ขนมหวานเดินกลับลงมายังชั้นล่างอีกครั้ง หลังจากอาบน้ำแต่งตัวและคุยกับเพื่อนอีกนิดหน่อยเรื่องการฝึกงานในเทอมสองที่กำลังถึง เนื่องจากตอนนี้หญิงสาวยังไม่มีที่ฝึกงาน เพราะเธอยังไม่ได้ถามอชิระว่าชายหนุ่มอยากให้เธอเข้าไปฝึกงานที่ไหนในมหาวิทยาลัยได้หรือไม่
เธอไม่รู้ว่าเขาอยากให้เธอเข้าไปเดินเพ่นพ่านในมหาวิทยาลัยของเขาไหมนอกจากไปเรียน กลัวตัวเองจะเป็นตัวซวยนำเรื่องวุ่นวายไปสู่เขา เหมือนที่เขากล่าวหาบ่อยๆ
หญิงสาวเดินเข้ามาในห้องครัว และก็ต้องชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นอชิระนั่งอยู่ที่เก้าอี้ประจำ จึงรีบเดินเข้าไปนั่งที่ของตัวเอง พร้อมความสงสัยที่แทรกเข้ามาว่าเหตุใดชายหนุ่มยังอยู่ที่นี่ ด้วยปกติหากเป็นวันหยุดเขามักจะออกไปข้างนอกหรือไม่ก็ขลุกตัวอยู่ในห้องนอน ไม่มานั่งที่โต๊ะทานข้าวเหมือนกำลังรอเธอทานอาหารด้วยกันอย่างนี้แน่
"ถ้าอีกห้านาที ยังไม่ลงมา ฉันว่าจะโทรเรียก 1669 ให้มารับตัวเธอไปแล้ว"
"มารับทำไมคะ ขนมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย" ถามพอซื่อออกไป เลยได้เสียงถอนหายใจของอชิระดังกลับมา
"ก็ถูกแทงยับจนหมดแรงไม่ใช่เหรอ ก็นึกว่าหน้ามืดเป็นลมหัวฟาดพื้นห้องไง ถึงได้อาบน้ำนานเป็นชั่วโมงขนาดนี้" เผลอค้อนขวับเข้าให้อย่างหมั่นไส้ กับคำพูดประชดประชันแกมจิกกัดที่ชวนให้เธออายและโมโหในเวลาเดียวกัน
คนบ้า...จ้องแต่จะแช่งให้เธอตายเลยนะ
"ขนมไม่ตายง่ายๆ หรอกค่ะ และที่ลงมาช้าเพราะขนมคุยกับเพื่อนอยู่"
"ไม่ได้ถาม ไม่ได้อยากรู้เรื่องเธอให้รกสมอง" ใบหน้าสวยเชิดขึ้นเล็กน้อย กลืนความเจ็บลงไป กดให้ตกตะกอนอยู่ใต้ก้นบึ้งของความรู้สึก
"ถ้าอย่างนั้นขนมคงต้องขอโทษล่วงหน้านะคะ ที่วันนี้ขนมมีเรื่องมาให้คุณอชิรกสมองอีกเรื่อง"
"มีอะไร" ถามราวกับรำคาญเสียหนักหนา ใบหน้าแสดงสีหน้าหงุดหงิด ทอดสายตาเฉยชามองหญิงสาว
"เทอมหน้าขนมต้องฝึกงาน คุณอชิจะให้ขนมไปฝึกที่ไหนคะ ที่มหาลัยได้ไหม แต่ถ้าไม่..."
"ได้...แต่ไม่รับตัวซวยอย่างเธอ" กระตุกยิ้มร้ายออกมาอย่างผู้ชนะ หยัดกายลุกขึ้นยืนและเดินจากไป
ทิ้งคำพูดปฏิเสธแสนโหดร้ายให้ทิ่มแทงจนฟังจนจุกอยู่ในอก แต่ก็นั่นแหละ ที่นั่นคือมหาลัยของเขา เขาจะรับใครหรือไม่รับใครย่อมเป็นสิทธิ์ของเขา นับว่าโชคดีเท่าไหร่แล้วที่เขายังให้เธอเรียนต่อที่นั่น ไม่ไล่ตะเพิดเธอออกมากลางคัน ก็ดีเธอจะได้ไปฝึกงานกับกลุ่มเพื่อน จะได้ไม่ต้องเห็นหน้าเขาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
ขนมหวานยิ้มบางออกมาให้กับความโชคร้ายและสิ่งที่ตัวเองกำลังเผชิญ เมื่อไหร่เธอจะหลุดพ้นจากความโหดร้ายเหล่านี้เสียที หรือความจริงแล้ว เธอสามารถเดินจากความโหดร้ายนี้ไปได้ง่ายๆ แต่เป็นเธอเองที่โง่งมและดันทุรังจะอยู่กับความเจ็บปวดรวดร้าวเหล่านี้เอง ก้มหน้ายินยอมรับความเจ็บปวดที่อชิระมอบให้ด้วยความเต็มใจ
โดยใช้ข้ออ้างที่ว่า เธอคือต้นเหตุของความเปลี่ยนไปของเขา เธอคือคนที่ทำลายความสุขของเขา เธอคือคนที่พรากพ่อแม่ของเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ เธอจึงอยากชดใช้สิ่งเหล่านั้นด้วยการอยู่ที่นี่
"ขนม! ชงกาแฟเย็นมาให้ฉันกินสักแก้วสิ เอาแซนวิชมาด้วย" เสียงห้วนที่ตะโกนสั่งมาจากห้องรับแขก ดึงสติของขนมหวานที่หลุดลอยออกไปให้กลับมา รีบขานรับกลับไป
"ค่ะ"
ไม่มีเวลาแม้แต่จะนั่งรับประทานอาหารต่อ เพราะคนอย่างอชิระอยากได้อะไรก็ต้องได้เดี๋ยวนี้ ไม่ชอบรออะไรนานๆ โดยเฉพาะการรอที่มาจากเธอ ความอดทนของชายหนุ่มแทบจะไม่มี หากแม้เธอชักช้าไม่ทันใจ อารมณ์โมโหแสนร้ายกาจก็จะถูกเขามอบมันให้กับเธอ และด้วยความรีบร้อนชงกาแฟหรือความสะเพร่าของตัวเอง ขนมหวานจึงจนเผลอกดน้ำร้อนใส่มือตัวเอง
"โอ๊ย!!" รีบชักมือกลับสะบัดมือที่ขึ้นสีแดงเพราะถูกน้ำร้อนลวกหวังจะให้หายแสบ รีบเดินไปเปิดน้ำก๊อกล้างมือหวังจะให้น้ำช่วยลดความแสบร้อนไปได้บ้าง ใช้ชายเสื้อยืดที่สวมใส่ห่อนิ้วมือตัวเองไว้และเดินมาหาน้ำแข็งในตู้เย็น เพื่อประคมไม่ให้รู้สึกแสบ
"ทำไมซุ่มซ่ามได้ขนาดนี้เนี่ยขนม แดงเลยอะ" บ่นกระปอดกระแปดมองนิ้วตัวเองที่ปรากฏรอยแดงชัดแต่ก็ไม่มีเวลาชื่นชมหวานแสบของผิวนาน เพราะต้องรีบไปจัดการชงกาแฟให้อชิระต่อ รวมทั้งแซนวิสให้ตามที่ชายหนุ่มบอก แม้จะรู้สึกแสบแต่ก็ต้องเอาไว้ก่อน
ส่วนคนที่เดินหนีมานั่งที่โซฟาก็กำลังนั่งตรวจงานที่ลูกน้องส่งมาในไอแพด แม้วันนี้จะเป็นวันหยุดก็ตามแต่ด้วยความที่เป็นผู้บริหารอชิระกลับหยุดไม่ได้ อีกอย่างชายหนุ่มก็ไม่ชอบดูบ้านเฉยๆ โดยไม่ทำอะไร นั่งๆ นอนๆ น่าเบื่อจะตายไป
"กาแฟกับแซนวิสมาแล้วค่ะ" ปรายตามองแก้วกาแฟที่ถูกวางลงตรงหน้าพร้อมจานแซนวิสน่าตาน่าทาน โดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ทว่าหางตากลับเหลือบไปเห็นนิ้วเรียวยาวขาวนวลในยามปกติมีสีแดงขึ้นมาบริเวณนิ้วชี้และนิ้วกลาง
"นิ้วเธอไปโดนอะไรมา" คนถูกถามไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าอชิระกำลังเป็นห่วงและใส่ใจเธออยู่บ้าง ไม่เช่นนั้นคงไม่สังเกตเห็นรอยน้ำร้อนลวกบนนิ้วเธอหรอก
"ขนมกดน้ำร้อนถูกมือตัวเองค่ะ" คิ้วเข็มเลิกขึ้น พลางมองใบหน้าขนมหวานด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นเคย
"แค่ชงกาแฟง่ายๆ แค่นี้ยังทำให้ตัวเองเดือดร้อน แล้วอย่างนี้จะไปฝึกงานที่บริษัทอื่น บริษัทเขาคงเดือดร้อนกันไปหมด ไม่ได้เรื่อง" ครั้งนี้คนถูกต่อว่าเริ่มจะโมโหขึ้นมาบ้าง การชงกาแฟมันไม่ได้การันตีว่าเธอจะสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นนี่ เธอคิดว่าตัวเองมีศักยภาพมากกว่าการชงกาแฟด้วยซ้ำ อีกอย่างที่เธอต้องไปฝึกงานที่บริษัทอื่นก็เป็นเพราะเขาไม่ใช่หรือไง ที่ไม่รับเธอเข้าฝึกงาน
"ใช่ค่ะ! ขนมมันไม่ได้เรื่องอะไรสักอย่างหรอก ทำอะไรก็ไม่เคยเข้าตา ไม่เคยถูกใจคุณอชิสักครั้ง มีแต่จะว่ากัน ส่วนเรื่องฝึกงานขนมจะไปสร้างความเดือดร้อนให้บริษัทใครก็เป็นเรื่องของขนม เพราะขนมไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้คุณอชิ ขอตัวนะคะ" มีไม่บ่อยนักหรอกที่ขนมหวานจะกล้าแสดงความไม่พอใจออกมา และกล้ายืนเผชิญหน้าต่อสู้สายตากับอชิระอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้หากไม่เหลืออดจริงๆ
ส่วนคนที่แสดงความไม่พอใจใส่ก็ยิ่งแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา ริมฝีปากหยักขยับกำลังจะเปล่งวาจาทว่าคนที่ยืนจ้องตาท้าทายเมื่อสักครู่กับสะบัดหน้าเดินหนีกลับเข้าไปในครัวซะแล้ว อชิระจึงต้องพ่นลมออกมาจากปากแทน
อชิเอ้ย พูดกับน้องดีๆ หน่อยสิครับ นั่นน้องนะ แต่ที่ไรท์อยากรู้คือขนมหวานไปทำให้อชิเกลียดหนักหนา พ่อแม่อชิจากไปเพราะขนมหวานเป็นต้นเหตุอย่างนั้นเหรอ