ส่วนคนที่เดินหนีมาเข้าครัว พ่นลมหายใจออกมาไม่ต่างกัน หันกลับไปมองยังโซฟาก็เห็นอชิระยังอยู่ที่เดิมก็โล่งใจ นึกว่าจะถูกชายหนุ่มกระโดดบีบคอเสียแล้วเมื่อสักครู่ ไม่รู้ตอนนั้นอะไรเข้าสิงให้เธอใจกล้าเสี่ยงตายพูดแบบนั้นออกไป
"เกือบไปแล้วขนม" ส่ายหน้าให้กับการกระทำอันขาดสติไปชั่วครู่ของตัวเอง รีบจัดการเก็บกวาดทำความสะอาดในห้องครัวให้เรียบร้อย
จากนั้นก็กลับขึ้นมายังห้องนอนอีกครั้ง โดยไม่ลืมจะหยิบน้ำแข็งที่ห่อใส่ผ้าขนหนูติดมือมาด้วย เพื่อมาจัดการประคบเย็นให้ตัวเอง เพราะยังรู้สึกแสบที่นิ้วไม่หาย ไม่รู้พรุ่งนี้จะมีถุงน้ำพองขึ้นมาหรือเปล่า
"แสบชะมัด"
ตุบ!
เสียงหลอดยาก็ร่วงลงมาบนเตียงตรงหน้า หญิงสาวที่นั่งหันหลังให้ประตูห้องรีบหันกลับไปมอง และก็พบว่ามีคนใจร้ายตีหน้ายักษ์ยืนอยู่ด้านหลัง
"ทาซะ ก่อนที่นิ้วจะเดี้ยงขึ้นมาซะก่อน" ไม่มีคำขอบคุณ มีเพียงความเงียบที่ส่งไปให้
เห็นหน้าอชิระขนมหวานก็นึกถึงคำพูดที่เขาพูดกับเธอที่ผ่านมาไม่ได้ อารมณ์ไม่พอใจก็หวนพัดกลับมา แต่ถึงอย่างนั้นก็หยิบหลอดยาขึ้นมาเปิดทา
เมื่อเห็นอีกคนเฉยชา ไม่พูดไม่จาเอาแต่นั่งทายาไปเงียบๆ คนที่คิดมีน้ำใจไปหายาทาแก้แผลถูกน้ำร้อนลวกมาให้ ก็เริ่มไม่สบอารมณ์ขึ้นมาบ้าง
คนอุตส่าห์ไปรื้อค้นมาให้ ขอบใจสักคำมันยากนักหรือไง
"คนเขาเอาของมาให้ คำว่าขอบใจไม่มีเลยใช่ไหม"
"ขอบคุณค่ะ" เอ่ยแบบขอไปที เหมือนตัดความรำคาญ ยิ่งทำให้อชิระหงุดหงิดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม สาวเท้าเข้ามายืนตรงหน้าขนมหวาน และกระชากแขนหญิงสาวจนร่างบางลอยขึ้นจากเตียงยืนเผชิญหน้ากัน
"คุณอชิขนมเจ็บนะ ปล่อยค่ะ" เจ็บจนนิ่วหน้า เมื่อถูกบีบที่ต้นแรงเต็มแรง พยายามแกะมือของอชิระออกจากแขนของตัวเอง แต่คนที่อยากเอาชนะอย่างอชิระ กลับบีบแรงขึ้นจนขนมหวานน้ำตาคลอ
"ความเจ็บของเธอมันยังเทียบไม่ได้กับความเจ็บของฉันด้วยซ้ำ" ตะโกนใส่หน้าหญิงสาวอย่างเกรี้ยวกราด เมื่อหวนคิดไปถึงเหตุการณ์ที่สูญเสียวันนั้น ภาพแห่งความเจ็บปวดปางตายที่เกิดขึ้นยังตามหลอกหลอนมาจนถึงทุกวันนี้
"แล้วคุณจะให้ขนมทำยังไง จะให้ขนมบอกอีกกี่ครั้งว่าขนมไม่ได้ตั้งใจ ขนมก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าคุณเลยด้วยซ้ำ"
"ความเสียใจของเธอมันเทียบไม่ได้กับความเสียใจของฉันหรอกขนม ต่อให้เธอชดใช้จนเธอตายไป ความเจ็บปวดของฉันก็ไม่มีวันหาย รู้เอาไว้ซะด้วย" ผลักร่างบางออกไปไกล จนขนมหวานล้มลงนั่งที่พื้น พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นทาง
เธอไม่ได้ตั้งใจ จะให้เธอบอกอีกกี่ครั้งว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ และเธอก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าเขาเหมือนกัน
"เธอไม่ต้องไปฝึกงานที่อื่นแล้ว ไปฝึกที่มหาลัยฉัน เพราะฉันไม่ไว้ใจคนร่านอย่างเธอ กลัวเธอจะมั่วกับผู้ชายคนอื่นลับหลังฉัน ฉันไม่อยากใช้ของร่วมกันกับใคร" ขนมหวานเงยหน้าที่เปื้อนด้วยน้ำตามองหน้าอชิระดั่งคนใจสลาย
หัวใจของเธอเจ็บปวดรวดร้าวเจียนตายกับคำพูดของเขาที่เอ่ยออกมา เขาหาว่าเธอร่าน เขาหาว่าเธอเป็นผู้หญิงใจง่ายที่นอนกับใครง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ คิดว่าเธอชอบเรื่องพวกนั้นจนขึ้นสมอง และพร้อมจะสนองตัณหาตัวเองกับชายแปลกหน้าได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรือไง
"ขนมไม่ได้ร่าน" กัดฟันข่มความเจ็บเอ่ยออกไป พยุงตัวลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับคนใจทมิฬที่เหยียดยิ้มเยาะเย้ยใส่เธออยู่ตอนนี้
"แน่ใจเหรอว่าเธอไม่ได้ร่าน ตอนเอากับฉัน ฉันสั่งให้ทำอะไรก็ทำไม่ใช่เหรอ อยากได้ฉันจนตัวสั่น ยอมทำตามฉันทุกอย่าง แล้วอย่างนี้ยังบอกว่าไม่ได้ร่านอย่างนั้นอีกเหรอ หึ!"
พูดจบก็หมุนตัวเดินออกจากห้องไป กำลังจะยื่นมือไปคว้าลูกบิดเพื่อเปิดประตูแต่ก็ต้องชะงัก เพราะประโยคของขนมหวานที่ดังตามหลังมา
"ที่ขนมทนอยู่กับคุณเพราะขนมรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องจากไป แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะพูดจาทำร้ายจิตใจของขนมยังไงก็ได้ ขนมมีหัวใจ ขนมเจ็บ และขนมก็เจ็บมาก อย่าให้ความอดทนของขนมต้องหมดลง เพราะถ้าขนมเจ็บมากๆ ขนมจะไม่ทนอยู่ที่นี่ให้คุณทำร้ายหัวใจของขนมอีก ขนมจะไปจากชีวิตคุณ และจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก" อชิระหันขวับกลับมามองขนมหวานตาขวาง ยกมือขึ้นชี้หน้าหญิงสาว
"ต่อให้เธอมีปีก เธอก็หนีฉันไม่พ้นขนม อย่าคิดจะบินหนีฉัน ถ้าฉันไม่อนุญาตให้เธอไป เธอก็ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น จำใส่สมองเธอเอาไว้ซะ"