ตอนที่ 15
อุทุมพรเดินทางไปที่บ้านของศศิธรพร้อมกับวิฑูรย์ที่เป็นคนนำทาง ก่อนจะไปเจอกับศศิธรอยู่ภายในบ้าน
“สวัสดีครับ คุณศศิธร เอ่อคือผมมาจาก!!!..” วิฑูรย์กำลังจะพูดกับศศิธรที่ทำหน้างง ๆ ว่าใครมากดกริ่งเรียกที่หน้าบ้านจองเธอ แต่แล้วอุทุมพรก็รีบลงรถแล้วเข้ามาขวางเพื่อจะเจรจาด้วยตัวเอง
“ฉันเองวิฑูรย์!!” อุทุมพรห้ามวิทูรย์ ก่อนที่เธอจะพูดกับศศิธร
“สวัสดีค่ะฉันเป็นแม่ของฌาวีร์” อุทุมพรแนะนำตัวว่าเธอคือมารดาของฌาวีร์ และบอกว่าเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ ศศิธรรีบยกมือไหว้และพาทั้งสองเข้ามาในบ้าน อุทุมพรจึงเริ่มพูดถึงจุดประสงค์ที่เธอมาที่นี่ ศศิมองออกว่าอุทุมพรไม่ต้องการให้ลูกสาวของเธอไปยุ่งเกี่ยวกับฌาวีร์อีก
“ฉันไม่ได้จะมาต่อว่าอะไรลูกสาวคุณหรอกนะ ตรงกันข้ามฉันเชื่อว่าลูกของคุณเป็นคนดี” นั่นเป็นคำขอร้องอย่างสุภาพจากอุทุมพรที่ไม่ต้องการให้อลิสาไปยุ่งเกี่ยวกับฌาวีร์อีก
“ดิฉันจะไม่ให้ริสาทำแบบนั้นอีกแล้วค่ะ พวกเราจะรีบออกไปจากบ้านของคุณให้เร็วที่สุดค่ะ” ศศิธรรีบบอกก่อนจะก้มศีรษะลงเป็นการขอโทษ อุทุมพรแอบยิ้มเยาะ
หลังจากนั้นอุทุมพรก็เดินทางกลับพร้อมวิฑูรย์ ก่อนจะกำชับไม่ให้วิทูรย์บอกเรื่องที่เธอมาหาศศิธรกับฌาวีร์
“ผมว่าคุณอลิสาเธอก็เป็นเด็กดีนะครับ ผมฟังจากคลิปเสียงแล้ว เธอไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณท่านเลย” วิฑูรย์ออกความเห็นเพราะเริ่มสงสารฌาวีร์ และตัวเขาเองก็มีส่วนผิดที่ไปแอบเอาเมมกล้องหน้ารถของฌาวีร์มาให้อุทุมพรจนมันกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต
“ฉันรู้!!! แต่ฉันยอมให้ฌาวีร์มันหลอกฉันแบบนี้ไม่ได้หรอก”
“ผมว่าคุณฌาวีร์รักลูกสาวของคุณศศิธรเค้านะครับ” วิฑูรย์ออกความเห็นเพราะเขาเคยเจอกับอลิสามาแล้วครั้งหนึ่ง วิฑูรย์เอ่ยขึ้นขณะที่กำลังรอจะเลี้ยวรถออกจากซอยบ้านของศศิธร
“รักยังไงเหรอ ถึงต้องจ้างไปเป็นแฟนแบบนั้น แถมมันยังโง่จ่ายเงินค่าบ้านไปตั้ง 46 ล้าน มันคงจะได้กันแล้วละซิ”
“คุณท่านอาจจะมองคุณฌาวีร์ผิดไปก็ได้นะครับ” วิฑูรย์ตัดสินใจพูดออกไป ก่อนจะถูกตวาดลั่นจากหญิงสูงวัยเจ้าอารมณ์วัยหมดประจำเดือน
“นี่วิฑูรย์!!!ฉันจ้างให้แกคอยช่วยดูแลอบรมลูกชายฉัน ไม่ใช่ให้แกคอยตามใจฌาวีร์นะ” ศศิธรดุผู้ช่วยของลูกชาย ในอดีตวิฑูรย์คือคนสนิทที่สามีเธอไว้ใจ
“ผมขอโทษครับ...คุณท่าน” วิฑูรย์กล่าวขอโทษเสร็จ ก็จำต้องเงียบเสียงลงเพราะพูดไปก็เปล่าประโยชน์
คืนนั้นฌาวีย์กลับมานอนคิดทั้งคืน คิดไปคิดมาก็คิดไม่ตกว่าควรจะทำอย่างไรดี ถึงจะยื้อสองแม่ลูกให้อยู่ที่นี่ต่อไปได้ ก่อนจะหาทางออกสำหรับเรื่องนี้ และเขาก็คิดอะไรบางอย่างออกมาในหัว พอรุ่งเช้าฌาวีร์จึงมาบอกวิฑูรย์ให้ช่วยเรื่องนี้ ซึ่งพอวิฑูรย์ได้ฟังแผนการของฌาวรีร์ที่เล่าให้ฟังแล้ว เขาก็หลุดปากออกมาทันทีว่าศศิธรรู้จักเขาแล้ว ซึ่งนั่นทำให้ฌาวีร์ต้องประหลาดใจ
“แกเคยบอกฉันว่าไปเจอแค่ลูกสาวของคุณศศิธรเค้าไม่ใช่เหรอ แล้วคุณศศิธรเค้าจะไปรู้จักแกได้ยังไง” ฌาวีร์เริ่มคาดคั้น
“เอ่อ คือ ๆ ว่า ผะ ผม ๆ” วิฑูรย์ อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ
“แกมีอะไรจะสารภาพก่อนตายมั้ย...วิฑูรย์!!!” ฌาวีร์ถามเสียงเข้ม และเริ่มหักข้อมือจนเกิดเสียงดังออกมา ชายหนุ่มกัดกรามแน่นใบหน้าเหี้ยมเกรียมและเกรี้ยวกราดขึ้นทันที เพราะเดาได้ว่าวิฑูรย์ต้องทรยศไปบอกมารดาเรื่องที่เขาช่วยซื้อบ้านของอลิสาอย่างแน่นอน
“เอ่อ..คุณฌาวีร์ครับ!!!...ผะ..ผม ๆ ขอโทษ” วิฑูรย์พูดตะกุกตะกักด้วยความกลัว ก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฌาวีร์ฟังเมื่อสองวันที่แล้ว ตั้งแต่ที่อุทุมพรแอบให้เขามาถอดเมมกล้องหน้ารถเพื่อเอาไปฟังคลิปเสียงที่ฌาวีร์คุยกับอลิสา อีกทั้งเรื่องที่มารดาของเขาเดินทางไปพบศศิธรเพื่อไล่เธอออกจากบ้านอีกด้วย
“ถึงว่าล่ะ! ทำไมคุณศศิธรถึงไม่อยากอยู่ที่บ้านหลังนั้นต่อ เป็นเพราะแกกับคุณแม่ฉันนี่เอง” ฌาวีร์พูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ
“ผะ...ผม ๆ ผมไม่เกี่ยวนะครับ...คุณฌาวีร์!!! แต่ผมขัดคุณท่านไม่ได้จริง ๆ”
“งั้นแกก็ช่วยเล่นละครตามน้ำไปก่อน เดี๋ยวฉันจัดการเรื่องนี้เอง”
“ได้ครับ...เอ่อ..ถ้างั้นคุณฌาวีร์จะให้ใครช่วยเรื่องนี้ละครับ”
“ฉันมีก็แล้วกัน ส่วนแกน่ะ..ช่วยทำตัวให้ฉันเห็นว่ามีประโยชน์บ้างเถอะ”
“คร๊าบบ!! คุณฌาวีร์!!” วิฑูรย์บอกเสียงสั่น ก่อนจะคิดไปว่าตัวเองกำลังอยู่ท่ามกลางสงครามอันร้อนระอุ โดยถ้าเขาเลือกข้างไม่ถูกต้องตายอย่างเขียดแน่ ๆ