บทที่6 ป่วย (1/3)

1086 Words
มือหนายังคงลูบที่แผ่นหลังบางไม่หยุด แม้ว่าตอนนี้เขาจะพาคนตัวเล็กเข้ามายังห้องนอนของเขาแล้ว จันทร์เจ้ายังมีอาการหวาดกลัว ร่างเล็กแสนบอบบางขดตัวเบียดเข้าหาเขาอยู่ตลอดเวลาราวกับกำลังหนีบางสิ่ง แขนทั้งสองข้างกอดแน่นอยู่ที่คอของเขา ส่วนใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาซุกซบอยู่ที่ไหล่หนา ท่ามกลางห้องนอนขนาดใหญ่ที่เงียบสงบ มีเพียงเสียงสะอื้นเล็กน้อยเท่านั้นที่ดังเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน พระรามประทับจูบลงบนกลุ่มผมหนานุ่มสีน้ำตาล คล้ายกับกำลังปลอบเด็กตัวน้อยที่กำลังขวัญเสีย ‘จะ...จันทร์ อึกก กลัว…’ ‘ความมืด จันทร์กลัว’ เสียงสั่นเครือด้วยความหวาดกลัวนั้นยังดังก้องในหัวของร่างสูง หยาดหยดน้ำตาที่ไหลรินออกมาจากดวงตาคู่สวยราวกับมือที่มองไม่เห็นได้บีบหัวใจเขาไว้จนเจ็บแปลบ “ไม่ต้องกลัว พี่อยู่ตรงนี้” กล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน หวังบรรเทาอาการหวาดกลัวของคนที่อยู่บนตัก “อย่าร้องไห้…” อย่าร้องไห้อีกเลยนะจันทร์เจ้า ที่ผ่านมาเขาอาจจะทำตัวเป็นสามีที่แย่ ละเลย ไม่เอาใจใส่ผู้เป็นภรรยา แต่ต่อจากนี้พระรามสัญญากับตัวเองว่าเขาจะไม่ทำให้คนในอ้อมแขนเสียน้ำตาอีกเป็นอันขาด ความสัมพันธ์ของเขากับจันทร์เจ้าเกิดขึ้นจากความไม่เต็มใจ เพราะถูกผู้ใหญ่จับคลุมถุงชนจากคำสัญญาของผู้เป็นย่า ใช่ สิ่งนี้คือเรื่องจริง และตลอดมาเขาไม่เคยเห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ แต่ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปตั้งแต่วันนั้น วันที่เขาได้รับสายโทรศัพท์แจ้งว่าผู้เป็นภรรยานอนหมดสติอยู่ในสวน จันทร์เจ้าที่ฟื้นขึ้นมาดูแปลกไป แปลกไปจากเดิมราวกับเป็นคนละคน นั่นทำให้เขาเริ่มต้นจากความสงสัย และความสงสัยก็กลายเป็นความสนใจ… การขยับตัวของคนบนตักทำให้พระรามหลุดออกมาจากห้วงความคิด เขากำลังจะเอ่ยปากถาม แต่ทว่ามันเป็นจังหวะเดียวกับที่จันทร์เจ้าช้อนตาบวมช้ำที่เกิดจากการร้องไห้เป็นเวลานานขึ้นสบ ปลายจมูกรั้นขึ้นสีแดงจัด แก้มเนียนยังคงมีคราบน้ำตาให้ได้เห็น คนบนตักยังคงสะอื้นเล็กน้อย แต่ยังไม่ปล่อยแขนที่กอดคอเขาไว้ “...อย่าทิ้งจันทร์” เสียงหวานเอ่ยออกมาแผ่วเบา แต่เพราะห้องที่เงียบทำให้พระรามได้ยินประโยคนั้นอย่างชัดเจน “อย่าทิ้งจันทร์ให้อยู่กับความมืด จันทร์กลัว…จันทร์ไม่อยากอยู่กับมันอีกแล้ว” ไม่อยากเผชิญหน้าความมืดมิดที่ทำให้เขารู้สึกอ้างว้างและโดดเดี่ยวอีกแล้ว จันทร์เจ้าไม่อยากรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว… “ครับ พี่ไม่ทิ้ง” ดวงตาที่ยังคลอไปด้วยหยาดน้ำตาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคมของพระราม ประโยคนั้นจันทร์เจ้าขอคิดเข้าข้างตัวเองได้ไหมว่ามันคือคำมั่นสัญญา เขาจะไม่ถูกทิ้งอีกแล้วใช่ไหม ไม่ถูกทิ้งแบบที่โลกเดิมในบ้านเด็กกำพร้า ไม่ถูกทิ้งแบบที่ครอบครัวนิติธาราทอดทิ้งเขา “อยู่กับจันทร์นะ” “ครับ” แพขนตากะพริบขึ้นลงอย่างเชื่องช้า ดวงตาบวมช้ำที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักยังไม่ละสายตาไปจากใบหน้าหล่อเหลา แม้ว่าร่างสูงจะโน้มใบหน้าลงมาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อน จันทร์เจ้าจับจ้องทุกการกระทำของร่างสูง รวมถึงตอนที่ริมฝีปากหยักประทับลงที่กลางหน้าผากอย่างแผ่วเบา ดวงตาสองคู่สบประสานกันทันทีที่พระรามผละริมฝีปากออกจากหน้าผากของคนบนตัก แขนแกร่งกระชับเอวเล็กให้แน่นขึ้น ส่วนมืออีกข้างยกขึ้นเกลี่ยปอยผมสีน้ำตาลทัดไปยังใบหู พระรามจดจ้องใบหน้าสวยหวานที่อยู่ห่างจากเขาไม่มากนัก จดจำทุกรายละเอียดบนดวงหน้าขาว แม้ยามที่ร้องไห้จันทร์เจ้าก็ยังคงงดงาม ขนาดตัวที่แตกต่างกันทำให้จันทร์เจ้ายิ่งดูแสนบอบบางน่าทะนุถนอมอยู่เมื่อบนตักเขา “ต่อจากนี้มานอนที่นี่” “...” “สามีภรรยาควรนอนห้องเดียวกัน เข้าใจไหม” เปลือกตาสีไข่มุกค่อยๆ ลืมขึ้นเมื่อได้รับแสงจากเช้าวันใหม่ที่มารบกวน แต่วันนี้ต่างไปจากทุกวัน เพราะเขาไม่สดใสเอาเสียเลย ในหัวปวดตุบๆ ราวกับมีคนมารัวกลองในนั้น ลมหายใจร้อนผ่าว อาการครั่นเนื้อครั่นตัวทำให้คนตัวเล็กเบ้ปากราวกับเด็กที่โดนขัดใจ ไม่ชอบเลย… ทว่าในตอนที่กำลังยันกายลุกขึ้น เขากลับเพิ่งมารู้สึกตัวว่าบรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์หรือขนาดของห้อง เอ๊ะ! ทันใดนั้นเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็ไหลเข้ามาในหัว ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เขาหวาดกลัวความมืดแล้วร้องไห้ปานจะขาดใจ หรือตอนที่ถูกผู้เป็นสามีอุ้มเข้ามาในห้อง ห้องพี่ราม!! “อ่ะ” เอวบางถูกรั้งกลับให้ล้มลงไปนอนเช่นเดิม ตอนนั้นเองเขาถึงได้รู้ว่าเขาไม่ได้นอนอยู่บนเตียงกว้างสีเทาคนเดียว “รู้ตัวไหมว่ามีไข้” จันทร์เจ้านอนนิ่งตัวแข็งทื่อเมื่อรับรู้ได้ถึงท่อนแขนหนาที่กอดเอวตัวเองไว้ “มะ...ไม่รู้” “เดี๋ยวน้อยหน่าเอาข้าวกับยาขึ้นมาให้ ตอนนี้นอนไปก่อน” ใครมันจะไปหลับลง! “จันทร์จะกลับห้อง” “ไปดื้อวันอื่นได้ไหม” “ไม่เคยดื้อ” “ลืมเหรอที่พี่บอกเมื่อคืน” “...” ไม่ลืมจ้า แขนแกร่งจับพลิกคนที่นอนหันหลังให้หันกลับไปสบตากัน ดวงตาสีน้ำตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจที่เห็นใบหน้าของพระรามอยู่ใกล้แค่คืบ แล้วทำไมถึงนอนถอดเสื้อ! แผ่นอกกำยำขาวจั๊วะสะท้อนอยู่ในดวงตาของคนที่หน้าแดงเพราะความเขิน ไม่ใช่เพราะพิษไข้ นี่อย่าบอกนะว่านอนถอดเสื้อแบบนี้ทั้งคืนเลย แล้วก็นอนกอดเขาทั้งคืนด้วย… มือเล็กจับผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้า เพราะไม่ต้องการเห็นสายตาวิบวับจากร่างสูง แม้จะอยากขยับตัวหนีแต่ก็ทำได้ยาก เพราะแขนแกร่งยังโอบรัดที่เอวของเขาอยู่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD