ตอนที่9

2411 Words
“แต่นายกำลังรอเรา ตรงนี้กำลังรอเรา” เธอจับไปที่ลูกชายของเขาที่ยังไม่สงบ ทั้งที่เมื่อกี้กำลังจะถึงสวรรค์อยู่รอมร่อ แต่พอล้มกลางคันคราวนี้เขมราฐรู้สึกปวดตุบ “เราช่วย” เธอเสนอและผลักเขาลงกับที่นอนร่างเล็กขึ้นคร่อม ใช้ส่วนนั้นที่เปียกแฉะค่อยๆ ครอบครองร่างกายเขา “อ๊า…” คุณหนูก้มลงมากัดปากเขาแรงๆ จนช้ำเขมราฐมองใบหน้าที่กำลังจ้องมองเขาส่วนนั้นก็เริ่มขยับช้าๆ “เราเห็นนะ…อ๊า” เธอเริ่มขยับเร็วขึ้น กัดตามลำคอและแผงอก เขมราฐรู้สึกเจ็บเหมือนมดกัดถ้าตัวเขาขาวเหมือนวัฒนศินละก็ คงเห็นรอยเขี้ยวแดงเป็นจ้ำแน่ไม่รู้อยากช่วยหรือทำโทษเขากันแน่ “เห็นอะไร อืมม ซี๊ดด…” เธอยืดตัวขึ้นเร่งสะโพกมันให้ขึ้นลงตามจังหวะ แววตานั้นดุดันขึ้นกว่าเดิมแม้ปากจะครางออกมาก็ตาม “นายกับเด็กคนนั้น เราเห็น” “เด็กคนนั้น น้องบัวเหรอ อึก!” คราวนี้คุณหนูกัดปากเขาแรงจนเลือดซิบมองเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจแม้ส่วนล่างจะประสานกันได้ดีเยี่ยม “คุณหนูโกรธอะไรเนี้ย” เขมราฐจับมุมปาก ไม่มีเลือดไหลออกมาแต่เจ็บใช่ย่อย ฟันคุณหนูที่แข็งและแหลมคม ต่อให้เนื้อตัวเขาแข็งแรงแค่ไหนก็ต้องเจ็บอยู่ดี “นายไม่เคยเรียกชื่อเรา” ร่างบางหยุดการกระทำมองหน้าเขาด้วยแววตาขุ่น ตั้งแต่รู้จักเขมราฐก็ไม่เคยเรียกชื่อเธอจริงๆ เขาเรียกคุณหนูตามคนอื่นเรียก “หึ” ชายหนุ่มหลุดหัวเราะ “นายหัวเราะอะไร” คราวนี้เธอหน้าบึ้ง ทำแก้มพองเหมือนเด็กไม่มีผิด “คุณหนูอายุเท่าไหร่แล้วครับ” เขาจับอีกฝ่ายให้นอนลงเคียงข้างแม้ส่วนล่างยังประสานกันอยู่ “23” คุณหนูตอบเสียงห้วน “อิจฉาเป็นเด็กไปได้” เขมราฐจูบแก้มใสเบาๆ เขาจับขาเรียวขึ้นและเป็นฝ่ายปรนเปรอให้คุณหนูเอง “อืออ่า เราไม่อ่า...ไม่ใช่เด็ก” เธอแย้ง “ครับ คุณหนู ไม่เด็กแล้วโตแล้ว แถมโตมากด้วย” สายตาจับจ้องไปที่หน้าอกคู่โตนั้น เขมราฐบีบนวดมันเพื่อยืนยันว่ามันใหญ่โตมากจริงๆ จนล้นจากฝ่ามือเขา แก้มใสแดงระเรื่อและหลบสายตาเขมราฐไม่ได้คิดไปเองว่าคุณหนูกำลังอาย ก๋ากั่นขนาดนี้พอมีมุมเขินอายก็ดูน่ารักดีเขาจึงต้องตอบแทนเธอสักหน่อยแล้ว เขมราฐจับร่างคุณหนูให้ยืนขึ้นโดยมีเขาตามประกบอยู่ด้านหลังจับ เขาพาคุณหนูมาเดินมาหาโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ ที่มีกระจกขนาดพอเหมาะ สองมือของคุณหนูจับขอบโต๊ะอย่างรู้งานพรางก้มตัวลงให้ก้นงามลอยเด่นขึ้น เขมราฐเลียริมฝีปาก ผู้หญิงคนไหนก็ไม่เด็ดเท่าคุณหนูคนนี้อีกแล้ว เขาจับแกนกายใหญ่สอดเข้าร่องหรรษาจากทางด้านหลัง เสียบพรวดไปทีเดียวจนมิดใบหน้าหน้าเหยเกพร้อมกับซูดปากเบาๆ เขาก้มลงไปจูบแผ่นหลังขาวเนียนส่วนพร้อมขยับสะโพกไปด้วย ฝ่ามือหยาบลูบไปตามจับเอวเล็กคอดนั้นไวก่อนจะโหมความรุนแรงใส่ร่างของเธอดังเปลวเพลิงที่โดนสาดด้วยน้ำมัน ไฟสวาทลุกไหม้เร่าร้อนจนสองร่างมันแผล็บไปด้วยหยาดเหงื่อ “อ๊า…เสียวจัง” คุณหนูโน้มคอเขาไปจูบ คราวนี้เธอไม่ได้กัดแต่เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความเสน่ห์หา เลียชิมริมฝีปากหยักโดยที่เจ้าของให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี “อ๊ะ” เขมราฐจับสองขาของคุณหนูให้ขึ้นเหยียบบนพื้นโต๊ะ ส่วนสัดระหว่างเขาและคุณหนูไม่ถือว่าเป็นอุปสรรค กระจกเงาสะท้อนทุกสัดส่วนของคุณหนูในเวลานี้ ร่องสวาทของเธอรับเอาสิ่งใหญ่โตเข้าไปในร่างรอบข้างเต้นตุบๆ เหมือนกำลังบีบ “สวย” เขมราฐชม ภาพนี้ไร้ซึ่งที่ติ ในยามที่เขาเสยแท่งร้อนขึ้นไปร่างขอบคุณหนูจะกระตุกน้อยๆ ชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจและทำอย่างนั้นอยู่สองสามทีก่อนจะเร่งจังหวะให้คุณหนูได้สุขสม “อ๊า ...อ๊าจุก อ่าเสียว” คุณหนูกรีดร้องร่องเธอแน่นทั้งเสียวทั้งจุกจนไม่รู้จะพ้นอะไรออกมานอกจากเสียงครางหวานๆ ที่ดังถี่ขึ้น น้ำหวานมากมายไหลออกมากเคลือบโคนของเขาคุณหนูเสร็จไปตั้งกี่รอบแล้วเขมราฐไม่ได้นับ รู้แค่ว่าเวลาเธอกระตุกท้องน้อยและส่วนนั้นตอดถี่ยิบนับครั้งไม่ถ้วน เขมราฐสอดมือเข้าใต้ข้อพับของขาทั้งสองข้างและยกร่างคุณหนูขึ้นทั้งที่ส่วนนั้นก็ไม่ยังไม่ยากจากกัน เขาวางคุณหนูลงบนเตียงร่างเล็กนอนเพียบกับเตียงเล็กโดยไร้เรี่ยวแรง “ไหวไหม หืม…” เขาลูบผมยาวที่เปียกชุ่มปกปิดใบหน้าสวยออกให้ คุณหนูหอบหายใจเหนื่อยเหมือนคนใช้กำลังมาหลายชั่วโมงทั้งที่เธอแค่นั่งอยู่เฉยๆ ปล่อยคนวสวนหนุ่มงัดเสยไปทั่วทิศทาง เขมราฐแสยะยิ้มที่สามารถปราบเจ้าหล่อนให้ศิโรราบได้ เขาจับสะโพกมนให้ลอยเด่นขึ้นมาแล้วจับแท่งร้อนที่กำลังร้อนผ่าวสอดประสานเข้าไป “อืม...” เขมราฐคำรามในลำคอ ส่วนคุณหนูร้องอู้อี้เพราะใบหน้าปิดกับหมอนไว้ ชายหนุ่มกระแทกกระทุ้งร่างคุณหนูด้วยความแรงและเร็วจนคนใต้ร่างหัวสั่นหัวคลอนไปหมด เขมราฐกัดฟัดกรอดฉีดน้ำอุ่นสีขาวขุ่นใส่ร่างนั้น เขาแช่มันไว้และถอดออกมาเมื่อเหล่าลูกๆ ของเขาเข้าไปในตัวคุณหนูทุกหยาดหยอดแล้วล้มตัวทับร่างเล็กโดยที่มือยังดันพื้นเอาไว้เพื่อไม้ให้เธอรู้สึกหนักเกินไป “เรียกชื่อเรา” เสียงแหบเล็กของคนที่นอนหอบหายใจหนักดังขึ้น “หืม” เขมราฐล้มตัวลงไปนอนข้างๆ คนตัวเล็กและเกลี่ยปอยผมออกให้ “นายยังไม่เรียกชื่อเรา” เธอพูดซ้ำอีกครั้งทั้งที่หน้ายังมุดอยู่กับหมอนของเขา เขมราฐส่ายหน้าเบาๆ กับคนเอาแต่ใจ เขาซุกหน้าลงไปใกล้ใบหูขาวๆ นั้นแล้วกระซิบเบาๆ “อินครับ” น้ำเสียงแหบทุ้ม ที่คนฟังต้องหันหน้าหนีไปอีกทาง เขมราฐสังเกตเห็นว่าใบหูขาวนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดง ส่วนคนที่เรียกร้องให้เขาเรียกชื่อกลับไม่พูดอะไรออกมาสักคำ เขมราฐปล่อยให้คุณหนูนอนพักเขามองใบหน้าสวยที่หลับตาพริ้มลมหายใจเข้าออกด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม เมื่อสิบห้าปีก่อนเด็กสาวคนเป็นแค่เด็กไม่น่าจะมีส่วนรู้เห็นกับการตายของคุณอินทัชและคุณอิงอร เด็กอายุแปดขวบจะรู้สึกยังไงที่เสียทั้งพ่อและแม่ไปและยังถูกปล่อยให้อยู่คุณเดียวในคฤหาสน์จนทำตัวแปลกๆ คิดมาถึงตรงนี้เขมราฐรู้ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายคนแรกของคุณหนู ทำไมเขาต้องรู้สึกโมโหทุกครั้งที่คิดเรื่องนี้ คุณหนูอยู่แต่ในคฤหาสน์แล้วจะไปมีอะไรกับใครได้แถมยังดูชอบการมีเซ็กส์เอามากๆ ด้วย รวมทั้งกลิ่นแปลกๆ ที่คุณชอบบอกว่าชอบในตัวเขา นายตำรวจหนุ่มถอนหายใจหนักคดีเก่ายังไม่แก้ไขได้แล้วยังมีปริศนาใหม่ๆ ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดอีก เขาเลิกคิดแล้วเปิดแอร์ในอุณหภูมิที่พอเหมาะเมื่อร่างบางเริ่มขยับมากอดเขาไว้เขมราฐจัดแจงร่างบางให้นอนตะแคงโดยมีเขาซ้อนด้านหลังเพราะเตียงมันแคบชายหนุ่มถึงต้องกอดร่างเด็กสาวไว้กันไม่ให้เธอตก เขมราฐเตรียมออกไปรดน้ำต้นไม้ตอนเช้าตามปกติ เมื่อคืนเขาปล่อยให้คุณหนูนอนพักและปลุกเธอให้กลับขึ้นไปในคฤหาสน์ตอนฟ้าใกล้สาง คุณหนูงอแงนิดหน่อยแต่พอเขาบอกว่าคืนนี้จะขึ้นไปหาเธอจึงยอมแต่โดยดี บทจะพูดง่ายก็ง่ายหรอก แต่บทจะเอาแต่ใจก็น่าตีใช่ย่อย “น้องเข้มจ๊ะ น้องเข้ม” เขมราฐกำลังเดินอ่อนจากห้องก็เจอกับอ่อน ที่ดูมีท่าทางรีบร้อนมาหาเขาแต่เช้า “ครับพี่อ่อน มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับมาหาผมแต่เช้า” “เกิดเรื่องแล้วจ้ะ ท่านเจ้าสัวมาอย่าพึ่งถามอะไรเลยนะ ตามพี่มาก่อน” อ่อนยังไม่ได้บอกรายละเอียดแต่ดึงมือหยาบให้รีบเดินตามเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่ ห้องรับแรกที่ไม่ได้ใช้นานมากแล้วบัดนี้ถูกเปิดต้อนรับเจ้าของเป็นชายแก่ผิวขาวใบหน้ามีริ้วรอยตามวัยรูปร่างไม่อ้อนไม่ผอม นั่งวางอำนาจอยู่บนโซฟาข้างๆ มีชายใส่สูทสีเรียบยืนกำกับอยู่ เขมราฐนั่งลงบนพื้นตามพี่อ่อนซึ่งมีป้าบุญแตงและน้องบัวนั่งก้มหน้าอยู่ก่อนแล้ว “คนนี้รึ” ท่านเจ้าสัวถาม พรางมองสำรวจชายสำรวจอย่างถี่ถ้วน “ค่ะ ท่านคนนี้ชื่อพ่อเข้ม มาทำได้งานเกือบเดือนแล้วค่ะ” ป้าบุญตอบ “ใครเป็นคนรับเข้ามาจำไม่ได้หรือไงว่าฉันสั่งห้ามว่ายังไง ทำไมถึงมีคนงานผู้ชายมาทำงานได้หา!” ท่านเจ้าสัวดูโกรธมาก เขมราฐไม่เข้าใจทำไมถึงเป็นผู้ชายไม่ได้ในเมื่องานบ้านงานสวนล้วนแต่ต้องใช้แรงงานทั้งนั้นจะให้ผู้หญิงทำได้ยังไงกัน “เอ่อ คือคุณศินรับมาค่ะ แต่พ่อเข้มก็ทำงานขยันขันแข็งดีนะคะท่าน” ป้าบุญออกตัวแทน “ทินกร เรียกวัฒนศินเข้ามาทำไมถึงขัดคำสั่งฉัน” ท่านเจ้าสัวไม่ได้สนใจแม่บ้านคนเก่าเลยด้วยซ้ำ เขาหันไปบอกคนติดตามที่ยืนนิ่งอยู่ “ที่จริงคุณศินบอกมาแล้วครับ แต่ตอนนั้นท่านติดประชุมด่วนผมเลยอนุญาตแทนเพราะไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ ขอโทษด้วยครับท่าน” ทินกรตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง หาเกรงกลัวต่อท่านเจ้าสัวไม่ ประมุขของบ้านถอนหายใจเฮือกใหญ่ และมองมาที่เขาพร้อมกับถามออกมา “จะเอาเท่าไหร่” “ครับ?” “ฉันไล่นายออก จะเอาค่าชดใช้เท่าไหร่” เขมราฐเข้าใจประโยคนั้นอย่างแจ่มแจ้ง ไม่คิดมาก่อนว่าจะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เขาจะไปจากคฤหาสน์นี้ไมได้โดยเด็ดขาดถ้ายังปิดคดีไม่ได้และยังมีคุณหนูที่เมื่อคืนยังอยู่ในอ้อมแขนของเขาอยู่ ชายคนสวนคิดหนัก จะหาเหตุผลอะไรที่จะสามารถอยู่ที่นี่ต่อได้ “ในเมื่อไม่ตอบงั้น ฉันให้หนึ่งล้านบาทแล้วเก็บกระเป๋าเอาไปจากที่นี่ซะ” อ่อนและแตงตาโตกับจำนวนเงินจนต้องแอบมองหน้ากัน ส่วนเขมราฐไม่ยินดียินร้ายกับจำนวนมากมายนั้น ป้าบุญและบัวมองเขาด้วยสายตาเป็นห่วง “คือผมไม่ได้ต้องการเงินครับ ผมแค่อยากทำงานที่นี้” เขมราฐตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เขาจะไม่ไปจากที่นี่เด็ดขาดถ้ายังไม่สามารถปิดคดีลงได้ “นี่แก!” ท่านเจ้าสัวลุกขึ้นชี้หน้าเขาอย่างเหลืออด คิดว่าเขมราฐนั้นโลภมากอยากจะขอค่าชดเชยอีกเงินตั้งหนึ่งล้านต่อให้ทำงานเป็นสิบปีก็ไม่มีทางหามาได้ “ผมยืนยันคำเดิมครับผมไม่ได้อยากได้เงินของท่าน แต่ผมอยากมีงานทำ” “หึ ไม่อยากได้เงินแล้วจะมาทำงานทำไม เหตุผลย้อนแย้งอยากได้มากกว่านี้ก็บอกจำนวนมากจะได้จบแล้วรีบออกไปจากที่นี่ซะ” “ไม่ได้ค่ะ เขาจะไม่ไปไหนทั้งนั้น” ระหว่างที่ถกเถียงกันอยู่ก็มีเสียงหวานแทรกเข้ามาทุกคนหันมองไปยังต้นเสียง เจอร่างบอบบางที่อยู่ในชุดคลุมสีขาวยืนเด่นอยู่ “คุณหนู” “อินทิรา” ป้าบุญและท่านเจ้าสัวอุทานชื่อของหญิงสาวออกมาร่างสวยระหงค่อยๆ เดินเข้ามาหาทุกคนช้าๆ เขมราฐสังเกตเห็นว่าทุกคนดูตกใจกับการปรากฏกายของคุณหนู “หรือว่า” ท่านเจ้าสัวมองหลานตัวที่เดินมานั่งบนโซฟาอีกตัวและหันมามองหน้าคนสวน ดวงตาชายแก่ดูหม่นหมองไปครู่หนึ่ง และเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวเมื่อมองเขา “ไม่ได้บ้านเรามีกฎ” ท่านเจ้าสัวยังไม่ยอม ยืนยันว่าจะต้องไล่เขมราฐออก “ใช่ค่ะบ้านเรามีกฎและอินก็คือกฎของที่นี่” คำตอบของคุณหนูทำเอาท่านเจ้าสัวโกรธจนตัวสั่น สายตาของคุณหนูไม่ได้สนใจคุณปู่เลยสักนิดแต่กลับมองมาที่คนสวนเพียงคนเดียว เพียงเท่านั้นท่านเจ้าสัวก็เข้าใจสถานการณ์ เรื่องที่ว่าอินทิราหลานสาวเพียงคนเดียวของเขาคือกฎของบ้านนี้มันคือความจริง ทั้งที่เป็นเจ้าของคฤหาสน์แต่เจ้าสัวอินชัยกลับไม่อยู่ที่นี่แต่ไปอยู่ที่ต่างประเทศแทนและทิ้งคุณหนูให้อยู่คนเดียวตั้งแต่สิบห้าปีก่อนหรือผลกรรมในครั้งนั้นกำลังจะย้อนกลับมาเขาแล้วนะ ชายแก่คิด “อย่างนั้นก็ตามใจ” ท่านเจ้าสัวลุกขึ้น และเดินออกไปตามด้วยผู้ติดตามอย่างทินกร ป้าบุญโล่งเอามือทาบอกอย่างโล่งใจบัวหันมามองพี่เข้มแล้วยิ้มกว้าง ชายหนุ่มเองก็ยิ้มตอบกลับพรางพยักหน้าว่าขอบใจ ส่วนแตงกับอ่อนจับมือกันดีดดิ้นดีใจเงียบที่อาหารตายังอยู่ให้เชยชม “คุณหนู” ป้าบุญเรียกคุณหนูด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เอ่อ” “มีอะไรจ๊ะ ป้าบุญ” “รู้จักกับพ่อเข้มหรือคะ เอ่อคุณหนูไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ” ป้าบุญไม่กล้าถามออกไปตรงๆ เธอแอบมองหน้าเขมราฐครู่หนึ่งแล้วหันกลับมา “อืม เราเห็นเขาตั้งใจดูสวนดอกไม้ของเรานะ” คุณหนูยิ้มและมองมาที่เขมราฐ ชายหนุ่มทำหน้านิ่งไม่ยิ้มหรือแสดงสีหน้าใดๆ ออกมา “อ่อ อย่างนี้นี่เองพ่อเข้มรีบขอบคุณ คุณหนูเสียซิ” “ขอบคุณครับ” เขมราฐทำตามอย่างว่าง่าย ป้าบุญก็สั่งให้แยกย้ายกันไปทำงานเหมือนเดิม ส่วนคุณหนูก็กลับขึ้นไปด้านบนเช่นเดิม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD