ตอนที่9

2080 Words
อลิสานอนนิ่งอยู่บนโซฟาในร้าน แอร์เย็นฉ่ำช่วยบรรเทาอาการลมแดดได้เป็นอย่างดี โบนิต้าในบทพยาบาลจำเป็นนั่งอยู่ข้างๆ คอยพัดวีเบาๆ ลูกน้องในร้านที่โบนิต้าไว้วางใจได้รับหน้าที่พาอลันออกไปรอด้านนอก พร้อมบอกเพียงว่า "พี่แอลแค่เป็นลม เดี๋ยวก็หาย" แม้อลันจะน้ำตาซึมและสีหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วง แต่เด็กชายก็ยอมเชื่อฟังเจ้าของร้านที่เขาคุ้นเคยและเคารพอย่างดี ออกไปนั่งรออยู่หน้าร้านโดยไม่ร้องไห้โวยวาย โบนิต้าหันกลับมาดูแลอลิสาอีกครั้ง เธอช่วยปลดกระดุมคอเสื้อเชิ้ตของหญิงสาวเพื่อให้ร่างกายถ่ายเทอากาศ ระหว่างนั้นสายตากลับสะดุดเข้ากับรอยจางๆ รูปทรงคล้ายกลีบกุหลาบบนลำคอและเนินอกอ่อน “ นี่มัน…” เธอชะงักเล็กน้อยก่อนจะรีบติดกระดุมเสื้อคืนดังเดิม สีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้น รอยนั้นไม่ใช่สิ่งที่เธอควรพูดถึงหรือถามในตอนนี้ ไม่อยากให้ใครผ่านมาเห็นแล้วเข้าใจผิดหรือมองอลิสาในทางที่ไม่ดี เจ้าของร้านสาวเลือกที่จะพัดลมให้แรงขึ้นเล็กน้อย วางยาดมไว้ใกล้จมูกของอลิสา แล้วนั่งเฝ้าเธออย่างเงียบๆ ด้วยความเป็นห่วง ไม่นานนัก อลิสาก็ลืมตาขึ้นช้าๆ ดวงตาคู่นั้นยังพร่ามัวเล็กน้อยก่อนจะโฟกัสไปที่ใบหน้าอ่อนโยนของโบนิต้าที่นั่งอยู่ข้างๆ ส่งรอยยิ้มบางๆ มาให้ สมองของเธอประมวลผลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าจะดับวูบไป “แอลเป็นลมน่ะจ้ะ” โบนิต้าพูดเสียงอ่อน มือก็ช่วยพยุงร่างเล็กให้ลุกขึ้นนั่งพิงเบาะอย่างระมัดระวัง “ขอบคุณนะคะคุณโบ แล้ว...อันล่ะคะ” อลิสาหันมองไปรอบๆ สีหน้าร้อนรน นึกถึงน้องชายที่น่าจะตกใจมาก “อยู่ข้างนอกจ้ะ ไม่ต้องห่วงนะ พี่บอกอันว่าแอลแค่เป็นลม เขาเลยยอมออกไปรอเงียบๆ” โบนิต้ายิ้มปลอบ “ตอนนี้แอลห่วงตัวเองก่อนดีกว่า เถอะ โหมงานหนักอีกแล้วใช่ไหม” เธอยื่นแก้วน้ำเย็นให้หญิงสาวที่ยังดูอ่อนแรง อลิสารับแก้วมา จิบน้ำช้าๆ ก่อนตอบเสียงเบา “นิดหน่อยค่ะ ช่วงนี้...รายจ่ายค่อนข้างเยอะ” “พี่เคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกพี่ได้เลย พี่ไม่เคยคิดว่าแอลกับอันเป็นคนอื่น ทั้งสองคนก็เหมือนน้องพี่คนหนึ่ง” โบนิต้าเอ่ยเสียงนุ่ม ขณะลูบเรือนผมสีน้ำตาลเข้มของอลิสาเบาๆ ความอ่อนโยนในแววตายิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกอบอุ่น อลิสานิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม ดวงตาแดงๆ ด้วยความซาบซึ้งใจ “ขอบคุณนะคะ...แต่แอลยังไหวค่ะ “แอล… พี่ขอถามในฐานะพี่สาวที่เป็นห่วงแอลนะ” โบนิต้าเว้นจังหวะก่อนเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงระมัดระวัง “แอลมีแฟนใหม่แล้วหรือ…กลับไปคบกับกันต์เหรอ” อลิสาขมวดคิ้ว ความสงสัยผุดขึ้นในใจทันที ทำไมโบนิต้าถึงถามอย่างนั้น เรื่องที่เธอเลิกกับชนกันต์ โบนิต้าก็รู้อยู่แล้ว เพราะเคยเป็นที่ปรึกษาให้ “พี่เห็น…รอยบนตัวแอลนะ” เหมือนฟ้าผ่ากลางหัว อลิสารู้สึกชาไปทั้งตัว ใบหน้าเจื่อนลงในพริบตา ปากเล็กเม้มเข้าหากันแน่น ความละอายแล่นเข้าจู่โจมหัวใจ ถ้าโบนิต้ารู้ว่าเธอไปทำอะไรมา... เธอคงผิดหวังแน่ อลิสาไม่ได้เอ่ยคำใด มีเพียงหยาดน้ำตาที่ไหลซึมออกมาเป็นคำตอบ โบนิต้ารีบขยับเข้ามานั่งใกล้ ลูบหลังปลอบเบาๆ “พี่ไม่ได้จะว่าอะไรนะ ถ้าแอลมีแฟนใหม่ พี่แค่ขอให้แอลดูแลตัวเอง ป้องกันให้ดี… แต่ถ้าเป็นกันต์ พี่ไม่อยากให้กลับไปจริงๆ” น้ำเสียงของหญิงสาวแฝงความจริงจัง “คนที่เคยทิ้งเราเพราะความลำบาก... แค่เพราะเขารักสบาย พี่ไม่คิดว่าเขาเหมาะจะเป็นคู่ชีวิต” อลิสาสูดลมหายใจลึกก่อนตอบเสียงเบาแทบกระซิบ “แอลไม่ได้กลับไปหากันต์หรอกค่ะ” “อย่างนั้นพี่ก็เบาใจหน่อย” โบนิต้ายิ้มบางๆ “แต่แฟนใหม่คนนี้...พามาให้พี่รู้จักบ้างนะ ชักอยากเห็นหน้าแล้วล่ะ” ยังไม่ทันที่อลิสาจะได้พูดอะไรต่อ เสียงฝีเท้าเล็กๆ ดังขึ้นตามด้วยเสียงสะอื้น เด็กชายวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว “พี่แอล!” อลันโผเข้ากอดพี่สาวแน่น ซุกหน้าลงกับอกเล็กทั้งด้วยความตกใจและโล่งใจที่เห็นเธอยังปลอดภัย อลิสายกมือกอดตอบ ลูบผมน้องเบาๆ ปลอบโยนด้วยรอยยิ้ม โบนิต้ายืนมองภาพตรงหน้าแล้วรู้สึกอุ่นวาบในอก เธอยิ้มบางๆ ออกมาโดยไม่รู้ตัว ภาวนาในใจเงียบๆ ขอให้สองพี่น้องนี้มีชีวิตที่ดีขึ้นโดยเร็ว จะได้ไม่ต้องทนลำบาก ไม่ต้องแบกรับทุกอย่างไว้เพียงลำพังเหมือนทุกวันนี้อีก วันจันทร์ อลิสากลับมาเรียนตามปกติ ร่างกายดีขึ้นมากหลังจากเป็นลมกลางร้านจนลูกค้าแตกตื่น โบนิต้าออกคำสั่งเด็ดขาดในวันถัดมาว่าห้ามเธอมาทำงานโดยเด็ดขาด ให้พักฟื้นอยู่ที่ห้องเท่านั้น โดยแต่งตั้ง ‘ยามตัวน้อย’ อย่างอลันให้คอยเฝ้า หากพบว่าพี่สาวแอบออกไปทำงานให้รีบโทรรายงานทันที นั่นทำให้วันอาทิตย์กลายเป็นวันแรกในรอบหลายปีที่อลิสาได้นอนเต็มอิ่ม บรรยากาศในคลาสเช้าวันจันทร์ดูแปลกไปกว่าทุกวัน เมื่อเธอก้าวเท้าเข้าห้องเรียน เพื่อนร่วมชั้นหลายคนหันมามองด้วยสายตาแปลกประหลาด บ้างก็แอบกระซิบกระซาบกันเป็นกลุ่ม อลิสาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่ใส่ใจนัก เธอไม่ชอบสุงสิงกับใครอยู่แล้ว หญิงสาวเดินไปนั่งลงอย่างเงียบๆ หยิบหนังสือเตรียมเรียนวางบนโต๊ะ เปิดหน้าเรียนตามที่กำหนดไว้ รอเวลาเริ่มคลาสอย่างมีสมาธิ เมื่ออาจารย์เดินเข้ามาในห้อง เสียงพูดคุยจอแจค่อยๆ เงียบลง อลิสารู้สึกได้ถึงสายตาของอาจารย์ที่มองมาทางเธอบ่อยกว่าปกติ การบรรยายเริ่มขึ้นตามปกติ และเธอก็จดตามบทเรียนอย่างตั้งอกตั้งใจ มือเล็กเคลื่อนไหวรวดเร็ว ไม่ให้พลาดแม้แต่คำเดียว เมื่อการเรียนจบลง นักศึกษาทยอยกันออกจากห้อง อลิสานั่งนิ่งอยู่กับที่ เธอไม่ชอบความวุ่นวายและการเบียดเสียด จึงเลือกเก็บของอย่างใจเย็น รอให้คนทยอยออกไปก่อน “อลิสา...ครูขอคุยด้วยหน่อย” เสียงอาจารย์เรียกขึ้นจากหน้าห้อง หญิงสาวชะงัก เงยหน้าขึ้นสบตากับอาจารย์แล้วพยักหน้าเบาๆ เธอลุกขึ้น ค่อยๆ เดินตามออกไปจากห้องเรียน ห้องพักอาจารย์ อาจารย์วิญดาเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาที่อลิสาเรียนด้วยมาตั้งแต่ปีหนึ่ง หญิงวัยกลางคนใจดีและคอยช่วยเหลือเธอเสมอ โดยเฉพาะในเรื่องการเรียนและทุนการศึกษา "ครูขอเข้าเรื่องตรงๆ เลยนะอลิสา" เสียงของอาจารย์ฟังดูเครียดผิดปกติ "เมื่อเช้าท่านคณบดีเรียกครูไปพบ... มีเรื่องข่าวลือไม่ดีเกี่ยวกับนักศึกษาในภาควิชาของเรา และครูคงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าเขาหมายถึงใคร" อลิสานิ่งงัน ดวงตากลมโตสบตาอาจารย์อย่างไม่เข้าใจเต็มที่ "ข่าวลือ... เรื่องอะไรเหรอคะ?" "พวกเขาพูดกันว่า... นักศึกษาคนหนึ่งของเราขายบริการ" อาจารย์เว้นจังหวะเพื่อให้อีกฝ่ายตั้งสติ ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "เธอรู้ใช่ไหม…ว่าหมายถึงใคร?" ทันใดนั้นเหมือนโลกหยุดหมุน อลิสายืนตัวแข็ง น้ำเสียงของอาจารย์ดังซ้ำในหัวอย่างไม่อยากเชื่อ เรื่องที่เธอเคยทำ เพียงครั้งเดียว และมันควรจะเป็นความลับที่สุดในชีวิต "ครูไม่รู้ว่าข่าวลือนี้มาจากไหน แต่ค่อนข้างรุนแรง" อาจารย์ถอนหายใจแผ่วเบา "ครูช่วยพูดแทนเธอไปแล้วว่ามันเป็นการเข้าใจผิด เพราะถ้าไม่อย่างนั้น พวกเขาอาจลงมติให้เธอถูกไล่ออก" คำว่า "ไล่ออก" ทำให้หัวใจของอลิสากระตุกวูบ สีหน้าของเธอซีดเผือดทันที ไม่ใช่ตอนนี้... อีกแค่สามเดือนเท่านั้น เธอก็จะเรียนจบ ความพยายามตลอดสี่ปีจะไม่สูญเปล่า งานดีๆ ที่เธอวาดฝันไว้ น้องชายที่ยังต้องพึ่งพาเธอ อลิสาไม่อาจยอมให้ทุกอย่างพังลงเพราะความผิดพลาดแค่ครั้งเดียว “ครูรู้ว่าเธอทำงานอยู่ที่คลับแห่งหนึ่ง...” อาจารย์วิญดาเริ่มพูดช้าๆ แววตาเจือความห่วงใย “ที่นั่นไม่เหมาะสำหรับเด็กสาวอย่างเธอ โดยเฉพาะนักศึกษาที่กำลังจะจบในอีกไม่กี่เดือน” อลิสานิ่งฟัง รู้ว่าคำพูดต่อไปต้องหนักหนาแน่นอน “ครูอยากให้เธอไปลาออก และอยู่ห่างจากสถานที่แบบนั้นสักพักเถอะนะ อีกแค่สามเดือนเท่านั้น เธอก็จะเรียนจบแล้ว ถ้ายังมีข่าวแบบนี้หลุดออกมาอีก ครูก็ไม่แน่ใจว่าจะปกป้องเธอได้แค่ไหน…” คำพูดของอาจารย์จบลงท่ามกลางความเงียบ แต่ในใจของอลิสากลับพังครืน ไนต์คลับคือเส้นเลือดใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอ รายได้จากที่นั่นคือสิ่งที่หล่อเลี้ยงทุกอย่าง ทั้งค่าเทอม ค่าหอพัก ค่าข้าวของเครื่องใช้จิปาถะที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ถ้าเธอต้องทิ้งงานนั่นตอนนี้... แล้วพรุ่งนี้จะเอาอะไรกิน จะหาเงินที่ไหนจ่ายค่าเทอมให้น้อง จะรักษาความฝันของทั้งเธอและอลันต่อไปได้อีกไหม? แต่จะให้เสี่ยงกับการถูกไล่ออกในเวลานี้ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี อลิสาไม่มีทางเลือกมากนัก เธอไม่มีวันยอมแลกความฝันที่ทุ่มเทมาทั้งชีวิตกับเวลาแค่สามเดือน ไม่ว่าจะต้องเหนื่อยหรือลำบากแค่ไหน ค่อยหาทางออกในภายหลัง ตอนนี้...ขอแค่รักษาสถานะนักศึกษาไว้จนถึงวันที่เรียนจบเท่านั้น “ค่ะ... ขอบคุณมากค่ะอาจารย์” อลิสาเดินคอตกมายืนรอรถประจำทางอยู่หน้ามหาวิทยาลัย ช่วงบ่ายวันนี้เธอนัดกับอลันเอาไว้ ว่าจะพาเขาไปจ่ายค่าเทอมที่ค้างชำระมาหลายเดือน ใบหน้าหวานดูเหม่อลอย ในหัวเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ยังหาทางออกไม่ได้ “แอล!” เสียงเรียกดังขึ้นจากทางด้านหลัง อลิสาสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองตามสัญชาตญาณ และพบกับคนที่เธอไม่คิดว่าจะได้เจอในเวลานี้ ชนกันต์ อดีตแฟนหนุ่ม เขากำลังเดินกึ่งวิ่งตรงเข้ามา ใบหน้าคมสันที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนคุ้นเคย ยังคงดูดีไม่เปลี่ยน ดีกรีนักกีฬาของมหาวิทยาลัยยังคงฉายชัดแม้จะมีเหงื่อไหลเปื้อนแก้ม อลิสาหลุบตาลง ไม่คิดจะพูดอะไรกับเขาอีก ในเมื่อเขาเป็นคนบอกเลิกกับเธอเอง ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องย้อนกลับไปเคลียร์เรื่องเก่า ๆที่จบลงไปแล้ว ร่างบางหันกายเตรียมจะเดินหนีไปจากตรงนั้น ทว่าไม่ทันไร ชนกันต์ก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอเสียก่อน… “คุยกันก่อนได้ไหม” เขาเอื้อมมือมาจับมือเธอไว้โดยไม่ได้ขออนุญาต ใบหน้าหล่อเหลาเปียกชื้นด้วยเหงื่อ แม้จะไม่ได้เหนื่อยมาก แต่ลมหายใจก็ยังไม่เป็นจังหวะดีนัก “ปล่อย” อลิสาเอ่ยเสียงเรียบ ดวงตาคมกวาดมองรอบตัวเมื่อเริ่มมีนักศึกษาหลายคนหันมามอง เธอไม่ต้องการเป็นจุดสนใจ และดูเหมือนชนกันต์เองก็รู้ตัว เขาจึงยอมปล่อยมือเธออย่างไม่เต็มใจ “เรื่องข่าวลือนั่น...ไม่จริงใช่ไหมแอล” เสียงเขาติดลังเล แต่แฝงความวิตกชัดเจน อดีตแฟนหนุ่มที่เคยคบกันมาเกือบสองปีรู้ดีว่าอลิสาไม่ใช่คนแบบนั้น ทว่าเวลาผ่านไป คนก็เปลี่ยน และเขาอดไม่ได้ที่จะคิดว่าเธออาจทำอะไรบางอย่างเพื่อประชดเขา หากเรื่องนี้แพร่ออกไป เขาเองก็อาจจะเดือดร้อนตามไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนที่เขาคบอยู่ในตอนนี้เป็นลูกสาวของอธิบดีมหาวิทยาลัย “มันไม่เกี่ยวอะไรกับนาย” อลิสาตัดบท เสียงเธอเย็นเฉียบ เธออยากจะเดินหนีไปให้ไกลจากตรงนี้เสียเดี๋ยวนั้น แต่โชคร้ายที่รถเมล์สายที่เธอต้องการยังไม่มาเสียที “เกี่ยวสิ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD