10

1163 Words
พลอยวารินทร์ยิ้มขอบคุณ พอรถเบนซ์คันหรูรุ่นใหม่ล่าสุดเลี้ยวเข้าศูนย์การค้า บอดี้การ์ดก็ลงมาเปิดประตูให้เธอ พลอยวารินทร์ลงจากรถก็ตรงไปที่แผนกซูเปอร์มาร์เก็ต เธอเดินซื้อของด้วยความสบายใจเพราะคิดถึงใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มที่จะยิ้มหวานยามเห็นขนมถูกใจมาอยู่ต่อหน้า บอดี้การ์ดหอบของเต็มมือตอนที่พลอยวารินทร์บอกว่าซื้อของเสร็จแล้ว และขึ้นไปนั่งอยู่เบาะหลังรถเรียบร้อย วันนี้เธอเดินซื้อของนานไปหน่อยแต่ก็วางใจได้ว่าลูกสาวอยู่กับนีน่า ระหว่างนั่งมองทางเพลิน ๆ พลอยวารินทร์ก็ต้องขมวดคิ้ว หรี่ตามองไปที่บอดี้การ์ดที่นั่งด้านหน้าสองคน “ซื้อของเสร็จแล้วกำลังจะกลับครับคุณอีวาน” บอดี้การ์ดคนที่นั่งอยู่เบาะข้าง ๆ คนขับเป็นคนคุยโทรศัพท์แล้วก็รีบวางสายไป พลอยวารินทร์จึงถามขึ้นบ้าง “คุณอีวานโทร.มาเหรอ พวกเขาไม่เห็นต้องกลัวว่าฉันจะหนีไปไหนเลยนี่นา ลูกของฉันอยู่กับเขา ฉันไม่มีทางหนีไปไหนหรอก” “คุณอีวานได้รับคำสั่งจากคุณเฮย์เดนให้โทร.มา คุณเฮย์เดนเป็นห่วงคุณเอพริลมากครับ” พลอยวารินทร์แค่นเสียงในลำคอ “เป็นลูกน้องมืออาชีพจริง ๆ แม้อยู่ลับหลังก็ยังเข้าข้างกันตลอด” พลอย วารินทร์พูดแค่นั้นก็ไม่พูดอะไรอีก หวังว่าเขาแค่โทร.มาถามนะไม่ได้ไปรอที่เพนต์เฮาส์ ทว่าสิ่งที่พลอยวารินทร์คิดก็เป็นจริงเพราะทันทีที่เปิดประตูบานใหญ่เข้าไป ภาพตรงหน้าก็ทำให้เธอหัวหมุนติ้ว เฮย์เดนกำลังเล่นหยอกล้อกับไข่มุก เสียงหัวเราะของลูกสาวดังไปทั่วบริเวณ ที่สำคัญเฮย์เดนให้ไข่มุกขี่คออยู่ ส่วนเขากำลังวิ่งไปมารอบ ๆ ห้อง เธอไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าจะเห็นเขาทิ้งมาดซีอีโอที่เคร่งขรึมมาเป็นคุณพ่อได้ “ไข่มุก” เธอเรียกเบา ๆ เพื่อให้พ่อลูกรู้ตัว ไข่มุกหันมาแล้วก็ยังหัวเราะคิกคักกับการเล่นกับพ่อแล้วไม่สนใจเธออีก พลอยวารินทร์หน้าเหวอ ปกติหนูน้อยเห็นหน้าเธอต้องวิ่งเข้าหาทันทีไม่ใช่อาการแบบนี้ที่ลูกไม่เห็นความสำคัญ หัวใจดวงน้อยเริ่มเครียด กลัวว่าความฝันที่จะพาลูกกลับเมืองไทยด้วยจะยิ่งดับวูบ ฝ่ายนั้นต้องการทำให้ลูกสาวติดเขา “กลับมาแล้วหรือคุณ ไปไหนมาทำไมกลับมาช้าจัง รู้ไหมไข่มุกหิวมาก ผมทำแพนเค้กให้ไข่มุกกินไปแล้ว ผมทำเผื่อคุณด้วยนะ อยู่ในห้องครัว ลองชิมดูสิถึงหน้าตาจะดูไม่ดีแต่ไข่มุกกินเข้าไปแล้วแกก็บอกผมว่าแด๊ดดี้ แด๊ดดี้ทำให้ไข่มุกอีกนะคะ” เขาเล่าพลางเลิกคิ้วให้เธออย่างท้าทายราวกับประกาศศึกว่าฝีมือแม่ไม่ใช่ไม้ตายแย่งลูกเขาไปได้อีกแล้ว “นี่มันอะไรกัน” พลอยวารินทร์คราง วางถุงที่อยู่ในมือลงกับโซฟาใกล้ ๆ แล้วเดินไปดูแพนเค้กที่เฮย์เดนทำก็ขมวดคิ้ว เธอไม่เคยรู้เลยว่าเขาทำอาหารเป็นด้วย เฮย์เดนเดินตามหลังเข้ามา “ชิมได้นะคุณไข่มุกยังบอกว่าอร่อย เด็กไม่โกหกหรอก” “ฉันไม่ชอบกินแพนเค้ก” พลอยวารินทร์ตอบไปแบบนั้นเพื่อตัดปัญหาไม่ชิมของคนแปลกหน้า “ฉันไปแวะซูเปอร์มาร์เก็ตซื้อของกินมาเพิ่มเลยกลับมาช้าไปหน่อย ขอโทษด้วยที่ปล่อยให้คุณต้องดูแลลูก” พลอยวารินทร์ตอบอย่างระมัดระวังแล้วเดินเข้าไปทำท่าจะขออุ้มไข่มุกคืน “ไข่มุกคนดีมาหาแม่นะคะ แม่คิดถึงลูกจัง ขอแม่หอมแก้มให้ชื่นใจหน่อยนะคะ” “ไม่เอาค่ะ” ไข่มุกจิ้มที่แก้มป่องสีนมสดอมชมพู “แด๊ดดี้จองแก้มไข่มุกไว้แล้วค่ะ” “อะไรนะ จองกันได้ด้วยเหรอ” เธอเงยหน้ามองพ่อของลูก “ไม่เป็นไรมามี๊หอมหน้าผากลูกแทนก็ได้” พอคนเป็นแม่จะก้มลงจุมพิตหน้าผากลูกรักให้สมกับความคิดถึงก็ได้ยินเสียงใสตอบกลับมา “แด๊ดดี้บอกว่าตรงนี้แด๊ดดี้ก็จองคนเดียว” “นี่คุณทำอะไรกับลูกคะ จองแก้มลูก จองหน้าผากลูก คุณจะให้ฉันหอมไข่มุกตรงไหน” พลอยวารินทร์ถามเสียงสูง ด้วยอาการหวงลูก “ถ้าไม่รู้จะหอมตรงไหน หอมแก้มผมแทนก็ได้นี่ครับ” เขาว่าพลางยื่นหน้ามาให้ ‘หน้าด้าน’ ต่อหน้าลูกสาวที่มองมาตาแป๋วพลอยวารินทร์จึงไม่ได้โต้กลับเขา เพราะคราวแรกหนูน้อยไม่ยอมให้พ่ออย่างเขาหอมแก้ม คุณพ่อคนฉลาดจึงต้องสร้างความคุ้นเคยกับลูกสาวมาค่อนวันและจัดของขวัญชุดใหญ่มาเอาใจสาวน้อย ด้วยสายเลือดที่ย่อมเข้มข้นกว่าน้ำใช้เวลาไม่นานหนูน้อยก็ติดเขางอมแงมเรียกหาแต่แด๊ดดี้ แด๊ดดี้ตลอดเวลา “ไข่มุกมากับแม่เถอะ ไปอาบน้ำกันนะคะคนดี” “แต่แด๊ดบอกว่าจะพาไข่มุกไปหัดว่ายน้ำ” พลอยวารินทร์หันหน้าเป็นเครื่องหมายคำถามไปทางเฮย์เดน “หมายความว่ายังไงคะ พาไข่มุกไปหัดว่ายน้ำ” เฮย์เดนทำหน้าเมื่อย บนคอเขายังมีไข่มุกที่นั่งเล่นขยุ้มหัวเขาอยู่แต่เขาไม่ถือสา “ก็หมายความว่าผมจะสอนไข่มุกว่ายน้ำยังไงล่ะ มีความหมายตรงไหนที่คุณไม่เข้าใจกันเอพริล คุณไปทำอาหารเย็นเถอะ ผมจะเล่นกับลูกเอง เสร็จแล้วผมจะได้กินอาหารเย็นด้วยเลย” ‘ใครชวน’ พลอยวารินทร์ตั้งคำถามในใจ “มองอยู่ได้ไม่เข้าใจที่ผมสั่ง เอ่อ ที่ผมบอกเหรอ” พลอยวารินทร์อ้าปากค้างเหวอหนักกว่าเก่า “ทำไมต้องอยู่ทานอาหารเย็นด้วยกันด้วยคะ ทำไมไม่กลับไปทานที่บ้านของคุณ อีกอย่างเมื่อก่อนคุณก็ไม่เคยมาสนใจเราสองคนแม่ลูก ฉันอยากอยู่กับลูกสองคนเงียบ ๆ” ครั้งนี้เป็นเฮย์เดนที่ทำหน้าเมื่อยบ้าง “เอพริลคุณเข้าใจผิดแล้วนะ ที่ผมไม่มายุ่งกับคุณก็เพราะคุณบอกว่าต้องการขอเวลาเลี้ยงลูกหนึ่งปี ผมจึงให้เวลา ให้โอกาสกับคุณได้อยู่ใกล้ชิดกับลูกให้มากที่สุด แต่ผมเป็นพ่อผมก็คิดถึงลูกเหมือนกัน ช่วงเวลาหนึ่งถึงสี่ขวบแรกเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ผมเองก็ไม่อยากพลาดโอกาสนั้น ผมต้องการจะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูกเหมือนที่ผมเคยได้รับมา”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD