“เอ่อ... บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ อยู่กันแค่นี้เองหรือครับ?”
เขมราฐอดถามไม่ได้ บ้านหลังใหญ่โตขนาดนี้ บรรจุคนสักร้อยยังน้อยไป แต่กลับมีสาวใช้แค่สี่คน ทั้งยังเป็นแค่ผู้หญิง เด็ก และคนแก่ ที่สำคัญคือไม่มีผู้ชายแม้แต่คนเดียว อย่างน้อยก็ควรมีคนขับรถสักคน รวยขนาดนี้ ไม่น่าขี้งกขนาดไม่จ้างคนขับรถเลย
“คุณท่านสั่งไว้ว่า ห้ามมีผู้ชายเด็ดขาด เว้นแต่ตาทองคนสวนที่เพิ่งลาออกไป เพราะแกแก่เกินจะทำงานไหว... นี่ถ้าไม่ใช่เพราะคุณวัตรแนะนำมาก็คงไม่รับหรอก ถือว่าเราโชคดีมากนะ”
“อย่างนี้ไม่เหนื่อยกันแย่เหรอครับ”
ชายหนุ่มถามพลางตักข้าวเข้าปาก
“ก็ทั้งบ้านมีคุณหนูอยู่คนเดียว จะเหนื่อยอะไรล่ะจ๊ะ”
“นังแตง! ไม่ต้องพูดมาก นั่งกินไปเงียบๆ หรืออยากลองดีอีกสักที?”
ป้าบุญคาดโทษเสียงเขียว แตงยกมือยอมแพ้รีบตักข้าวเข้าปาก เคี้ยวตุ้ยๆ อย่างว่าง่าย
“บ้านหลังนี้จะว่าแปลกก็แปลก แต่เจ้านายไม่ชอบคนพูดมาก แค่ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีก็พอ และที่สำคัญ อย่าลืมข้อห้ามเด็ดขาด เอาล่ะ รีบกินเถอะ ใกล้หกโมงแล้ว ต้องรีบปิดครัว”
เขมราฐเก็บข้อมูลเงียบๆ ไม่กล้าถามมาก กลัวคนในบ้านจะเริ่มสงสัย พออิ่มแล้ว เขาก็อาสาช่วยเก็บจานไปล้าง ถือเป็นการขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้
ก่อนกลับถึงห้อง เขมราฐสังเกตเห็นห้องพักอีกหลังที่อยู่ไม่ไกลจากครัวนัก ประตูถูกปิดตายด้วยไม้และตะปูตอกกากบาท รอบบริเวณรกชัดเจนเหมือนบ้านร้าง ต่างจากห้องพักคนใช้อื่นๆ ในละแวกนี้
เขาเพิ่งสังเกตว่าห้องพักของตัวเองอยู่ไกลกว่าคนอื่นพอสมควร แต่กลับใกล้ตัวคฤหาสน์มาก... หรือจะเป็นฝีมือของวัฒนศิน ที่รับปากจะช่วยเขา?
ชายหนุ่มตัดสินใจอาบน้ำ แล้วนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ ไม่ส่งเสียงตามที่ป้าบุญแนะนำ ด้านนอกเงียบสงัดจนน่าขนลุก ได้ยินเสียงแมลงกับสัตว์กลางคืนร้องระงม ไม่น่าเชื่อว่ากลางเมืองกรุงจะมีบรรยากาศแบบนี้ คงเพราะบ้านอยู่ในซอยลึก รอบข้างไร้บ้านคนหรือรถรา
เพิ่งหัวค่ำแท้ๆ แต่อากาศกลับเย็นเยียบจนพิศวงชอบกล...
“กรี๊ดดดด!!”
เขมราฐสะดุ้งสุดตัว มือคว้ากระบอกปืนสีดำมะเมื่อมที่ซุกใต้หมอนขึ้นมาตามสัญชาตญาณ มือหนาบิดลูกบิดประตูช้าๆ อีกมือยกปืนแนบลำตัว ตาคมกวาดมองไปรอบบริเวณ
เสียงเมื่อครู่ชัดมาก ไม่ใช่เสียงหลอนแน่นอน
ด้านนอกยังคงเงียบราวกับไม่มีใครได้ยิน
เขมราฐค่อยๆ เดินสำรวจ จนมาถึงด้านหลังคฤหาสน์ บ้านทั้งหลังมืดสนิท มีเพียงแสงไฟจากห้องด้านบนเล็ดลอดผ่านกระจกออกมา
คงเป็นห้องของคุณหนู...
คฤหาสน์ใหญ่โตแต่มีแค่คุณหนูอยู่คนเดียว มันน่าสงสัยเกินไป
เขากระชับปืนแน่นขึ้นอีก เมื่อเห็นฝ่ามือเล็กๆ แนบกระจกด้านใน...
“อือ... อ๊า...”
กึก! เสียงนั้นชัดเจนขึ้น เมื่อเขมราฐย่างเท้าใกล้เข้าไป
เสียงกรีดร้องกับเสียงครางเมื่อครู่... มันเป็นเสียงเดียวกัน
เสียงหวานแหบพร่า ราวกับคนใกล้ขาดใจ
“กรี๊ดดดดด!! กรี๊ดดดดด!! อ๊ากกกก!!”
ตาคมเบิกกว้าง เสียงแหลมเล็กกรีดร้องเหมือนถูกทรมานอย่างหนัก
หรือว่านี่จะเป็นการค้ามนุษย์? เหมือนคดีข่าวดังพวกคนรวยโรคจิตที่กักขังทรมานเหยื่อ!
เขมราฐกำปืนแน่น ใจหนึ่งอยากพังประตูเข้าไปช่วย แต่ในหัวกลับสะท้อนคำเตือนของวัฒนศิน...
'ห้ามขึ้นไปบนคฤหาสน์เด็ดขาด ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไร'
เขาเก็บปืนลงด้วยความลังเล ตัดสินใจเดินกลับเข้าห้อง ไม่อยากทำอะไรผลีผลามที่อาจทำให้เสียงานใหญ่
ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าโทรออกไปยังเบอร์ฉุกเฉิน
“หาข้อมูลของคุณหนูตระกูลวรเกียรติ์สกุลมาให้เร็วที่สุด ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ หามาให้หมด”
น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่หนักแน่น ดวงตาวาววับบ่งบอกถึงความเด็ดขาด ต่างจาก “เข้ม” คนสวนอย่างสิ้นเชิง
“ได้ครับ สารวัตร!”
ปลายสายตอบอย่างกระตือรือร้น
เขมราฐเก็บมือถือเข้าที่เดิม แล้วมองลอดหน้าต่างไปยังห้องด้านบนที่ยังเปิดไฟ
‘รอก่อนนะ ฉันจะช่วยเธอให้ได้’
เขาให้คำสัญญาเงียบๆ ก่อนล้มตัวนอนเมื่อเสียงนั้นหายไป
เช้าตรู่
เขมราฐตื่นเช้า เริ่มงานคนสวนอย่างที่ได้รับมอบหมาย งานกลางแจ้งต้องรีบทำก่อนแดดจ้า รดน้ำต้นไม้ช้าไปมีหวังต้นตายหมด
เขาแอบสังเกตคนในบ้าน
ป้าบุญยืนทำกับข้าวอยู่ในครัว มีอ่อนเป็นลูกมือ
แตงกำลังแยกผ้าสีและผ้าขาวเพื่อเตรียมซัก
น้องบัวอยู่ในชุดนักเรียนมัธยมปลาย นั่งอ่านหนังสือรอมื้อเช้า
ทุกคนดูปกติ
ไม่มีใครพูดถึงเสียงกรีดร้องเมื่อคืน... เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เขมราฐมั่นใจว่าเขาไม่ได้หูฝาดแน่นอน เสียงนั้นใครก็ต้องได้ยิน!
“ตื่นเช้าเหมือนกันนะน้องเข้ม”
อ่อนเดินยิ้มเข้ามาทัก คงเพิ่งช่วยป้าบุญทำกับข้าวเสร็จ
“ครับพี่อ่อน เช้าๆ แดดยังไม่แรง ถ้าสายกว่านี้รดน้ำต้นไม้อาจไม่ทัน”
“อ่อ ถ้าเสร็จแล้วมากินข้าวนะ ป้าบุญทำเสร็จพอดี”
“ครับ ขอบคุณครับ... เอ่อ พี่อ่อนครับ เมื่อคืน... ได้ยินเสียงแปลกๆ ไหมครับ?”
อ่อนทำหน้าครุ่นคิด ก่อนตอบ
“อืม... ไม่มีเลยจ้ะ เงียบปกติทุกวัน จะว่าไป... เคยได้ยินป้าบุญแกพูดนะว่า ห้องพักของพวกเราทำเป็นห้องเก็บเสียง เสียงในไม่ออก เสียงนอกไม่เข้า พอปิดประตูแล้วพี่ก็ไม่ได้ยินอะไรเลย แต่เห็นแก่ความหล่อของน้องเข้มนะ พี่จะบอกให้...ได้ยินอะไรก็อย่าไปสนใจ ทำเป็นเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ แล้วจะได้อยู่ด้วยกันนานๆ”
“นังอ่อนโว้ย! กับข้าวเสร็จแล้ว ยกสำรับไปให้หนูเร็ว!!”
เสียงป้าบุญตะโกนแทรกขึ้นมา
“จ๊ะป้า! พี่ไปแล้วนะ อย่าลืมมากินข้าวล่ะ”
อ่อนว่าจบก็รีบวิ่งเข้าครัวไป
เขมราฐเงยหน้ามองคฤหาสน์หลังใหญ่
เขาจะต้องสืบให้รู้ว่า ที่นี่ซ่อนอะไรไว้กันแน่...
ทำไมต้องทำห้องพักเป็นห้องเก็บเสียง?
ทำไมห้องพักของเขาถึงได้ยินเสียง แต่ของคนอื่นไม่ได้?
แล้วห้องปิดตายนั่น... มีอะไรอยู่ข้างใน?