“ตลกเนอะ นี่เธอซื่อหรือโง่ที่ไม่รู้ว่าน้าเธอส่งเธอมาแลกกับโฉนดผืนนี้” อชิราวางมันลงตรงหน้าหญิงสาว ดารินหยิบขึ้นมาดูด้วยความตกใจ เธอไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ชายหนุ่มคนนี้พูด แต่พอเธอได้เห็นกับตาว่ามันคือโฉนดที่ดินบ้านของเธอ หญิงสาวก็เข่าแทบทรุดด้วยความเสียใจ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าน้าชายที่เธอเคารพดังบุพการีจะทำเช่นนี้กับเธอ
“ไม่จริง น้าฉันไม่มีทางทำแบบนี้” หญิงสาวส่ายหน้าน้ำตาคลอ ช่างเป็นภาพที่น่าเวทนาเหลือเกิน
“ถ้าไม่จริงโฉนดผืนนี้จะมาอยู่ในมือของฉันได้ยังไง ถ้าเธอไม่เชื่อเธอจะลองโทรหาน้าเธอดูก็ได้นะ ฉันว่าตอนนี้น้าเธอน่าจะพูดความจริงกับเธอได้แล้ว” อชิราสงสารผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า แต่ความสวยชนิดหาตัวจับได้ยากของเธอมันก็ทำให้เขาตัดสินใจปล่อยเธอไปไม่ได้เช่นกัน
“ฉันโทรแน่” เมื่อกล่าวจบหญิงสาวก็หยิบโทรศัพท์ออกมาต่อสายหาผู้เป็นน้าทันที เมื่อเธอได้ฟังสิ่งที่น้าของเธอบอก หญิงสาวถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ น้าชายของเธอบอกเธอเพียงคำเดียวว่าเขาขอโทษ แล้วเธอล่ะ เธอจะเอาอย่างไรกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าดี
“ว่าไง ได้ยินหรือยังล่ะ ว่าเรื่องทั้งหมดนี้คือเรื่องจริง เธอคงถูกน้าของเธอหลอกมาสินะ” แม้ว่าจะเห็นใจ แต่เขาคงจะไม่มีทางปล่อยเธอไป ยกเว้นเสียแต่เธอจะเป็นคนยกเลิกสัญญานี้ของน้าเธอเอง เพราะถึงแม้ว่าเขาจะต้องการเธอแค่ไหน แต่เขาก็ไม่อยากขึ้นชื่อว่าข่มขืนใคร
“ค่ะ ถ้าฉันไม่ทำตามที่น้าบอกล่ะคะ” แม้ว่าจะเสียใจ แต่หญิงสาวก็ยังมีสติต่อรองเรื่องของตนเองกับชายหนุ่ม
“ฉันก็แค่ขายทอดตลาดบ้านหลังนี้ก็เท่านั้น เพราะฉันไถ่ถอนมันออกมาจากธนาคารแล้ว และฉันก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเก็บบ้านหลังนี้ไว้” นี่ไม่ใช่คำขู่ แต่มันคือสิ่งที่ชายหนุ่มจะทำ ถ้าหากว่าหญิงสาวปฏิเสธข้อเสนอนี้
“ให้ฉันผ่อนให้คุณไม่ได้เหรอ” หญิงสาวกล่าวทั้งน้ำตา
“แล้วฉันจะได้อะไร ฉันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น มีแต่น้าเธอมายื่นข้อเสนอกับฉันเอง เพราะฉะนั้นเลิกต่อรองได้แล้ว ถ้าไม่ทำก็กลับไป” เสียงของชายหนุ่มช่างเด็ดขาดเสียจนหญิงสาวไม่กล้าอ้าปากที่จะต่อรองใดๆ กับเขาอีก
“ค่ะ ฉันตกลง” หญิงสาวเงียบไปสักพัก ก่อนที่เธอจะตอบเขาไปด้วยความอดสู
“ดี งั้นก็ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วไปรอที่เตียง” รอยยิ้มมุมปากถูกยกขึ้นด้วยความพอใจ