หลังจากที่ฌาริยาออกจากโรงพยาบาล นิภาก็พาหลานสาวกลับไปยังบ้านเกิดเมืองนอนที่จังหวัดเชียงราย บ้านที่แทบจะเป็นบ้านร้างเพราะไร้คนอยู่อาศัย สองป้าหลานต้องช่วยกันทำความสะอาดใช้เวลากว่าสองวันจึงเสร็จเรียบร้อย
“เฮ้อ! เหนื่อยจังเลยป้า”
“เอ็งเหนื่อยคนเดียวหรือไง ป้าก็เหนื่อยเหมือนกัน” พูดจบสองป้าหลานก็พากันหัวเราะออกมา
โชคดีที่บ้านยังมีสภาพดีอยู่ไม่ต้องซ่อมแซมอะไรมากนัก บ้านเป็นบ้านสองชั้น ชั้นล่างเป็นปูนส่วนชั้นบนเป็นไม้ จ้างช่างมาทาสีใหม่สักหน่อยก็อยู่ได้สบายๆ
“ป้าเห็นแถวนี้มีแต่ร้านขายกับข้าว ไม่มีร้านขายขนมหวาน ป้าว่าเราทำขนมหวานขายหน้าบ้านกันดีมั้ย?”
“ก็ดีนะป้า เดี๋ยวฌาช่วยป้าเอง”
“แล้วเรื่องเรียนฌาจะเอายังไง”
“ก็คงต้องหยุดเรียนไปก่อนพอฌาคลอดลูกแล้ว ฌาว่าจะกลับไปเรียนค่ะ”
“อืม..ป้าก็เห็นด้วย ตอนนี้ก็ดูแลตัวเองกับลูกในท้องให้ดี”
“ค่ะป้า”
“แล้วนี่ฌาไม่คิดจะบอกคุณธามจริงๆ เหรอ”
“ไม่ค่ะ..ป้าก็รู้ว่าคุณผู้หญิงเป็นคนยังไง ฌากลัวว่าลูกของฌาจะไม่ปลอดภัย ถ้าคุณผู้หญิงรู้เรื่องนี้ ไม่รู้ว่าเขาจะตามมาฆ่าฌากับลูกหรือเปล่า”
“ไม่คิดเลยนะว่าคุณผู้หญิงจะใจร้ายใจดำได้ขนาดนี้”
“ช่างมันเถอะป้า ตอนนี้เราก็เริ่มต้นชีวิตใหม่แล้ว เราจะไม่พูดถึงเรื่องที่ผ่านมาอีก”
“อืม..ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องเครียด เรามาช่วยกันคิดดีกว่าว่าเราจะทำขนมอะไรขายดี”
“ค่ะ”
หลังจากวันนั้นสองป้าหลานก็ช่วยกันทำขนมหวานขายที่หน้าบ้าน แรกๆ ก็ยังไม่ค่อยมีลูกค้า แต่สักพักลูกค้าก็เริ่มมากขึ้นเพราะความอร่อยของขนมทำให้ลูกค้าพูดปากต่อปาก และมีลูกค้าประจำเพิ่มมากขึ้น
ฌาริยาไปฝากครรภ์ที่คลินิกเพราะความสะดวกและรวดเร็ว เธอไม่อยากไปฝากที่โรงพยาบาลของรัฐบาลเพราะคนเยอะต้องรอคิวนาน เธอก็เลยเลือกที่จะฝากครรภ์ที่คลินิกแทน
ทางด้านธนัทธาม เขาหันหลังให้กับผู้หญิงหลายใจ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยบอกว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเธอ และเขาเองก็รู้ว่าที่ผ่านมาเธอรู้สึกอย่างไรกับเขา ทั้งเขาและเธอต่างก็รู้สึกตรงกันเพียงแต่ต่างฝ่ายต่างไม่เคยพูดมันออกมา แต่พอเขาไม่อยู่ทำไมเธอถึงได้เปลี่ยนไป เธอทรยศหักหลังเขาด้วยการหนีไปกับผู้ชายคนอื่น คำบอกเล่าของมารดากับข้อความสุดท้ายที่เธอส่งมาให้เขามันช่างตรงกันเสียเหลือเกิน เขาจึงไม่คิดว่ามารดาของเขาจะโกหก ถึงแม้ว่ามารดาของเขาจะไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฌาริยาก็ตาม แต่มารดาก็รู้ว่าเขาและเธอสนิทสนมกัน ในเมื่อผู้หญิงอย่างฌาริยาไม่รักดี เขาก็จะปล่อยเธอไป แต่อย่าให้เขาได้เจอเธออีก เพราะถ้าเขาเจอเธออีกครั้ง เขาจะเอาคืนให้สาสมกับที่เธอทำให้เขาต้องเจ็บปวด
