นทีเปิดเปลือกตาขึ้นช้า ๆ พร้อมกับอาการปวดหัวคลื่นไส้ที่โจมตีอย่างฉับพลัน ร่างกายของเขารู้สึกได้ถึงร่องรอยความเร่าร้อนจากค่ำคืนที่ผ่านมารวมถึงกล้ามเนื้อที่อ่อนล้าราวกับใช้งานมาอย่างหนัก
ชายหนุ่มพยายามลำดับเหตุการณ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ความทรงจำทุกอย่างกลับมีเพียงภาพลาง ๆ ของแสงไฟในลิฟต์และกลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยเท่านั้นที่วนเวียนอยู่ในหัว ไออุ่นจากคนที่นอนข้าง ๆ ทำให้เขาสะดุ้งสุดตัวเช่นเดียวกับสติสัมปชัญญะที่กลับคืนมา
นทีลุกนั่งก่อนเหลือบมองไปด้านข้าง แค่เพียงเห็นไหล่เนียนขาวสว่างอย่างคนผิวพรรณดีที่โผล่ออกมาจากผ้าห่มโรงแรมก็รู้แล้วว่าคนที่ตนหลับนอนด้วยไม่ใช่คนในใจ
“แม่งเอ๊ย!” ชายหนุ่มยีหัวตัวเองแรง ๆ ก่อนเอื้อมมือเขย่าอีกร่างเพราะอยากรู้ว่าคือใคร
“โอ๊ย! หนูไม่ไหวแล้วนะพี่นที!” เสียงหวานคุ้นหูบวกกับความเหวี่ยงวีนแบบนั้น เป็นใครไปไม่ได้นอกจากผู้หญิงที่เขาเกลียดชังที่สุด
“จัสมิน!!!” นทีตวาดลั่น
เจ้าของชื่อสะดุ้งตื่นตามเสียงตะโกนดังลั่นของนที ดวงตาที่เพิ่งลืมขึ้นฉายความอ่อนล้าจากการกรีดร้องตลอดค่ำคืน
“พี่จะเสียงดังทำไมเนี่ย!” จัสมินโวยกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ทว่าเมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจและขยะแขยงของนที เธอก็กรุ่นโกรธขึ้นมาทันที “พี่อย่ามามองหนูด้วยสายตาแบบนั้นนะ! พี่เองก็มีส่วนต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน!”
“รับผิดชอบ เหอะ!” นทีหัวเราะเยาะอย่างดูถูก “เธอคิดว่าฉันโง่ขนาดนั้นเลยเหรอจัสมิน! เธอทำอะไรกับฉันกันแน่?” นทีชะงักงันก่อนใช้สองมือบีบต้นแขนเรียวขาวของหญิงสาวแน่นจนมันแดงเป็นรอยนิ้ว
“เธอวางยาฉันใช่ไหม! ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่ทำแบบนี้กับเธอแน่!” เขาเขย่าร่างบางเพื่อเค้นหาความจริง โดยที่ลืมไปว่าทั้งเขาและเธอนอกจากผ้าห่มก็ไม่มีอะไรปกปิดร่างกาย
“โอ๊ย! หนูเจ็บนะ!” จัสมินตะโกนใส่แต่ก็ยังไม่ยอมรับผิดอะไรทั้งนั้น
“หึ!” นทีผลักร่างที่ตนเพิ่งคว้ามาออกไปเต็มแรงเพราะสองเต้าเต่งตึงตรงหน้าเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากมอง...
ชายหนุ่มลุกพรวดออกจากเตียง เขาก้มคว้าเสื้อผ้าบนพื้นมาสวมใส่อย่างเร่งรีบแล้วก้าวเข้าหาเธออย่างคุกคาม สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่ไม่มีใครเคยได้เห็น
“ผู้หญิงที่ถึงขนาดใช้ยามาจับผู้ชายแบบเธอ มันน่าสมเพชสิ้นดี!”
จัสมินหน้าซีดลงถนัดตาจากคำกล่าวหาของชายหนุ่ม เธออยากจะอธิบาย แต่สุดท้ายสิ่งที่เขาพูดออกมามันก็เป็นความจริงอยู่ดี ตอนแรกเธอก็คิดว่าเมื่อทำลงไปแล้วก็ไม่น่าเสียใจอะไร ทว่าพอเอาเข้าจริง...มันเจ็บปวดมากกว่าที่เธอคิด
“เธอทำไปเพื่ออะไรกันแน่จัสมิน!” นทีถามทั้งฉายความเหยียดหยามในดวงตา “หรือเธอคิดว่าการใช้ยาปลุกเซ็กซ์สกปรก ๆ แบบนี้มันจะทำให้ฉันรักเธองั้นเหรอ”
“....”
