ตอนที่6

1836 Words
ปากหยักงับไปที่เต้าสวยดูดเม้มยอดถันที่แข็งสู้ลิ้นของเขา อีกข้างใช้ฝ่ามือหยาบบีบเฟ้นบีบบี้มันไม่น้อยหน้า เขาสลับดูดข้างนั้นสลับข้างนี้จนร่างอรชรอ่อนระทวยเป็นขี้ผึ้งรนไฟ สองขาเรียวเสียดสีกันเองเมื่อความรัญจวนแล่นไปทั่วร่างกายตอนนี้เธอต้องการ ต้องการเขา “อ๊า...เข้ามาในตัวเรา เราทนไม่ไหวแล้ว” เขมราฐมองร่างเนียนที่กระส่ายไปมามือเล็กสอดประสานระหว่างขาทั้งสองข้างลูบผิวกายตัวเองเพื่อบรรเทาความเรียกร้องของราคะ ชายหนุ่มกระตุกยิ้มเขาอยากจะแกล้งอีกฝ่าย แต่ตอนนี้เจ้าลูกชายที่ชี้โด่เด่ก็แทบจะระเบิด เขาจึงจับขาเรียวทั้งสองข้างแยกออกจากกันแล้วแทรกตัวเข้าไปตรงกลาง ชายหนุ่มใช้นิ้วโป้งเขี่ยตรงกลางดอกไม้งามที่ไร้สิ่งปกคลุมเขมราฐเลียริมฝีปากน้ำหวานมากมายเปียกชุ่มไปทั่วบริเวณ นิ้วโป้งใหญ่บดขยี้ตรงกลางเกสรคนที่นอนใต้ร่างดีดดิ้นไปมาอย่างทรมาน มือเล็กกำผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่แค่นี้เธอก็แทบจะขาดใจอยู่แล้ว “เข้ามาสักที เราทนไม่ไหวแล้ว อ๊า!” ไม่ต้องรอให้คุณหนูสั่งเขาสอดอาวุธประจำกายเข้าไปในถ้ำหรรษานั้นทีเดียวจนมิด ความคับแน่นตึงไปทั่วส่วนล่างคุณหนูจุกจนพูดไม่ออกส่วนเขมราฐรู้สึกคับแน่นจนแทบขยับไม่ได้ “จุก” คนอวดดีบอกเสียงแผ่วเขมราฐเองก็แทบบจะปริแตก ภายในของคุณหนูตอดรัดเขาถี่ยับราวกับรอสิ่งนี้มานาน ชายหนุ่มค่อยๆขยับตัวเข้าออกช้าๆ มีเสียงหวานครางประกอบทุกครั้งที่เขาขยับ “อ๊า…” “อืมมม แน่นดีจริงๆ” เขาแช่มันไว้สักพักแล้วก้มลงไปดูดสองเต้าอวบนั้นพร้อมกับเริ่มขยับตัวจากช้าเป็นเร็วขึ้น เร็วขึ้น จนกลายเป็นถี่ยับน้ำหวานมากมายไหลออกมาไม่ขาดราวกับเขื่อนที่รับปริมาณน้ำไม่ไหวจนปล่อยให้เอ่อล้นออกมา “อ๊า เสียว…เราเสียวอ๊า” เล็บยาวจิกลงบนแผ่นหลัง เธอไม่สนว่าคนที่ขยับเข้าออกร่างเธอจะรู้สึกเจ็บหรือไม่ เธอต้องการระบายความเสียวซ่านนี้ให้เขาได้รับรู้ เขมราฐจับร่างเล็กพลิกคว่ำยกสะโพกขาวให้ลอยขึ้นมา เขาเข้าไปแทรกด้านหลังจับเจ้าลูกชายที่กำลังได้ที่สอดเข้ารูเล็กนั้นอีกครั้ง คุณหนูรู้สึกว่ามันเข้ามาลึกกว่าเมื่อกี้อีกเธอจุกท้องไปหมดเธอแนบหน้าลงกับหมอนนุ่มปล่อยสะโพกให้คนสวนคนใหม่จัดการ เสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นห้องแต่ก็ไม่มีใครสนใจ เสียงครางที่ผสมปนเปดังไปทั่วคฤหาสน์ ในยามที่เขมราฐตบแก้มก้นขาวเนียนจนเป็นสีแดงคุณหนูยิ่งส่งเสียงดังขึ้นกว่าเดิม แต่ต่อให้ทั้งสองเสียงดังแค่ไหนก็ไม่มีใครได้ยินอยู่ดี เพราะทั้งคฤหาสน์หลังใหญ่มีเพียงแค่พวกเขาสองคน กว่าจะปราบคุณหนูให้สิ้นฤทธิ์ก็ตอนฟ้าเกือบสาง ไม่รู้เจ้าหล่อนอดยากมาจากไหนถึงได้จัดจ้านมากขนาดนี้ รีดเอาน้ำเขาออกจนแทบหมดตัวเกือบสิ้นชื่อนายตำรวจผู้ได้ชื่อว่าราชสีห์แห่งกรมตำรวจ เพราะเพลิงสวาทของสาวน้อย หลังจากบทรักเพลงสุดท้ายจบลงคุณหนูก็ฟุบหลับลงบนอกเขา คราบอะไรต่อมิอะไรยังเปอะเปื้อนตามตัว เดือดร้อนให้เขมราฐต้องเอามาชุบน้ำเช็ดเนื้อตัวให้คุณหนูคนสวย ปรับแอร์ในอุณหภูมิพอเหมาะพร้อมกับห่มผ้าให้เสร็จสรรพ เขาถึงแอบย่องลงมาจากคฤหาสน์หลังใหญ่ เขมราฐไม่อยากจะคิดเรื่องที่กำลังจะตามมา เขาเผลอให้อารมณ์นำพาไปมีอะไรกับเจ้าของคฤหาสน์สุดหรูแถมยังมีปริศนาตั้งมากมาย หากเพื่อนสนิทอย่างวัฒนศินรู้เข้าละก็เขาต้องโดนด่าจนหูชาไปหลายวันแน่ เขมราฐเลิกคิดเรื่องที่ยังไม่เกิดนายตำรวจหนุ่มอาบน้ำชำระร่างกายอีกครั้งแล้วล้มตัวนอน จะว่าไปคุณหนูนั้นก็ถูกใจเขาอยู่ไม่น้อย ถึงตอนนี้กลิ่นหอมจากเรือนกายสาวยังติดอยู่ตรงปลายจมูกจางๆ ทั้งบทรักที่เร้าร้อนยิ่งกว่าที่เคยมีมา “น้องบัวไม่ไปโรงเรียนหรือวันนี้” เขมราฐถามเด็กสาว ที่กำลังช่วยป้าบุญอยู่ในครัว ปกติตอนเช้าเขาไม่ค่อยได้เห็นหน้าเด็กสาววัยกำลังโตคนนี้นักเพราะเจ้าตัวไปโรงเรียนแต่เช้า จะเจอกันบ้างก็ตอนเย็นหรือบางวันก็ไม่ได้เจอเพราะหลังหกโมงเย็นไปทุกคนก็เข้าห้องพักของตัวเองไป “วันเสาร์จ๊ะพี่เข้ม” เด็กสาวตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “พ่อเข้มตื่นแต่เช้านะวันนี้ มาๆป้าทำกับข้าวเสร็จพอดีมากินด้วยกัน” ป้าบุญปิดแก๊สที่กำลังทำอาหารลง โดยมีบัวช่วยหยิบจานให้ แม่ครัวใหญ่ตักผัดผักกลิ่นหอมร้อนๆออกจากกระทะ แล้ววางลงบนโต๊ะกินข้าวในครัว “ครับป้า เอ่อเมื่อคืนได้ยินเสียงอะไรแปลกๆไหมครับหรือผมหูฟาด” เขมราฐหยั่งเชิงดูปฏิกิริยาของแม่บ้าน ฝ่ายนั้นหยุดมือที่กำลังล้างกระทะครู่เดียวก็ล้างต่อปากก็ตอบมาโดยไม่ได้มองหน้าเขา “ไม่ได้ยินหรอก ถึงจะได้ยินก็ไม่ควรเข้าไปใกล้ทำเป็นหูทวนลมไปไม่ใช่เรื่องของเรา” แวบหนึ่งเขมราฐรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจของป้าบุญ แต่เขาก็เลือกที่จะเงียบไม่เซ้าซี้ ป้าบุญคนนี้ต้องรู้อะไรเกี่ยวกับคฤหาสน์หลังนี้แน่นอน “ป้าบุญ จ๋าป้าบุญ” เสียงเรียกร้องมาแต่ไกล พลันร่างของคนเรียกก็ถือสำหรับอาหารเปล่ามาอยู่ตรงประตู “อะไรของเอ็งนังอ่อน แหกปากโวยวายเดี๋ยวเสียงถึงคฤหาสน์คุณได้ตะเพิดแกออก” คนโดนดุปิดปากสนิทเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างจนเห็นเกือบครบทุกซี่แทน “คุณหนูทานข้าวหมดเกลี้ยงเลยจ้ะ ดูซิน้ำแกงก็ไม่เหลือ” คนรายงานทำเสียงราวกับเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ ป้าบุญตาโตรีบลุกไปดูหลักฐานที่อ่อนรายงานโดนเร็ว “จริงหรือนังอ่อน คุณหนูทานหมดเองแน่นะไม่ใช่ว่าแกแอบเอาไปเททิ้งหรอกนะ” ป้าบุญยังไม่อยากเชื่อ “โธ่ป้า จริงซิจ๊ะฉันจะเอาไปทิ้งได้ยังไงกัน คุณหนูนะกินเหมือนอร่อยมากแถมยังยิ้มให้ฉันอีก” อ่อนยังอวดไม่หยุด เขมราฐงงกับคนบ้านนี้คุณหนูทานข้าวหมดแล้วทำเหมือนเรื่องใหญ่โต แค่ทานข้าวหมดเขาเองก็ทำได้ไม่ใช่เรื่องวิเศษวิโส จนต้องแตกตื่นกันทั้งบ้าน “เอ่อคุณหนูทานข้าวหมด แล้วยังไงกันหรือครับ” เขมราฐแสร้งถามซื่อ อ่อนหันไปมองหน้าป้าบุญเล็กน้อยก่อนจะตอบเขาให้รู้ในสิ่งที่สงสัย “ปกติคุณหนูไม่ทานข้าวเลยจ้ะ น้อยครั้งมากที่จะทานอาหารที่ยกไปให้” “อ๋อครับ” เขาพยักหน้าไม่ถามต่อ แต่สังเกตจากรูปร่างของคุณหนูก็ตัวเล็กจริงๆนั้นแหละแต่ไฟหน้าคู่นั้นดูไม่ขาดสารอาหารเลย ซ้ำยังใหญ่มากเกินไปด้วยซ้ำ เอวเล็กคอดกิ๋วเรียวขาหรือก็เล็กบางตอนที่เขาอุ้มร่างนั้นขึ้นมากระแทกก็เบาเหมือนปุยนุ่นจนเขากลัวว่าร่างเธอจะแตกหักแต่คุณหนูตัวร้ายนั้นกลับเรียกร้องให้เขารุนแรงใส่ไปให้สุดกำลัง “พี่เข้ม พี่เข้ม จ๊ะ” เขมราฐตื่นจากภวังค์หันมองคนเรียก น้องบัวขมวดคิ้วสงสัยเธอเรียกเขาอยู่นานแต่เหมือนจิตใจของพี่เข้มนั้นจะไม่อยู่ตรงนี้ “ว่าไงครับน้องบัว” “นึกว่าหลับใน” บัวบอกติดตลก และยังถามพี่ชายคนสวนต่ออีกว่า “พี่เข้มขับรถเป็นไหม พอดีบัวจะไปซื้อหนังสือเตรียมสอบที่ห้าง แล้วก็ป้าบุญให้ซื้อต้นไม้ด้วย นี่จ้ะ” บัวยื่นกระดาษรายชื่อต้นไม้ที่ป้าบุญสั่งให้ซื้อ ชายหนุ่มรับมาเปิดอ่านเขารู้ว่าต้องซื้อเจ้าพวกนี้ได้ที่ไหน “เป็นครับ พอจะมีรถกระบะไหมถ้าซื้อต้นไม้คงใช้รถกระบะขนย้าย” เขมราฐถามเพราะเขาไม่เห็นรถสักคันเลยในคฤหาสน์ แต่เห็นมีโรงรถที่ปิดประตูหนาแน่นอยู่อีกฝั่งของตึก “มีจ๊ะ น้องเข้มให้พี่ไปช่วยขนอีกแรงไหมจ๊ะ” อ่อนเสนอตัว ทำตาวิบวับจนถูกหัวหน้าแม่ครัวดึงเข้าที่ใบหู “โอ๊ยๆ ป้ามาดึงหูชั้นทำไมเนี้ย” คนถูกทำร้ายเอามือกุมใบหูไว้ พร้อมกับทำปากยู่ไม่พอใจ “ว่างนักไปช่วยนังแตงทำความสะอาดตึกโน่น ไป ไปเรียกมันมากินข้าวด้วย ส่วนพ่อเข้มกับไอ้บัวรีบกินจะได้รับไปซื้อเดี๋ยวแดดแรงจะร้อนกันเปล่าๆ” ป้าบุญบอก พร้อมกับหยิบเงินในกระเป๋าให้หลานสาว “จ๊ะ ป้า” บัวยกมือไหว้ รับเงินจากคนเป็นป้ามาใส่กระเป๋าสตางค์ใบเล็กน่ารัก “ขับรถดีๆนะพ่อเข้ม” ป้าบุญหันไปบอกชายคนสวนบ้าง “ครับผม” บรรยากาศในรถไม่อึดอัดเท่าไหร่ป้าบุญไว้ใจเขาให้พาหลานสาวมาซื้อของ ส่วนบัวก็ไม่ได้ทำตัวห่างเหินกับเขาหลังจากที่เธอเล่าเรื่องคฤหาสน์ให้ฟังเมื่อวันก่อน ชายหนุ่มรู้สึกเอ็นดูน้องสาวคนนี้ บัวเป็นเด็กสดใสร่าเริงและมีสัมมาคารวะ แม้ตัวเองจะเป็นหลานป้าบุญแต่ก็ไม่ทำอวดเบ่งข่มเหงใคร อีกทั้งยังเป็นกันเองกับทุกคนด้วย “บัวพี่ถามอะไรหน่อยซิ” น้องหันหน้ามาหาเขา แล้วทำหน้าสงสัย “อะไรหรือจ๊ะพี่เข้ม” “ห้องที่ปิดตายห้องนั้นนะ เอ่อพี่อยากรู้ว่าทำไมถึงปิดเอาไว้แบบนั้นมองแล้วมันขนลุกแปลกๆ” บัวหน้าเจือเมื่อได้ฟังคำถาม เด็กสาวเงียบไปสักพักเหมือนจะใช้ความคิด เขมราฐลุ้นคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ ชายหนุ่มหันมองถนนกับคนข้างๆสลับกัน “พี่เข้มอย่าไปถามเรื่องนี้กับคนในบ้านนะจ๊ะ” บัวบอกเสียงแผ่ว “ทำไมละ” “มันเป็นเรื่องต้องห้าม” เขมราฐยังไม่เข้าใจในสิ่งที่น้องบอก ทำไมเรื่องต้องห้ามถึงได้เยอะและแปลกแบบนี้ เขมราฐมองเด็กสาวด้วยสายตาคาดคั้นเขาอยากรู้คำตอบทำไมถึงต้องห้ามเรื่องไม่เป็นเรื่องด้วย บัวเม้มปากอย่างครุ่นคิดแล้วหันไปตอบพี่ชายด้วยเสียงแผ่วปนสั่นเครือ “ห้องนั้นเคยมีคนตายจ๊ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD