“แต่นายกำลังรอเรา ตรงนี้กำลังรอเรา” เธอจับไปที่ลูกชายของเขาที่ยังไม่สงบ ทั้งที่เมื่อกี้กำลังจะถึงสวรรค์อยู่รอมร่อ แต่พอล้มกลางคันคราวนี้เขมราฐรู้สึกปวดตุบ
“เราช่วย” เธอเสนอและผลักเขาลงกับที่นอนร่างเล็กขึ้นคร่อม ใช้ส่วนนั้นที่เปียกแฉะค่อยๆ ครอบครองร่างกายเขา
“อ๊า…” คุณหนูก้มลงมากัดปากเขาแรงๆ จนช้ำเขมราฐมองใบหน้าที่กำลังจ้องมองเขาส่วนนั้นก็เริ่มขยับช้าๆ
“เราเห็นนะ…อ๊า” เธอเริ่มขยับเร็วขึ้น กัดตามลำคอและแผงอก เขมราฐรู้สึกเจ็บเหมือนมดกัดถ้าตัวเขาขาวเหมือนวัฒนศินละก็ คงเห็นรอยเขี้ยวแดงเป็นจ้ำแน่ไม่รู้อยากช่วยหรือทำโทษเขากันแน่
“เห็นอะไร อืมม ซี๊ดด…” เธอยืดตัวขึ้นเร่งสะโพกมันให้ขึ้นลงตามจังหวะ แววตานั้นดุดันขึ้นกว่าเดิมแม้ปากจะครางออกมาก็ตาม
“นายกับเด็กคนนั้น เราเห็น”
“เด็กคนนั้น น้องบัวเหรอ อึก!” คราวนี้คุณหนูกัดปากเขาแรงจนเลือดซิบมองเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจแม้ส่วนล่างจะประสานกันได้ดีเยี่ยม
“คุณหนูโกรธอะไรเนี้ย” เขมราฐจับมุมปาก ไม่มีเลือดไหลออกมาแต่เจ็บใช่ย่อย ฟันคุณหนูที่แข็งและแหลมคม ต่อให้เนื้อตัวเขาแข็งแรงแค่ไหนก็ต้องเจ็บอยู่ดี
“นายไม่เคยเรียกชื่อเรา” ร่างบางหยุดการกระทำมองหน้าเขาด้วยแววตาขุ่น ตั้งแต่รู้จักเขมราฐก็ไม่เคยเรียกชื่อเธอจริงๆ เขาเรียกคุณหนูตามคนอื่นเรียก
“หึ” ชายหนุ่มหลุดหัวเราะ
“นายหัวเราะอะไร” คราวนี้เธอหน้าบึ้ง ทำแก้มพองเหมือนเด็กไม่มีผิด
“คุณหนูอายุเท่าไหร่แล้วครับ” เขาจับอีกฝ่ายให้นอนลงเคียงข้างแม้ส่วนล่างยังประสานกันอยู่
“23” คุณหนูตอบเสียงห้วน
“อิจฉาเป็นเด็กไปได้” เขมราฐจูบแก้มใสเบาๆ เขาจับขาเรียวขึ้นและเป็นฝ่ายปรนเปรอให้คุณหนูเอง
“อืออ่า เราไม่อ่า...ไม่ใช่เด็ก” เธอแย้ง
“ครับ คุณหนู ไม่เด็กแล้วโตแล้ว แถมโตมากด้วย” สายตาจับจ้องไปที่หน้าอกคู่โตนั้น เขมราฐบีบนวดมันเพื่อยืนยันว่ามันใหญ่โตมากจริงๆ จนล้นจากฝ่ามือเขา แก้มใสแดงระเรื่อและหลบสายตาเขมราฐไม่ได้คิดไปเองว่าคุณหนูกำลังอาย ก๋ากั่นขนาดนี้พอมีมุมเขินอายก็ดูน่ารักดีเขาจึงต้องตอบแทนเธอสักหน่อยแล้ว
เขมราฐจับร่างคุณหนูให้ยืนขึ้นโดยมีเขาตามประกบอยู่ด้านหลังจับ เขาพาคุณหนูมาเดินมาหาโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ ที่มีกระจกขนาดพอเหมาะ สองมือของคุณหนูจับขอบโต๊ะอย่างรู้งานพรางก้มตัวลงให้ก้นงามลอยเด่นขึ้น เขมราฐเลียริมฝีปาก ผู้หญิงคนไหนก็ไม่เด็ดเท่าคุณหนูคนนี้อีกแล้ว เขาจับแกนกายใหญ่สอดเข้าร่องหรรษาจากทางด้านหลัง เสียบพรวดไปทีเดียวจนมิดใบหน้าหน้าเหยเกพร้อมกับซูดปากเบาๆ
เขาก้มลงไปจูบแผ่นหลังขาวเนียนส่วนพร้อมขยับสะโพกไปด้วย ฝ่ามือหยาบลูบไปตามจับเอวเล็กคอดนั้นไวก่อนจะโหมความรุนแรงใส่ร่างของเธอดังเปลวเพลิงที่โดนสาดด้วยน้ำมัน ไฟสวาทลุกไหม้เร่าร้อนจนสองร่างมันแผล็บไปด้วยหยาดเหงื่อ
“อ๊า…เสียวจัง” คุณหนูโน้มคอเขาไปจูบ คราวนี้เธอไม่ได้กัดแต่เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความเสน่ห์หา เลียชิมริมฝีปากหยักโดยที่เจ้าของให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
“อ๊ะ” เขมราฐจับสองขาของคุณหนูให้ขึ้นเหยียบบนพื้นโต๊ะ ส่วนสัดระหว่างเขาและคุณหนูไม่ถือว่าเป็นอุปสรรค กระจกเงาสะท้อนทุกสัดส่วนของคุณหนูในเวลานี้ ร่องสวาทของเธอรับเอาสิ่งใหญ่โตเข้าไปในร่างรอบข้างเต้นตุบๆ เหมือนกำลังบีบ
“สวย” เขมราฐชม ภาพนี้ไร้ซึ่งที่ติ ในยามที่เขาเสยแท่งร้อนขึ้นไปร่างขอบคุณหนูจะกระตุกน้อยๆ ชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจและทำอย่างนั้นอยู่สองสามทีก่อนจะเร่งจังหวะให้คุณหนูได้สุขสม
“อ๊า ...อ๊าจุก อ่าเสียว” คุณหนูกรีดร้องร่องเธอแน่นทั้งเสียวทั้งจุกจนไม่รู้จะพ้นอะไรออกมานอกจากเสียงครางหวานๆ ที่ดังถี่ขึ้น
น้ำหวานมากมายไหลออกมากเคลือบโคนของเขาคุณหนูเสร็จไปตั้งกี่รอบแล้วเขมราฐไม่ได้นับ รู้แค่ว่าเวลาเธอกระตุกท้องน้อยและส่วนนั้นตอดถี่ยิบนับครั้งไม่ถ้วน เขมราฐสอดมือเข้าใต้ข้อพับของขาทั้งสองข้างและยกร่างคุณหนูขึ้นทั้งที่ส่วนนั้นก็ไม่ยังไม่ยากจากกัน เขาวางคุณหนูลงบนเตียงร่างเล็กนอนเพียบกับเตียงเล็กโดยไร้เรี่ยวแรง
“ไหวไหม หืม…” เขาลูบผมยาวที่เปียกชุ่มปกปิดใบหน้าสวยออกให้ คุณหนูหอบหายใจเหนื่อยเหมือนคนใช้กำลังมาหลายชั่วโมงทั้งที่เธอแค่นั่งอยู่เฉยๆ ปล่อยคนวสวนหนุ่มงัดเสยไปทั่วทิศทาง
เขมราฐแสยะยิ้มที่สามารถปราบเจ้าหล่อนให้ศิโรราบได้ เขาจับสะโพกมนให้ลอยเด่นขึ้นมาแล้วจับแท่งร้อนที่กำลังร้อนผ่าวสอดประสานเข้าไป
“อืม...” เขมราฐคำรามในลำคอ ส่วนคุณหนูร้องอู้อี้เพราะใบหน้าปิดกับหมอนไว้ ชายหนุ่มกระแทกกระทุ้งร่างคุณหนูด้วยความแรงและเร็วจนคนใต้ร่างหัวสั่นหัวคลอนไปหมด เขมราฐกัดฟัดกรอดฉีดน้ำอุ่นสีขาวขุ่นใส่ร่างนั้น เขาแช่มันไว้และถอดออกมาเมื่อเหล่าลูกๆ ของเขาเข้าไปในตัวคุณหนูทุกหยาดหยอดแล้วล้มตัวทับร่างเล็กโดยที่มือยังดันพื้นเอาไว้เพื่อไม้ให้เธอรู้สึกหนักเกินไป
“เรียกชื่อเรา” เสียงแหบเล็กของคนที่นอนหอบหายใจหนักดังขึ้น
“หืม” เขมราฐล้มตัวลงไปนอนข้างๆ คนตัวเล็กและเกลี่ยปอยผมออกให้
“นายยังไม่เรียกชื่อเรา” เธอพูดซ้ำอีกครั้งทั้งที่หน้ายังมุดอยู่กับหมอนของเขา เขมราฐส่ายหน้าเบาๆ กับคนเอาแต่ใจ เขาซุกหน้าลงไปใกล้ใบหูขาวๆ นั้นแล้วกระซิบเบาๆ
“อินครับ” น้ำเสียงแหบทุ้ม ที่คนฟังต้องหันหน้าหนีไปอีกทาง เขมราฐสังเกตเห็นว่าใบหูขาวนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดง ส่วนคนที่เรียกร้องให้เขาเรียกชื่อกลับไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
เขมราฐปล่อยให้คุณหนูนอนพักเขามองใบหน้าสวยที่หลับตาพริ้มลมหายใจเข้าออกด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม เมื่อสิบห้าปีก่อนเด็กสาวคนเป็นแค่เด็กไม่น่าจะมีส่วนรู้เห็นกับการตายของคุณอินทัชและคุณอิงอร เด็กอายุแปดขวบจะรู้สึกยังไงที่เสียทั้งพ่อและแม่ไปและยังถูกปล่อยให้อยู่คุณเดียวในคฤหาสน์จนทำตัวแปลกๆ
คิดมาถึงตรงนี้เขมราฐรู้ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายคนแรกของคุณหนู ทำไมเขาต้องรู้สึกโมโหทุกครั้งที่คิดเรื่องนี้ คุณหนูอยู่แต่ในคฤหาสน์แล้วจะไปมีอะไรกับใครได้แถมยังดูชอบการมีเซ็กส์เอามากๆ ด้วย รวมทั้งกลิ่นแปลกๆ ที่คุณชอบบอกว่าชอบในตัวเขา นายตำรวจหนุ่มถอนหายใจหนักคดีเก่ายังไม่แก้ไขได้แล้วยังมีปริศนาใหม่ๆ ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดอีก เขาเลิกคิดแล้วเปิดแอร์ในอุณหภูมิที่พอเหมาะเมื่อร่างบางเริ่มขยับมากอดเขาไว้เขมราฐจัดแจงร่างบางให้นอนตะแคงโดยมีเขาซ้อนด้านหลังเพราะเตียงมันแคบชายหนุ่มถึงต้องกอดร่างเด็กสาวไว้กันไม่ให้เธอตก
เขมราฐเตรียมออกไปรดน้ำต้นไม้ตอนเช้าตามปกติ เมื่อคืนเขาปล่อยให้คุณหนูนอนพักและปลุกเธอให้กลับขึ้นไปในคฤหาสน์ตอนฟ้าใกล้สาง คุณหนูงอแงนิดหน่อยแต่พอเขาบอกว่าคืนนี้จะขึ้นไปหาเธอจึงยอมแต่โดยดี บทจะพูดง่ายก็ง่ายหรอก แต่บทจะเอาแต่ใจก็น่าตีใช่ย่อย
“น้องเข้มจ๊ะ น้องเข้ม”
เขมราฐกำลังเดินอ่อนจากห้องก็เจอกับอ่อน ที่ดูมีท่าทางรีบร้อนมาหาเขาแต่เช้า
“ครับพี่อ่อน มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับมาหาผมแต่เช้า”
“เกิดเรื่องแล้วจ้ะ ท่านเจ้าสัวมาอย่าพึ่งถามอะไรเลยนะ ตามพี่มาก่อน” อ่อนยังไม่ได้บอกรายละเอียดแต่ดึงมือหยาบให้รีบเดินตามเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่
ห้องรับแรกที่ไม่ได้ใช้นานมากแล้วบัดนี้ถูกเปิดต้อนรับเจ้าของเป็นชายแก่ผิวขาวใบหน้ามีริ้วรอยตามวัยรูปร่างไม่อ้อนไม่ผอม นั่งวางอำนาจอยู่บนโซฟาข้างๆ มีชายใส่สูทสีเรียบยืนกำกับอยู่ เขมราฐนั่งลงบนพื้นตามพี่อ่อนซึ่งมีป้าบุญแตงและน้องบัวนั่งก้มหน้าอยู่ก่อนแล้ว
“คนนี้รึ” ท่านเจ้าสัวถาม พรางมองสำรวจชายสำรวจอย่างถี่ถ้วน
“ค่ะ ท่านคนนี้ชื่อพ่อเข้ม มาทำได้งานเกือบเดือนแล้วค่ะ” ป้าบุญตอบ
“ใครเป็นคนรับเข้ามาจำไม่ได้หรือไงว่าฉันสั่งห้ามว่ายังไง ทำไมถึงมีคนงานผู้ชายมาทำงานได้หา!” ท่านเจ้าสัวดูโกรธมาก เขมราฐไม่เข้าใจทำไมถึงเป็นผู้ชายไม่ได้ในเมื่องานบ้านงานสวนล้วนแต่ต้องใช้แรงงานทั้งนั้นจะให้ผู้หญิงทำได้ยังไงกัน
“เอ่อ คือคุณศินรับมาค่ะ แต่พ่อเข้มก็ทำงานขยันขันแข็งดีนะคะท่าน” ป้าบุญออกตัวแทน
“ทินกร เรียกวัฒนศินเข้ามาทำไมถึงขัดคำสั่งฉัน” ท่านเจ้าสัวไม่ได้สนใจแม่บ้านคนเก่าเลยด้วยซ้ำ เขาหันไปบอกคนติดตามที่ยืนนิ่งอยู่
“ที่จริงคุณศินบอกมาแล้วครับ แต่ตอนนั้นท่านติดประชุมด่วนผมเลยอนุญาตแทนเพราะไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ ขอโทษด้วยครับท่าน” ทินกรตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง หาเกรงกลัวต่อท่านเจ้าสัวไม่ ประมุขของบ้านถอนหายใจเฮือกใหญ่ และมองมาที่เขาพร้อมกับถามออกมา
“จะเอาเท่าไหร่”
“ครับ?”
“ฉันไล่นายออก จะเอาค่าชดใช้เท่าไหร่”
เขมราฐเข้าใจประโยคนั้นอย่างแจ่มแจ้ง ไม่คิดมาก่อนว่าจะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เขาจะไปจากคฤหาสน์นี้ไมได้โดยเด็ดขาดถ้ายังปิดคดีไม่ได้และยังมีคุณหนูที่เมื่อคืนยังอยู่ในอ้อมแขนของเขาอยู่ ชายคนสวนคิดหนัก จะหาเหตุผลอะไรที่จะสามารถอยู่ที่นี่ต่อได้
“ในเมื่อไม่ตอบงั้น ฉันให้หนึ่งล้านบาทแล้วเก็บกระเป๋าเอาไปจากที่นี่ซะ” อ่อนและแตงตาโตกับจำนวนเงินจนต้องแอบมองหน้ากัน ส่วนเขมราฐไม่ยินดียินร้ายกับจำนวนมากมายนั้น ป้าบุญและบัวมองเขาด้วยสายตาเป็นห่วง
“คือผมไม่ได้ต้องการเงินครับ ผมแค่อยากทำงานที่นี้” เขมราฐตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เขาจะไม่ไปจากที่นี่เด็ดขาดถ้ายังไม่สามารถปิดคดีลงได้
“นี่แก!” ท่านเจ้าสัวลุกขึ้นชี้หน้าเขาอย่างเหลืออด คิดว่าเขมราฐนั้นโลภมากอยากจะขอค่าชดเชยอีกเงินตั้งหนึ่งล้านต่อให้ทำงานเป็นสิบปีก็ไม่มีทางหามาได้
“ผมยืนยันคำเดิมครับผมไม่ได้อยากได้เงินของท่าน แต่ผมอยากมีงานทำ”
“หึ ไม่อยากได้เงินแล้วจะมาทำงานทำไม เหตุผลย้อนแย้งอยากได้มากกว่านี้ก็บอกจำนวนมากจะได้จบแล้วรีบออกไปจากที่นี่ซะ”
“ไม่ได้ค่ะ เขาจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”
ระหว่างที่ถกเถียงกันอยู่ก็มีเสียงหวานแทรกเข้ามาทุกคนหันมองไปยังต้นเสียง เจอร่างบอบบางที่อยู่ในชุดคลุมสีขาวยืนเด่นอยู่
“คุณหนู”
“อินทิรา”
ป้าบุญและท่านเจ้าสัวอุทานชื่อของหญิงสาวออกมาร่างสวยระหงค่อยๆ เดินเข้ามาหาทุกคนช้าๆ เขมราฐสังเกตเห็นว่าทุกคนดูตกใจกับการปรากฏกายของคุณหนู
“หรือว่า” ท่านเจ้าสัวมองหลานตัวที่เดินมานั่งบนโซฟาอีกตัวและหันมามองหน้าคนสวน ดวงตาชายแก่ดูหม่นหมองไปครู่หนึ่ง และเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวเมื่อมองเขา
“ไม่ได้บ้านเรามีกฎ” ท่านเจ้าสัวยังไม่ยอม ยืนยันว่าจะต้องไล่เขมราฐออก
“ใช่ค่ะบ้านเรามีกฎและอินก็คือกฎของที่นี่” คำตอบของคุณหนูทำเอาท่านเจ้าสัวโกรธจนตัวสั่น สายตาของคุณหนูไม่ได้สนใจคุณปู่เลยสักนิดแต่กลับมองมาที่คนสวนเพียงคนเดียว
เพียงเท่านั้นท่านเจ้าสัวก็เข้าใจสถานการณ์ เรื่องที่ว่าอินทิราหลานสาวเพียงคนเดียวของเขาคือกฎของบ้านนี้มันคือความจริง ทั้งที่เป็นเจ้าของคฤหาสน์แต่เจ้าสัวอินชัยกลับไม่อยู่ที่นี่แต่ไปอยู่ที่ต่างประเทศแทนและทิ้งคุณหนูให้อยู่คนเดียวตั้งแต่สิบห้าปีก่อนหรือผลกรรมในครั้งนั้นกำลังจะย้อนกลับมาเขาแล้วนะ ชายแก่คิด
“อย่างนั้นก็ตามใจ” ท่านเจ้าสัวลุกขึ้น และเดินออกไปตามด้วยผู้ติดตามอย่างทินกร
ป้าบุญโล่งเอามือทาบอกอย่างโล่งใจบัวหันมามองพี่เข้มแล้วยิ้มกว้าง ชายหนุ่มเองก็ยิ้มตอบกลับพรางพยักหน้าว่าขอบใจ ส่วนแตงกับอ่อนจับมือกันดีดดิ้นดีใจเงียบที่อาหารตายังอยู่ให้เชยชม
“คุณหนู” ป้าบุญเรียกคุณหนูด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เอ่อ”
“มีอะไรจ๊ะ ป้าบุญ”
“รู้จักกับพ่อเข้มหรือคะ เอ่อคุณหนูไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ” ป้าบุญไม่กล้าถามออกไปตรงๆ เธอแอบมองหน้าเขมราฐครู่หนึ่งแล้วหันกลับมา
“อืม เราเห็นเขาตั้งใจดูสวนดอกไม้ของเรานะ” คุณหนูยิ้มและมองมาที่เขมราฐ ชายหนุ่มทำหน้านิ่งไม่ยิ้มหรือแสดงสีหน้าใดๆ ออกมา
“อ่อ อย่างนี้นี่เองพ่อเข้มรีบขอบคุณ คุณหนูเสียซิ”
“ขอบคุณครับ” เขมราฐทำตามอย่างว่าง่าย
ป้าบุญก็สั่งให้แยกย้ายกันไปทำงานเหมือนเดิม ส่วนคุณหนูก็กลับขึ้นไปด้านบนเช่นเดิม