บทที่ 8 วันแรก

1339 Words
ไม่นานนัก รถยนต์หรูคันนั้นก็มาจอดที่หน้าอาคารเรียนของคณะวิศวกรรมศาสตร์ ไซม่อนก้าวลงมาจากรถด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย เงียบขรึมเหมือนทุกวัน แต่หากสังเกตดี ๆ จะพบว่าในแววตานิ่งนั้นมีเงาของความเหนื่อยล้าและความเศร้าลึกซ่อนอยู่ ทันใดนั้นเอง เสียงทักทายจากกลุ่มเพื่อนสนิทก็ดังขึ้นทันทีเมื่อเขาเดินเข้ามา “ไอ้ไซม่อน!” ปราชญ์ เพื่อนสนิทที่เรียนวิชาเดียวกันโบกมือเรียก พร้อมกับพูดกลั้วหัวเราะแฝงความห่วงใย “เป็นไงวะมึง… ให้กูปลอบใจไหมล่ะ” ไซม่อนยกคิ้วนิด ๆ แต่ไม่ได้ตอบอะไร พาย หนุ่มสายชิลอีกคนที่มักจะหาเรื่องให้พวกเขาหัวเราะเสมอ เสริมทันที “เอางี้ดิ ไอ้ไซบีเรียน เดี๋ยวเย็นนี้กูพาไปเดินคณะอักษรเลย รับรอง เด็กปีหนึ่งเด็ด ๆ ทั้งนั้น ส่วนปีสี่ก็เด็ดเหมือนกัน โดยเฉพาะวิเวียน น่ารักโคตร” ปราชญ์หลุดหัวเราะในลำคอ “มึงก็ยังไม่เลิกเรียกมันว่าไซบีเรียนอีกเรอะ” พายยักไหล่ “ก็หน้ามันเหมือนหมาพันธุ์นั้นจริงปะล่ะ” “กูว่ามึงหน้าควายกว่าเยอะ” ปราชญ์สวนกลับทันควัน ทำเอากลุ่มเพื่อนหัวเราะกันครืน “เออ ๆ แล้วอีกคนที่มึงว่าอะ ชื่ออะไรนะ น่ารัก ๆ เงียบ ๆ ไม่ค่อยเห็นมาเรียนบ่อยอะ” พายถามต่อ “มิวาครับ… ไอ้ควาย” ปราชญ์ตอบเสียงเน้น พร้อมปรายตาใส่เพื่อนตัวดี “มึงก็แรงไป๊! กูพายครับเพื่อน” พายทำเสียงเหนียม ๆ ปนหัวเราะ “แล้วมึงยังเรียกไซม่อนว่าไซบีเรียนเลยไม่ใช่เรอะ กูเรียกควายไม่แปลก” ปราชญ์ตอบหน้าตาย “โห่ ไอ้ปราชญ์ มึงนี่รักเพื่อนไม่เท่ากันเลยนะเว้ย” เสียงหัวเราะของเพื่อนกลบความอึมครึมในใจของไซม่อนไปชั่วขณะหนึ่ง เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ยืนมองเพื่อน ๆ ของเขาทะเลาะหยอกกันเหมือนเคย จากนั้น พายก็เท้าคางมองไซม่อนอย่างใช้ความคิด แล้วชวนขึ้นมาลอยๆ ว่า “ตอนเย็นไปหาสาวกับกูเปล่าวะ เผื่อผ่อนคลายหน่อย งานหนักพักบ้างอะไรบ้าง” ไซม่อนส่ายหน้าเล็กน้อย พลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นเช็กเวลา ก่อนตอบเสียงเรียบ “กูต้องไปทำงานว่ะ โทษที วันหลังละกัน” “โห เสียดายฉิบหาย” พายคราง “กะจะพาไปจีบเด็กอักษรซะหน่อย ได้ข่าวว่ายังไม่มีใครเคยผ่านมือชายมาเลยด้วยนะเว้ย โดยเฉพาะมิ..” ปราชญ์ทำหน้าระอา “ไอ้พาย มึงนี่…” “เอาน่า มันเป็นแรงบันดาลใจให้ชีวิต!” พายเถียงก่อนหัวเราะ “เอาจริง มึงนึกภาพดิ เด็กอักษรหน้าตาใส ๆ ใส่แว่นบางๆ หิ้วหนังสือมาเป็นตั้ง” “พอเลยไอ้พาย มึงให้เกียรติท่านประธานไนท์คลับหน่อย” ปราชญ์แทรกขึ้นมาก่อนจะหันไปมองไซม่อน “ระดับนี้แล้ว คงไม่จีบแค่เด็กมหาลัยหรอกปะวะ” “เออเว้ย ท่านประธานสุดหล่อของเรา คิวงานแน่นจีบใครไม่ได้หรอก” พายแซวอีกทีแล้วทำเสียงล้อเลียน ไซม่อนยิ้มเล็กน้อยแต่แววตามืดมนอย่างเหนื่อยล้า ก่อนพูดขึ้นเสียงนิ่งแต่จริงจัง “พอ ๆ มึงสองคนอ่ะ… เรื่องรักกูเอาไว้ก่อน ตอนนี้กูต้องจริงจังกับงาน กูสัญญาไว้กับลุงซีโร่แล้ว” ทันทีที่พูดชื่อซีโร่ เพื่อนทั้งสองก็เงียบไปอึดใจหนึ่ง รู้ดีว่าผู้ชายคนนี้คือเบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของไซม่อนในโลกมืด “โอเค ๆ เข้าใจละ” ปราชญ์พูดคล้ายถอนหายใจ “แค่จะบอกไว้ว่า ถ้างานหนักหรือเหนื่อยใจเมื่อไหร่ นึกถึงพวกกูไว้เลยนะเว้ย” “เออ” พายพยักหน้าตาม “ไม่ต้องห่วง พวกกูช่วยมึงคลายเครียดได้ทุกแนว ทั้งแบบถูกกฎหมายและ…เกือบถูก” “กูจะพิจารณา” ไซม่อนว่าเรียบๆ แต่ในน้ำเสียงนั้นมีแววอบอุ่นซ่อนอยู่ อีกด้านหนึ่ง… ในห้องเรียนที่แสงแดดอ่อน ๆ ส่องลอดหน้าต่างเข้ามา โต๊ะริมหน้าต่างฝั่งขวาสุดของห้องมีหญิงสาวสองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่เงียบ ๆ ระหว่างรออาจารย์เข้ามาสอน วิชาบ่ายวันนี้ดูจะไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นนักสำหรับใครหลายคน แต่ดูเหมือนบทสนทนาบางอย่างกลับทำให้เวลาผ่านไปเร็วขึ้นกว่าปกติ “นี่ มิวา แกทำหน้าเครียดอะไรเนี่ย” วิเวียนที่นั่งไขว่ห้างอยู่ข้าง ๆ เลิกคิ้วถามขณะจัดผมหน้าม้าให้เข้าที่ก่อนจะหันมาสังเกตเพื่อนสนิท “อ๋อ…” มิวาสะบัดความคิดออกจากหัว “ฉันมีเรื่องที่เครียดนิดหน่อยน่ะ ไม่มีอะไรหรอก” “หืม… ถ้าฉันถามตอนนี้ แกก็คงไม่เล่าให้ฉันฟังหรอกสินะ” วิเวียนยิ้มมุมปากพลางเอนหลังพิงเก้าอี้อย่างรู้ทัน “ไม่เป็นไรหรอก ไว้พร้อมเมื่อไหร่ค่อยเล่าแล้วกัน แต่แกอย่าคิดว่าแอบทำหน้าเศร้าแล้วฉันจะไม่สังเกตนะ” “ขอบใจนะ” มิวายิ้มบาง ๆ ไม่ได้ตอบตรง ๆ แต่แววตาดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย “แล้วน้องแกล่ะ เป็นยังไงบ้าง” วิเวียนเปลี่ยนเรื่องพลางหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูรูปแมวในอินสตาแกรมไปด้วย “ก็ดูแข็งแรงขึ้น หวังว่าจะหายดีเร็ว ๆ นี้ แล้วได้ออกจากโรงพยาบาลซักที…” เสียงของมิวาเบาลงเล็กน้อย คล้ายกำลังพูดกับตัวเอง “แกเก่งมากเลยนะ ที่รับผิดชอบอะไรหลายอย่างได้ขนาดนี้ ฉันยังบ่นเรื่องโปรเจกต์ไม่จบทุกวันเลย” วิเวียนหัวเราะเบา ๆ แล้วเอื้อมมือแตะหลังมือเพื่อนแผ่วเบา “ว่าง ๆ ไว้ฉันไปเยี่ยมน้องแกดีกว่า เผื่อเอาหนังสือการ์ตูนไปฝาก มีกองอยู่ที่บ้านเต็มเลย” “ดีเลย น้องฉันชอบอ่านหนังสือการ์ตูนพอดี” มิวาพยักหน้าด้วยรอยยิ้มจริงใจ “แล้วนี่… ช่วงนี้ยังทำงานตอนกลางคืนอยู่เหรอ?” วิเวียนลดเสียงลงแล้วเอียงตัวเข้าไปกระซิบ มิวาพยักหน้าเบา ๆ “อืม แต่ไม่ต้องห่วงนะ ฉันระวังตัวดี แล้วก็… ขอบใจที่แกไม่พูดเรื่องนี้กับใคร” “เรื่องอะไรล่ะ ฉันไม่ใช่พวกปากโป้งอยู่แล้ว แค่สงสารแกที่ต้องรับผิดชอบอะไรเยอะขนาดนี้ ถ้าเป็นฉันคงนั่งร้องไห้อยู่ใต้โต๊ะแล้ว” วิเวียนพูดติดตลกจนมิวาหลุดหัวเราะ “ฉันยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอกน่า” “อื้ม… แล้วนี่ มีคนมาจีบบ้างหรือยังยะ” วิเวียนถามพลางทำหน้าเหมือนกำลังตั้งใจฟังมาก ๆ “ไม่มีเลย แกจะถามทำไมเนี่ย” “ก็… ฉันน่ะสิ อยู่ดี ๆ ก็มีรุ่นพี่คณะวิศวะทักมาแชตไอจี!” วิเวียนพูดพร้อมทำตาโต “ทั้งที่ไม่เคยคุยกันมาก่อนเลยนะ เขาทักมาว่า ‘ชอบสไตล์โพสต์ของคุณ’ เชยไหมล่ะ” “ฮ่า ๆ ๆ” มิวาหัวเราะออกมาจริงจัง “ก็ไม่เชยนะ อย่างน้อยเขาก็พยายามหาทางคุย” “แต่ที่ตลกคือ เขาทำงานพิเศษอยู่ร้านเดียวกับเพื่อนของเพื่อนฉัน แล้วเพื่อนฉันดันไปแอบได้ยินว่า หมอนี่พูดว่าอยากลองจีบเด็กอักษรดูบ้าง!” “โห แล้วไงต่อ” “ก็ไม่ไงหรอก ฉันก็เลยลองคุยดูนิดหน่อย เอาไว้เป็นสีสันชีวิตบ้างนิดนึง” วิเวียนยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ “แต่แกนี่ดิ ไม่มีใครมาจีบบ้างเหรอ หน้าตาก็หวาน จะว่าไปตอนกลางคืนที่คลับที่แกทำงานต้องมีผู้ชายมองเยอะใช่ไหม” มิวาส่ายหน้า “มองกับทักมันคนละเรื่องกันนะ แล้วอีกอย่าง ฉันไม่ได้ไปทำงานเพื่อหวังจะมีคนมาจีบ…” “โอเค ๆ เข้าใจละ สายโฟกัสงานสินะ ทุ่มเทสุด ๆ” ก่อนที่บทสนทนาจะยืดเยื้อไปกว่านี้ อาจารย์ก็เปิดประตูเข้าห้องพร้อมเสียงวางกระเป๋าหนังสือดัง ปึ้ง วิเวียนรีบกระซิบเบา ๆ เป็นคำสุดท้าย “ไว้คาบหน้ามาต่อเรื่องรุ่นพี่คนนั้นต่อนะ” มิวาส่ายหน้าพร้อมกลั้นหัวเราะ ก่อนที่ทั้งคู่จะหันกลับมาตั้งใจเรียนตามหน้าที่ของนักศึกษาปีสุดท้ายที่ดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD