ท่ามกลางความมืด ไม่มีแสงไฟสักดวงส่องสว่างให้พอได้มองเห็น ความเงียบงันปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง มีเพียงเสียงสะอื้นในลำคอดังต่อเนื่อง แผ่วเบาแต่เจ็บลึก ร่างเล็กเจ็บช้ำ ระบบไปทั้งตัว ร่องรอยแดงช้ำเป็นจ้ำเลือดปรากฏอยู่ตามเรือนร่างเล็ก เธอนอนขดตัวอยู่เหมือนต้องการป้องกันตัวเองจากโลกทั้งใบ เสื้อผ้าของเธอถูกฉีกขาด กระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง เศษเส้นด้ายพันกันติดอยู่ที่ข้อมือและข้อเท้า มองไปรอบเตียงเห็นเพียงร่องรอยของความป่าเถื่อน คราบน้ำกามเปอะเปื้อนไปทั่วทั้งพื้นที่
ผ้าห่มผืนหนา ผ้าปูที่นอนที่เคยสะอาดตาถูกจัดเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ ยับยู่ยี่ หลุดลุ่ยไม่เป็นทรงเหมือนผ่านศึกหนักที่ไม่มีใครยินยอม เพลินตาได้แต่นอนร้องไห้ เสียงสะอื้นสะท้อนเบาๆในห้องมืด ริมฝีปากสั่นระริก หยาดน้ำตาเปียกชุ่มลงบนหมอน ผสมกลิ่นเหงื่อ กลิ่นน้ำหอมจางๆ และกลิ่นอายของความเจ็บปวด ผิดกับอีกคนที่นอนกอดเธอเอาไว้จากด้านหลัง ร่างกายใหญ่โอบเธอแน่นราวกับเจ้าของสิ่งของชิ้นหนึ่ง
เขาค่อยๆใช้ปลายนิ้วมือหนาลูบหัวไหล่เล็กของเธอเบาๆ อย่างคนที่กำลังพึงใจในชัยชนะ รอยยิ้มเจืออยู่บนใบหน้าอย่างเย้ยหยัน ทั้งที่เขารู้ตัวดีว่าเขาใช้ความรุนแรง ถามว่ารู้สึกผิดอะไรต่อเธอไหม ตอบเลยว่าไม่ เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันเกิดจากเพลินตาที่ยั่วโมโห ทำให้เขาโกรธ สมควรแล้วที่จะถูกลงโทษ
"จะร้องไห้ทำไม...นอนกับฉันไม่ได้นอนกับคนอื่น"
น้ำเสียงราบเรียบของเขายิ่งกรีดแทงเข้าไปในใจของเพลินตา สะท้อนความไม่แยแส และไร้หัวใจ หญิงสาวกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ สะอื้นสะท้านจากภายในเหมือนหัวใจเธอถูกบดขยี้
"คุณรังแกเพลิน"
เสียงของเธอแผ่วเบาแต่ชัดเจนในความปวดร้าว ดวงตาแดงก่ำ พยายามหันหน้าหนี แต่ก็ถูกแขนแกร่งรั้งเอาไว้แน่นยิ่งขึ้น ราวกับว่าเขายังอยากครอบครองเธอแม้ในวินาทีที่เธอเจ็บที่สุด
"มันไม่ใช่ครั้งแรกนะเพลินตา และเธอก็ไม่ใช่คนเดียวที่ฉันทำ"
คำพูดของเขาเหมือนค้อนหนักที่กระหน่ำซ้ำลงกลางอก เพลินตาหันมามองเขา แววตาเต็มไปด้วยความตกใจ คิ้วขมวดแน่น ดวงตาเบิกโพลงเพราะคำพูดของเขากำลังจะทำให้เธอหมดความอดทน เธอกัดริมฝีปากไว้แน่นเพื่อไม่ให้เสียงสะอื้นทะลักออกมา
ที่ผ่านมาเคยคิดว่าเขาทำแบบนี้แค่กับเธอ หรือมากสุดก็ทำกับคุณยาหยี กับคุณยาหยีก็พึ่งจะมารู้ก็ตอนที่เขาบอกว่าเธอท้อง ร้องไห้ฟูมฟายหลายวัน กำลังพยายามตัดใจ แค่เรื่องของคุณยาหยีก็ทำเธออึ้งจนไม่รู้จะหันไปซบอกระบายกับใคร ไม่เคยคิดว่าเขาจะมีอะไรกับคนอื่น เพราะเขาเคยสัญญา นอกจากนอนกับเธอแล้ว เขาจะไม่ไปนอนกับคนอื่น ไม่ใช่เพราะแคร์เธอ แต่เหตุผลหลักคือกลัวติดโรค
"เมื่อก่อนฉันนอนกับเธอทุกคืน เพราะขาดมันไม่ได้ สองสัปดาห์มานี้ฉันไม่มาหาเธอ เธอคิดว่าไง...คนอย่างฉันขาดมันได้หรือเปล่าล่ะ"
น้ำเสียงมั่นใจในความต้องการของตัวเองเต็มเปี่ยม ไม่มีความสำนึกหรือสลดในสิ่งที่เพิ่งทำลงไปเลยแม้แต่น้อย
"คุณโปรด..."
เพลินตามองหน้าเขา ดวงตาเธอสั่นไหวเหมือนกำลังจะแตกสลาย ก่อนจะปล่อยน้ำตาให้มันไหลอาบแก้มซ้ำลงไปบนคราบน้ำตาเดิม คำพูดที่ไม่เคยนึกถึงจิตใจ ไม่นึกด้วยซ้ำว่าเธอจะเจ็บปวดหรือเสียใจ เพราะเขาไม่เคยรัก ไม่เคยรู้สึกอะไรกับเธอเลยสักนิด อย่างมากก็แค่เอ็นดูในบางเวลาที่อยู่บนเตียง
"ทำไม โกรธฉันเหรอ โกรธฉันแล้วเธอตัดใจจากฉันได้หรือเปล่า..เลิกรักฉันได้ไหม"
น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำเจือความท้าทาย ดวงตาคมเข้มจ้องตรงมาที่เธอด้วยสายตาที่อ่านยาก ทั้งหยิ่งผยอง เย็นชา และแฝงความเป็นเจ้าของเอาไว้ชัดเจน เขาเอียงหน้ามองเธอเล็กน้อย ริมฝีปากคลี่ยิ้มบางอย่างมั่นใจในอำนาจเหนือเธอ เสียงของเขาดังขึ้นช้าๆ อย่างจงใจ กดความรู้สึกเธอลงทีละนิดเหมือนกดบาดแผลด้วยปลายนิ้วที่ยังไม่หายเจ็บ
"เพลินกำลังพยายาม และเชื่อว่าสักวันเพลินจะทำได้"
น้ำเสียงเธอสั่นเล็กน้อยแม้จะพยายามพูดให้มั่นคง ใบหน้าหวานฝืนเงยขึ้นสบตาเขาโดยไม่ยอมหลบ ดวงตาของเธอคลอไปด้วยน้ำตา หัวใจบีบรัดเหมือนมีบางอย่างกำลังรัดรึงอยู่ข้างใน ลมหายใจติดขัดเพราะคำพูดของเขาเมื่อครู่มันแทงลึกลงไปถึงความหวังสุดท้ายที่เธอยังยึดไว้
"ไม่มีทาง เธอไม่มีวันทำแบบนั้นได้หรอกเพลินตา...ฉันมาคิดดูดีๆ การที่ฉันแต่งงานมันไม่น่าจะมีผลต่อควาสัมพันธ์ของเรา เธออยากจะอยู่กับฉันไหมล่ะเพลิน...ฉันคิดดูแล้ว การมีเมียน้อยสักคน ยาหยีเขาคงไม่ว่าอะไรหรอก"
เขาพูดพลางโน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย แววตาของเขามั่นใจและเย้ยหยัน เหมือนกับว่าข้อเสนอนี้คือสิ่งล้ำค่า ดวงตาเขาเปล่งประกายอย่างผู้ชนะ ไม่รู้สึกรู้สมถึงคำที่ตัวเองพูดออกไปเลยสักนิด แววตาเขาเยือกเย็นจนเธอรู้สึกเหมือนถูกกดทับด้วยอากาศหนาแน่นรอบตัว
"..................."
เพลินตาได้แต่มองหน้าเขา เธอพูดอะไรไม่ออก หัวใจที่ปวดร้าวกำลังตกสู่ความเงียบงัน ใบหน้าซีดเผือดเล็กน้อยเมื่อเธอกัดริมฝีปากไว้แน่นพยายามกลั้นน้ำตา แววตาที่เคยอ่อนโยนของเธอในตอนนี้มีแต่ความเจ็บลึกและสับสน
ที่ผ่านมาเป็นได้แค่คนในความลับ ไม่มีสักคนที่รู้เรื่องระหว่างเธอกับเขา อยู่กับเขามาสองปีสถานะไม่เคยมี แต่เขาก็ไม่เคยมีใคร ไม่เคยควงกับใครต่อหน้าเธอ ครึ่งปีหลังถึงมีเรื่องของคุณยาหยีเขามาเกี่ยวพัน ในตอนแรกบอกพูดคุยกันเพราะผลประโยชน์ทางธุรกิจ เขาไม่คิดจะจริงจังกับใคร ชีวิตเขาไม่อยากผูกมัด อยากครองสถานะโสดไม่อยากมีใครเป็นตัวเป็นตน
เธออยู่กับเขาหวังว่าสักวันจะสามารถเปลี่ยนความคิดของเขาได้ มองเขาด้วยความหวังเสมอว่าเธอจะเป็นคนนั้น คนที่เขายอมเปลี่ยนเพื่อ แต่ในวันนี้ความคิดของเขาเปลี่ยนไป แต่มันไม่ใช่เพราะเธอ
เขากำลังจะแต่งงาน แต่งกับคนที่เคยบอกว่าเป็นแค่เพื่อน คบหากันเพราะผลประโยชน์ ตอนแรกบอกให้เธอมองหาคนอื่นที่รักและจริงใจ แต่มาตอนนี้เขากลับยื่นข้อเสนอเพื่อให้เธออยู่กับเขา โดยการให้เธอเป็นเมียน้อย
น้ำเสียงของเขาไม่ไหวติง ไม่มีความรู้สึกผิด หรือแม้แต่ความละอายต่อคำพูดที่เอ่ยออกมา ได้แต่ยิ้มเย้ยหยันให้กับตัวเอง เขามองเห็นเธอแค่นี้เองหรือ เมียน้อยมันไม่ต่างอะไรกับการลักกินขโมยกิน ผู้หญิงอย่างเธอจำเป็นต้องลดศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อเขาขนาดนั้นเลยหรือ
โปรดปราณมองดูเธอที่กำลังชั่งใจคิด เขาขยับเข้ามาใกล้อีกเล็กน้อย ลมหายใจของเขาอุ่นปะทะผิวแก้มที่เริ่มชื้นน้ำตา เขามั่นใจนักหนาว่าเพลินตานั้นไม่มีวันที่จะลืมเขาได้อย่างแน่นอน ดวงตาคมคู่นั้นกวาดมองร่างบางด้วยความรู้สึกเป็นเจ้าของ
เขาเป็นครั้งแรกของเธอ เป็นผู้ชายคนแรกที่ได้เป็นเจ้าของเรือนร่างอันสวยงาม เพราะคำหวานที่ป้อนให้เธออยู่เสมอ มั่นใจมากว่าเธอไม่มีวันเดินหันหลังไปจากเขาได้อย่างแน่นอน
"เพลินอยู่กับคุณมานานถึงสองปี สิ่งที่คุณให้เพลินคือคำว่าเมียน้อยงั้นเหรอคะ"
เสียงของเธอสั่นไหว ดวงตาแดงก่ำขณะเงยหน้าขึ้นถาม แววตาของเพลินตาสั่นระริกเหมือนน้ำใสในแก้วที่กำลังถูกสั่นสะเทือน ร่างเล็กสั่นไหวด้วยความรู้สึกมากมายที่กำลังไหลทะลักออกมาทีละน้อย กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ฝ่ามือเย็นเฉียบบีบเข้าหากันแน่นราวกับต้องการพยุงตัวเองให้ไม่ล้มลง
"ถ้าไม่เป็นเมียน้อยแล้วเธอจะเป็นอะไร เป็นเมียเหรอ...มันเป็นไปไม่ได้ เพราะสถานะเมียฉันให้กับแม่ของลูกฉันคนเดียวเท่านั้น"
เสียงของเขานิ่ง เยือกเย็น ราวกับไม่ได้พูดกับคนที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุข แต่กำลังพูดถึงเงื่อนไขการแบ่งสมบัติ ใบหน้าเรียบเฉย ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของความรู้สึกผิด หรือความลังเล ดวงตาของเขาสงบและแข็งกร้าวในเวลาเดียวกัน แววตาของคนที่ตัดสินใจแล้ว และไม่มีที่ว่างให้ย้อนคิด
"แปลว่าเพลินไม่มีวันเป็นเมีย ไม่มีวันเป็นแม่ของลูกคุณได้เลยใช่ไหม"
เสียงของเธอแหบพร่า แทบจะกลืนหายไปกับลมหายใจ ริมฝีปากสั่นเล็กน้อยขณะเอื้อนเอ่ยคำถาม หัวใจของเพลินตาเหมือนกำลังถูกบีบด้วยมือเปล่า สายตาที่เคยมองเขาด้วยความรักตอนนี้เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ผสมด้วยความไม่เข้าใจ
"ใช่..ไม่มีทางเป็นเธอ"
เขาพูดชัดถ้อยชัดคำ ใบหน้าไม่สั่นสะเทือนแม้แต่น้อย เสียงของเขาเด็ดขาดเหมือนใบมีดที่กรีดลงกลางใจ ดวงตาคมกริบของเขายังคงจ้องมองเธอด้วยความมั่นใจ และเยือกเย็นอย่างน่ากลัว
"เพลินขอถามได้ไหมคะว่าทำไม..."
น้ำเสียงของเธออ่อนลง เหมือนกำลังวิงวอน ดวงตาแดงก่ำของเธอสบตาเขาอีกครั้ง ทั้งที่รู้ว่าคำตอบอาจทำร้ายมากกว่าสิ่งที่เคยเจ็บมา ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความคาดหวังเล็กๆ สุดท้าย ก่อนทุกอย่างจะพังลง
"เหตุผลง่ายๆคือฉันไม่ได้รักเธอ"
เขาพูดเรียบๆ ราวกับประโยคนี้ไม่มีน้ำหนักอะไรเลย ริมฝีปากขยับพูดด้วยท่าทางปกติอย่างคนไม่มีเยื่อใย เหมือนแค่ตอบคำถามหนึ่งในบทสนทนา ไม่ใช่ประโยคที่ทำลายความรักของใครคนหนึ่งลงในพริบตา
"..........................."
คำตอบที่ชัดเจนทำเพลินตาเงียบไปชั่วขณะ โลกใบนี้มันยังคงหมุนต่อไปเรื่อยๆ มีเพียงเวลาของเธอเท่านั้นที่กำลังหยุดเดิน ทุกอย่างหยุดนิ่งเพียงเพราะคำพูดของเขา ผู้ชายคนที่เธอรักอย่างสุดซึ้ง ริมฝีปากเธอขยับเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับไม่มีเสียงใดหลุดออกมา ดวงตาที่เคยมองเขาด้วยความอ่อนโยนในวันนี้กลับว่างเปล่า หยดน้ำตาร่วงเงียบๆ ลงมาโดยที่เธอไม่รู้ตัว แขนทั้งสองข้างของเธอตกแนบลำตัวอย่างไร้เรี่ยวแรง เหมือนถูกดูดพลังชีวิตออกไปจนหมด
ในวันนี้คำพูดของเขามันชัดเจนทุกอย่าง อนาคตของเธอมีเขาอยู่ในนั้นเสมอ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เธอมีเพียงเขา แต่อนาคตของเขากลับวางเธอไว้ให้เป็นเพียงแค่คนสำรอง เป็นเมียรองจากคนอื่น ได้แต่ถามตัวเอง ความรักมันสามารถทำให้คนๆหนึ่งเปลี่ยนจากคนเป็นควายได้จริงหรือ จากกินข้าวจะเปลี่ยนไปกินหญ้าแบบนั้นมันมีอยู่จริงหรือเปล่า แล้วนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป เธอควรจะกลับมาอยู่ในโลกของความเป็นจริง โลกที่ไม่มีเขา ห้องทั้งห้องเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของเธอที่แผ่วลง กับความรู้สึกที่เหมือนกำลังจมน้ำช้าๆ จมไปพร้อมคำว่า "ไม่รัก" ที่ยังวนเวียนในหัวใจอย่างบ้าคลั่ง ยอมอยู่อย่างทรมานหัวใจ หรือควรเลือกที่จะอยู่เคียงข้างเขา ยอมเป็นเมียน้อยตามข้อเสนอที่เขายื่นมาให้ แบบไหนที่เธอควรจะเลือกทำ