“นี้ๆรู้จักพี่เวย์เดือนคณะวิศวะปีสามที่เขาลือกันป่ะ”
มุกดาเด็กใหม่เฟรชชี่ปีหนึ่งกำลังรอเพื่อนอยู่ที่โต๊ะภายในโรงอาหารของมหาวิทยาลัย สนใจกับบทสนทนาของเพื่อนร่วมรุ่นที่กำลังคุยกันอย่างออกรสอยู่โต๊ะข้างๆ
“เครื่องเจ็ดยับตำนานที่เขาลือกันในแอปXอะนะ”
“ใช่ๆ”
“เห็นเขาว่ากันว่าพี่แกหล่อและรวยมากที่สำคัญ” กวักมือเรียกเพื่อนให้เข้ามาฟังใกล้ๆ “โจยใหญ่ เอวดุสมฉายาเครื่องจักรเย็– ของวิศวะเครื่องกล”
“กรี๊ดดดดด”
เด็กสาวเจริญวัยกรีดร้องด้วยความเขินอายไม่นานก็รีบปิดปากตัวเองซ่อนความตื่นเต้นที่ได้ฟังเรื่องสัปดนตามประสาวัยกำลังคึกคะนอง
คนที่หน้าแดงที่สุดไม่ใช่คนในกลุ่มแต่เป็นมุกดาที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ เธอไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังแต่เสียงพูดคุยกันดังชัดเจนเต็มสองหู
ก็จะไม่ให้เขินได้ยังไง พี่เวย์วิศวะที่ว่าคือคนที่มุกดาแอบชอบมาตั้งสามปี
มุกดารู้สึกตัวเพราะความฝันประหลาด
ศีรษะและร่างกายหนักอึ้งเหมือนถูกทับด้วยอะไรบ้างอย่างที่ใหญ่และหนัก ภาพแรกที่เห็นจากการปรือตาตื่นขึ้นมา คือแขนของใครบางคนที่เธอนอนทับในท่านอนตะแคง
ปวดหัว
อาการเมาค้างจากการดื่มสุราทำให้มุกดาขยับมือขึ้นมากุมขมับ พอได้สติก็เบิกตากว้างตื่นเต็มตา เมื่อท่อนแขนอีกข้างที่พาดอยู่บนเอวดึงตัวเธอให้แนบชิดกับแผ่นอกเปลือยของใครบางคนที่นอนซ้อนอยู่ทางด้านหลัง
ทันใดนั้นภาพในหัวก็ไหลเข้ามาเป็นฉากๆ
‘อยากแตกอีกก็ขย่มเองสิคะ’
‘อื้อ พี่เวย์ เด็กเสียว อ่าาา’
‘เด็กเหนื่อยแล้ว พอแล้ว’
‘อ๊าพี่เวย์ น้ำในอ่างมัน อื้อ เด็กจะแตก อ๊าาาา’
พลันใบหน้าของมุกดาก็เห่อร้อนขึ้นมา ภาพกิจกรรมสุดเร่าร้อนกับแฟนเก่าฉายขึ้นมาเป็นฉากๆ ตอกย้ำความเป็นจริงว่าเมื่อคืนเธอกับเขาดุเด็ดเผ็ดมันกันมากแค่ไหน
มุกดาอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆแต่สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือกระฟัดกระเฟียดอยู่ในใจจนตัวสั่น อยากทึ้งหัวตัวเองแรงๆสักครั้ง เมื่อคืนไม่รู้ผีห่าซาตานตนใดเข้าสิงเธอถึงได้คว้าเอาแฟนเก่าขึ้นเตียง
ร่างบางค่อยๆยกแขนกำยำที่วางอยู่บนเอวออกอย่างระมัดระวังกลัวว่าคนข้างหลังจะตื่น พอหลุดจากพันธนาการมุกดาก็รีบลงจากเตียงย่องเท้าเบาๆหยิบชั้นในและชุดเดรสที่กระจัดกระจายบนพื้นขึ้นมาสวมอย่างรวดเร็ว
แผ่นปิดจุก
ไอ้พี่เวย์บ้า
จำได้ว่าหลุดไปตั้งแต่อยู่ที่ผับ มุกดามองหาของที่พอจะปกปิดชุดวาบหวิวของตัวเอง พลันสายตาก็เห็นเสื้อสูทสีดำที่กองอยู่บนพื้น มุกดารีบหยิบมันมาสวมกระชับเสื้อตัวใหญ่ปิดคลุมไปทั้งตัว
มือเล็กค่อยๆเปิดประตู
“ลาขาดเลยนะไอ้แฟนเก่าคนเปรต อย่าได้เจอกันอีกเลย”
ว่าแล้วก็รีบเผ่นออกจากห้องไปโดยไม่คิดจะหันกลับมามองร่างที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง
เวธัสลืมตาขึ้นมาเมื่อเสียงประตูห้องปิดลง ใบหน้าคมยิ้มขำเบาๆ ที่จริงเขาตื่นตั้งแต่มุกดาขยับตัวขลุกขลิกอยู่ในอ้อมกอด แต่ยังแสร้งนอนหลับรอดูท่าทีของแฟนเก่าว่าเธอจะทำอะไร
และก็ไม่ต่างไปจากที่คิดเมื่อมุกดารีบเก็บข้าวของใส่เสื้อผ้าแล้วหนีออกไป
ยัยเด็กตัวแสบ!
มุกดารีบกลับคอนโดมาอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปทำงาน ที่จริงวันนี้เธอมีนัดพรีเซนต์โปรเจกต์ใหม่ที่เธอและเพื่อนๆทำขึ้นมาเพื่อเสนอให้กับบริษัทใหญ่หาทุนในการต่อยอดการออกแบบแอปพลิเคชันและเว็บไซต์
เมื่อคืนมุกดาต้องซ้อมพรีเซนต์สำหรับงานสำคัญ แต่ทว่ามันดันเป็นวันครบรอบสองปีที่เลิกกับแฟนเก่าอย่างเวธัสไปพอดี
ที่จริงก็ไม่ได้อยากจำนักหรอกแต่มันดันฝังใจไม่ลืม พอถึงวันนี้ทีไรภาพเก่าๆในวันวานก็มักจะวูบขึ้นมาเป็นบางครั้งรบกวนจิตใจของมุกดาจนอยู่ไม่สุข คิดอยู่นานถึงได้ตัดสินใจออกไปนั่งดื่มคนเดียว
ตั้งใจจะหาใครสักคนมาปลอบประโลมหัวใจในวันที่เหงา
แต่ใครจะคิดเล่าว่าเธอจะหน้ามืดตามัวคว้าแฟนเก่าขึ้นเตียง
อาคารสามชั้นที่ติดถนนในซอยเล็กๆคือที่ตั้งของ MOP SOFT บริษัทเล็กๆที่มุกดาและเพื่อนสนิทอีกสองคนจับมือกันลงทุนทำธุรกิจสตาร์ตอัป เกี่ยวกับแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ออนไลน์โดยอาศัยความรู้ที่ร่ำเรียนมาและประสบการณ์ที่ได้จากการฝึกงานมาใช้เปิดกิจการเป็นของตัวเองหลังจากเรียนจบได้ไม่กี่เดือน
ร่างเล็กในชุดทำงานสีขาวกระโปรงลายตารางสีเทายาวเลยเข่าขึ้นมาเล็กน้อยกับรองเท้าส้นสูงสีน้ำตาลกึ่งทางการ ในมือมีเอกสารเป็นแผ่นผับและกระเป๋าสะพายโน้ตบุ๊กหนึ่งเครื่อง
“มั่นใจนะว่าจะไปคนเดียว” เจ้าเอย เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง นี่เป็นครั้งแรกที่มุกดาจะเข้าไปเสนอโปรเจกต์ที่พวกเธอคิดค้นและทำมันขึ้นมากับบริษัทใหญ่
“ไม่ต้องเป็นห่วง บอกยัยแพรคอยดูบั๊กของเว็บไซน์เราด้วยล่ะเผื่อทางนั้นเขาสนใจ”