เขาจ้องมองไปยังดวงตาที่เริ่มมีน้ำตาคลอหน่วยบนเตียงก่อนปล่อยคำพูดที่รุนแรงและทำลายล้างหัวใจหญิงสาวที่สุดออกมา
"ฟังนะ! จัสมิน! เมื่อคืนในหัวฉัน มันมีแต่ภาพของลดา! เพราะกลิ่นน้ำหอมที่เธอใช้มันเหมือนของลดา ฉันก็เลยคิดว่ากำลังทำกับผู้หญิงที่ฉันรัก!” นทีมองหยดน้ำตาของหญิงสาวที่หล่นซึมไปกับผ้าห่มก่อนเอ่ย
“เธอเข้าใจไหม! ว่าเธอมันก็แค่ตัวแทนที่น่ารังเกียจที่เข้ามาทำให้ฉันสกปรก! ฉันเกลียดการกระทำของเธอและฉันเกลียดเธอที่สุด! จำไว้! ต่อให้เธอเอาเงินมากองให้ฉันทั้งโลก! ฉันก็จะไม่มีวันลดตัวลงไปสนใจผู้หญิงที่ต่ำช้า ไร้เกียรติอย่างเธอ!” เขากระแทกเสียงสุดท้ายก่อนเดินออกจากห้องไปโดยไม่หันหลังกลับมามองเลยว่าผู้หญิงบนเตียงเสียใจมากแค่ไหน
“ฮือ~” หญิงสาวปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น เธอรู้ว่าสิ่งที่ทำมันผิดแต่เธอก็ทำลงไปแล้ว ถามว่าเสียใจหรือไม่ที่ทำลงไป เธอคงตอบได้แค่...ไม่! แต่ที่เธอเสียใจก็คือคำพูดของเขาที่ถ่มรดคุณค่าของเธอจนหมดสิ้น
จัสมินร่ำไห้อยู่บนเตียงนั้นอยู่นาน กระทั่งพนักงานโรงแรมโทรขึ้นมาสอบถามว่าจะพักต่อหรือไม่เพราะเลยเวลา เธอถึงได้ลุกออกจากเตียงแล้วกลับคฤหาสน์ในสภาพทรุดโทรม โชคดีที่ชุดราตรีขาดแค่ครึ่งบนเธอจึงเอาตัวรอดได้จากเสื้อคลุม
ณ คฤหาสน์ช่วงบ่ายวันนั้น
จัสมินเดินเข้าห้องไปอย่างเงียบ ๆ และเริ่มร้องไห้อย่างหนัก เสียงสะอื้นของเธอดังไปถึงลันโซและโลตัสที่อยู่ชั้นล่าง
พี่ชายฝาแฝดมองหน้ากันด้วยความว้าวุ่นใจ พวกเขารู้ว่าน้องสาวเจอเรื่องเลวร้ายเข้าให้แล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร
“ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น” ลันโซพูดด้วยเสียงหนักแน่น
“ฉันสังหรณ์ใจว่าจะเป็นเรื่องไอ้เวรนั่น และถ้าใช่... ฉันกระทืบมันตายแน่!” โลตัสเดือดปุด ๆ
ฝาแฝดจึงลงความเห็นกันเองว่าสืบเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างเงียบ ๆ ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ถามจัสมินไปตรง ๆ นั่นก็เพราะพวกเขาไม่ได้มีความกล้าขนาดนั้น
หลังออกจากโรงแรม นทีก็ขับมอเตอร์ไซค์คันเก่าด้วยความเร็วสูง ราวกับจะให้ลมที่พัดปะทะหน้าเป็นแรงตบในสิ่งที่เขากระทำลงไป
เอี๊ยด!
นทีบิดกุญแจดับเครื่องลงก่อนจูงมอเตอร์ไซค์เข้าในรั้วเก่า ๆ ของบ้านชั้นเดียวของตน เขาเหลือบมองอายุสีทาบ้านที่หลุดลอกออกเป็นแผ่นจากการใช้งานมาอย่างยาวนานก่อนสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อปรับสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังให้กลับมาเป็นรอยยิ้มอ่อนโยน ความคับแค้นใจที่มีต่อจัสมินทั้งหมดถูกซ่อนไว้ในส่วนลึกของหัวใจ เนื่องจากบ้านหลังนี้คือสถานที่ที่เขาต้องเป็นเสาหลักค้ำจุนทุกคน
แกร็ก..
