“ส่งมันมาให้ผมแล้ว ผมจะทำอะไรก็ได้ใช่มั้ยครับ?”
(ลูกหมายถึงอะไร)
ติ๊ด
เขากดวางสายโดยไม่ตอบคำถามของบิดา ก่อนที่มือหนาจะกดปุ่มบนเครื่องโทรศัพท์สายภายในที่งวางอยู่บนโต๊ะทำงาน เป็นการส่งสัญญาณให้เมธัสเข้ามา
ไม่ถึงสิบวินาที ลูกน้องมือขวาคนสนิทของจอมทัพก็เดินเข้ามาก่อนจะโค้งคำนับให้ผู้เป็นนายหน้า จอมทัพเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ก่อนจะวางมือลงบนโต๊ะ
เขาเคาะนิ้วชี้เบาๆ ก่อนจะเอ่ยคำสั่งด้วยสุ้มเสียงเคร่งขรึมน่าเกรงขาม
“สืบประวัติลูกสาวนาตยา”
“ได้ครับนายท่าน”
(ขนาดนั้นเลยเหรอวะ!)
ชมวิว เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของน้ำขิงตะโกนลั่นโทรศัพท์ หลังจากที่ถูกจอมทัพทิ้งปิ่นโตลงพื้นจนอาหารที่เธอตั้งใจจัดให้หกกระจายเต็มพื้น และถูก ‘ขู่ฆ่า’ ก็ทำให้ร่างบางหงุดหงิดอย่างหนักก่อนจะพาตัวเองขึ้นมาในห้องนอนและต่อสายหาเพื่อนสนิททันที ชมวิวเป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมต้น ปลาย และมหาวิทยาลัยอีกด้วย นับว่าเป็นเพื่อนซี้ปึ้ก รู้ไส้รู้พุงกันทุกอย่าง และรู้อีกด้วยว่าน้ำขิงต้องย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์สมุทรเตโชที่ร่ำรวยมหาศาล รวมไปถึงเรื่องที่เธอต้องใกล้ชิดกับลูกชายแฟนใหม่ของมารดา และตอนนี้น้ำขิงก็กำลังโทรไปปรับทุกข์กับเรื่องราวที่พบเจอให้ชมวิวฟัง
“ใช่ ฉันนี่นะ อยากจะกระโดดถีบขาคู่ใส่หมอนั่นให้มันรู้แล้วรู้รอด”
(เอาเลย ฉันสนับสนุน)
น้ำเสียงเอาเรื่องของปลายสายทำให้น้ำขิงรู้สึกสบายใจที่อย่างน้อยก็ยังมีคนคิดเหมือนกันกับเธอ
“ใช่ปะ คนอะไรไม่เคยพบเคยเจอ”
น้ำขิงนอนคว่ำอยู่บนเตียงนอน ยู่ปากอย่างมีน้ำโห
(กลับบ้านเหอะ อย่าไปอยู่เลยที่นั่น ฉันเป็นห่วงแกจริงๆ นะ เล่นขู่จะเก็บกันแบบนั้น แจ้งตำรวจเลยดีมะ)
“แจ้งไปฉันนี่แหละที่จะตายจริงๆ”
(งั้นก็กลับบ้าน ถ้าแกไม่กล้าอยู่คนเดียว เดี๋ยวฉันไปอยู่เป็นเพื่อน)
บ้านของเราอยู่ห่างกันเพียงสองซอยเท่านั้น ไปมาหาสู่กันตลอด แม่ของเราทั้งคู่ก็รู้จักกัน แต่น้ำขิงเลือกที่จะปฏิเสธอีกฝ่ายไป
“ยังดีกว่า ฉันยังไหว”
(นิสัยชอบเอาชนะ ลดๆ บ้างก็ดีไอ้ขิง เดี๋ยวจะซวย)
น้ำขิงกรอกตาไปมา ใครบอกกันว่าเธอมีนิสัยที่ชอบเอาชนะ
ไม่จริ๊งสักนิด!
“เหอะหน่า แค่นี้ก่อนนะว่าจะนอนหลับสักงีบ วันนี้ตื่นเช้าอะ”
(เออๆ)
ติ๊ด
เธอกดวางสาย ก่อนจะค่อยๆ หลับตาทั้งที่ยังนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง ใช้เวลาเพียงไม่นานเธอก็จมเข้าสู่ห้วงนิทรา
15.30 น.
“พี่มะพร้าวคะ วันนี้ขิงจะเข้าครัวเองค่ะ!”
หลังจากนอนหลับเอาแรง น้ำขิงก็ลงมายังชั้นล่างและตรงเข้าห้องครัวทันที ความกระปรี้กระเปร่านี้ทำให้มะพร้าวทำสีหน้าหนักใจ
“มะพร้าวกลัวว่าถ้าคุณจอมทัพรู้ว่าเป็นฝีมือคุณน้ำขิง คุณแกจะโกรธเอาอีกนะคะ”
สาวใช้ที่เหลือต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย น้ำขิงเม้มปากเล็กน้อย
“ก็อย่าให้เขารู้สิคะ”
“จะดีเหรอคะ”
“ดีค่ะ ขิงอยากทำจริงๆ นะ อยู่เฉยๆ มันเบื่อนี่คะ น้าๆ”
ใบหน้าน่ารักยู่ปากพลางทำเสียงออดอ้อน สาวใช้ทั้งหลายต่างพากันเอ็นดูคุณหนูน้ำขิงกันเป็นแถว รวมทั้งหนุ่มๆ คนสวนที่กำลังขนลูกทุเรียนเข้ามาในครัวพอดีก็ต่างพากันแอบมองใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มของคุณหนูคนใหม่จนมะพร้าวหันไปเอ็ด
“พวกแกน่ะ หยุดมองคุณน้ำขิงเลยนะ! เดี๋ยวฉันฟ้องคุณชัชวาลซะเลยเดี๋ยวเถอะ”
“โธ่ยัยมะพร้าว พวกฉันแค่มองความน่ารักของคุณน้ำขิง ไม่ได้คิดอะไรเลยสักนิด”
หนุ่มๆ คนสวนเอ่ยอ้อมแอ้ม น้ำขิงส่งยิ้มหวานให้พี่ๆ คนสวนที่ไม่เคยเจอหน้าเพราะทุกคนล้วนต่างก็อยู่ในสวนและพักที่บ้านพักหลังคฤหาสน์ พึ่งจะเจอกันก็ครั้งนี้
“สวัสดีพี่ๆ ทุกคนนะคะ”
“สวัสดีครับคุณน้ำขิง”
“ไปเลยพวกแกน่ะ ไม่ต้องมายุ่งกับที่ของผู้หญิงเขา!!”
น้ำพร้าวโบกมือไล่คนสวนหนุ่มสามสี่คนที่กำลังพากันเดินออกจากห้องครัว ก่อนจะหันมาหาคุณหนูซึ่งกำลังรอเข้าครัวอย่างใจจดใจจ่อ ห้ามก็คงไม่ได้สินะ
“ถ้าอยากจะทำด้วยจริงๆ ก็ได้ค่ะ”
น้ำขิงยิ้มกว้างอย่างดีใจ เธอทำอาหารเป็นเพราะเข้าครัวกับแม่ตั้งแต่เด็ก วันนี้มีเมนูแกงกะทิไก่ใส่หยวกกล้วย ต้มจืดหมูสับ ผัดผักรวม ทอดมันกุ้ง และปลากระพงนึ่งมะนาว น้ำขิงรับหน้าที่ผัดผักและทำต้มจืดหมูสับ ระหว่างที่ทำอาหารก็ได้คุยกับสาวใช้ในครัวอย่างสนุกสนาน อย่างน้อยในระหว่างที่รอสัมภาษ์งานและได้งานทำ เธอจะได้ไม่เหงามากเท่าไร
หลังจากทำอาหารเสร็จ น้ำขิงทานมื้อค่ำเป็นคนแรกของบ้าน เธอก็ไม่คิดจะร่วมโต๊ะกับจอมทัพอยู่แล้วเพราะเขาคาดโทษเธอเอาไว้ตั้งแต่เช้า วันนี้เลยไม่อยากไปให้อีกฝ่ายเห็นหน้า แต่พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ วันนี้คงเป็นอีกวันที่เขากลับบ้านช้า น้ำขิงขึ้นห้องมาอาบน้ำสักพักแล้ว แต่งชุดนอนเรียบร้อยในเวลาสองทุ่มกว่า แอร์ฉ่ำๆ กับนมจืดหนึ่งขวดที่เอาขึ้นมากินก่อนนอน เธอกะจะดูซีรี่ย์สักสองตอนแล้วค่อยเข้านอน ทำท่าจะเอนร่างกายลงบนเตียงนุ่ม หูทั้งสองข้างก็ได้ยินเสียงดังสนั่น
น้ำขิงดีดตัวลุกขึ้นทันทีและวิ่งไปเปิดประตูห้อง เงี่ยหูฟังก็ได้ยินเสียงดังมากๆ นั่นมาจากชั้นล่างของบ้าน ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เธอวิ่งลงบันไดไปด้วยความเร็ว ยิ่งใกล้เสียงยิ่งชัด มันคือเสียงจานแตกพร้อมกันหลายใบจึงทำให้เสียงดังขึ้นไปข้างบน
ห้องทานอาหารคือสถานที่เกิดเหตุ และภาพที่น้ำขิงเห็นคือสาวใช้ที่เธอทำอาหารด้วยเมื่อตอนเย็น บัดนี้กำลังนั่งคุกเข่าลงบนพื้นเรียงหน้ากระดาน จานหลายใบที่แตกกระจายเต็มพื้นกระเด็นกระดอนและที่สำคัญจานพวกนั้นยังเต็มไปด้วยอาหารที่เธอกับพวกพี่ๆ สาวใช้ช่วยกันทำ ฝีมือนั้นมาจากร่างสูงใหญ่ของจอมทัพที่ยืนอยู่ตรงหน้าสาวใช้ที่กำลังคุกเข่าด้วยความหวาดกลัว
ทุกคนก้มศีรษะลงและตัวสั่นระริก หนึ่งในนั้นมีพี่มะพร้าวอยู่ด้วย
“ให้พูดอีกครั้งว่าใครเป็นคนทำอาหารพวกนั้น”
♡♡♡
**เมื่อกี้อัพผิดตอน ค่ะ อัพใหม่ตอนที่12แล้วนะคะ
อาละวาดเพื่อออ แกจะจงเกลียดจงชังอะไรน้องมันนักหนาหึ
#มาอัพแล้วค้าบบ คอมเมนค์พูดคุยกันได้น้า รู้สึกว่าเงียบเหงาเศร้าสร้อยเหลือเกินแงง ?