“อื้อ มีปัญหาอะไรโทรมาแล้วกัน จะสแตนด์บายรออยู่หน้าจอ”
“เยี่ยม ไปก่อนนะ”
มุกดากระชับกระเป๋าสำรวจเครื่องแต่งกายของตัวเองอีกครั้ง เมื่อมั่นใจแล้วว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีจึงก้าวขาเข้าไปยังบริษัทสูงใหญ่ตั้งเด่นตระหง่านที่ชื่อวีดับบลิว อิเล็กทริค ซิสเต็ม
“สวัสดีค่ะมาขอพบคุณธนัชนัดเอาไว้ค่ะ ชื่อมุกดาจาก MOP Soft” น้ำเสียงฉะฉานบอกกับพนักงานประชาสัมพันธ์
“ค่ะ รอสักครู่นะคะ”
ไม่นานพนักงานประชาสัมพันธ์คนสวยก็พามุกดาขึ้นลิฟต์มายังชั้นยี่สิบสอง เธอให้มุกดารออยู่ในห้องรับรองขนาดเล็กสักครู่ก่อนจะขอตัวจากไป
ไม่ถึงสิบนาทีประตูห้องก็เปิดออก ธนัชเปิดประตูเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ใบหน้าขาวดูดีมีเอกลักษณ์แม้จะไม่หล่อเหลามากมายเท่าแฟนเก่าแต่เขาก็ดูดีแบบฉบับลูกคนจีนที่ตัวขาวจั๊วะสะอาดเหมือนอาบน้ำวันละสิบรอบ
ธนัชคือพี่ชายข้างบ้านที่มุกดารู้จักมาตั้งแต่เด็กเขาเป็นคนเสนอให้มุกดาลองเข้ามาเสนองานให้กับบริษัทที่เขาทำงานอยู่ ธนัชอายุมากกว่ามุกดาห้าปีเขาเป็นคนเก่งทำงานไม่นานก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าทีม
“รอนานไหมมุก”
“ไม่ค่ะพี่นัท มุกพึ่งมาถึงนี่คงไม่ได้วิ่งมาหรอกใช่ไหมคะ เหงื่อซึมเชียว”
คนถูกทักรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อ จะบอกไม่รีบคงไม่ใช่เมื่อครู่เขาติดประชุมด่วนกะทันหันกลัวว่ามุกดาจะรอนานจึงรีบวิ่งลงบันไดมาแทนการใช้ลิฟต์
“เปล่าสงสัยอากาศร้อนนะ ว่าแต่มุกเถอะพร้อมหรือยังมีเวลาเตรียมตัวอีกห้านาที”
“มุกพร้อมแล้ว ไปกันเลยก็ได้”
ธนัชวางมือลงบนศีรษะเล็กลูบไปมาเบาๆอย่างเอ็นดู ก่อนจะเดินนำมุกดาไปยังห้องประชุมใหญ่ของทางบริษัทที่ใช้ในการพรีเซนต์งาน
ตาคมจ้องมองร่างบอบบางของคนคุ้นตาผ่านระเบียงชั้นลอยที่อยู่อีกฟากหนึ่งของห้องประชุมเล็ก ใบหน้าสวยในชุดทำงานสุภาพกำลังเดินส่งยิ้มสดใสให้กับผู้ชายตัวสูงที่ใช้มือจับเนื้อต้องตัวเธออย่างคุ้นเคย
“ใคร”
เขาเอ่ยถามเลขาเสียงเข้ม
“น่าจะเป็นคุณธนัชกับนักศึกษาจบใหม่ที่มาเสนอโปรเจกต์ให้กับทีมการตลาดมั้งค่ะ”
“เมื่อไหร่”
“เห็นพวกกรรมลงไปที่ห้องประชุมใหญ่กันแล้ว คิดว่าคงจะเริ่มในอีกไม่ช้า”
เมื่อได้รับคำตอบเจ้าของดวงตาคมสีนิลก็มีประกายบางอย่าง ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น