บทที่8 หวง (1/2)

1375 Words
ฝ่ามือหนาโอบกระชับเอวบางของภรรยาไว้แน่น ดวงตาคมดุแสดงออกถึงโทสะจนคนที่เดินผ่านยังขนลุก จันทร์เจ้ามีสีหน้างงงวยเมื่อสามีกระชับเอวบางของตนไว้แน่นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย แต่ถึงแม้ว่าในหัวจะมีคำถาม แต่คนตัวเล็กกลับไม่ได้เอ่ยถามออกไป พี่รามโกรธอะไรเขาหรือเปล่านะ? กิดากร พะแพง และปันที่นั่งรออยู่เงยหน้าขึ้นมองคนที่กลับมาจากห้องน้ำ ทั้งสามคนหันมาสบตากันเมื่อเพื่อนสนิทมีแววตาคุกรุ่นเต็มไปด้วยเพลิงโทสะอย่างน่ากลัว กรามคมขบเข้าหากันจนขึ้นเป็นสันนูน ไอ้ท่าทางเหมือนอยากจะฆ่าคนแบบนี้ นานแล้วที่พวกเขาไม่ได้เห็น เกิดอะไรขึ้น?... ดวงหน้าสวยหวานแย้มรอยยิ้มให้กับเพื่อนสนิทของสามีเมื่อเดินมาถึงโต๊ะ ไม่ได้รับรู้ถึงบรรยากาศอันน่าสะพรึงกลัวที่แผ่ออกมาจากร่างสูงข้างๆ เลยแม้แต่น้อย ยิ้มแย้มด้วยท่าทางไร้เดียงสาจนกิดากรต้องยกมือขึ้นกุมขมับ “มีอะไรหรือเปล่า?” ปันเอ่ยถามเมื่อเห็นเพื่อนเริ่มขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ “...” ร่างสูงยังคงนิ่งไม่ตอบคำถาม “...น้องจันทร์” เมื่อเห็นว่าพระรามยังคงเงียบไม่ตอบคำถามของตน ปันจึงเลือกที่จะหันมาถามภรรยาตัวน้อยของเพื่อนที่ยังคงโปรยยิ้มหวานให้กับพวกเขา “ไม่มีอะไรนะครับ ปันก็แค่ไปเข้าห้องน้ำ แต่คงนานไปหน่อยพี่พระรามเลยลุกไปตาม” เฮือกกก ทันทีที่จันทร์เจ้าพูดจบ สามคนที่ได้ฟังพลันสะดุ้งเฮือก เมื่อคนร่างสูงหันขวับไปจ้องเขม็งคนที่บอกว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น “ไม่มีอะไรงั้นเหรอ” ร่างสูงกดเสียงต่ำเน้นย้ำอีกครั้ง แต่คนข้างกายยังคงไม่รู้สึกรู้สากับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของสามี “ใช่ ไม่มีอะไร” “กูว่ามีแน่นอน” กิดากรหันมากระซิบกระซาบกับพะแพง ซึ่งเธอก็พยักหน้าเห็นด้วยกับเพื่อนว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆ ไม่งั้นพระรามไม่ทำหน้าโมโหขนาดนี้หรอก ก่อนหน้านี้ยังอารมณ์ดีอยู่เลย “โดนใครก็ไม่รู้มากอด ยังบอกว่าไม่มีอะไรอีกเหรอ” !! พระรามแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียมจนร่างเล็กของจันทร์เจ้าเริ่มถดตัวหนี เขาไม่เคยเห็นสามีทำหน้าน่ากลัวแบบนี้มาก่อนเลย ปากบางเม้มเข้าหากันอย่างใช้ความคิด แต่ไม่ว่าจะคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก โกรธเรื่องอะไร?? พระรามขมวดคิ้วเข้าหากันทันที ครั้นสายตาก็ยังคงไม่ละไปจากดวงหน้าหวานของคนที่ตนโอบรอบเอวเล็กบอบบางไว้ พะแพงเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ตรงหน้าเริ่มไม่ค่อยดี จึงเตรียมที่จะช่วยพูดให้เพื่อนสนิทใจเย็น แต่ก็ช้าไปเมื่อพระรามรวบเอาภรรยาตัวน้อยขึ้นนั่งบนตัก พร้อมกับกระชับอ้อมกอดรอบเอวบางไว้แน่น ดวงตากลมสวยเบิกกว้างด้วยความตกใจกับการกระทำที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่รู้ว่าสามีของเขาไปกินดีหมีที่ไหนมาถึงเป็นแบบนี้ เป็นบ้าแบบนี้! “รามแกใจเย็นๆ” ปันเอ่ยเตือนเพื่อนของตน “อย่าไปให้ใครกอดอีก” ในตอนนี้คนตัวเล็กเริ่มรู้แล้วว่าเหตุใดสามีตนถึงโมโห โอเค ความสวยของเรามันเป็นเหตุนี่เอง “ทำไม” จันทร์เจ้าเชิดหน้าถาม “ไม่ชอบ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ ทั้งสองจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมแพ้ อีกคนก็แสนดื้อดึง ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ อยากเล่าถึงความเซ่อซ่าของตัวเองให้ทุกคนได้ฟัง แต่เมื่อรู้ว่าสามีจอมเย็นชามีท่าทีหึงหวงก็อยากแกล้งอีกสักนิด ส่วนอีกคนก็ไม่ชอบใจที่มีคนอื่นมาโอบกอดภรรยาอย่างแนบชิด เกมนี้ใครจะชนะไม่รู้ แต่กิดากรกับพะแพงชอบใจเหลือเกิน ไม่เคยเห็นเพื่อนสนิทมีอาการแบบนี้เลยยย “ได้ยินไหม” “ได้ยินๆ พี่รามปล่อยจันทร์ได้แล้ว!” โวยวายทันทีเมื่อคนที่ยกเขาขึ้นมานั่งบนตักโน้มใบหน้าลงมาใกล้ก่อนจะถามย้ำ เมื่อเห็นว่าคนน้องเริ่มดิ้น พระรามจึงคลายอ้อมกอดลง จันทร์เจ้าเมื่อเป็นอิสระก็ลุกขึ้นไปนั่งแทรกกลางระหว่างกิดากรกับพะแพง ทำเอาทั้งสองยิ้มด้วยความเอ็นดู มาเบียดเป็นแมวเลยนะน้องจันทร์ “มานั่งนี่” คนตัวสูงออกคำสั่ง “ไม่” “...” ไม่ว่าเปล่า คนแสนดื้อยังหันไปคว้าแขนของพะแพงมากอดหมับ จันทร์จะนั่งตรงนี้! ถ้ายังนั่งที่เดิมได้โดนกินหัวแน่ๆ ก็ดูสิ พี่รามยังทำหน้าเป็นยักษ์อยู่เลย ฮึ่ย “แล้วทำไมน้องจันทร์ถึงโดนกอด” ปันยังคงเอ่ยถามด้วยความสงสัย จันทร์เจ้าแอบเหลือบตาขึ้นมองคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม เมื่อเห็นว่าพระรามยังจ้องเขม็งมายังตนก็สะดุ้งเล็กน้อย พะแพงหลุดขำกับท่าทางนั้น สงสัยจะกลัวเพื่อนเขาจริงๆ… “จันทร์ซุ่มซ่ามเอง…” ริมฝีปากสวยเบะออกราวกับเด็กน้อย ก่อนจะเล่าต่อ “ตอนออกมาจากห้องน้ำจันทร์กำลังจะเดินกลับ แต่นั่นแหละ สะดุดขาตัวเอง…เกือบได้เอาหัวไปทักทายกับพื้นแล้ว แต่ดีนะที่คุณคนนั้นมาช่วยทัน…” เอ่ยเสียงแผ่วในประโยคสุดท้าย น่าอายชะมัด “อ้อ แบบนี้นี่เอง” กิดากรลูบปลายคาง แล้วเหตุการณ์ต่อจากนั้นก็ไม่ต้องเดาเลยว่าไอ้พระรามต้องไปเห็นแน่ๆ คนขี้หวงของแบบมัน พอไปเห็นเมียตัวเองโดนคนอื่นกอดอยู่ ลมหึงเลยออกหูนี่ไง โธ่พ่อคุ๊ณ ก็นึกว่ามีเรื่องอะไร~ “จันทร์ผิดเอง…” “น้องจันทร์ไม่ผิดเลยครับ แค่มีไอ้หมาบ้าบางตัวมันขี้หวงเฉยๆ ฮ่าๆ” ไอ้หมาบ้าที่โดนกล่าวถึงจ้องเขม็งมายังผู้พูด กิดากรยักไหล่อย่างไม่สนใจ เขายกมือขึ้นลูบเรือนผมสีน้ำตาลของน้องจันทร์เจ้า “หมาบ้ามันผิด น้องจันทร์ไม่ผิดๆ” “หมา?” “ครับหมาาา” จันทร์เจ้ามองตามสายตาของพี่กร ถึงเห็นว่าไอ้หมาบ้าตัวนั้น ตอนนี้กำลังทำสีหน้าไม่สบอารมณ์อีกครั้ง แต่ก่อนที่พระรามจะลุกขึ้นมาทุบเพื่อนที่บอกว่าเขาคือหมาบ้า ก็มีเด็กชายตัวน้อยวิ่งเข้ามายังโต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่ “อุนแม่คับ” เด็กน้อยกระโดดเข้ากอดผู้เป็นแม่เต็มเหนี่ยว แขนป้อมกอดรอบลำคอสวยของปันไว้แน่น ไม่นานก็มีชายรูปร่างสูงใหญ่ดูภูมิฐานเดินเข้ามาพร้อมกับกระเป๋าลายการ์ตูนสีสันสดใสในมือ “ลูกอยากมาหาคุณ” คนมาใหม่เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “จ้าวปั้นกิดตึ๋งอุนแม่” เด็กน้อยว่า จากนั้นจึงก้มลงไปหอมแก้มผู้เป็นแม่ ริมฝีปากสวยระบายยิ้มออกมาให้กับภาพที่เห็นตรงหน้า เขาเกือบลืมไปแล้วว่าที่โลกนี้ผู้ชายท้องได้ ไม่น่าล่ะ พี่ปันถึงมีรูปร่างบอบบางน่าทะนุถนอม (เหมือนแกแหละจันทร์เจ้า) “พี่ธนาวางกระเป๋าน้องข้าวปั้นตรงนี้เลยก็ได้ค่ะ” พะแพงชี้ลงบนโต๊ะที่มีขนมวางไว้เพียงไม่กี่ชิ้น ซึ่งทั้งหมดเป็นของจันทร์เจ้าเอง ธนาพยักหน้ารับก่อนจะวางกระเป๋าของลูกชายลงตามที่เพื่อนของภรรยาบอก พร้อมกับส่งยิ้มทักทายให้กับทุกคนที่นั่งอยู่ “อุนแม่คับ คนนี้คือใคร” เด็กน้อยชี้นิ้วป้อมๆ มายังจันทร์เจ้า “ชื่อคุณน้าจันทร์เจ้าครับ” ปันบอกลูกชายที่จ้องจันทร์เจ้าตาแป๋ว “น้าจันทร์จ๋วย จ้าวปั้นชอบ” พูดจบใบหน้าเด็กน้อยก็ขึ้นสีระเรื่อด้วยความเขินอาย คนที่โดนชมก็ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อไม่ต่างกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD