อาจจะเพราะว่าช่วงนี้ชีวิตแฮปปี้มากเกินไปละมั้ง สวรรค์ก็เลยกลั่นแกล้งโดยการส่งเรื่องน่าปวดหัวมาให้ทันทีเมื่อเท้าแตะถึงบ้าน
เฮ้อ
พี่น่านฟ้า
ดวงตากลมโตกลอกไปมาด้วยความเบื่อหน่าย ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าจันทร์เจ้าคนเก่าทนพี่ชายไปได้ยังไง นั่งคิด นอนคิด ตีลังกาคิด ก็ยังไม่เห็นถึงข้อดีที่ร่างโปร่งตรงหน้าเข้าหาสามีเขาอย่างเกินงาม
พี่น่านฟ้าคงจะมีใจให้พี่รามนั่นแหละ แต่ในเมื่อพี่รามแต่งงานกับเขาแล้วก็ไม่ควรเข้าหาสามีคนอื่นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ? เป็นนักแสดงมันควรห่วงภาพลักษณ์ของตัวเองหนิ หรือว่าโลกนี้คนไม่ประสาทแดกเท่าโลกเดิมของเขา?
แต่มันก็ไม่ควรปะวะ!
ริมฝีปากสวยเบะออกอย่างไม่ชอบใจเมื่อเห็นว่าร่างโปร่งบางของพี่ชายโปรยยิ้มหวานส่งให้คนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา
แค่จอดรถยังไม่ทันจะเข้าบ้านก็มีหนุ่มหน้าหวานมาหาถึงที่ เสน่ห์แรงจริงๆ เลยนะคุณสามี…จันทร์เจ้าขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ภายในใจ ใบหน้าหวานสะบัดหนีไปอีกทางเพราะไม่อยากเห็นภาพตรงหน้า
“มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
พระรามถามเสียงเรียบ นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าจะมีแขกมารอถึงที่บ้าน คงไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ว่าน่านฟ้ามาหาใคร…คงไม่ได้มาหาน้องชายหรอก
“ทำไมพี่รามถามแบบนั้นล่ะ ถ้าไม่มีอะไรน่านมาไม่ได้เหรอครับ”
น่านฟ้าเอ่ยถามเสียงแผ่ว ช่างดูน่าสงสารเหลือเกิน แต่ในสายตาคนอื่นนะ ไม่ใช่สายตาจันทร์เจ้า เพราะเขาพอจะดูออกว่าพี่ชายสุดที่รักแกล้งทำ คงเสียหน้าไม่น้อยที่ถูกสามีเขาเอ่ยถามออกไปแบบนั้น เมื่อก่อนพี่รามอาจจะนิ่งเฉยไม่เออออกับการที่พี่น่านฟ้าเข้าหาอย่างใกล้ชิดจนเกินงาม
แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว!
ถ้าอีพี่รามยังยอมให้พี่ชายเขาออดอ้อนออเซาะ เราก็จะได้เห็นดีกัน! เขาจะย้ายกลับไปนอนห้องเดิม จะไม่ให้ร่างสูงมาสัมผัสแม้แต่ปลายก้อย จะหวงตัว!
จะไม่ให้จูบด้วย!!
“มาได้ครับ ถ้ามีธุระ”
ร่างโปร่งบางชะงักไปเมื่อร่างสูงเน้นย้ำประโยคหลัง
“คือว่าน่านผ่านมาแถวนี้ เลยเอาผลไม้มาให้ครับ แถวกองถ่ายมีงานผลไม้พอดี”
“ขอบคุณครับ”
เออดีเนอะ เอาผลไม้มาฝากสามีน้องชาย ทั้งๆ ที่ภรรยาเขาก็ยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ แถมยังมองสามีเขาจนตาหวานเยิ้ม แต่ไม่ปรายตามองเขาสักนิด ทำราวกับเขาเป็นธาตุอากาศไม่มีตัวตน คิดว่าอยู่กันสองคนหรือไง!
คนตัวเล็กเม้มปากอย่างไม่ชอบใจ แม้จะสะบัดหน้าหนีเพราะไม่ต้องการเห็นภาพพี่ชายมาทำตาหวานเชื่อมใส่สามีเขา แต่หูเจ้ากรรมก็ยังได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่อยู่ดี แล้วยิ่งโมโหเมื่อคนตัวสูงเอ่ยขอบคุณออกไป
คงจะชอบสินะที่มีคนเอาของมาให้ เฮอะ!
พ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิดออกมาหนึ่งครั้ง ครั้นในตอนที่ตัดสินใจจะเดินหนีออกห่าง มือหนากลับคว้าเข้าที่ข้อมือเขาแล้วบีบไว้แน่น
ดวงตาคมเบนสายตามาสบกับนัยน์ตาสีน้ำตาลคู่สวยที่ตอนนี้ฉายแววไม่พอใจ มือเล็กพยายามแกะมือเขาออกแต่ไม่เป็นผล
“ขอบคุณสำหรับผลไม้ครับ แต่คราวหลังไม่ต้องลำบากน่านก็ได้ ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว น่านรีบกลับบ้านเถอะ พี่ขอตัวครับ”
ทันทีที่กล่าวจบ ร่างสูงไม่รอฟังคำตอบรับของร่างโปร่งบาง แต่กลับดึงข้อมือเล็กของผู้เป็นภรรยาให้เดินตาม ท่อนขาเรียวยาวก้าวเข้าไปในบ้านด้วยจังหวะสม่ำเสมอ จันทร์เจ้าช้อนตาขึ้นมองแผ่นหลังกว้างตรงหน้าด้วยความสับสน ไม่คาดคิดว่าพี่รามจะเอ่ยตัดบทพี่ชายของตนแบบนั้น
ฝ่ามือหนาปล่อยข้อมือคนตัวเล็กกว่าให้เป็นอิสระหลังจากที่เข้ามาในห้องนอน บรรยากาศในห้องพลันเงียบสงบเมื่อคนทั้งคู่ไม่มีบทสนทนาร่วมกัน
อารมณ์ขุ่นเคืองที่เคยมีหายไปจนหมดสิ้นตั้งแต่ได้ยินผู้เป็นสามีเอ่ยตัดบทพี่น่านฟ้า แต่เขาก็เลือกที่จะเงียบเมื่อเห็นว่าคนตัวสูงยังไม่เอ่ยคำใดออกมา
จันทร์เจ้าไม่รู้ว่าร่างสูงทำสีหน้าแบบไหนอยู่เพราะพระรามยืนหันหลังให้ตน เรียวขาเล็กจึงเลือกที่จะเดินออกไปที่ระเบียงห้องด้านนอกแทน เพราะไม่รู้ว่าทำไมสามีถึงยังนิ่งเงียบ เขาจึงเลือกออกมารับลมรอที่ระเบียงห้องดีกว่า
ดวงหน้าหวานเงยขึ้นมองท้องฟ้ายามค่ำคืน ดวงดาวระยิบระยับทำเอาเขาต้องคลี่รอยยิ้มออกมา…ท้องฟ้าที่นี่สวยกว่าโลกเดิมของเขาตั้งเยอะ แม้ว่าอยู่ในเมืองก็ยังคงมองเห็นดวงดาวชัดเจน
ครืดๆ
จันทร์เจ้าละสายตาจากท้องฟ้าแล้วหลุบตามองที่กระเป๋ากางเกงของตน มันคือเสียงสั่นของโทรศัพท์เขาเอง เสียงสั่นนั้นดังอยู่สักพักก่อนจะนิ่งเงียบไป ร่างเล็กย่นคิ้วเล็กน้อยก่อนจะล้วงมือเข้าไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วทันทีที่ดวงตาคู่สวยเห็นข้อความที่แจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันธนาคาร ก็ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
สามแสน!!
มีคนโอนเงินให้เขาสามแสน!!
หัวใจดวงน้อยเต้นรัวราวกับมีคนมาตีกลองอยู่ข้างใน อยากกรี๊ดออกมาดังๆ เพราะตกใจกับจำนวนเงินที่ได้รับ อะไรกัน…มีคนกดโอนเงินผิดหรือเปล่า?
ต้องโทรไปแจ้งธนาคารไหม…ใช่สิ ต้องบอกพี่ราม เพราะเขาไม่รู้ว่าที่โลกนี้ต้องจัดการแบบที่โลกเดิมของเขาหรือเปล่า พี่รามต้องช่วยได้แน่ๆ
เมื่อคิดได้ดังนั้นจันทร์เจ้าจึงรีบวิ่งเข้าไปในห้องเพื่อจะบอกผู้เป็นสามีว่ามีใครก็ไม่รู้โอนเงินผิดมาให้เขา แต่…
“เงินเข้าแล้วใช่ไหม”