ในรถคันหรูที่กำลังขับเคลื่อนบนถนนหลังจากออกมาจากคฤหาสน์ ทินกรทำหน้าที่ขับรถลอบมองใบหน้าของเจ้านายที่นั่งเอามือกอดอกแล้วมองไปด้านนอก
“เป็นความผิดผมเองครับท่าน” ทินกรเอ่ย
“ช่างมันเถอะ” เจ้าสัวว่า และถอนหายใจอีกครั้ง
“ท่านจะปล่อยไปแบบนี้หรือครับ”
“ตอนนี้คงต้องปล่อยไปก่อน อินทิราคงได้สัมผัสกลิ่นของผู้ชายคนนั้นไปแล้ว นายรีบติดตามศูนย์ทอดลองและดร.มิคาเอล ยาตัวที่ทดลองไปถึงไหนแล้วฉันอยากให้เด็กคนนั้นกลับมาเป็นปกติให้เร็วที่สุด”
“ครับท่าน”
“ดีใจจังเลยน้องเข้มไม่โดนไม่ออกแล้ว” อ่อนเกาะแขนชายคนสวน เอาหัวซบกับแขนแกร่งด้วยความดีใจ
“ใช่ๆ พี่ตกใจแทบแย่แนะ ขวัญเอ่ยขวัญมานะน้องเข้มของพี่” คราวนี้เป็นแตงที่มาเกาะแขนเขาอีกข้าง ทำท่าออดอ้อนไม่แพงกัน
สองสาวใช้ฟินกับกล้ามแขนแน่นๆ ได้ไม่นานฝ่ามือปริศนาก็ประเคนเข้าใส่ที่หัวดัง ‘โป๊ก’ ทั้งอ่อนและแตงกุมเอามือกุมสวนที่ถูกทำร้ายและหันไปมองคนที่กล้าทำร้ายร่างกายพวกเธอ
“มีโอกาสหน่อยไม่ได้เชียวนะนังสองตัวนี้” เป็นป้าบุญ ที่ยืนถืออาวุธอยู่ในมือ เป็นตะหลิวขนาดพอมือ แตงและอ่อนที่กำลังหันไปต่อว่าก็เงียบปากลงและยอมถอยตัวออกห่างจากเขมราฐอย่างน่าเสียดาย ได้ซบแขนแน่นๆ ของน้องเข้มไม่ถึงนาทีเลย
คนงานของบ้านวรเกียรติ์สกุลรวมตัวกันในครัวหลังจากผ่าวิกฤตของคนสวนที่เป็นขวัญของทุกคนมาอย่างราบรื่น ป้าบุญเข้าครัวมาทำอาหารเช้า โดยมีลูกมือเป็นน้องบัวที่วันนี้ไม่ได้ไปโรงเรียนเพราะเป็นวันหยุด ส่วนแตกและอ่อนคอยเช็ดทำความสะอาดภาชนะต่างๆ ในครัว
“ขอบคุณป้าบุญกับทุกๆคนมากนะครับที่ช่วยเหลือผม” เขมราฐเอ่ย เขารู้ว่าทุกคนเป็นห่วงเรื่องที่เข้าเกือบโดนไล่ออก
“ไม่เป็นไรหรอก อยู่บ้านเดียวกันกินข้าวหม้อเดียวกันช่วยเหลือกันเป็นเรื่องธรรมดา ว่าแต่พ่อเข้มเถอะทำไมไม่รับเงินละ เงินเป็นล้านเชียวนะถ้าเป็นนังแตงหรือนังอ่อนป่านนี้ตะครุบไปแล้ว”
“ก็ใช่นะซิป้าถ้าเป็นฉันนะ จะไม่เก็บเสื้อผ้าเลยจะยอมออกจากบ้านโดยไม่ต้องให้พูดซ้ำเงินเป็นล้านเชียวนะ ฉันกลับไปเป็นเศรษฐีที่บ้านนอกดีกว่า” แตงบอกส่วนอ่อนพยักหน้าเห็นด้วย
“ผมอยากทำงานแลกกับเงินมากกว่าครับ ถึงจะจนแต่ผมก็มีศักดิ์ศรีไม่ชอบวิธีการเอาเงินฟาดหัวด้วย ขอโทษครับที่พูดตรงๆ”
“ป้าไม่ถือหรอก ดีแล้วละที่คิดแบบนี้ ดูพ่อเข้มเป็นตัวอย่างบ้างนะนังอ่อนนังแตงพวกเอ็งสองคนนี้มันโลภมาก บัวด้วยนะดูตัวอย่างพี่เขาเอาไว้คนเราต้องรู้จักมีศักดิ์ศรีถึงเรียกว่าเป็นมนุษย์ ป้าบุญหันไปบอกสองสาวและ สั่งสอนหลานสาวด้วย
“สาธุ”
“จ๊ะป้า”
แตงและอ่อนพนมมือยกขึ้นสูงเหนือหัวคล้ายประชด ส่วนบัวตอบรับด้วยน้ำเสียงหวานสดใส ป้าบุญทำท่าจะเคาะกะโหลกสองสาวอีก อ่อนและแตงรีบถอยออกให้ห่างจากตะหลิวพิฆาตโดนไว
“มาช่วยข้าทำกับข้าว” ป้าบุญสั่งสองสาวทั้งแตงทั้งอ่อนกุลีกุจอเข้าไปช่วย ป้าบุญได้แต่ส่ายหน้ากับนิสัยของพวกนาง
“เอ่อพ่อเข้ม ป้าขอถามหน่อยซิไปรู้จักคุณหนูได้ยังไง เธอถึงยอมช่วยขนาดนี้” เขมราฐมองหน้าหัวหน้าแม่บ้าน แววตาเธอเต็มไปด้วยความสงสัย
“ใช่ๆ ฉันก็อยากรู้ปกติคุณหนูไม่เคยลงมาจากห้องเลย นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ได้เห็นแถมคุณหนูยังดูสวยกว่าเดิมอีกทั้งที่ปกติก็สวยมากอยู่แล้วแต่เหมือนมีออร่าแผ่ออกมาฉันนะขนลุกไปหมดเลย” อ่อนเสริมตอนที่คุณหนูเดินลงมาจากบันไดเหมือนนางฟ้านางสวรรค์ไม่มีผิด คนอะไรจะขาวสว่างขนาดนี้
“เอ่อ คือ…”
“ตอบมาตามตรงเถอะพ่อเข้ม” ป้าบุญยังคาดคั้น
“วันที่ผมดูแลแปลงดอกไม้ด้านหลังตึกครับ ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าเป็นคุณหนูผมนึกว่าตัวเองฝันไป พอตื่นขึ้นมาก็ไม่มีใครอยู่แล้ว ผมเลยนึกว่าตัวเองฝันไม่รู้ว่าทำอะไรให้คุณหนูพอใจเธอถึงได้ช่วยผม” เขมราฐตอบเขาเล่าความจริงแต่ไม่ทั้งหมด วันนั้นเขาเจอคุณหนูครั้งแรกแต่ไม่รู้ว่าเธอคือใครส่วนเรื่องหลังจากนั้นเขาไม่มีวันบอกเด็ดขาด
“คุณหนูคงเห็นความขยันขันแข็งของน้องเข้มละมั้งป้า ก็น้องเข้มขยันจะตายตื่นแต่เช้าไปรดน้ำพรวนดินแปลงดอกไม้ของคุณหนูทุกวัน เป็นฉัน ฉันก็เอ็นดู” แตงแสดงความคิดเห็นบ้าง จบประโยคเธอส่งสายตาหวานให้เขมราฐ นอกจากเอ็นดูแล้วเธอยังอยากดูเอ็นพ่อคนสวนสุดหล่อนี้ให้รู้แล้วรู้รอด
“เอ่อ อย่างนั้นก็ดีแล้ว แต่ป้าขอเตือนพ่อเข้มไว้หน่อยนะอย่าลืมกฎของบ้านนี้โดยเด็ดขาดถ้ายังอยากทำงานในบ้านหลังนี้ต่อ”
“ครับ” เขมราฐรับคำ พรางนึกขอโทษป้าบุญอยู่ในใจถ้าเขาไม่ขึ้นไปบนคฤหาสน์แล้วจะหาเบาะแสเกี่ยวกับคดีได้ยังไง
เขมราฐนั่งหลบแดดแรงในยามบ่ายอยู่ตรงศาลาท่าน้ำด้านหลังสุดของคฤหาสน์ เป็นท่าน้ำเล็กๆ น้ำไม่ลึกมากนัก มีต้นไม่ล้อมรอบเขมราฐชอบบรรยากาศของคฤหาสน์หลังนี้แม้กลางคืนจะดูวังเวงแต่ช่วงกลางวันนั้นร่มรื่นมีสายลมพัดเฉื่อยๆ อยู่ตลอดเวลา
“พี่เข้มจ้ะบัวเอาขนมมาให้จ๊ะ” บัวเดินถือถาดขนมและน้ำหวานมาวางให้ ในมือหอบหนังสือมาด้วยสองสามเล่ม เธอวางขนมให้เขมราฐแล้วนั่งลงตรงข้ามกับเขา ใบหน้าหวานยิ้มกว้างดูสดใสเขมราฐรู้สึกเอ็นดูบัวอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่ลืมในสิ่งที่วัฒนศินเตือน
“บัวทำตะโก้ไส้เผือกมาจ๊ะ พี่เข้มลองทานดูหวานหอมอร่อยมาก” เด็กสาวโฆษณาหยิบขนมห่อใบตองยื่นมาให้เขา เขมราฐรับมาทานรสชาติอร่อยอย่างที่บัวบอกนอกจากจะทำกับข้าวเก่งแล้วยังทำของหวานเก่งอีกต่างหาก
“อืม อร่อยจริงๆ ด้วยเก่งจังนะบัว” เขาชม
“ใช่ไหมล่ะ เอ่อบัวขอนั่งอ่านหนังสือตรงนี้ด้วยคนได้ไหมจ๊ะ จะอ่านในครัวพี่อ่อนกับพี่แตงก็เสียงดังบัวไม่มีสมาธิ”
“เอาซิ พี่ก็นั่งรับลมเพลินๆ เหมือนกันรับรองไม่เสียงดังรบกวนบัวแน่นอน แล้วก็ขอบใจสำหรับขนมนะอร่อยมากเลยละ”
บัวยิ้มรับคำชม เธอเริ่มเอาหนังสือขึ้นมาเปิดอ่านในใจ มือบางเขียนจดรายละเอียดในส่วนที่อ่านไปด้วย เขมราฐมองเด็กสาวที่ขยันด้วยความเอ็นดู บัวเป็นเด็กฉลาดทั้งยังขยัน ไม่รู้ทำไมพ่อแม่ถึงปล่อยให้มาอยู่กับป้าในคฤหาสน์ลึกลับนี้
“อยู่นี้เองตามหาตั้งนาน” เสียงนั้นทำให้เขมราฐและบัวหันไปมอง บัวเบิกตากว้างเมื่อเห็นร่างสูงตรงหน้าแล้วรีบก้มหน้าลงต่ำ มือเล็กกำปากกาแน่น
“อ้าวไอ้...เอ่อคุณศินสวัสดีครับ” เขมราฐเกือบหลุดเรียกชื่อเพื่อน เขามองมาที่บัวแต่เด็กสาวเอาแต่ก้มหน้าจึงโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง อย่างน้อยบัวก็ไม่ได้สงสัยอะไร
“ไงนายเข้ม ได้ข่าวว่าเมื่อเช้าเกือบเกิดเรื่องนิ แล้วเด็กนั้นเป็นอะไรเจอผู้ใหญ่ไม่รู้จักทำความเคารพ ใช้ได้ที่ไหนกัน” เขมราฐมองวัฒนศินสลับกับบัว ปกติเพื่อนเขาคนนี้เป็นคนเงียบๆ พูดน้อยต่อยหนัก แต่พอมาเจอบัวไม่รู้มีเรื่องอะไรกันยังไม่ทันได้พูดมันก็ต่อยหมัดหนักๆ ออกมากแล้ว
บัวเงยหน้าขึ้นดวงตาแดงก่ำ เธอยกมือไหว้แต่ไม่พูดอะไรสักคำเด็กสาวรีบเก็บหนังสือเรียนแล้วเตรียมเดินออกไป แต่ทว่าวัฒนศินยืนขวางทางเอาไว้ก่อน เขมราฐมองเพื่อนสนิทและเด็กสาวเหมือนทั้งคู่จะมีปัญหากันที่เขาไม่รู้
“น้องเข้มจ๊ะน้องเข้ม” เสียงแตงดังมาแต่ไกล หัวหยิกๆ ปลิวไสวตามแรงลม
“ครับพี่แตง” เขมราฐขานรับ บอกให้รู้ตำแหน่งว่าเขาอยู่ตรงนี้
“ออกไปซื้อของให้คุณหนูหน่อย ด่วนเลยน้องเข้ม” ยังไม่ทันได้เจอตัวแตงก็ตะโกนออกมา เขมราฐรีบเดินออกไปทิ้งให้วัฒนศินและเด็กสาวอยู่กันตามลำพัง คุณหนูอยากได้อะไรถึงเรียกใช้เขาด่วนนัก
“จะไปไหน” วัฒนศินจับมือเล็กของบัวเอาไว้แน่น เมื่อเด็กสาวทำท่าจะเดินตามเขมราฐไป ดวงตาของทนายนุ่มดูแข็งกร้าว ทั้งที่ปกติเขาเป็นคนเฉยชาต่อทุกสิ่ง
“ปล่อยนะคะคุณศิน บัวเจ็บ” บัวพยายามบิดข้อมือออกจากการจับกุม ยิ่งขัดขืนวัฒนศินยิ่งกำแน่นขึ้นจนเกิดรอยแดง
“ทำไมจะรีบวิ่งตามมันไปไหน เห็นผู้ชายไม่ได้เลยซินะสันดานร่านๆ ของเธอมันนี่มันไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ”
“คุณศิน!” บัวตะคอกใส่ เธอโกรธจนหน้าแดงดวงตาคลอน้ำตานิดๆ ที่โดนเขาดูถูกแล้วข้อมือก็ยังเจ็บมากๆ ด้วยเมื่อชายหนุ่มไม่มีทีท่าว่าจะลดแรงลงสักนิด
“ทำไม หรือไม่จริงนี่ระริกระรี่มาให้ท่ามันถึงนี้ละซิอย่าคิดนะว่าฉันรู้ไม่ทันเธอ” วัฒนศินแสยะยิ้ม เขามาขัดจังหวะที่เด็กคนนี้กำลังให้ท่าเขมราฐ เขมราฐแม้จะแข็งกระด้างแต่ก็เป็นพวกแพ้น้ำตาผู้หญิงเลยไม่เห็นธาตุแท้ของผู้หญิงร้อยมารยาคนนี้
“อย่ามาดูถูกบัวแบบนี้นะ บัวไม่ได้ทำอะไรผิด” บัวเถียงกัดริมฝีปากจนช้ำ เสียใจที่เคยมองว่าคนคนนี้เป็นคนดี เสียใจที่เคยเทิดทูนเขาสุดหัวใจ
“ไม่ได้ทำอะไรผิดงั้นเหรอ คงจะคันระริกๆ ละซินะที่มีผู้ชายมาอยู่ในบ้าน คิดจะจับมาเป็นผัวอีกละซิยัยเด็กร้าน ตัวแค่นี้ริอาจใจแตก”
เพียะ!
ใบหน้าหล่อหันไปตามแรง บัวฟาดหน้าเขาแรงด้วยฝ่ามือเล็กๆ ของเธอ คำดูถูกเหยียดหยาดที่พ่นมาใส่เธอไม่เว้น น้ำตาที่พยายามกั้นไว้ไหลลงตามแก้ใส วัฒนศินกัดฟันกรอดดวงตาแข็งกร้าวด้วยความโกรธ
“กล้าตบฉันงั้นเหรอ”
เขาปล่อยข้อมือเด็กสาวให้เป็นอิสระ จับใบหน้าสวยให้อยู่นิ่งก่อนจะทาบริมฝีปากลงไป บดขยี้ริมฝีปากบางรุนแรง บัวตกใจเบิกตากว้างก่อนจะตั้งสติได้ใช้สองมือทุบตัวคนใจร้ายที่บดขยี้ปากจนเธอเจ็บไปหมด
“อือ อ่อย นะ ปล่อย” วัฒนศินอาศัยจังหวะที่เธอร้องห้ามสอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวรัดลิ้นเล็กที่พยายามหนี ไม่ว่าเธอจะหนีไปทางไหนเขาก็กวาดต้อนให้มุม จากแรงทุบกลายเป็นกำเสื้อของชายหนุ่มไว้แน่น วัฒนศินยกยิ้มมุมปากที่สามารถกำราบเธอไว้ได้เขาค่อยๆ ถอนปากออก
เพี้ยะ!
โดยไม่ทันตั้งตัวฝ่ามือเล็กก็ฟาดซ้ำมาเป็นหนที่สอง บัวรีบวิ่งออกมาและหันไปพูดกับเขาด้วยเสียงอันสั่นเครือ
“ฉันเกลียดคุณ” เด็กสาวยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาแล้ววิ่งจากไป วัฒนศินยกมือขึ้นลูบใบหน้าที่ตอนนี้คงเป็นรอยแดงรูปฝ่ามือ มุมปากแสยะยิ้มเล็กน้อยครั้งนี้จะขอฝากไว้ก่อน รอก่อนเถอะเขาจะเอาคืนให้สาสม!
“คุณหนูให้ซื้ออะไรครับพี่แตงถึงรีบเร่งขนาดนี้” เขมราฐถามเมื่อเขาเจอกับแตง แตงรีบดึงมือเขาให้ตามมาเร่งรีบซะจนเดินสะดุดจนเกือบล้ม
“ไม่รู้เหมือนกัน ซื้อมาตามรายการในกระดาษนี้จ๊ะ เงินอยู่นี้และก็กุญแจรถรีบไปเถอะ” เมื่อยื่นรายการของที่จะซื้อ เงินจำนวนหนึ่งและกุญแจรถให้เขาแล้วแตงก็ผลักหลังเขมราฐให้รีบไป ชายหนุ่มมองกุญแจรถไม่ใช่รถกระบะคันเดิมแต่เป็นบีเอ็มดับบิวล์คันหรูที่จอดนิ่งอยู่ในโรงรถ
เขมราฐที่ยังไม่ทันได้รู้เรื่องอะไรดีนัก เดินงงๆ ไปยังโรงรถว่าจะถามแตงให้รู้เรื่องฝ่ายนั้นก็วิ่งหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ คนสวนหนุ่มได้แต่ส่ายหน้าและทำตามหน้าที่ที่ได้รับมา เขมราฐกดปลดล็อกรถหรูราคาหลายล้านพาตัวเองเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ
แต่ยังไม่ทันจะได้สตาร์ทรถเขาก็ต้องตกใจเมื่อ ร่างเล็กโผล่ขึ้นมาจากเบาะด้านหลัง เขมราฐไม่ทันสังเกตว่ามีคนซ่อนตัวอยู่ ชายหนุ่มสะดุ้งตกใจมองร่างที่ผุดๆ โผล่ๆ อย่างอ่อนใจ
“คุณหนู”