ชายหนุ่มก้าวเข้าสู่ตัวบ้านที่ถึงแม้จะเก่าแต่ก็สะอาดสะอ้าน เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นของเก่าตั้งแต่เขายังไม่เกิด กลิ่นยาลอยคละคลุ้งจนกลายเป็นกลิ่นประจำบ้านคือคำเตือนสถานะทางการเงินของครอบครัว
“กลับมาแล้วเหรอพี่นที ทำไมคราวนี้ถึงกลับเช้าเลยล่ะ” สายน้ำ ชโลทร ผู้เป็นน้องสาวของเขากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาผ้าสีน้ำตาลที่ยุบตัวตามการใช้งาน
“อื้อ เมื่อคืนงานเลิกดึกมากก็เลยเพลีย พี่ก็เลยนอนที่หอเพื่อนเลย ขอโทษทีนะ” นทีตอบอย่างเหนื่อยอ่อน “แล้วแม่ล่ะ”
น้องสาวไม่ได้ตอบเป็นคำพูดแต่ใช้คางชี้ห้องเป็นคำตอบแล้วก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ
นทีก้าวไปยังห้องนอนเล็กที่ถูกจัดไว้สำหรับ สายธาร แม่ของเขาโดยเฉพาะ ในห้องมีเพียงเตียงเหล็กเก่า ๆ และเครื่องวัดความดันโลหิตที่วางอยู่ข้างหัวเตียง แม่ของเขากำลังนอนหลับอยู่ด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว โรคหัวใจล้มเหลวเรื้อรังที่แม่เป็นนั้น ต้องใช้เงินในการรักษาและค่ายาในแต่ละเดือนจำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นภาระหนักที่เขาต้องแบกรับไว้ทั้งหมด
ชายหนุ่มยืนมองแม่ตัวเองอยู่พักใหญ่ก่อนขบกรามแน่น ความรู้สึกผิดที่ไม่ได้กลับมาดูแลแม่เหมือนทุกวันถาโถมเข้าใส่ เขายอมทำงานหนักเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวและค่ารักษาพยาบาลแต่สุดท้ายเมื่อคืนก็ดันไปพลาดท่าให้กับจัสมิน เขารู้สึกว่าเขาช่างใช้เวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์
นทีถอยออกมาเงียบ ๆ แล้วเดินเข้าห้องนอนของตัวเอง ในห้องมีเพียงที่นอนพับได้บาง ๆ กับโต๊ะญี่ปุ่นเล็กที่เต็มไปด้วยหนังสือเรียนและกระปุกออมสินรูปหมูชูนิ้วกลางวางอยู่มุมห้อง
เขาทิ้งตัวลงที่นอนแข็ง ๆ ด้วยความเหนื่อยล้า ความโกรธที่เคยมีเริ่มจางลงเพราะมันถูกแทนที่ด้วยความเครียดและความสับสน แต่ความรู้สึกที่รุนแรงที่สุดก็คือ ความกลัว
“แม่งเอ๊ย! นี่กูทำอะไรลงไปวะ!”
ชายหนุ่มคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดไปที่ไลน์ของลดา เขาอยากได้ยินเสียงที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองได้รับการปลอบประโลม เพราะลดาคือที่พึ่งทางใจและทำให้เขารู้สึกว่าความพยายามที่ทำมาทั้งหมด... มันมีความหมาย
แต่สุดท้ายเขาก็ไม่กล้ากดโทรออก ความผิดที่ทรยศต่อลดาทำให้เขากลัว
“ถ้าลดารู้ว่ากูไปทำแบบนั้นกับคนอื่นมา...” เขาไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยคำถามว่าตนต้องทำอย่างไรด้วยซ้ำเพราะแค่คิดเขาก็ทนไม่ได้หากต้องสูญเสียลดาไป และเมื่อมองทุกอย่างรอบตัวเขาก็เห็นถึงสถานะทางการเงินที่กำลังร้องเตือนให้ระลึกถึงความรับผิดชอบที่กำลังรออยู่ในอนาคตไม่ไกล
“ไม่! ไม่ได้ กูจะให้ยัยนั่นมาทำลายชีวิตกูกับลดาไม่ได้เด็ดขาด!”
ความรู้สึกผิดเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่นที่จะรักษาทุกสิ่งไว้ โดยไม่สนใจว่าหญิงสาวที่เขาหลับนอนด้วยเมื่อคืนจะเป็นเช่นไร
และช่วงเวลาเดียวกันนั้น ลดาที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งก็กำลังยิ้มให้ตัวเองผ่านเงาสะท้อนในกระจก บนโต๊ะข้าง ๆ เธอคือสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพเมื่อคืนเอาไว้ แม้มันจะเป็นแค่ภาพของประตูห้องพักกับหมายเลขห้องก็ตาม
“ขอบใจนะจัสมินที่ลงทุนขนาดนี้ แต่สุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือฉัน!”
ลดาไม่ได้สนใจการทรยศของนทีเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่เธอเห็นคือ กุญแจสำคัญที่จะทำให้เธอสามารถควบคุมนทีและทำลายจัสมินไปพร้อมกัน
เธอหัวเราะแล้วหยิบน้ำหอมราคาแพงที่เพิ่งถอนเงินเก็บซื้อมาฉีดลงบนข้อมืออย่างตั้งใจ กลิ่นหอมฟุ้งที่เธอเคยริษยาจัสมิน ตอนนี้กลายเป็นกลิ่นแห่งอำนาจที่ทำให้เธอรู้สึกเหนือกว่า
“ขอให้สนุกนะจัสมิน”
ลดาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเข้าเฟสบุ๊คในโปรไฟล์อวตารก่อนพิมพ์ข้อความสั้นลงกลุ่มซุบซิบและมีอิทธิพลในเพจข่าวของมหาวิทยาลัย
ข้อความนั้นไม่ได้กล่าวถึงเหตุการณ์เมื่อคืนโดยตรงแต่เป็นเบาะแสที่ชวนให้ตีความ ซึ่งมันจะนำไปสู่การเปิดเผยเรื่องราวของจัสมินในฐานะหญิงชั่วร้ายที่วางยาผู้ชายสนองความต้องการของตัวเองและแน่นอนว่าเธอจะกลายเป็นคนน่าสงสารน่าเห็นใจที่สุด
“ฮ่าฮ่า” ลดาหัวเราะออกมาอย่างสาแก่ใจ ราวกับว่าความตกต่ำทั้งหมดถูกปลดปล่อยออกไปในคราวเดียว
ด่วนที่สุด! ดาวคณะนิเทศฯ วางยาจับหนุ่มวิศวะ!!
[โพสต์โดย: แอดมินเถาวัลย์ (เพจซุบซิบ ม.K)]
เตือนภัย! ดาวคณะสุดแซ่บ ‘จ.ม.’ วางยารุ่นพี่ ‘น.ท.’ วิศวะปี 4 กลางงานเลี้ยงศิษย์เก่า!
#ระดับความฉาว: 5 ดาว
#ความน่าเชื่อถือ: 10 ดาว
น้อง ๆ คะ! แอดมินเพิ่งได้รับข่าวสุดช็อกจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ที่อยู่ในงานเลี้ยงศิษย์เก่าเมื่อคืนนี้!
เรื่องมีอยู่ว่ามีนักศึกษาชายรุ่นพี่สุดหล่อจากคณะวิศวะฯ ปี 4 ได้ถูก ‘วางยาบางอย่าง’ ในงานเลี้ยงค่ะ! แต่ที่น่าตกใจที่สุดคือคนที่พาพี่เขาออกไปจากงาน ไม่ใช่ใครที่ไหน... แต่เป็นดาวคณะนิเทศฯ ปี 1 ชื่อดังที่รวยที่สุด!
#ใครคือคนร้าย #ดาวคณะ #วิศวะหนุ่มหล่อ
คอมเมนต์ผู้โพสต์ : ใครเห็นเหตุการณ์หรือมีหลักฐานอื่น ๆ ส่งมาให้แอดมินได้เลยนะคะ! ผู้หญิงที่ทำเรื่องแบบนี้ไม่สมควรได้รับที่ยืนในสังคมที่เต็มไปด้วยคนดีและสุภาพเรียบร้อยค่ะ! (แอดมินหมายถึงสังคมมหาวิทยาลัยของเรานะคะ!)