ตอนที่1

1589 Words
“อ๊า...” เสียงครางกระเส่าดังลอดออกมาจากริมฝีปากแดงสด มือเล็กจิกแน่นลงบนผ้าปูที่นอนสีซีดแต่สะอาดสะอ้าน มีกลิ่นหอมฟุ้งของน้ำหอมแบรนด์ดังนำเข้าจากฝรั่งเศส ร่างหนาใหญ่ ผิวสีแทนกร้านแดด โหมแรงกระแทกกระทั้นใส่ร่างขาวเนียน ที่เพียงถูกจับหรือบีบเพียงนิด ก็ปรากฏรอยแดงจาง ๆ บ่งบอกถึงผิวพรรณของลูกผู้ดีมีอันจะกิน แกนกายใหญ่ผลุบเข้าออก เสียดสีกับช่องทางคับแคบอย่างน่าพิสมัย สำหรับดวงตากลมของเจ้าของใบหน้าคมเข้ม ที่เริ่มมีเหงื่อไคลผุดพรายจากกิจกรรมเร่าร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งห้อง “อ๊ะ...อ๊า แรงกว่านี้ ทำฉันแรง ๆ” ประโยคที่เหมือนคำสั่ง แต่น้ำเสียงกลับร้องขอ ราวกับจะขาดใจหากเขาไม่ทำตาม เจ้าของใบหน้าคมกระตุกยิ้ม มือหยาบที่ผ่านการทำงานมาอย่างหนัก จับร่างเล็กพลิกคว่ำลงด้วยมือเพียงข้างเดียว จนเจ้าของร่างงามอยู่ในท่าคลานเข่า ใช้สองมือค้ำร่างของตัวเองเอาไว้ แล้วยกสะโพกขึ้นสูง ถ่างขาทั้งสองข้างออกอย่างรู้งาน จนร่างหนาอดหมั่นไส้ไม่ได้ เพียะ! เพียะ! “อ่า...” ฝ่ามือใหญ่ร้อนผ่าวฟาดลงบนแก้มก้นขาวเนียนจนเป็นรอยนิ้วมือทั้งห้า แต่เจ้าของผิวขาวเนียนกลับไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด กลับเอี้ยวตัวกลับมา พร้อมกับใช้มือล็อกลำคอแกร่งลงมาจูบ ลิ้นเล็กสอดเข้าไปกวาดต้อนลิ้นหยาบอย่างกระหาย ชายหนุ่มปล่อยให้เธอทำตามใจอยาก ส่วนเขาใช้สองมือจับสะโพกแล้วเร่งจังหวะกระแทกแกนกายเข้าไปจนสุด แล้วถอยออกมา ทำอย่างนั้นซ้ำ ๆ เหมือนจงใจกลั่นแกล้ง “อึก” กลิ่นคาวเลือดคลุ้งไปทั่วปาก รู้ตัวดีเลยว่าโดนเข้าให้แล้ว ฟันเล็กแต่คมราวกับแก้วคริสตัลชั้นดีที่ยังคลอเคลียอยู่กับปาก เอาคืนอย่างสาสม เอาแต่ใจไม่เปลี่ยน ชายหนุ่มเดาะลิ้นกับกระพุ้งแก้มเพื่อห้ามเลือดที่ไหลออกมา ครั้งนี้คุณหนูแค่อยากจะเตือนเขาเท่านั้น ไม่อย่างนั้นเลือดเขาคงไม่หยุดไหลเร็วขนาดนี้ “ถ้าไม่เดินขาถ่างกลับขึ้นห้อง ก็อย่าเรียกผมว่าไอ้เข้มเลย” “อ๊ะ! อ๊า!” แท่งร้อนกระแทกเข้ามาจนสุด โดยไม่ให้สัญญาณเตือนใด ๆ ร่างแกร่งปรนเปรอความกระหายให้คุณหนูของเขาอย่างไม่ยั้ง ทั้งงัด ทั้งเสย จนเสียงครางก้องสะท้อนไปทั่วทั้งห้อง “อ๊า... อูย เสียว... เสียวจะขาดใจอยู่แล้ว!” น้ำเสียงแหบพร่าพล่ามออกมาโดยไม่รู้จักกระดาก “ใจเย็น ๆ ครับคุณหนู นี่แค่การเริ่มต้น” แทนที่จะตกใจกับคำขู่เล็ก ๆ น้อย ๆ เจ้าของนาม ‘คุณหนู’ กลับเหยียดยิ้มอย่างเชื้อเชิญ ดวงตากลมโตสบตาเขาอย่างท้าทาย ชัดเจนว่าเธอไม่คิดจะถอยหนี และคนที่เคยปรามาสไว้ว่าจะทำให้คุณหนูเดินขาถ่างกลับห้อง ก็ทำตามคำพูดนั้นได้อย่างไม่มีตกหล่น คืนนั้น เขาตักตวงความสุขจากเรือนร่างขาวจนเต็มอิ่ม ไม่ปล่อยให้คุณหนูได้พักแม้แต่นิดเดียว เสียงหวานครางลั่นห้องตลอดทั้งคืน จนเกือบรุ่งสาง สภาพของคุณหนูก็เป็นไปตามที่เขาประกาศลั่นไว้…ไม่ผิดแม้แต่นิดเดียว หนึ่งเดือนก่อนหน้า เขมราฐมองคฤหาสน์หลังโตด้วยแววตาเรียบนิ่ง บ้านหลังใหญ่ราวราชวังบนพื้นที่กว้างกว่า 15 ไร่ รอบๆ บ้านมีต้นไม้ใหญ่เขียวชอุ่ม หน้าบ้านปลูกหญ้าสีเขียวสลับกับสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่กินบริเวณไปจนถึงด้านหลัง ลานน้ำพุที่มีรูปเทพีแห่งความรักกำลังดึงคันธนูเพื่อยิงลูกศรที่มีปลายเป็นรูปหัวใจไปที่ไหนสักแห่ง ประดับอยู่ด้านหน้าก่อนถึงตัวบ้าน สมกับเป็นบ้านของมหาเศรษฐีเก่าที่ติดอันดับต้นๆ ของประเทศ “มาหาใครคะ” เสียงนั้นดังออกมาจากตัวบ้าน เขมราฐยิ้มเป็นมิตร ก่อนจะเดินเข้าไปหา มองหน้าคนถามผ่านช่องแคบระหว่างรั้วประตูเหล็ก “สวัสดีครับคุณป้า ผมชื่อเขมราฐ ที่มาสมัครเป็นคนสวน พอดีคุณวัตรโทรเรียกให้ผมมาวันนี้” คนฟังทำท่าคิด แล้วร้องอ้อเบาๆ พร้อมกับเปิดประตูเล็กด้านข้างให้คนสวนคนใหม่เดินเข้ามา ส่วนคุณวัตร หรือวัฒนศิน คือทนายประจำตระกูลที่รับช่วงต่อจากวัชร ผู้เป็นบิดา “ป้าชื่อบุญยัง เรียกป้าบุญก็ได้ เป็นแม่บ้านของบ้านหลังนี้ คุณวัตรคงบอกแล้วใช่ไหมว่าต้องทำอะไรบ้าง เขมราฐ” เธอกล่าวอย่างเป็นมิตร “เรียกผมเข้มก็ได้ครับป้า คุณวัตรบอกรายละเอียดงานกับผมแล้ว รวมทั้งข้อห้าม...” ข้อห้ามที่ทำให้เขมราฐสนใจ งานคนสวนต้องอยู่แต่กับดอกไม้ต้นไม้รอบบ้านอยู่แล้ว และที่เขาตกลงทำงานนี้ ก็เพราะข้อห้ามที่ย้ำนักย้ำหนาของทนายประจำตระกูล ‘ห้ามขึ้นไปบนคฤหาสน์เด็ดขาด ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรก็ตาม’ ดวงตากลมวาวโรจน์เมื่อนึกถึง แต่ต้องรีบซ่อนมันเอาไว้ เขมราฐหันกลับมายิ้มให้แม่บ้าน “ดีแล้วละ ปะ ป้าจะพาไปที่พัก” เขมราฐยกมือไหว้อีกครั้ง แล้วเดินตามหลังร่างท้วมนั้นเข้าไปในคฤหาสน์วรเกียรติ์สกุล ห้องพักหลังเล็กที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยว ห่างจากห้องพักของสาวใช้คนอื่นๆ พอสมควร ภายในห้องมีเครื่องอำนวยความสะดวกเท่าที่จำเป็น เตียงนอนขนาดสามฟุต ปูผ้าสีซีดแต่ดูสะอาดสะอ้าน มีตู้เสื้อผ้าขนาดปกติ ข้างๆ เป็นชั้นวางของที่มีโทรทัศน์เครื่องเก่าวางอยู่บนชั้นบนสุด และยังมีแอร์คอนดิชันเนอร์ด้วย เขมราฐทิ้งตัวลงบนที่นอน วางกระเป๋าสัมภาระลงบนพื้น แล้วลุกขึ้นไปเปิดหน้าต่างเพื่อให้สายลมพัดกลิ่นอับจางๆ ออกไป ห้องพักของเขาอยู่ด้านหลังคฤหาสน์ มีสวนดอกไม้แปลงใหญ่กั้นไว้ สายลมเย็นๆ ปะทะใบหน้าคม เขมราฐสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด ร่างหนารู้สึกผ่อนคลาย นานแล้วที่ไม่ได้สัมผัสกลิ่นอายของต้นไม้ใบหญ้า ตั้งแต่เข้ามาทำงานในเมืองกรุง เขมราฐเคยทำงานอยู่ต่างจังหวัด พึ่งกลับเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ไม่นานนัก จึงยังไม่คุ้นกับอากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่นควันและมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม ก๊อก ก๊อก! คนที่ยืนอยู่หน้าประตูเป็นหญิงสาวอายุน้อยกว่าเขามาก ใบหน้าขาวเนียนดูน่ารัก ยืนยิ้มให้อย่างเป็นมิตร “พี่ชื่อพี่เข้มใช่ไหมจ๊ะ” เธอถาม “ใช่ มีอะไรหรือเปล่า” “ป้าบุญให้ฉันมาเรียกพี่ไปทานข้าว” เขมราฐขมวดคิ้ว เขามองนาฬิกาแขวนเรือนเก่าที่เข็มสั้นชี้เลขห้า ส่วนเข็มยาวชี้เลขหก “เพิ่งจะห้าโมงเย็น ทำไมกินข้าวกันเร็วนักล่ะ” “ถ้ามืดแล้วคุณหนูไม่ชอบเสียงดัง ครัวเราต้องปิดก่อนหกโมงเย็น ห้องพี่อยู่ใกล้คฤหาสน์ที่สุด ยังไงก็อย่าส่งเสียงดังนักละ รีบไปกันเถอะจ้ะ” เขมราฐอยากจะถามต่อ แต่ก็สงสารสีหน้าลำบากใจของเด็กสาว จึงเลือกที่จะเดินตามเธอออกมาเงียบๆ ห้องครัวอยู่อีกฝั่งของห้องพักเขา เท่าที่สังเกต สาวใช้ส่วนมากจะทำอาหารในนี้ เพราะมีอุปกรณ์ทำครัวครบครัน ในครัวไม่ได้มีแค่ป้าบุญ แต่ยังมีสาวใช้อีกสองคนนั่งทานข้าวกันอยู่ก่อนแล้ว “ป้าบุญ! ทำไมไม่บอกฉันล่ะว่าคนสวนที่มาใหม่หล่อขนาดนี้ พ่อเจ้าประคุณ! หล่อประล้ำประเหลือ หล่อโลกตาย หล่อสาวหลง ชื่ออะไรหรือจ๊ะสุดหล่อ? พี่ชื่อแตง ยังโสดแต่ลูกสอง” “นังแตง น้อยๆ หน่อย แต่ก็หล่อจริงๆ แหละ ดูสิ กล้ามเป็นมัดๆ ผิวสีน้ำตาลเข้มดูบึกบึน เห็นแล้วอยากให้มาเป็นพ่อของลูก” เขมราฐขนลุกเมื่อถูกสองสาวแทะโลมด้วยสายตาและคำพูด เอาจริงๆ เขาไม่ค่อยได้ใกล้ชิดผู้หญิงเท่าไหร่ แต่เจอแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน เผลอถอยห่างจนถึงประตู “พอเลยทั้งสองคน! นังแตง นังอ่อน กลับไปกินข้าว! ไอ้บัว แกจะยืนขำอีกนานไหม ไปตักข้าวให้พี่เขาไป!” สองสาวบ่นอุบอิบเมื่อโดนป้าบุญดุ และต้องเม้มปากเงียบ เมื่อหัวหน้าแม่บ้านยกตะหลิวชี้หน้าอย่างคาดโทษ “ป้าจะแนะนำให้รู้จัก—นังผมหยิกๆ นั่นชื่อแตง ส่วนคนผมสั้นฟันเหยินๆ ชื่ออ่อน นี่ไอ้บัว หลานป้า ทุกคนดูแลบ้านตามหน้าที่ ส่วนไอ้บัวมันช่วยทำงานเล็กๆ น้อยๆ หลังเลิกเรียน...อะ ส่วนนี้คนสวนที่มาแทนตาทอง ชื่อพ่อเข้ม” บัวยกมือไหว้ ขณะที่แตงกับอ่อนทำตาวิบวับใส่ “ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับทุกคน” เขมราฐกล่าว “พี่ขอทั้งตัวทั้งหัวใจได้ไหมจ๊ะ น้องเข้ม~” “นังแตง! ถ้ายังไม่เลิก ข้าจะโทรไปบอกพ่อกับแม่เอ็ง! ไอ้ลูกสองคนยังไม่มีปัญญาจะเลี้ยง ริอาจอยากมีผัวใหม่!” “โธ่ ป้าบุญอ่ะ ฉันแค่เอ็นดูน้องเข้มเอง~” “เอ็นดูหรือดูเอ็นยะ” อ่อนเสริม โป๊ก! โป๊ก! “โอ๊ย~” สองสาวร้องออกมาพร้อมกันเมื่อโดนตะหลิวพิฆาตฟาดลงบนหัว “กินข้าวเงียบๆ ไป” แตงและอ่อนแบะปาก ได้แต่แอบมองคนสวนคนใหม่เงียบๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD