แสงอาทิตย์อ่อนสีทองทอดคลุมสนามหญ้ากว้างของมหาวิทยาลัย K ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาชั้นนำแห่งหนึ่งในเมืองหลวงของประเทศไทย
ฟ้ากว้างปราศจากเมฆช่างเหมาะกับวันแรกของการเริ่มต้นการเป็นนักศึกษาใหม่ เสื้อเชิ้ตขาวสะอาดยังแข็งจากการรีด กางเกงสแล็ก กระโปรงพลีตและทรงเอยังดำสนิทเพราะเพิ่งซื้อมาหมาด ๆ รองเท้าขัดจนเงาวาวสะท้อนความตั้งใจและความฝันที่ยังสดใหม่เช่นเดียวกับแววตาและรอยยิ้มประดักประเดิดสับสน
ปรื้น! ปรื้น!
เสียงจากรถเมอร์เซเดส เอเอ็มจี (Mercedes-AMG) สีพิเศษอย่างสีน้ำเงินสเปคตรัล แมกโน สนนราคาเฉพาะค่าทำสีตัวเลขก็อยู่ที 6 หลัก ส่วนราคายานพาหนะเด่นสะดุดตาน่ะหรือ...12 ล้าน คือตัวเริ่มต้นไม่รวมออปชั่นเสริม
‘สวยฉิบหาย!’ เสียงแซ่ซ้องจากนักศึกษามากมายดังเป็นระยะเมื่อเห็นมันแล่นบนถนนคอนกรีตสีขาว ทำให้คนในรถได้แต่ถอนหายใจเล็กน้อยคล้ายเบื่อหน่าย
“ตื่นเต้นอะไรกัน ก็แค่รถ” เสียงหวานสดใสเอ่ยคล้ายไม่เข้าใจแต่ก็แอบภูมิใจเล็ก ๆ
“นั่นสิ” เสียงชายหนุ่มอายุมากกว่ากันไม่กี่ปีตอบรับผู้เป็นน้องสาวด้านหลัง
“พี่ลันโซ ส่งหนูตรงนี้ก็ได้ค่ะ หนูต้องเข้าคาบแรกที่ตึกนี้”
“โอเค” เจ้าของชื่อผู้เป็นพี่ชายหมุนพวงมาลัยรถเพื่อจอดเทียบฟุตบาท
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวกล่าวก่อนเตรียมเปิดประตูก้าวลงไป
“โชคดีนะ จัสมิน”
“ค่ะ พี่โลตัส” เธอพยักหน้าให้พี่ชายอีกคนก่อนหมุนตัว หันมองอาคารเรียนเบื้องหน้า
คลิก คลิก คลิก
รองเท้าส้นสูง 4 นิ้วสีดำ ปลายแหลมจากแบรนด์คริสเตียน ลูบูแตง (Christian Louboutin) กระทบพื้นอาคารจนเกิดเสียง เสื้อเชิ้ตนักศึกษาเนื้อดีที่สั่งตัดเฉพาะเข้ารูปพอดีตัว กระโปรงทรงเอเข้ารูปสีดำสนิทจากแบรนด์ฝรั่งเศส เปิดช่องให้เห็นเรียวขาที่ขาวเนียนจากรอยผ่าด้านหลัง
ดวงตาของผู้สวมชุดนั้นหวานหยดราวน้ำผึ้ง แต่ก็คมเหมือนยาพิษ ผมของเธอถูกรวบไว้หลวม ๆ ให้มีเส้นหลุดลงมาบ้างคล้ายตั้งใจและไม่ตั้งใจอยู่ในที เมื่อแสงแดดจากส่องผ่านช่องอาคาร เรือนผมสีน้ำตาลประกายทองก็สะท้อนล้อแสง ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมานี้เป็นของ จัสมิน ลักษณ์วรินทร์ อัศวธาดาภิพัฒน์ หญิงสาวที่ดูเหมือนเทพธิดาหลงทางลงมาเดินเล่นบนโลกมนุษย์...
“จัสมิน ทางนี้” เสียงตะโกนเรียกผู้ก้าวเดินอย่างมั่นใจให้ก้าวเข้าหา
“เฮ้อ ร้อนแต่เช้าเลยวันนี้” จัสมินออกปากบ่นพลางใช้โบกมือพัดคลายร้อนให้ตัวเอง
“ช่างเรื่องร้อนก่อนเถอะ แกมาเคลียร์กับฉันเรื่องนายก้องภพก่อน” ควีน พรเทพี สัญจิตากุล เพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่อนุบาลจนถึงปัจจุบันทำท่าคล้ายเหนื่อยใจ
“อะไรล่ะ ฉันก็บอกเลิกไปเมื่อคืนแล้วนี่” จัสมินพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ
“ห๊ะ แกบอกเลิกเขาตั้งแต่วันแรกที่มหาลัยเปิดเลยเหรอ” ทราย วีรดา เมธาพงศ์ เพื่อนสนิทอีกคนที่คบหามาเมื่อตอน ม.ปลาย อุทานเสียงดัง
“เออ แล้วทำไมอะ” จัสมินพูดพลางหยิบกระจกอันเล็กในกระเป๋าออกมาสำรวจว่าใบหน้าของตนมีอะไรแปลกประหลาดหรือไม่
“เฮ้อ... แกรู้ไหมว่าเมื่อคืนนี้มันโทรมาหาฉันตอนเที่ยงคืน ร้องไห้โวยวายเหมือนแกเอาขี้ไปขว้างบ้านมัน” ควีนบรรยายความเดือดร้อน
“ก็ไม่เห็นตายนี่” จัสมินยักไหล่แล้วเก็บกระจกลงกระเป๋า
“คือเขาวิ่งตามแกมาเรียนที่นี่ แล้วแกก็หักอกเขาวันแรกที่เปิดเทอม”
“วันแรกที่ไหน คืนก่อนเปิดเทอมต่างหาก” จัสมินไหวไหล่ก่อนแย้มยิ้มออกมา
“...” เพื่อนทั้งสองมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย ก่อนพยายามปลงกับการกระทำของจัสมิน
และด้วยเรื่องนี้เอง สัปดาห์แรกของการก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยข่าวที่ว่า มีนักศึกษาปี 1 คณะวิทยาศาสตร์มาร้องไห้ขอคืนดีกับว่าที่ดาวเด่น คณะนิเทศศาสตร์ไปจนถึงการปฏิเสธอันไร้เยื่อใยและโหดร้าย
ป๊อก ป๊อก ...
เสียงดีดนิ้วแต่ตำแหน่งอยู่ช่วงเป้ากางเกงของชายหนุ่ม
“นี่ไง สาเหตุที่ฉันเลิกกับนาย ขนาดดีดนิ้วปลุกแล้วก็ยังไม่มีวี่แววจะตื่นขึ้นมา ไม่รู้ว่าตอนฉี่ต้องใช้คีมหนีบหรือเปล่า”
“จัสมิน!” ก้องภพสบถ คำต่อว่ามันก็เรื่องหนึ่งแต่การดูถูกน้องชายในเป้ากางเกงนี่มันออกจะเกินไป หญิงสาวทำเหมือนกับว่าเคยนอนกับเขาทั้งที่จริงแค่เขาพยายามจับมือเธอก็เล่นตัวจนน่าปวดหัว
“ทำไม รับความจริงไม่ได้หรือไง” จัสมินไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกอายกับคำพูดที่พ่นออกจากปากน้อย ๆ ของตัวเองเลยสักนิด
แน่ล่ะ การกระทบกระทั่งกันด้วยประโยคเหล่านั้น ย่อมทำให้เกิดแรงกระเพื่อมจากคำคนทำให้ก้องภพตัดสินใจลาออกและย้ายมหาวิทยาลัยทันที เพราะสายตาจากคนที่ได้ยินต่างลงดาบว่าเขาเป็นพวกนกเขาไม่ขันไปแล้วกว่า 50%
ทว่าข่าวฉาวต่าง ๆ นานาเช่นว่า ดาวเด่นคณะนิเทศศาสตร์หักอกผู้ชายนับสิบภายในอาทิตย์เดียวก็ยังคงแพร่สะพัดจนเว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยคำวิจารณ์นับร้อย แต่ถึงอย่างนั้นผู้เป็นเจ้าของข่าวลือก็หาได้ใส่ใจกับมัน
“แกอยู่เงียบ ๆ บ้างเป็นไหม” ควีนนวดขมับเนื่องจากเหนื่อยที่ต้องมาคอยลากเพื่อนให้ออกจากการหาเรื่องจากรุ่นพี่ผู้หญิงที่กล่าวหาว่าจัสมินแย่งแฟน ทั้งที่ผู้ชายพวกนั้นนั่นแหละที่เป็นฝ่ายเดินตามเพื่อนของเธอปานหมาได้กลิ่นตับย่างร้อน ๆ
“ฉันยังไม่ได้พูดอะไรสักคำนะ”
“แกไม่พูด แต่แกด่าเขาจ้าสาว” ทรายถอนหายใจใส่
“ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้มาด่าฉันก่อนล่ะ เขามาขอไอจี ฉันก็ให้ ใครจะไปรู้ว่ามีแฟนแล้ว”
“ถ้ารู้แกจะไม่ให้?” ควีนเอามือออกจากขมับ
“ให้!” จัสมินตอบพลางหัวเราะร่า
“จ้า แม่คนสวย” ทรายค่อนขอด
“ขอบคุณที่ชม เอาไปสองร้อย” เจ้าของคำชมใช้นิ้วคีบเงินสองใบขึ้นมา
“เยอะเนอะ” ทรายประชดประชันแต่ก็ยังหยิบธนบัตรสีแดงจากจัสมินเก็บใส่กระเป๋าอยู่ดี ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้ฐานะทางการเงินของครอบครัวเธออยู่ในขั้นมีกินวันต่อวันก็ดีแล้วกันล่ะ
ควีนส่ายหัวน้อย ๆ ก่อนถามเรื่องอื่น “ว่าแต่กิจกรรมตอนสี่โมงเย็นแกจะเข้าไหม”
“เข้าสิ” จัสมินทำท่าเบื่อหน่าย “พวกรุ่นพี่บอกว่าต้องเข้าน่ะ อันที่จริงดาวคณะอะไรนี่ ฉันไม่ได้อยากจะเป็นเลยนะ น่ารำคาญจะตาย”
“ก็แกมันสวย มันเริ่ดไง”
“เอาเท่าไรว่ามา” จัสมินหรี่ตาถามทราย
“ไม่เอาแล้วย่ะ” ทรายสะบัดหน้า แม้ตัวเลขในใจจะพุ่งไปไกลโข
ช่วงบ่ายคล้อย ณ สนามกีฬามหาวิทยาลัย K
เสียงเพลง EDM คลอเบา ๆ ทั่วสนามกีฬาและอัฒจันทร์ กลิ่นหญ้า กลิ่นน้ำหอมและกลิ่นตัวผสมปนเปกันจนดาวนิเทศปีหนึ่งอย่างจัสมินปวดหัวหนึบ
“ฉันจะเป็นลมตายแล้วนะ ไปนั่งข้างสนามกันเถอะ” เสียงหวานดังทะลุขึ้นกลางปล้อง
“แต่...” ควีนอยากค้าน แต่คนปวดหัวกลับลุกเดินแหวกผู้คนออกไปโดยไม่สนสายตาใคร
“เฮ้อ...” เธอถอนใจแล้วลุกตามเช่นเดียวกับเพื่อนอีกคน
“โอ๊ย! เหม็นจะตายห่า” จัสมินเดินบ่นเหมือนหมีกินรังแตน กระทั่ง หาที่นั่งได้ แม้มันจะเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์ก็ตาม
ในขณะเดียวกัน ผู้ทำหน้าที่เชิญธงคณะอย่าง นที มหานที โชติพัทธ์ รุ่นพี่หนุ่มหล่อที่ได้รับการโหวตเป็นอันดับหนึ่งต่อเนื่องกันทุกปีก็รีบเก็บหนังสือเรียนลงกระเป๋าสะพายบ่าอย่างเร่งรีบ เขาสายเพราะมัวแต่ทำเลคเชอร์ให้เพื่อนเพื่อแลกกับเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ
“ไอ้นที กูลงไปก่อนนะ”
“เออ ๆ” มหานทีพยักหน้าเพราะมีสายโทรเข้ามาขัดจังหวะ กว่าจะออกจากห้องได้เขาก็กลายเป็นคนสุดท้ายที่ต้องรับหน้าที่ปิดไฟ ปิดแอร์ ล็อกห้องไปแล้ว
ระหว่างเดินผ่านสวนหย่อมเล็ก ๆ ของคณะ หูของเขาก็ต้องได้ยินกับเสียงเล็กเสียงน้อยของกลุ่มนักศึกษากลุ่มหนึ่ง ปลายเท้าเลยชะงักค้างก่อนยกข้อมือดูนาฬิกาเข็มเก่า ๆ แล้วเหลือบตามองไปตามเสียงพวกนั้น
“ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมครับ” นักศึกษาชายใบหน้าร้อนผะผ่าวขณะเอ่ยปากกับหญิงสาวที่มีออร่าสว่างไสว
“ได้ค่ะ” จัสมินยืนขึ้นเต็มความสูง 176 เซนติเมตรของตัวเองก่อนรู้ตัวว่าชายหนุ่มคนนั้นส่วนสูงเท่าหัวไหล่บางของตน
“เอ่อ ขอโทษนะคะ” จัสมินเอียงหน้าย่อตัวให้เท่ากับชายหนุ่ม เธอส่ายมือที่ถือสมาร์ทโฟนอย่างคนที่รู้ว่าแสงตกกระทบมุมไหนแล้วจะดูแพงที่สุด
“สวยมากค่ะ” หญิงสาวเอ่ยหลังดูรูปแล้วส่งมือถือคืนให้ชายหนุ่ม ส่วนคำที่พ่นออกมา แน่ล่ะว่าชมตัวเองเพราะแสงสาดเข้าตัวเอง แต่ใบหน้าร่วมเฟรมนั้นเรียกได้ว่ามืดครึ้มจนมองไม่ออกว่าหน้าตาเป็นอย่างไร
“ขะ ขอบคุณมากครับ” ชายหนุ่มผู้ใสซื่อนอกจากได้ถ่ายรูปแบบตัวติดกับคนที่แอบปลื้มมีหรือจะมามีอารมณ์มาดูรูป เขาเพ้อคลั่งในหัวไปกับกลิ่นน้ำหอมราคาสูงลิ่วของหญิงสาวจนตาลอย
“นี่! น้อง! มันได้เวลาเข้ากิจกรรมแล้วไม่ใช่หรือไง” เสียงทุ้มแน่นเอ่ยดับฝันและจินตนาการของชายหนุ่ม รวมถึงสร้างความตกตะลึงให้กับหญิงสาวในแบบที่เขาคาดไม่ถึง
“กำลังจะไปแล้วครับ” ชายหนุ่มตอบรุ่นพี่ก่อนหันไปลาหญิงสาว
“ผมไปก่อนนะครับ” พูดจบก็รีบโกยแนบเพราะในคณะวิศวะบทลงโทษมักพิสดารกว่าคณะอื่น ซึ่งเขาไม่อยากเจอ
“น้องได้ยินที่พี่พูดหรือเปล่า” นทีขมวดคิ้วแน่นขณะพูดกับหญิงสาวตรงหน้า
“ได้ยินค่ะ” น้ำเสียงหวานหยดตอบกลับพร้อมสายตาวิบวับแพรวพราวของจัสมิน
“ได้ยินแล้วก็รีบไปด้วยล่ะ” นทีพูดจบก็หมุนตัวเดินจากไป โดยที่ไม่ได้สนใจสายตาเชิญชวนทรงเสน่ห์คู่นั้นแม้แต่น้อย
“อ้าว...” จัสมินถึงกับใบ้กิน เกิดมาไม่เคยมีใครทำท่าเหมือนเธอเป็นตัวอะไรสักอย่างที่ไม่น่าสนใจมาก่อนเลยสักครั้ง ความขุ่นเคืองปะทุในใจแล้วหันไปถามคนที่น่าจะรู้เรื่องมากที่สุด
“ทราย... คนเมื่อกี้ใคร”
“อ๋อ พี่มหานที ปีสี่วิศวะ นั่นหนุ่มหล่ออันดับหนึ่งสี่ปีซ้อนของมหาลัยเลยนะเว้ย!” ทรายตอบด้วยดวงตาเปล่งประกาย
“มหานที?” จัสมินทวนชื่อซ้ำราวกับกำลังสลักไว้ไม่ให้ลืม ‘อยากรู้นักว่าสายน้ำนั่นจะลึกสักแค่ไหนกันเชียว’
“ก็ใช่น่ะสิแก” ทรายเขินจนตัวบิดตัวงอ ต่างจากควีนที่มองคนทั้งคู่แล้วถอนใจออกมา
“ฉันอยากได้!” เสียงหวานใสเอ่ยหนักแน่น
“อะไรนะ!” ทรายถึงกับสะดุ้ง
“ก็บอกว่าอยากได้ไง”
“เสียใจด้วยย่ะ พี่นทีมีคนที่ชอบแล้ว” ทรายรีบแย้ง
“ใคร?”
“พี่ลดา อดีตดาวคณะวิศวะ ปีเดียวกับพี่นที ใคร ๆ เขาก็รู้ว่าคู่นี้เหมาะกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก” ทรายเอ่ยด้วยน้ำเสียงคล้ายทำใจ
“แล้วไง ยังไม่ได้แต่งงานกันสักหน่อย ของแบบนี้ใครดีใครได้!”
“บ้า แกบ้าไปแล้วจัสมิน”
และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของดาวดวงใหม่แห่งคณะนิเทศ กับ สายน้ำสุดหยั่งแห่งคณะวิศวะ