"นี่ขนม สรุปแกจะไปฝึกงานที่ไหนกันแน่ ไปกับฉันหรือว่าฝึกที่มหาลัยพี่ชายบุญธรรมใจยักษ์ของแก" ใบบัวเอ่ยถามขึ้น ระหว่างทั้งสองคนกำลังนั่งทานอาหารอยู่ในร้านแห่งหนึ่งภายในห้างสรรพสินค้า
"คุณอชิเขาให้ฉันฝึกที่มหาลัยน่ะ" ใบบัวหัวเราะหึในลำคอ พลางยกยิ้มขึ้นตามแบบฉบับสาวทะเล้น สมกับสาวเปรี้ยวที่แต่งหน้าแต่งตัวจัดจ้าน
"ไหนแกบอกว่าเขาไม่สนใจแกไง แล้วทำไมถึงเอาแกเหน็บรักแร้ไว้ขนาดนี้ ปากไม่ตรงกับใจเอาซะเลย"
"เขากลัวฉันไปอ่อยผู้ชายคนอื่นต่างหาก ก็เลยจะเอาฉันไว้ใกล้หูใกล้ตา"
"จริงอะ นี่ถามจริง ไม่คิดจะหนีจากผู้ชายใจร้ายคนนี้บ้างเหรอ ทำไมแกจะต้องทนอยู่ให้เขาทำร้ายด้วยอะ หรือว่าแกหลงลีลาเขาเวลาอยู่บนเตียง" ขนมหวานฟาดฝ่ามือลงบนต้นแขนของเพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวจนเกิดเสียงดัง
เพี๊ยะ!!
"โอ๊ย! ขนมแกตีฉันทำไมเนี่ย แดงเลยอะ" คนถูกตีลูบแขนตัวเองป้อยๆ
"ก็แกพูดอะไรไม่เข้าท่า น่าเกลียด ฉันไม่ได้หลงลีลาอะไรเขาขนาดนั้นหรอก ที่ฉันต้องอยู่เพราะฉันสงสารเขา ฉันทำให้เขาต้องเสียคุณพ่อคุณแม่ไป ฉันทำลายครอบครัวเขา ทำลายความสุขของเขา"
"โอ๊ยยย…ยัยขนม เมื่อไหร่แกจะเลิกเอาความผิดเรื่องนี้มาสุมใส่ตัวเองสักที ถ้าพูดกันตามหลักความเป็นจริง แกมีส่วนผิดมันก็ใช่ แต่เขาก็มีส่วนผิดเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ถ้าเขาไม่บอกความจริงว่าแกไม่ใช่ลูกของคุณพ่อคุณแม่เขา แกก็คงไม่สติแตกและวิ่งออกมาหรอก" ใบบัวพยายามพูดให้เพื่อนไม่เอาความทุกข์และความผิดมาทุ่มใส่ตัวเองอยู่ฝ่ายเดียว
แต่ก็เหมือนคำพูดของเธอจะเป็นเพียงลมที่พัดผ่านมาและผ่านไป เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ใบบัวพูดกับขนมหวานแบบนี้ แต่พูดจนขี้เกียจจะพูดเสียด้วยซ้ำ
"มันก็ใช่ แต่ถ้าฉันไม่ไปยั่วโมโหและยุ่งวุ่นวายเรื่องของเขามากเกินไปจนเขารำคาญ เขาก็คงไม่โมโหจนพูดความจริงออกมาหรอก เฮ้อ!" ยกมือขึ้นเท้าคางถอนหายใจออกมา
"เนี่ย แกก็เป็นแบบนี้ หาข้ออ้างมาแก้ตัวให้เขาตลอด ไม่ว่าฉันจะพูดว่าเขาเลวยังไง แกก็ยังเข้าข้างเขา หาข้ออ้างมาแก้ตัวให้เขา รักเขาจนหมดใจแล้วรู้ตัวหรือเปล่า"
"ใครรักใครเหรอใบบัว" เสียงทุ้มพร้อมทั้งร่างสูงในชุดนักศึกษาเดินยิ้มโชว์ฟันสวยเข้ามาหา ทรุดตัวลงนั่งข้างขนมหวานที่มีเก้าอี้ว่างอยู่อีกตัว
"นั่งด้วยคนนะ"
"แกนั่งลงมาก่อนแล้วเหอะถึงค่อยขอ" ใบบัวประชดกลับอย่างหมั่นไส้ ยิ่งเห็นชายหนุ่มลูกครึ่งผมสีน้ำตาล ตาสีฟ้าตรงหน้า นั่งส่งยิ้มกระชากใจสาวตอบกลับมาก็ยิ่งพาลไม่ถูกชะตา
"นั่งก่อนนั่งหลังก็ขอเหมือนกันแหละน่า ใช่ไหมครับขนมหวาน" หันมาถามสาวสวยที่ตนแอบปลื้มอยู่ลึกๆ ซึ่งแน่นอนว่าสายตาหวานเชื่อมที่มองขนมหวาน มีหรือที่จะรอดพ้นสายตาของใบบัวไปได้
"ค่ะ"
"น่ารักจัง ขนมนี่อ่อนหวานน่ารักสมกับเป็นผู้หญิงจริงๆ นะ ไม่เหมือนใครบางคนแถวนี้ห้าวอย่างกับผู้ชาย"
"ไอ้เวร นี่แกด่าฉันเหรอ" จากที่ชื่อเวลตันก็ถูกเปลี่ยนให้สั้นลงเหลือแค่เวรเท่านั้นสำหรับใบบัว
"ฉันชื่อเวล ยัยบัวเน่า ช่วยเรียกให้ถูกด้วยจะได้ไหม"
"ส่วนฉันชื่อใบบัว ช่วยเรียกให้ถูกด้วยเหมือนกัน"
"ก็เธอเริ่มก่อนนะ"
"แต่นาย..."
"บัว เวล พอเถอะ เสียงดังคนเริ่มมองแล้วนะ สองคนนี้เป็นอะไร เจอกันทีไร ชอบทะเลาะกันทุกที ระวังนะทะเลาะกันไปทะเลาะกันมาจะหลงรักกันไม่รู้ตัว"
ทั้งสองคนแทบจะสำลักน้ำลายตัวเองออกมา กับคำพูดของขนมหวาน รักกันอย่างนั้นเหรอ
"ไม่มีทาง!" สองเสียงเปล่งออกมาอย่างพร้อมเพรียงโดยมิได้นัดหมาย ก่อนทั้งคู่จะหันมาแยกเขี้ยวใส่กันราวกับเสือสองตัวที่อยู่ร่วมถ้ำเดียวกันไม่ได้
"ใจตรงกันไปอีก"
"ไม่ใช่!..." นั่น...ยังพูดออกมาพร้อมกันอีกรอบเสียด้วย
"นี่นาย จะพูดตามฉันทำไม"
"เธอนั่นแหละที่พูดตามฉัน"
"หยุดๆๆ อย่าทะเลาะกันเลย อายเขา ยังไงเราก็เพื่อนกัน นะใบบัว นะเวลนะ" เมื่อสถานการณ์เริ่มจะบานปลายขนมหวานจึงเข้าทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยให้คนทั้งคู่สงบศึก
"นี่ฉันเห็นแก่ขนมนะ ไม่อย่างนั้นฉันไม่ยอมนายหรอก" ใบบัวเชิดหน้าตอบออกไป
"ฉันก็เห็นแก่ขนมเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นฉันไม่ยอมเธอหรอก" เวลตันเชิดหน้าตอบกลับไปเช่นกัน ต่างคนก็ต่างไม่ยอมสยบให้กัน
ขนมหวานได้แต่นั่งยิ้ม ส่ายหน้าให้กับเพื่อนทั้งสองคน ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานถึงสามปี แต่สองคนนี้ก็ยังไม่กินเส้นกันตั้งแต่วันแรกที่กันจนถึงวันนี้
ขนมหวานลงจากวินมอไซต์รับจ้างที่หน้าบ้าน หลังจากหญิงสาวแวะเข้าตลาดสดหน้าหมู่บ้านเพื่อซื้อของสดเข้าครัวทำอาหารทาน เพราะอชิระไม่ชอบทานอาหารสำเร็จรูปที่เป็นถุง เขามักอารมณ์เสียและหงุดหงิดทุกครั้งที่รับประทานอาหารพวกนั้น ขนมหวานจึงต้องเป็นแม่ครัวเข้าครัวทำอาหารให้อชิระทานทั้งอาหารเช้าและเย็นตามที่ชายหนุ่มสั่ง
เท้าบางชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเดินเข้ามาในบ้าน และเห็นว่ารถยนต์ของอชิระจอดอยู่ในโรงจอดรถ ทั้งที่ตอนนี้เพิ่งจะเป็นเวลาบ่ายสี่โมงเย็นเท่านั้น ยังไม่ได้เวลาที่ชายหนุ่มจะกลับบ้านเสียหน่อย
ขนมหวานที่ถือถุงของสดของแห้งเต็มสองมือ รีบเร่งฝีเท้าเดินเข้าบ้าน และสิ่งแรกที่เห็นคือร่างสูงในชุดทำงานเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนและกางเกงสีดำ กำลังยืนเท้าเอวมองมาที่เธอผ่านแว่นที่สวมใส่อยู่หน้าประตูห้องครัว ขนมหวานจึงเดินเข้าไปหา
"กลับมาแล้วเหรอคะ" ถ้าคนตรงหน้าไม่ใช่ผี เขาก็กลับมาแล้วล่ะขนมหวานเอ๊ย แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อตอนนี้เธอคิดอะไรไม่ออกนอกจากคำพูดไร้สมองนี้
"ไปไหนมา"
"ไปมหาลัยมาค่ะ แล้วก็แวะตลาดซื้อของ" พูดพร้อมกับยกถุงที่ถืออยู่ในมือให้อชิระดู เพื่อยืนยันคำพูดตัวเอง แต่แปลกเธอกลับรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะพบเจอกับพายุลูกใหญ่อย่างไรอย่างนั้น
อชิระตีหน้าบึ้งเดินเข้ามาหาขนมหวานช้าๆ จ้องหญิงสาวตาไม่กะพริบ กรามขบกันแน่นจนเห็นเป็นสันนูนขึ้นมา ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา และเปิดอะไรบางอย่างยื่นมาตรงหน้าของขนมหวาน
ขนมหวานเห็นรูปในสมาร์ทโฟนที่อชิระเปิดให้ดูตรงหน้าก็ลอบกลืนน้ำลายลงคอ รู้โดยทันทีว่าอชิระกำลังเข้าใจผิด เขากำลังคิดว่าเธอกับเวลตันเป็นแฟนกัน
"มันไม่ใช่อย่างที่คุณอชิเข้าใจนะคะ คุณอชิกำลังเข้าใจผิด" รอยยิ้มร้ายปรากฏบนใบหน้า เดินเข้าใกล้จนแทบจะชิดติดกับขนมหวาน มือหนายื่นมาบีบคางมนแน่น
"ฉันไม่ใช่คนโง่นะ ที่จะมองไม่ออกว่าผู้ชายคนนี้มันคิดอะไรกับเธอ" ยิ่งพูดไฟก็ยิ่งสุมทรวง
ตอนที่เห็นผู้ชายหน้าตาลูกครึ่งคนนั้นมันยิ้มให้ขนมหวาน สายตาที่มันมองขนมหวานมีอะไรแฝงอยู่มากกว่าคำว่าเพื่อน อชิระก็แทบจะเดินเข้าไปชกหน้าผู้ชายคนนั้นสักหมัด
"ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหม อย่าว่าแรด อย่าร่านกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน" สะบัดมือออกจากคางของขนมหวาน จนหญิงสาวเสียหลักเซไป
ขนมหวานหันกลับมามองอชิระด้วยความไม่พอใจที่มีคับอก มือกำถุงอาหารที่ถือเอาไว้แน่น เธอกับเวลตันเป็นเพื่อนกัน เธอไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเวลตันทั้งนั้น มีแต่เขานั่นแหละที่ยัดเหยียดให้เธอแรดและร่าน
"ขนมกับเวลไม่ได้เป็นอะไรกัน เราสองคนคือเพื่อนกัน" รู้อยู่เต็มอกว่าพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ อชิระไม่มีวันฟังในสิ่งที่เธอพูดหรืออธิบาย เพราะเขาได้ตัดสินเธอไปแล้วว่าเธอต้องเป็นอย่างที่เขาเข้าใจ แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากบอกออกไปให้เขาฟัง ด้วยหวังว่ามันจะเข้าหูเขาบ้าง
"แน่ใจเหรอ ว่ามันคิดกับเธอแค่เพื่อน อย่าให้ฉันเห็นอีกนะขนม ว่าลับหลังฉันเธอมีผู้ชายคนอื่น"
"ทำไม คุณจะทำอะไร ทีคุณยังมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าขนมได้เลย" อชิระกระชากแขนเรียวเข้ามาเต็มแรง จนร่างบางปลิวตามแรงกระชาก ข้าวของที่ถืออยู่ในมือร่วงลงสู่พื้นแต่ทั้งคู่กับไม่ได้สนใจ
"ทำไมเหรอ ฉันจะทำอะไรอย่างนั้นเหรอ ฉันก็จะทำให้เธอรู้ไง ว่าฉันคือเจ้าชีวิตของเธอเหมือนที่ผ่านมา โดยฝากร่องรอยเอาไว้ตามร่างกายของเธอ เวลาผู้ชายคนไหนมันเห็นร่างกายเธอ มันจะได้รู้ว่าเธอไม่ได้ใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนที่เธอแสดงออกมา จริงๆ แล้วเธอทั้งแรดและร่าน ยิ่งเวลาที่เธอถูกฉันแทงนะ เธอโคตรจะร่าน" ขนมหวานสะบัดมือของอชิระออกจากแขนของตัวเองสุดแรง มองชายหนุ่มด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส คนที่ทำร้ายทำลายหัวใจของเธอจนแตกสลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ชอบพูดว่าเธอร่าน เธอแรดใช่ไหม ได้...เธอจะแรดและร่านให้เขาดูเอง
"ใช่! ขนมร่าน ขนมแรด แรดและร่านมากด้วย อยากเอากับคุณอชิใจจะขาดแล้ว ช่วยสงเคราะห์ผู้หญิงแรดร่านคนนี้หน่อยได้ไหมคะ ในห้องครัวนี้เลยก็ได้ เปลี่ยนบรรยากาศบ้างจะได้ไม่เบื่อ"
คนที่ใจแตกสลายไม่มีชิ้นดี จ้องเข้าไปในดวงตาคมของคนใจร้ายไม่วางตา ในขณะที่มือก็ค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของตัวเองไปทีละเม็ด จนมาถึงเม็ดสุดท้าย เผยความอวบอิ่มของทรวงอกคู่งามที่มีบราเซียสีขาวลูกไม้ห่อหุ้มไว้ มีร่องรอยจากบทรักครั้งเก่าที่อชิระฝากไว้ให้เห็น
อชิระมองสิ่งที่ขนมหวานกระทำขณะนี้ด้วยความไม่เข้าใจ คิ้วเข็มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา อยากเห็นเหมือนกันว่าขนมหวานจะทำอะไร
เข็มขัดนักศึกษาถูกโยนลงที่พื้น กระโปรงนักศึกษาทรงเอถูกรูดซิปลง และสุดท้ายก็ร่วงลงไปอยู่ปลายเท้า ตามมาด้วยเสื้อนักศึกษาก็ถูกโยนทิ้งลงพื้นเช่นกัน ร่างกายสวยงามขาวผ่องมีเพียงชั้นในสองชิ้นติดกาย
สายตาคมตวัดมองร่างกายสวยงามตรงหน้า ลมหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ และสะดุดบ้างเป็นบางจังหวะ จ้องมองทรวงอกคู่งามที่ใหญ่เกินตัว ลากต่ำลงมายังหน้าท้องแบนราบเลยมายังดินแดนสามเหลี่ยม ที่มีชั้นในลูกไม้สีขาวเข้าชุดกันปกปิดไว้
"ยั่วฉันเหรอ" พยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น แม้มันจะแหบพร่าไปหน่อย มิหนำซ้ำตรงนั้นของร่างกายก็เหมือนจะขยายใหญ่คับชั้นในขึ้นมา
ขนมหวานไม่ได้ตอบอะไรกลับ เดินเข้ามาใกล้อชิระมากขึ้น ใบหน้าไร้ซึ่งความรู้สึก แต่เต็มไปด้วยความอดสูของชีวิตตัวเองในขณะนี้ จับมืออชิระมาวางไว้บนทรวงอกของเธอหนึ่งข้าง และเอามืออีกข้างของชายหนุ่มวางไว้ที่หน้าท้องแบนราบ
"ช่วยทำให้ผู้หญิงร่านคนนี้ หายคันทีสิคะ"