แสงแดดยามเช้าที่สาดส่องเข้ามาจนถึงด้านในตัวบ้านหลังใหญ่ โดยด้านนอกซึ่งเป็นสวนต้นไม้ดอกไม้ที่ถูกดูแลอย่างดี มีนกตัวเล็กตัวน้อยคอยเกาะร้องเพลงเป็นทำนองเจื้อยแจ้วไพเราะหูอยู่เป็นระยะ
ธีร์ หรือ ธีรพัฒน์ ชายผู้เป็นเจ้าของบ้านซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาเกินมาตรฐาน ดุจรูปปั้นแกะสลักที่บรรจงสร้างโดยเทพเจ้า กำลังนั่งจิบกาแฟอุ่น ๆ อย่างไม่รีบร้อน รสกาแฟขมอมเปรี้ยวเล็กน้อยเพราะได้มาจากเมล็ดกาแฟคั่วอ่อนชั้นดี สร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้เขาไม่น้อย
หลังจากที่ดื่มด่ำช่วงเวลาพักผ่อนในวันหยุดพร้อมเสียงเพลงเบา ๆ ที่เปิดคลออยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่งแล้ว เขาก็วางแก้วกาแฟใบสวยลงบนโต๊ะกระจก ก่อนจะหยิบแท๊บเล็ตข้างกายมาเปิดดูข้อมูลทางธุรกิจอีกเล็กน้อย จากนั้นเลื่อนไปเปิดแอพพลิเคชั่นโซเชียลมีเดียส่วนตัวของเขาเอง
แววตาราบเรียบแต่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดรุนแรง จ้องมองไปที่ยอดกดถูกใจและรีแอคต่าง ๆ ที่สาว ๆ ต่างกดส่งให้เขา ทั้ง ๆ ที่เขาแค่ลงรูปวิวธรรมชาติธรรมดาเท่านั้น แถมยังนาน ๆ ลงที ไม่ได้เข้ามาเล่นโซเชียลฯสักเท่าไร แต่ดูเหมือนว่าความฮอตของเขาจะถูกหมายตาจากสาว ๆ ไม่น้อย
ถึงอย่างนั้นเขาก็คิดว่า ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษเช่นเดิม เขาไม่ได้กดตอบข้อความของใคร ก่อนจะกดปิดจอแท็บเล็ตและวางมันลงที่เดิม
ธีร์เลือกจิบกาแฟอีกเล็กน้อย สักพักก็เดินออกมานอกตัวบ้านหลังใหญ่เพื่อสูดอากาศด้านนอก
บ้านหลังนี้มีเพียงเขาที่พักอาศัยอยู่คนเดียว แม้เขาจะเป็นเจ้าของธุรกิจส่งออกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วโลก ยังไม่รวมถึงธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
แน่นอนว่าโคตรรวย โคตรหล่อ ครบเครื่อง!
แต่เขากลับเลือกที่จะใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้คนเดียว อาจจะมีบางครั้งที่มีแม่บ้านหรือคนสวนเข้ามาดูแลบ้าง แต่ถ้าไม่จำเป็นเขาจะไม่ให้ใครเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเขา
อ้อ...ยกเว้นอีกคนที่เข้าออกบ้านหลังนี้ได้บ่อย ๆ ก็คือเลขาของเขาที่ชื่อว่าเชน
"คุณธีร์ครับ"
"ว่าไง" ธีร์หันไปทางเลขาหนุ่มคนสนิทอย่างไม่แปลกใจ แต่ก็นึกขึ้นได้ว่านี่มันวันหยุด
เชนจะเข้าออกบ้านของเขาได้ตลอดอย่างรู้กัน แต่เขาจะแจ้งก่อนทุกครั้งก่อนเข้ามา ยกเว้นมีธุระด่วนจริง ๆ
"พอดีว่านัดคุยงานของคุณโชติ เขาติดต่อกลับมาด่วนน่ะครับ ว่าขอเลื่อนกระทันหันจากวันจันทร์นี้เป็นวันศุกร์ครับ" เชนกล่าวอย่างกระฉับกระเฉง
"อืม แล้วทำไมเลื่อน" ธีร์ถามด้วยท่าทางสงบนิ่งสบาย ๆ ถึงแม้เขาจะไม่ซีเรียสขนาดนั้น แต่เรื่องการนัดหมายต่าง ๆ ก็ควรมีเหตุผล เพราะเวลาทุกนาทีมีค่าสำหรับเขาโดยเฉพาะเรื่องธุรกิจ
"น้องสาวคุณโชติป่วยเข้าโรงพยาบาลครับ เขาฝากขอโทษมาด้วยครับ"
"อืม" ธีร์พยักหน้าเบา ๆ รับรู้ "งั้นก็ตามนั้น ฝากบอกไปด้วยว่าขอให้น้องสาวเขาหายไว ๆ "
"ครับ รับทราบครับ" เชนกล่าวตอบรับก่อนจะยื่นถุงกระดาษที่ใส่เมล็ดกาแฟมาให้ธีร์
ร่างแกร่งรับมาและยกขึ้นมองถุงที่ติดแบรนด์เมล็ดกาแฟที่เขาต้องการ
"เมล็ดกาแฟที่คุณธีร์ต้องการครับ พอดีผมหาได้ไว เลยแวะเอามาให้ด้วยเลย" นี่คือเหตุผลที่เชนเข้ามาที่บ้านของเจ้านายด้วย
ครั้งที่แล้วธีร์จิบกาแฟจากร้านแห่งหนึ่งแล้วรสชาติถูกปาก เขาจึงเสาะหาเมล็ดกาแฟที่รสชาติใกล้เคียงที่สุด โดยฝากเลขาคนสนิทอย่างเชนช่วยไปเสาะหา
"ขอบใจมาก"
"ครับคุณธีร์ งั้นผมกลับแล้วนะครับ"
ธีร์พยักหน้าให้เลขาหนุ่มอีกครั้ง ไม่นานเชนก็ขับรถออกจากเขตพื้นที่ของเขาไป
ร่างสูงหยิบถุงใส่กาแฟขึ้นมาสูดดมกลิ่นเล็กน้อย
ใช่...น่าจะใกล้เคียงกับร้านที่เขาเคยกินมาอยู่นะ
ธีร์นึกถึงตอนที่เขาบังเอิญได้แวะลิ้มรสกาแฟที่ร้านแห่งหนึ่ง ถึงเขาจะชอบกินเหล้ามากกว่า แต่ก็กินกาแฟเป็นอยู่นะ ซึ่งร้านนี้ที่เขาได้แวะนั่งดื่ม มีรสชาติที่แสนกลมกล่อม หอมละมุน จนเขาเผลอคิดว่าอยากลองทำธุรกิจด้านนี้เล่น ๆ อยู่เหมือนกัน
เขายิ้มเล็กน้อยและเดินดูดอกไม้ต้นไม้ที่เขาปลูกไว้อีกเล็กน้อย ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านไปอย่างไม่รีบร้อน
@บริษัทนำเข้าสินค้าไอทีแห่งหนึ่ง
รถหรูราคาแพงเคลื่อนเข้ามาจอดบริเวณที่จอดรถวีไอพีของบริษัทชั้นนำ เมื่อรถจอดสนิทและดับเครื่องเรียบร้อย หญิงสาววัย 22ย่าง23 ปี ที่สวมชุดเรียบง่ายสบาย ๆ อย่างเสื้อยืดสีขาวแบรนด์เนมและกางเกงขายาวสีครีม ก็ก้าวขาลงมาจากรถและเดินตรงไปที่ลิฟต์ในไม่ช้า
เธอมีผมสีน้ำตาลสยายเงางามยาวถึงกลางหลัง ดวงตาสีดำธรรมชาติประดับอยู่บนใบหน้าเข้ากับจมูกโด่งน่ารักกำลังดี ริมฝีปากอวบอิ่มซึ่งถูกเคลือบด้วยลิปสีชมพูอมส้ม ยิ่งทำให้เจ้าตัวดูน่ารักและสวยในเวลาเดียวกัน
ระหว่างที่ลิฟต์เคลื่อนไปที่ชั้น3 ซึ่งเป็นชั้นที่มีโซนร้านกาแฟและร้านอาหารต่าง ๆ เธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือเพื่อแชทหาใครบางคน
'เกรซ : พี่พิชญ์อยู่ไหนคะ เกรซมาถึงแล้วค่ะ'
หญิงสาวกดส่งข้อความและอมยิ้มเล็กน้อย เป็นเวลาเดียวกับที่ลิฟต์เปิดออกพอดีเพราะอยู่แค่ชั้น3
ติ้ง~
เมื่อเงยหน้าขึ้นรอยยิ้มยิ่งปรากฏเด่นชัดจนแก้มแดงระเรื่อ เพราะคนด้านนอกที่ยืนรออยู่คือพิชญ์ บุคคลที่เธอตั้งใจมาหาเขาวันนี้
"พี่พิชญ์" เกรซรีบเดินออกมาพร้อมทัดผมเล็กน้อย
"พี่รู้ว่าเราใกล้ถึง เลยรีบมารอเลย" ชายหนุ่มที่ใส่ชุดสูทสีเทาเข้มหน้าตาหล่อเหลาเอาการเอ่ยขึ้นพลางเดินไปพร้อม ๆ กับเธอ
"แต่อันที่จริงพี่บอกแล้วว่าเกรซไม่ต้องมาก็ได้ เพราะพี่ติดประชุมตอนบ่ายอีก อยู่กับเราได้แปปเดียว" พิชญ์เอ่ยพลางนั่งลงที่เก้าอี้ร้านกาแฟร้านหนึ่งในบริษัท
เกรซที่นั่งลงตรงข้ามกับเขาก็ได้แต่ยิ้มอย่างเต็มใจ
"ไม่เป็นไรค่ะ เจอกันแปปเดียวก็ยังดี"
เมื่อเห็นรอยยิ้มของหญิงสาวและคำตอบของเธอ เขาก็ได้แต่พยักหน้าอย่างยอมแพ้ เพราะเขาเองก็อยากเจอเธอแต่เกรงใจที่มีเวลาให้น้อยนิด
ถึงแม้ปกติแล้ววันนี้จะเป็นวันหยุด แต่บริษัทของพิชญ์ใช่ว่าจะหยุด มีบางคนรวมถึงเขาเองต้องมาจัดการงานเร่งด่วนให้ทันเวลา วันนี้จึงมีคนอยู่ที่บริษัทบ้างแม้ไม่มากแต่ก็พอเห็นอยู่ประปราย บรรยากาศจึงค่อนข้างเงียบสงบ
ทั้งสองสั่งกาแฟมาคนละแก้วก่อนจะพูดคุยกันเรื่อยเปื่อยตามประสาคนกำลังคบหาดูใจกัน
เกรซจิบกาแฟไปพลางยิ้มไปพลาง นี่ก็ครึ่งปีแล้วที่เขาและเธอคุยกันจริงจัง แต่ถ้าถามว่าเธอชอบเขามาตั้งแต่เมื่อไรก็คงตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยนั่นแหละ
เธอแอบชอบเขาตั้งแต่เรียนปี2 ส่วนเขาเรียนปี3 เขาเป็นรุ่นพี่เธอหนึ่งปี เธอแอบชอบเขาเงียบ ๆ เพราะเขาก็ฮอตพอตัว
พิชญ์เป็นถึงลูกชายอธิการบดีแถมยังอัธยาศัยดีจนสาว ๆ ตามติดเขาแจ นั่นทำให้เกรซไม่ยอมเอ่ยบอกเขาเลย กลัวตัวเองจะอกหักเลยขอแอบชอบเงียบ ๆ อยู่ในฐานะรุ่นน้องคนสนิทก็พอ
แต่มีหรือคนอย่างพิชญ์จะดูไม่ออก ก็รุ่นน้องคนนี้เก็บอาการเก่งเสียที่ไหน เขาเองก็รู้ตั้งนานแล้วว่าเกรซรู้สึกอย่างไร แต่ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เพราะมองว่าเป็นน้องสาว ระหว่างนั้นเขาก็มีสาว ๆ ไปเรื่อย
จนกระทั่งทั้งคู่เรียนจบเขาถึงได้เริ่มพูดคุยและสนิทกับน้องมากขึ้นกว่าเก่า เริ่มเฟดตัวออกจากผู้หญิงคนอื่น และในที่สุดก็เริ่มขอศึกษาดูใจกับเกรซจริงจัง เพราะรู้สึกว่าเกรซมีแรงดึงดูดที่เขารู้สึกชอบ แถมดูแล้วก็หน้าตาดี ที่บ้านเองก็มีฐานะดีมาก
และที่สำคัญที่สุดคือพ่อของเขามองว่าเกรซเป็นตัวเลือกที่ดี และอยากให้เขากับเกรซหมั้นกัน ตัวพิชญ์ก็ไม่ขัดข้องเพราะเขาเริ่มรู้สึกชอบเกรซจริง ๆ ติดอยู่เรื่องเดียว...
คือเขาไม่เคยได้กินเธอเลย
เขาพยายามหาจังหวะดี ๆ อยู่เสมอ แต่เกรซก็ดูยังไม่เชื่อใจเขา เพราะที่ผ่านมาเขามีสาว ๆ เยอะ ดังนั้นเขาจึงบอกว่ารอได้และจะทำให้เธอเห็นว่าเขาเลิกมั่วไปทั่ว และยิ่งแสดงความจริงใจด้วยการบอกว่าจะขอหมั้นเธอซะเลย
แน่นอนว่าเกรซดีใจจนเห็นได้ชัด แต่ระหว่างนี้เขาทั้งคู่ก็ได้แต่ไปมาหาสู่กันบ้างตามโอกาส เพราะพิชญ์บอกเธอว่างานยุ่ง ส่วนเธอเองก็กำลังพิสูจน์ตัวเองกับที่บ้านเรื่องธุรกิจร้านกาแฟ
"อีกสักพักพี่ก็ต้องไปประชุมแล้วนะครับ" พิชญ์จิบกาแฟอีกเล็กน้อยและยิ้มให้เกรซ
เกรซเองก็ยิ้มหวานกลับให้เขาอย่างเข้าใจ เธอพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบ
"ค่ะพี่ แต่อย่าลืมนะคะ..." เกรซเหลือบสายตาคู่สวยมองเขา และหวังจริง ๆ ว่าเขาจะไม่ลืมวันสำคัญ
"ครับ พี่ไม่ลืมงานวันเกิดเกรซแน่นอน พี่ไปได้แน่นอน" เขาเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม
ศุกร์นี้เป็นวันเกิดของเกรซ ซึ่งเธอเคยบอกเขาแล้วและแน่นอนว่าเขาเกือบลืมถ้าเธอไม่ทักขึ้นมา แต่ยังดีที่เขาพอมีไหวพริบและตอบได้ทัน
"เกรซจะรอนะคะ พี่พิชญ์ตั้งใจทำงานนะคะ" หญิงสาวยิ้มหวานให้เขาอย่างอารมณ์ดี
"ขอบคุณครับเกรซ" เขาลูบหัวเธอเบา ๆ ทำเอาหญิงสาวยิ้มไม่หุบ
จากนั้นทั้งคู่ก็ลุกขึ้นยืนเตรียมออกจากโซนร้านกาแฟ เพราะใกล้เวลาประชุมของพิชญ์แล้ว
แต่ขณะที่ร่างบางกำลังเดินออกมา สายตาคู่สวยกลับสังเกตเห็นใครบางคน ซึ่งทำเอาเธอขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์
"มีอะไรเหรอเกรซ" พิชญ์ที่เดินไปจ่ายเงินสังเกตเห็นหญิงสาวยืนนิ่งก็รีบเอ่ยถาม เขามองตามไปยังปลายสายตาของเธอก็เห็นว่าเธอจ้องผู้หญิงคนหนึ่งอยู่
"พี่พิชญ์คะ..." เกรซหันมามองหน้าผู้ชายข้าง ๆ ทันที "มันมาอยู่ในบริษัทเดียวกับพี่ได้ยังไงคะ"
"ใครเหรอ"
"ผู้หญิงคนนั้น คนที่ชื่อทราย"
"พี่ไม่ทราบครับ แล้วทำไมสีหน้าเกรซเป็นแบบนี้ อารมณ์ไม่ดีเหรอ"
"..."
ใช่ เธอโคตรอารมณ์ไม่ดีสุด ๆ เมื่อเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นนั่งกินข้าวกลางวันกับเพื่อนร่วมงานอีกสองคน และที่สำคัญทำไมมาอยู่ในบริษัทเดียวกับว่าที่คู่หมั้นเธอได้
อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้...