บทที่12 กอดจันทร์เจ้า (2/2)

1397 Words
“ไอ้ราม มึงไม่ได้ยินที่กูพูดใช่ไหม T^T” “ได้ยิน” ร่างสูงยืนกอดอกมองไอ้เพื่อนตัวดีที่หวังจะมาตีท้ายครัวเขา วันนี้พระรามกลับบ้านเร็วกว่าทุกครั้ง เพราะต้องมารับภรรยาตัวน้อยออกไปงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนร่วมธุรกิจด้วยกัน เมื่อมาถึงบ้านป้าผ่องก็เข้ามาแจ้งว่าน้องแต่งตัวอยู่ในห้องนอนกับเพื่อนๆ ของเขา เพราะต้องการจะเข้ามาแบบเงียบๆ ทำให้พระรามไม่เคาะประตูก่อน จึงทำให้ได้ยินประโยคตีท้ายครัวจากกิดากรพอดี ก็รู้ว่ามันก็พูดเล่นๆ ไปแบบนั้นแต่ก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ เลยค่อยๆ ย่องมาผลักหัวเพื่อนสนิทเต็มแรง “ฮ่าๆๆ” พะแพงหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นกับภาพเหตุการณ์ที่เห็นอยู่ตรงหน้า เพื่อนคนหนึ่งยืนกอดอกทำตาขวางราวกับยมทูต ส่วนอีกคนลงไปนั่งคุกเข่าพนมมือเพื่อรอฟังคำพิพากษา “เดี๋ยวมึงจะโดน” พระรามชี้หน้าคาดโทษกิดากร ก่อนจะสาวเท้าเข้ามาสวมกอดเด็กน้อยที่ยืนตาแป๋วมองเขาอยู่ “กูผิดไปแล้วว ซอรี่จ้า” เมื่อกล่าวจบก็เคลื่อนกายไปหลบอยู่ข้างหลังหญิงสาวเพียงคนเดียวในห้องนี้ ทำเอาพะแพงต้องส่ายหัวด้วยความเอือมระอา “ทำไมกลับมาเร็ว” เด็กน้อยในอ้อมแขนค่อยๆ หันมาหาร่างสูงที่กำลังกอดตนอยู่ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงแผ่วเบา “คิดถึง” “...” บรรยากาศภายในห้องตกอยู่ในความเงียบสงบไร้ซึ่งเสียงใดๆ เมื่อพระรามกล่าวจบ ดวงตาสีน้ำตาลของคนตัวเล็กกว่าสั่นไหววูบหนึ่งก่อนจะค่อยๆ ระบายยิ้มหวานออกมา “จันทร์ก็คิดถึง” เพราะบรรยากาศสีชมพูที่ก่อตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำให้พะแพงกับกิดากรค่อยๆ ย่องออกจากห้องและล็อกประตูให้อย่างแผ่วเบา สามีภรรยาอาจจะต้องการความเป็นส่วนตัว ดังนั้นหน้าที่ของเพื่อนคือต้องรีบออกจากห้องนี้โดยเร็ว เพราะถ้ายังฝืนอยู่ต่ออาจจะได้เห็นภาพบาดตาบาดใจก็เป็นได้ “จูบได้ไหม” ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ มีเพียงการพยักหน้าเบาๆ จากคนตัวเล็กเพียงเท่านั้นที่เป็นคำตอบ… ใบหน้าของร่างสูงค่อยๆ เคลื่อนเข้าหาคนในอ้อมกอดช้าๆ ริมฝีปากหยักค่อยๆ บดเบียดเข้าหาริมฝีปากบางของภรรยาตัวน้อย ฝ่ามือหนายกขึ้นเกลี่ยแก้มเนียนอย่างแผ่วเบา ไม่ต่างจากริมฝีปากที่ประกบกันอยู่ ลิ้นร้อนค่อยๆ แตะลงบนริมฝีปากล่างของคนน้องเป็นเชิงขออนุญาต แล้วเมื่อจันทร์เจ้าเปิดปากออกเพียงเล็กน้อย พระรามก็สบโอกาสแทรกเรียวลิ้นร้อนเข้าไปสำรวจโพรงปากหอมหวานของอีกฝ่าย ฝ่ามือหนายังคงโอบประคองใบหน้าหวานไม่ปล่อย มืออีกข้างรั้งเอวบางให้เข้ามาใกล้กันมากยิ่งขึ้น เสียงดูดดึงริมฝีปากดังก้องห้องนอนขนาดใหญ่ ลิ้นเล็กๆ ที่ไม่ประสีประสาพยายามจูบตอบคนตัวสูงจนพระรามนึกเอ็นดู “อา...” จันทร์เจ้าครางในลำคอ “อื้ออ” ลิ้นเล็กๆ ที่พยายามจูบตอบนั้นทำให้พระรามนึกเอ็นดูไม่น้อย จันทร์เจ้าเหมือนกับลูกแมวตัวน้อยที่เรียนรู้ตามการชักนำของราชสีห์ตัวใหญ่ พระรามดูดดึงเรียวลิ้นน้อยไร้เดียงสาจนได้ยินเสียงน้ำลายเฉอะแฉะดังก้องไปทั่วห้อง จันทร์เจ้าปรือปรอยดวงตาหยาดเยิ้มสบกับสามีที่อยู่ใกล้กันเพียงลมหายใจกั้น ก่อนจะค่อยๆ ยกเรียวแขนขึ้นโอบรอบคอของคนตัวสูงกว่า เพื่อเป็นหลักประคองไม่ให้ตัวเองทรุดลงไปกองที่พื้นเพราะรสจูบเร่าร้อนที่กำลังเผชิญอยู่ “หวาน…” พระรามผละจูบออกเพื่อให้น้องได้กอบโกยอากาศหายใจ ร่างเล็กเซเล็กน้อย แต่ได้สองมือแกร่งโอบกอดประคองไว้ไม่ให้ล้ม “ไหวไหมครับ?” พระรามถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความรักใคร่ จันทร์เจ้าพยักหน้าเบาๆ กับแผ่นอกหนาที่ซุกซบ ร่างสูงใหญ่ระบายยิ้มขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะฝังจมูกลงยังกลุ่มผมสีน้ำตาลหอมนุ่ม เขาโยกตัวน้องไปมาเล็กน้อยราวกับกำลังปลอบเด็กตัวเล็กๆ “ปากจันทร์หวาน…” “งื้ออ” เพราะเขินอายจนไม่รู้จะยังไงดี จันทร์เจ้าจึงทำได้เพียงงับฟันลงที่เสื้อบริเวณแผ่นอกหนาที่ตนได้ซบอยู่ หวังว่าฟันแหลมๆ ของเขาจะเจาะไปถึงเนื้อแน่นๆ ของผู้เป็นสามี “เป็นลูกแมวคันฟันเหรอ หืม” พระรามเอ็นดูคนในอ้อมแขนจนต้องกดจูบลงย้ำซ้ำๆ ที่ข้างขมับคนน้อง “เอะอะก็จูบ จันทร์จะกัดให้เลือดเลย!” คำขู่ของคนตัวเล็กไม่ได้ทำให้พระรามรู้สึกกลัวเลยสักนิด จันทร์เจ้าก็เหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ ที่กำลังขู่เจ้าของ ไม่ได้ดูน่ากลัวเลย น่ารักมากกว่า บอกไปใครจะเชื่อว่าเขาตกหลุมรักเจ้าแมวน้อยแสนดื้อตัวนี้จนถอนตัวไม่ขึ้น จันทร์เจ้าในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนราวกับเป็นคนละคน ไม่ว่าจะเพราะเหตุใด แต่เขาก็อยากขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เขาได้รักจันทร์เจ้าที่มีนิสัยน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้ “ได้ยินไหมว่าถ้าเอะอะก็จูบจันทร์แบบนี้ จันทร์จะกัดจริงๆ นะ!” “ครับ” “ครับแล้วยิ้มทำไม” “ยิ้มก็ไม่ได้เหรอ” “ก็แล้วทำไมต้องยิ้มเหมือนล้อเลียนจันทร์” “ก็แฟนน่ารัก ยิ้มเพราะแฟนน่ารักได้ไหม” โอเค จันทร์เจ้ายอมแพ้ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็แพ้ให้พี่รามเสมอมา และคงเป็นแบบนี้ตลอดไป ผู้ชายยิ้มยากที่มีใบหน้าเย็นชาแทบจะตลอดเวลา แต่ทว่าพอยิ้มแล้วหล่อจนจันทร์เจ้าต้องก้มหน้างุดเพราะไม่อาจต้านทานรอยยิ้มหล่อๆ นั้นได้ “พะ…พอ ปล่อยจันทร์ได้แล้ว” พระรามค่อยๆ คลายอ้อมกอดให้น้องยืนได้ถนัด แต่ก็อดมันเขี้ยวแก้มเนียนขาวตรงหน้าไม่ได้ จึงก้มลงไปสูดกลิ่นหอมๆ นั้นสองสามฟอด ครั้นจันทร์เจ้าที่ถูกขโมยหอมแก้ม ก็รีบยกสองมือขึ้นปิดแก้มทันที ไม่ใช่เพราะกลัวพระรามจะหอมแก้มอีก แต่ปิดหน้าไว้ไม่ให้ร่างสูงตรงหน้าเห็นริ้วแดงๆ ที่แก้มมากกว่า “อ่ะ แล้วพี่กรกับพี่พะแพงหายไปไหน” คนตัวเล็กทำตาโตเมื่อมองไปรอบๆ แล้วไม่เห็นพะแพงกับกิดากร ที่กอดจูบกันกับพี่รามเมื่อกี้ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนสนิทสามีเห็นหรือเปล่า พอนึกถึงตรงนี้ริมฝีปากสวยก็เบะออกราวกับเด็กน้อยที่กำลังจะร้องไห้ “ฮืออ พี่กรกับพี่พะแพงเห็นที่เราจูบกันไหมๆ” จันทร์เจ้าเขย่ามือของผู้เป็นสามีแรงๆ เพื่อต้องการคำตอบ “...” พระรามไม่ตอบ แต่ขยับรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะดึงภรรยาตัวน้อยเข้ามากอดอีกครั้ง ทำตัวน่ารักจนอยากกอดไม่ปล่อย… “ทำไมต้องสนใจ” “สนสิ! จันทร์อาย!” “แต่งตัวเสร็จแล้วใช่ไหม” พระรามเปลี่ยนเรื่อง เพราะไม่งั้นเด็กตรงหน้าคงได้งอแงหนักกว่าเดิมถ้าบอกว่าเพื่อนเขาอาจจะเห็นมั้ง… “เสร็จแล้วครับ” “งั้นรอพี่แป๊บนึงได้ไหม ขอพี่เปลี่ยนชุดก่อน” “ได้สิ เดี๋ยวจันทร์ไปเล่นข้างล่างรอนะ” “อย่าซนมากนะ เดี๋ยวชุดยับ” พระรามก้มลงไปสูดความหอมยังแก้มเนียนอีกครั้ง ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อถูกขโมยหอมแก้มอีกครั้ง แต่เจ้าโจรตัวดีกลับหัวเราะชอบใจที่เห็นเขาทำสีหน้าขัดใจ “อีกแล้วนะ!” คนน้องโวยวายก่อนจะเอื้อมมือไปทุบที่ต้นแขนแกร่ง “ก็แก้มหอม” “ฮึ่ย!” ยิ่งโมโหก็ยิ่งพองแก้มจนดูน่ารักมากยิ่งขึ้นในสายตาของพระราม ร่างสูงโน้มใบหน้าลงไปจุ๊บเบาๆ ที่ริมฝีปากสวย จุ๊บ “จันทร์จะลงไปรอข้างล่าง!!” ดันใบหน้าของสามีออกห่างเต็มแรง ก่อนจะวิ่งออกไปนอกห้องอย่างรวดเร็ว ถ้าขืนอยู่นานกว่านี้ ไม่แก้มก็ปากที่ต้องช้ำแน่ๆ จันทร์เจ้าขอไปตั้งหลักกับป้าผ่องพี่น้อยหน่าข้างล่างแล้วกัน!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD