัวเลยว่าเธอมายืนตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่
“เที่ยงแล้วนะคะ....”
ผมยกข้อมือมาดูเวลา จริงด้วยตอนนี้มันเลยเที่ยงมาพอสมควรเลย เธอคงเริ่มหิวแล้ว
“ขอโทษทีผมไม่ได้ดูเวลาเลย คุณไปพักก่อนเถอะสักบ่ายโมงครึ่งค่อยมาทำงานต่อ”
“แล้วคุณเวกัสล่ะคะ”
“ผมยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ คุณไปกินก่อนเถอะครับที่โรงอาหารมีสวัสดิการพนักงานให้ อยากกินอะไรก็สั่งแม่ครัวได้เลย”
“ก็ได้ค่ะ”
ผมก้มหน้าทำงานต่อหลังจากเธอออกไป ไม่รู้ว่าเวลาผ่านนานแค่ไหนแต่อยู่ดี ๆ ข้าวจานหนึ่งก็ถูกว่าลงตรงหน้าพร้อมกับน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว
“ฉันโทรไปถามพี่เนมมาว่าคุณชอบกินอะไรเลยเอามาให้ก่อนค่ะ พักสักหน่อยนะคะเดี๋ยวจะไม่สบาย”
“ขอบคุณครับ ใจดีจังเลยนะ”
“งะ งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ หิวจะแย่แล้ว”
เธอหน้าแดงเล็กน้อยที่ได้ยินผมบอกแบบนั้นก่อนจะรีบเดินจ้ำอ้าวออกไปจากห้องทันที ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้กับการกระทำที่เอาใจใส่ของเธอ
“ถึงขนาดโทรไปถามให้เลยเหรอ เธอนี่มัน....”
มีแค่ไม่กี่คนที่รู้ว่าผมชอบกะเพราหมูกรอบไข่ดาวเยิ้ม ๆ แบบนี้แถมยังเป็นกะเพราที่ไม่เผ็ดมากอีกด้วย คนส่วนใหญ่มักคิดว่าผมต้องชอบอาหารหรู ๆ จากร้านดัง ๆ แต่เอาเข้าจริงแล้วผมชอบแบบนี้มากกว่า ทั้งสะดวกทั้งใช้เวลากินไม่นานด้วย
“น่ารัก”
ผมลงมือทานข้าวที่เธออุตส่าห์เอามาให้อย่างเอร็ดอร่อย ได้เจอกันอีกครั้งก็ดีเหมือนกันจะได้เช็คด้วยว่าไอ้วันที่เรานอนด้วยกันเธอได้ของแถมไปด้วยหรือเปล่า
อีกเดือนกว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพประจำปี ปีนี้ผมได้มีการจัดให้พนักงานทุกคนเข้ารับการตรวจและทำประกันสุขภาพให้ด้วย เธอเองก็ไม่มีข้อยกเว้นถึงแม้จะเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นานก็ตาม
คงจะได้รู้กันสักทีว่าผมฝากของดูต่างหน้าไว้ในท้องเธอหรือเปล่า.....
การทำงานร่วมกันในวันแรกของเราผ่านไปได้ด้วยดี เธอทำงานเก่งสมกับที่คุณเนมแนะนำไว้ไม่ผิดแถมยังปรับตัวเข้ากับงานได้ไวจนน่าทึ่ง
ถ้าจะมีอะไรติก็คงเป็นเรื่องความโก๊ะของเธอ คนอะไรทำงานได้ไม่มีที่ติแต่กลับไม่ได้เรื่องในด้านอื่น ๆ ซะอย่างนั้น
ขนาดแค่ชงกาแฟมาให้ผมยังทำผิดด้วยการใส่เกลือแทนน้ำตาล โชคดีที่ผมกินเข้าไปแค่นิดเดียวเพราะไว้ตัวทันไม่งั้นโรคไตได้ถามหาแน่ ๆ แต่ผมไม่ได้บอกเธอเรื่องนี้หรอกนะ
นอกนั้นก็ไม่มีอะไรให้ต้องติแล้ว น้ำทิพย์ใช้เวลาอ่านแฟ้มงานที่เลขาคนเก่าทำไว้เพียงแค่นิดเดียวก็เข้าใจจนทะลุปรุโปร่งแล้ว ระหว่างทำงานก็ไม่มีการเอาเรื่องส่วนตัวมาทำให้อึดอัดใจ เธอมีความเป็นมืออาชีพมากจริง ๆ
ผมเชื่อว่าคนแบบนี้ถ้ามีโอกาสจะต้องไปได้ไกลกว่าการเป็นเลขาแน่นอน เธอมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมและยังฉลาดไม่ใช่เล่นเลย
“คุณทำงานเก่งเหมือนที่คุณเนมบอกไว้ไม่ผิด ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอแนะนำคุณให้กับผม”
ผมอดที่จะชมคนตรงหน้าไม่ได้ งานทุกอย่างที่เธอทำในวันนี้เรียบร้อยและเป็นระเบียบโดยที่ผมแทบไม่ต้องช่วยอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
“ขอบคุณค่ะ”
ใบหน้าหวานหันมายิ้มให้กับผมเป็นครั้งแรก เอาแล้วไง...ทำไมถึงได้ยิ้มน่ารักแบบนี้กัน ถ้าไม่ติดว่าผมแกล้งจำเธอไม่ได้อยู่ก็คงจะถามเรื่องคืนนั้นไปแล้ว แต่ผมยังไม่อยากเปิดเผยตัวตอนนี้ มันยังไม่ถึงเวลาที่เราจะคุยเรื่องคืนนั้น
“ถ้างั้นวันนี้คุณกลับเลยก็ได้นะครับ ผมอนุญาตเพราะคงไม่มีอะไรแล้ว เดี๋ยวที่เหลือผมจัดการเอง”
“จะดีเหรอคะ?”
เธอลังเลเล็กน้อยเพราะมันก็อีกเกือบชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเลิกงาน
“ครับ ไม่มีปัญหา ผมชอบอยู่เคลียร์งานหลังเลิกงานอยู่แล้วมันเงียบดีน่ะครับ”
วันนี้มันแค่วันแรกที่เราได้เจอกันยังไม่อยากทำให้เธอตกใจเลยตั้งใจว่าจะค่อย ๆ เข้าหาอย่างเป็นธรรมชาติและก็ไม่อยากใช้งานเธอหนักเกินไปด้วย
“งั้นก่อนกลับอยากได้มื้อเย็นไหมคะ?”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ค่อยทานมื้อเย็น”
“ไม่ได้นะคะ ต้องกินให้ครบทุกมื้อเดี๋ยวฉันไปเตรียมของรองท้องมาให้”
พูดจบเธอก็หันหลังเดินลิ่วออกไปเลยไม่สนใจผมที่กำลังอ้าปากจะห้ามแม้แต่นิดเดียว
“เอาเถอะ อยากทำก็ทำไป”
ผมได้แต่บ่นตามหลังไปเบา ๆ ไม่นานเธอก็กลับมาพร้อมกับสลัดผักที่ผมเกลียดที่สุดหนึ่งที่และกาแฟพร้อมกับคุกกี้อีกจาน
สงสัยจะไม่ได้ถามคุณเนมสินะว่าผมไม่ชอบกินอะไรถึงได้เอาของแบบนี้มาให้กิน....ผมเกลียดผักทุกชนิดแค่เห็นสีเขียว ๆ นั้นก็ทำเอาหมดอารมณ์จะกินแล้ว
“นี่ค่ะ ต้องกินให้หมดนะคะ”
สายตาเชิงบังคับของคนตัวเล็กทำผมต้องอมยิ้มอีกรอบ ผมพยักหน้ารับก่อนจะยกจานมาไว้โต๊ะข้าง ๆ
“ครับ”
“ถ้างั้นฉันขอกลับก่อนนะคะ เดี๋ยวจะหารถกลับยาก”
“ไว้เจอกันพรุ่งนี้ครับ”
“โอเคค่ะ”
ผมนั่งมองเธอไปจนลับสายตาก่อนจะเปิดกล้องดูว่าเธอออกไปหรือยัง พอเห็นว่าเธอกลับไปแล้วจริง ๆ ผมจึงต่อสายเรียกลูกน้องเข้ามาพบหลังเวลาเลิกงานในอีกหนึ่งชั่วโมง
มีเรื่องหนึ่งที่ผมคาใจมาก ๆ และคนที่จะให้คำตอบผมได้ก็มีแต่พวกมันเท่านั้น โดยเฉพาะไอ้คริส....
“คริส มึงบอกให้ทุกคนเข้ามาประชุมกับกู ด่วน....”