ฌาริยาช่วยป้านิภาทำขนมหวานขายทุกวันจนวันเวลาล่วงเลยไปจนกระทั่งเธอใกล้จะคลอด ป้านิภาจึงอยากให้เธอพักผ่อน
“ฌาท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีแล้ว..หยุดเถอะลูก ให้ป้าทำเองดีกว่า”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะป้า จะได้คลอดง่ายๆ ไง”
“ป้ากลัวว่ามันจะเป็นอันตรายกับลูกในท้องน่ะสิ”
“โอ๊ย!! ป้า ฌารู้สึกเจ็บท้อง”
“จริงเหรอ..หรือว่าจะคลอดแล้ว”
“ฌาโทรเรียกรถพยาบาลเถอะ เดี๋ยวป้าไปเตรียมของก่อน”
“ค่ะป้า”
ไม่นานนักรถพยาบาลก็มารับสองป้าหลานไปโรงพยาบาล ระหว่างทางฌาริยาก็เจ็บท้องถี่ขึ้นกว่าเดิม เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด จนกระทั่งถึงโรงพยาบาล ฌาริยาถูกส่งตัวเข้าห้องคลอดทันที ส่วนป้านิภาก็รออยู่หน้าห้องคลอดด้วยความกระวนกระวายเพราะเป็นห่วงหลานสาว
ในที่สุด ฌาริยาก็คลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย เธอได้ลูกสาว ฌาริยาพักที่ห้องผู้ป่วยพิเศษเพื่อความสะดวกสบาย โดยมีป้านิภาคอยดูแล
“ฌาตั้งชื่อลูกไว้หรือยัง?” ผู้เป็นป้าเอ่ยถามเมื่ออุ้มหลานสาวตัวน้อยไว้ในอ้อมกอด
“คิดไว้แล้วค่ะ..ชื่อเล่นชื่อ น้องเฌอ ส่วนชื่อจริง เฌอริตา ค่ะ”
“อืม..ป้าว่าก็เพราะดีนะ ใช่มั้ยคะ? น้องเฌอของยาย”
“แล้วฌาจะใส่ชื่อพ่อในใบเกิดหรือเปล่า?” ป้านิภาถามขึ้นมาอีกครั้ง
“เว้นว่างไว้ค่ะ..ฌาไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับคนบ้านนั้นอีก”
“ตามใจฌาก็แล้วกัน”
ลูกเป็นของเธอคนเดียว ส่วนลูกของธนัทธามได้ตายจากไปตั้งแต่วันที่มารดาของเขาบังคับให้เธอทำแท้งแล้ว อิทธิพลของบิดามารดาเขาทำให้เธอเกรงกลัวก็จริง แต่เธอก็กล้าที่จะขัดคำสั่งของมารดาเขาด้วยการขอร้องหมอไม่ให้ทำแท้งให้เธอ เธอต้องการเด็กคนนี้ เพราะลูกคือตัวแทนความรักที่เป็นไปไม่ได้ของเธอกับเขา เธอรู้สถานะของตัวเองดีว่าเป็นได้แค่ที่ระบายความใคร่ของเขาเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ได้แต่งงานจดทะเบียนเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายและเชิดหน้าชูตาให้กับครอบครัวของเขาได้ และที่สำคัญ ธนัทธามไม่เคยรักเธอ..มีเพียงแค่เธอที่แอบรักเขาอยู่ข้างเดียว นั่นคือเหตุผลที่เธอยอมเป็นที่ระบายความใคร่ให้กับเขา
ฌาริยาพักฟื้นที่โรงพยาบาลสามวัน จากนั้นเธอกับลูกสาวตัวน้อยก็ได้กลับบ้าน เธอเลี้ยงลูกด้วยความรักและความเอาใจใส่ ฌาริยาให้ลูกดื่มนมจากเต้าสลับกับปั๊มนมใส่ขวดเพื่อฝึกให้ลูกทานได้ทั้งสองแบบเผื่อเวลาที่เธอกลับไปเรียนจะได้ไม่ลำบาก เธอตั้งใจว่าจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไปจนลูกอายุครบหนึ่งขวบ
“แอ้ แอ้” ลูกสาวตัวน้อยส่งเสียงร้องออกมา
“ว่าไงคะ ลูกสาวของแม่ หิวนมใช่มั้ยคะ?” เธออุ้มลูกสาวตัวน้อยขึ้นมาแนบอกและเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน จากนั้นก็เลิกชายเสื้อเผยให้เห็นเต้านมที่ใหญ่เกือบจะเท่าลูกส้มโอ และจับจุกทับทิมสีเข้มดันเข้าปากลูกน้อยที่กำลังอ้าปากรอรับ จากนั้นลูกสาวตัวน้อยก็ดูดดังจ๊วบๆ ด้วยความหิวกระหาย เธอมองดูลูกสาวดื่มนมจากอกด้วยความรักใคร่
ลูกสาวตัวน้อยคือของขวัญที่มีค่าที่สุดในชีวิตเธอ ฌาริยาสัญญากับตัวเองว่าเธอจะดูแลของขวัญที่ธนัทธาม ผู้ชายที่เธอแอบหลงรัก มอบให้เธอก่อนที่เขาจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ให้ดีที่สุดเท่าที่คนเป็นแม่อย่างเธอจะดูแลลูกน้อยได้ เหตุผลที่ธนัทธามถูกส่งตัวไปเรียนต่างประเทศไวกว่าเดิม นั่นเป็นเพราะคุณหญิงพิมาลา มารดาของเขาล่วงรู้ความสัมพันธ์ของเธอกับธนัทธาม คุณหญิงพิมาลาจึงต้องการที่จะแยกเขาและเธอออกจากกัน ซึ่งเธอก็เข้าใจเหตุผลของคุณหญิงพิมาลาดีว่าแม่ทุกคนก็ต้องรักลูก อยากให้ลูกมีอนาคต มีครอบครัวที่ดี มีภรรยาที่คู่ควรกัน ไม่ใช่เด็กรับใช้ในบ้านอย่างเธอ เธอเข้าในใจมุมนี้ของคุณหญิงพิมาลา แต่เธอก็รับไม่ได้ในความใจร้ายของมารดาธนัทธามเช่นกัน ที่สั่งฆ่าได้แม้กระทั่งหลานในไส้ของตัวเอง
ฌาริยาเลี้ยงดูลูกสาวตัวน้อยพร้อมกับช่วยป้านิภาทำขนมขาย จวบจนลูกสาวของเธออายุครบหนึ่งปี เธอจึงไปเรียนต่อในระดับปริญญาตรี สาขาการบัญชี ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย โดยมีป้านิภาช่วยเลี้ยงลูกสาวของเธอพร้อมกับขายขนมหวานด้วย เพียงแต่ลดจำนวนขนมหวานที่ทำขายในแต่ละวันลงเพราะป้านิภาต้องดูแลหลานสาวตัวน้อย และจะทำขายช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์เยอะเหมือนเดิม เพราะฌาริยาไม่ได้ไปเรียน