สารวัตรหนุ่มเปิดประตูห้อง ซึ่งเป็นคอนโดของเขาสถานที่ที่เอาไว้ประชุมสำหรับภารกิจลับ เขาให้กุญแจห้องกับผู้หมวดก้องภพลูกน้องคนสนิทและวัฒนศินเพื่อนสนิทเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เพราะส่วนตัวเขาไม่ค่อยได้เข้ามาพักนี้มากเพราะห้องพักในแฟลตตำรวจใกล้สถานที่ทำงานมากกว่า
ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาผู้หมวดก้องภพที่มาถึงก่อนยืนตัวตรงแขนแนบลำตัวยกมือข้างขวาขึ้นวันทยหัตถ์ทำความเคารพผู้ที่มียศสูงกว่าและยังเป็นหัวหน้าเขาอีกด้วย
“ไอ้ศินละ” เขมราฐถามถึงเพื่อนสนิท
“กำลังมาครับ”
“อืม งั้นเอาเอกสารที่ผมขอมาหรือเปล่า” เขาถามลูกน้องถึงข้อมูลที่ให้ไปหามา คือแฟ้มคดีที่กำลังทำนายตำรวจใหญ่ลากกระดานออกมาใช้ปากกาเขียนชื่อบุคคลที่มีส่วนสำคัญในคดีนี้
เขาลากชื่อเจ้าของคฤหาสน์อย่างเจ้าสัวอินชัยขึ้นเป็นอันดับแรก รองลงมาเป็นนายอินทัชซึ่งเป็นลูกชาย นางอิงอรลูกสะใภ้ และชื่อคุณหนูอินทิราที่เป็นหลานสาว ชื่อบุญยังแม่ครัว ตาทองที่เป็นคนสวนคนเก่าและนายทัตเทพที่เป็นคนขับรถในขณะนั้น เขมราฐโยกเส้นเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลไว้เตรียมพร้อม เขาหยิบรูปที่เจอในสมุดเล่มเก่าขึ้นมาแนบ คนในรูปน่าจะเป็นอินทัชส่วนหญิงสาวเป็นอิงอรและเด็กที่อยู่ตรงกลางคือคุณหนูอินทิรา
“ชื่อคนที่เสียชีวิต”
“คุณอินทัชและคุณอิงอรครับ” ก้องภพที่เปิดแฟ้มคดีบอกรายงาน นายตำรวจหนุ่มใช้ปากกาสีแดงขีดกากบาทชื่อของทั้งสองคนออก
“แล้วนายทัตเทพ”
“ลาออกไปนานแล้วครับจากนั้นก็ไม่รับคนขับรถอีก”
เขมราฐวงชื่อตามข้อมูลที่ได้มา ตามข้อมูลที่เคยได้ยินมาว่าคุณอินทัชมีภรรยาหลายคนจนเป็นข่าวเรื่องเมียหลวงเมียน้อยอยู่ช่วงหนึ่ง แล้วทำไมถึงมีแค่อินทิราที่เป็นลูกสาวคนรวยระดับนั้นจะมีลูกแค่คนเดียวเป็นไปได้หรือ
สมองที่กำลังครุ่นคิดหยุดลงเมื่อมีเสียงเคาะประตูและเสียงกุญแจไขประตูเข้ามา เขมราฐหันไปมองทนายหนุ่มที่เป็นเพื่อนรักที่เปิดประตูเข้ามา วัฒนศินเป็นคนรูปร่างสูงโปร่งผิวขาวเหมือนลูกคนจีนตาตี่และสมแว่นหนาเหมาะกับบุคลิกทนายหนุ่มผู้สืบทอดเป็นทนายประจำตระกูลใหญ่
“นายมาช้า” เขาว่าเพื่อนไม่จริงจังนัก
วัฒนายักไหล่เหมือนไม่สนใจใครบอกให้นัดเขามากะทันหัน ทั้งที่เขาเองก็ติดว่าความให้ลูกค้าคนสำคัญเช่นเดียวกัน
“สวัสดีครับคุณศิน” ก้องภพทักทายตามที่จริงเขาอายุไล่เลี่ยกับทั้งสองหนุ่มแต่ด้วยตำแหน่งที่ต่ำกว่าเขมราฐเขาจึงเคารพอีกฝ่ายเหมือนหัวหน้า ส่วนวัฒนศินเขาจึงทักทายเหมือนคนในวัยเดียวกัน
“สวัสดีครับผู้หมวด”
“แล้วไหนข้อมูลที่หามาได้” เขมราฐทวง มาสายแล้วยังโอ้เอ้ ทำเป็นเมินเขาอีกให้ตายซิให้เพื่อนคนนี้มันกวนประสาทตั้งตาประถมจนโตหมาเลียตูดไม่ถึง น่าชกสักหมัดสองหมัดเหมือนตอนประถมซะจริง
“ใจร้อน” ทนายนุ่มว่า แล้วเดินไปดูกระดานที่เขมราฐเขียนเอาไว้ทีแรก คราวนี้เขาหยิบปากกาขึ้นมาขีดเส้นต่อจากนายอินทัชลงมา เขียนชื่อ มาสินี ลงไปและให้ความสำคัญว่า ‘เมียน้อย’ และยังลากเส้นต่อจากชื่อของภาสินีไปลงไปเขียนชื่อ ภาวิดา โดยมีความสัมพันธ์คือ ‘ลูก’
“ว่าแล้วเชียว” เขมราฐมองตามที่เพื่อนรักเขียน คนรวยอย่างอินทัชมีหรือที่จะไม่มีเล็กมีน้อย
วัฒนศินยกยิ้ม แล้วเขียนต่อไปอีกลากจากบุญยังมาเขียนชื่อใบบัว แต่ว่างความสัมพันธ์เอาไว้ เขมราฐขมวดคิ้วป้าบุญเคยแนะนำบัวว่าเป็นหลานแต่ทำไมเพื่อนเขาไม่ใส่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนลงไป
“ป้าบุญไม่มีญาติที่ไหน เมื่อสองปีก่อนอยู่ๆ ก็รับเด็กบัวมาแล้วบอกว่าเป็นหลาน” วัฒนศินบอกข้อมูลที่เขาสืบมาอย่างลับๆ ที่จริงเขาเริ่มสืบเรื่องคนในคฤหาสน์ตั้งแต่พ่อช่วยไหว้วานให้ดูแลต่อ วัฒนศินรู้สึกว่าคฤหาสน์หลังนี้มีเรื่องแปลกประหลาดเกินไปเขาจึงตามสืบและเก็บข้อมูลไว้เงียบๆ
“เด็กบัวนั้นไม่ได้ใสซื่ออย่างที่นายคิด ระวังตัวเอาไว้ด้วยละ”
“บัวเป็นแค่เด็ก” เขมราฐท้วง น้องบัวที่เขารู้จักเป็นเด็กอ่อนหวานเรียบร้อยทั้งยังตั้งใจเรียนดูเป็นเด็กดีมากกว่าที่เพื่อนเขาบอกมา
“หึ เมื่อก่อนฉันก็คิดแบบนายแต่เชื่อเถอะอยู่ให้ห่างจากเด็กคนนี้” ทนายหนุ่มเตือนซ้ำ
“แล้วแตงกับอ่อนละ”
“นี่ครับสารวัตร” คราวนี้เป็นก้องภพที่ยื่นประวัติของทั้งสองคนให้ดู เขมราฐอ่านโดนรวมแล้วทั้งสองคนพึ่งมาทำงานได้ไม่นานนัก บ้านเกิดอยู่จังหวัดเล็กๆ ทางภาคอีสานการศึกษาแค่ชั้นประถม นอกนั้นไม่มีอะไรน่าสงสัย
“สองคนนี้เป็นคนรู้จักของป้าบุญ เพราะคนงานคนเก่าหายกันไปหมด” วัฒนศินเสริม
“หายไปไหน” เขมราฐสงสัย
“ไม่รู้ หายสาบสูญไม่มีใครเจออีกเลย”
***********************
“พี่เข้ม” บัวยิ้มกว้างเมื่อเขมราฐเอารถไปจอดแล้วเปิดประตูลงมาสองมือมีถึงขนมติดมือมาหลายถุง เขมราฐมองเด็กสาวที่ยิ้มกว้างอย่างสดใสดูไม่มีพิษมีภัยอะไรซ้ำอายุก็แค่สิบแปดจะร้ายได้ขนาดไหนกัน
“มาจ๊ะบัวช่วย” เด็กสาวอาสา เขมราฐก็ยกให้น้องเพราะไม่หนักนัก บัวเดินนำเขาเข้าไปในครัวที่มีป้าบุญนั่งเช็ดถ้วยชามอยู่
“กลับมาแล้วหรือพ่อเข้ม”
“ครับป้า ขอโทษด้วยครับผมเลยเวลาที่ขอไปตั้งสองชั่วโมง”
“ไม่เป็นไรๆ มาเหนื่อยๆ ไอ้บัวไปเอาน้ำเย็นๆ มาให้พี่เข้มเขาไป” เธอบอกหลานสาว
“จ๊ะป้า”
“ผมซื้อขนมมาฝากด้วยครับ เห็นมันน่ากินลองชิมแล้วอร่อยมากด้วย” เขมราฐยกถุงขนมให้แก
“ไม่เห็นต้องลำบากเลย แต่ขอบใจนะแล้วนี่กินข้าวกินปลามาหรือยังเมื่อกลางวันป้าทำแกงสายบัวอยู่ในตู้กับข้าวนะ ถ้าหิวก็ไปอุ่นกินนะ”
“ครับป้าขอบคุณครับ”
“พี่เข้มจ๊ะ น้ำจ้ะ” เขมราฐรับแก้วน้ำเย็นที่เติมจนเต็มแก้วมาดื่ม สายตามองสองป้าหลานด้วยความสงสัย ข้อมูลของเพื่อนรักมันผิดเพี้ยนไปหรือเปล่า ทั้งบัวและป้าบุญออกจะใสดีขนาดนี้ ไม่ได้นะเขมราฐ พึ่งมาอยู่ไม่กี่วันอย่างพึ่งเชื่อกับสิ่งที่ตาเห็น เขมราฐบอกตัวเองมองบัวที่กำลังเคี้ยวขนมที่เขาซื้อมาฝากจนแก้มตุ่ย
เขมราฐมองขึ้นไปชั้นสูงสุดของคฤหาสน์ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มครึ่งแล้วหน้าต่างบานนั้นห้องคุณหนูถูกเปิดออกด้วยมือขาวเขมราฐเบี่ยงตัวหลบเข้าไปในห้องวันนี้เขาตัดสินใจจะไม่ขึ้นไปบนคฤหาสน์ เขมราฐต้องระวังตัวมากกว่านี้คนในบ้านนี้น่าสงสัยกันหมดโดนเฉพาะเด็กสาวที่เอาแต่อยู่ในคฤหาสน์ และเขาเองก็รู้สึกเหนื่อยๆ และปวดหัวคิดหาทางออกของเรื่องคดี คนที่เกี่ยวข้องกับคดีไม่ตายก็สูญหายแล้วอย่างนี้เขาจะไปหาข้อมูลมาปิดคดีนี้ได้ยังไง สารวัตรหนุ่มถอนหายใจปิดประตูห้องกดล๊อคเพื่อความปลอดภัย พรุ่งนี้เขาจะเริ่มต้นสืบสวนใหม่ว่าในคฤหาสน์หลังนี้มีใครเกี่ยวข้องอีกบ้าง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูที่พึ่งปิดไปดังขึ้นเขมราฐมองผ่านหน้าต่างๆ แคบๆ เห็นบัวกำลังยืนมองหน้าประตูห้องของเขา บัวมาหาเขาทำไมดึกๆ ดื่นๆ เขมราฐเริ่มคิดไปถึงคำเตือนของเพื่อนเขาหยิบอาวุธสีดำที่ซุกไว้ใต้หมอนออกมากซ่อนไว้ด้านหลัง
“ใครครับ” แกล้งถามออกไป
“บัวเองจ๊ะพี่เข้ม บัวเอายามาให้เมื่อตอนเย็นป้าบุญบอกพี่เข้มเหมือนจะไม่สบายจ๊ะ” คำตอบของบัวทำให้เขมราฐยอมเปิดประตูเขาเดินออกมานอกห้องและปิดประตูกลับเข้าไป ไม่ได้ให้เด็กสาวเข้ามาในห้อง
“ทำไมเอามาให้ดึกจังละบัว” เขาถามแต่ก็แบบมือรับกล่องยาลดไข้มาไว้ในมือ
“ก็ป้าบุญซิจ๊ะ แกติดละครแล้วพึ่งนึกออกพอนึกออกก็ดันท้องเสียไปซะงั้นเลยวานให้บัวเอามาให้จ๊ะ” เด็กสาวบอกด้วยยิ้ม
“อ๋อ ขอบใจมากนัก”
“ไม่เป็นไรจ้ะ พี่เข้มก็อย่าลืมทานยานะถ้าพรุ่งนี้ไม่ดีขึ้นก็ไปหาหมอนะจ๊ะ” บัวแนะนำ
“ครับ แล้วนี่ทำไมยังไม่นอนละพรุ่งนี้ก็ไปโรงเรียนแล้ว”
“จ๊ะ บัวจะกลับไปนอนแล้วพี่เข้มเองก็กินยาแล้วก็นอนพักนะจ๊ะบัวไม่กวนแล้ว” เด็กสาวโบกมือลาแล้วเดินจากไป
เขมราฐกำขวดยามองตามแผ่นหลังบัวไปจนมิด เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าบัวจะร้ายอย่างที่วัฒนศินว่าดูยังไงก็เป็นเด็ดนิสัยดีน่ารักคนหนึ่ง เขมราฐเลิกคิดแล้วหมุนตัวกลับเข้าห้องของตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่ามีดวงตาคู่หนึ่งมองดูทั้งคู่ดวงสายตาแววโรจน์
“อืม...” เขมราฐกำลังรู้สึกดี วันนี้เขาฝันประหลาดเนื้อตัวร้อนวูบ เสียวกระสันไปหมดรู้สึกถึงความร้อนอ่อนนุ่มที่กำลังครอบครองตัวเขาให้ตกลุ่มเสน่ห์หาแสนรัญจวน สิ่งอุ่นนุ่มกำลังไล่เลียแท่งร้อนของเขา มันลากไปซ้ายขวา ลงล่างขนบนเป็นจังหวะ ใบหน้าที่นอนสนิทยกยิ้มในหัวเขากำลังคิดเขมราฐเคยรู้ถึงอาการแบบนี้ที่ผู้ชายส่วนมากเรียกว่าฝันเปียก
เจ้าสิ่งเปียกชื้นไล่เลียลงไปถึงลูกบอลน่ารักสองลูกเขมราฐกัดฟันเขาไม่เคยจินตนาการแบบนี้มากก่อน มันเป็นฝันที่ให้ความรู้สึกเหมือนความจริงมากชายหนุ่มเสียวจนต้องซูดปากออกมาเบาๆ เมื่อเจ้าลิ้นร้อนนั้นอมลูกบอลของเขาสลับไปมาทีละลูก
เขมราฐกำลังจะถึงสวรรค์ที่ถวิลหา เขาเผลอใช้มือกดเจ้าสิ่งร้อนรุ่มให้แนบชิดกับอาวุธประจำของเขา ทันใดนั้นเองเขมราฐลืมตาตื่นเต้นที่ เมื่อมือเขาสัมผัสถึงเส้นผมของจริงหัวใจนายตำรวจหนุ่มเต้นแรงจนได้ยินเสียง เขาสะดุ้งตัวลุกขึ้นพร้อมกับเปิดไฟบนหัวเตียงทันที
“คุณหนู” เขมราฐขยี้ตาอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าผู้หญิงที่แทบจะเปลือยกายอยู่ตรงหน้าเขาคือคุณหนู เขมราฐมองไปรอบๆ ห้อง ก็เป็นห้องนอนของเขา จำได้ว่าเขาปิดประตูล๊อคห้องสนิทก่อนจะกินยาแล้วล้มตัวลงนอนเพราะรู้สึกเพลีย แล้วทำไมคุณหนูถึงมาอยู่ตรงหน้าของเขาได้
“เข้ามาได้ยังไงครับ” เขาถามคนที่นั่งทำตาแป๋ว เหมือนไม่ร้อนใจเลยสักนิดทั้งที่เขาเกือบจะหยิบปืนใต้หมอนขึ้นมายิงตามสัญชาตญาณ
“เราเหงา” เธอทำท่าจะคลานเข้ามา เขมราฐยิ่งต้องถอยตัวหนีจนติดหัวเตียง
“ตอบไม่ตรงคำถามตอบผมมาครับ ว่าเข้ามาได้ยังไง” เธอมองไปที่ประตูเป็นคนตอบ
“มีกุญแจเหรอ”
“เราเหงา” เธอไม่ตอบแต่ซุกหน้าลงกับอกของเขา เขมราฐถอนหายใจถ้าคุณหนูเข้ามาได้แสดงว่าห้องของเขาไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
“คุยกันก่อนครับ”
เขาจับร่างเล็กผลักออกมา