ตงหลินซีหยักยิ้มร้ายขึ้นมาเย้ยอีกครั้ง และเดินตามคุณนายตงกับพ่อเข้าไปในงาน พ่อของเธอเป็นพ่อค้า แม่เป็นคนดูแลร้านผ้าไหม ที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของกวางโจว หลินซียังไม่เคยมีโอกาส ได้ไปดูกิจการของที่บ้าน เต้าชุนบอกว่า เธอเป็นคุณหนูที่ไม่ชอบทำงาน
ตงหลินซีชอบแต่งตัว และออกงานสังคม เพราะเธอบอกว่ามีความสวยเป็นอาวุธอยู่แล้ว ชุดที่เธอสวม มีแต่คนชื่นชมและตามหา ทำให้พ่อของเธอขายสินค้าได้ แต่ที่จริงแล้ว รายได้ของครอบครัวเธอ มาจากการส่งออกผ้าไปที่อื่นต่างหาก ส่วนตงหลินซี ก็เป็นแค่ตัวตลกในวงสังคม ที่มองว่าเธอสวยแต่ไร้สมองก็เท่านั้น
“เฮ้อ ก็จริงอย่างที่เขาวิจารณ์ ดูจากสายตาคนพวกนี้ก็พอรู้”
เธอดูชุด เสื้อผ้า เครื่องประดับของเจ้าของร่าง ซึ่งราคาแพง แต่ไร้รสนิยม ที่ส่วนใหญ่ถูกหลอก โดยพ่อค้าปากหวานที่ขายของไม่ออก
“ตงหลินซิน เธอเกิดมาในครอบครัวค้าขายเสียเปล่า ๆ แต่โง่ถูกพ่อค้าแม่ค้าปลายแถวพวกนี้หลอกเนี่ยนะ”
นี่เป็นวันแรก ที่เธอออกงานเลี้ยงในสังคม ซึ่งย้อนหลังจากยุคปัจจุบันที่เคยอยู่เกือบสี่สิบปี แม้ว่าจะเริ่มมีการขยายการค้า และรับต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจ แต่สังคมและการปกครอง ยังต่างกับยุคของเธอมาก โดยเฉพาะแฟชั่นที่ย้อนหลังเหล่านี้
เธอสังเกตว่า ผู้คนมักจะสวมใส่ชุดกี่เพ้า และเครื่องประดับ แต่แยกกันที่ผ้าที่ใช้ตัด ซึ่งมีทั้งผ้าไหมราคาแพง จนถึงเสริมด้วยเฟลอร์ขนสัตว์ และเครื่องประดับราคาแพง เพื่อจะได้ดูแปลกแยก กับพวกเด็กเสิร์ฟตามร้านอาหาร
“สังคมที่เริ่มพัฒนา ยุคเริ่มปฏิวัติแฟชั่น รุ่นพ่อรุ่นแม่ยังไม่ค่อยนุ่งน้อยห่มน้อย สวมชุดสั้น ๆ สินะ”
ระเบียงชั้นสอง
“นายพลน้อยครับ”
“คุณพ่อล่ะ”
“กำลังพาคุณผู้หญิงลงไปครับ”
“ก็แค่จะประกาศหาความร่วมมือทางทหาร จำเป็นต้องสิ้นเปลืองขนาดนี้เลยเหรอ ไร้สาระ”
“แต่ว่าคุณก็รู้ว่า ที่จริงแล้วคุณนายจัดงานนี้ขึ้นก็เพื่อ อยากจะบอกตระกูลตงกลาย ๆ ว่า พวกเราอยากยกเลิกการหมั้น”
“จะหมั้นหรือเปล่า มันอยู่ที่ฉันไม่ใช่เหรอ”
“แต่ว่านายพลน้อย จะแต่งงานกับเธอได้จริงเหรอครับ คุณหนูตงคนนั้น… เมื่อกี้ก็พึ่งจะมีเรื่องกับแขกในงานไป”
“ฉันเห็นแล้ว ใครจะไปอยากแต่งงาน กับผู้หญิงไม่มีสมองแบบนั้นล่ะ วัน ๆ เอาแต่แต่งตัวเข้าสังคม อวดความโง่ของตัวเองไปวัน ๆ งี่เง่าชะมัด”
“ก็นั่นไงล่ะครับ คุณนายกู้เลยอยากให้คุณ เลือกผู้หญิงคนใหม่ ที่เหมาะสมกับคุณ อย่างคุณหนูหลี่ ลูกสาวของคุณหมอหลี่ไงล่ะครับ”
“นี่มันงานเลี้ยงจับคู่ชัด ๆ”
“กู้หานเซียว” ยังคงไม่ละสายตาจากตงหลินซี วันนี้เธอดูแปลกตาไปกว่าที่เขาเห็น เธอมองไปรอบ ๆ และสังเกตผู้คน ซึ่งโดยปกติสายตาเธอ จะคอยสอดส่องมองหาแต่เขาเท่านั้น
แต่วันนี้กลับต่างออกไป ในมือของเธอ มีสมุดจดเล่มเล็ก ซึ่งเขาไม่เคยรู้เลยว่า เธอรู้หนังสือกี่ตัวกันแน่ แต่สายตาของเธอที่สนใจพรม แจกันเก่าแก่ แม้กระทั่งโคมไฟระย้า และของตกแต่งภายในคฤหาสน์ตระกูลกู้ ทำให้เขาละสายตาไปจากเธอไม่ได้
“ตงหลินซี ผู้หญิงไร้สมอง วันนี้เธอจะมาไม้ไหนอีก”
ก่อนหน้านั้น เธอใช้ฐานะทางสังคม และให้พ่อของเธอที่ทำการค้าซึ่งรู้จักกับกรมเจ้าท่า มาต่อรองเรื่องการหมั้นของเธอกับนายพลน้อย “กู้หานเซียว” ซึ่งเขาไม่ได้ชอบเธอ ออกจะเกลียดด้วยซ้ำไป แต่ตงหลินซีตกหลุมรักเขา เพียงแค่เห็นเขาครั้งแรก ในงานเลี้ยงที่ท่าเรือเมื่อครั้งก่อน
“นายพลน้อย นี่คุณคิดจะ…”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ยังไงฉันก็ไม่มีทางเลือก ผู้หญิงงี่เง่าไร้สมองคนนี้มาเป็นคู่หมั้น แค่อยากรู้ว่าวันนี้ ตระกูลตงจะมาไม้ไหนอีก วันนี้คงไม่แกล้งเป็นลมอีกนะ ไปกันเถอะเอ้อหมิง”
“เอ้อหมิง” คนสนิทของเขา เดินตามลงมาข้างล่าง แค่การปรากฏตัวของกู้หานเซียว ก็ทำให้คนทั้งงานหันมามองเป็นตาเดียวกัน ยกเว้นตงหลินซี ที่กำลังตื่นเต้น กับชุดน้ำชาแบบโบราณ ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน แต่พอแม่ของเธอดึงเธอเข้ามา ก็ต้องตกตะลึงกับความหล่อ ของนายพลน้อยกู้ ที่พึ่งเดินลงมาต้อนรับแขก
‘โอ้โห ผู้ชายในชุดเครื่องแบบทหารยุคนี้โคตรหล่อเลยแฮะ ดูหน้านั่นสิ พระเจ้าปั้นมาโดยแท้ สายตา สันจมูกที่พุ่งไร้มีดหมอ ไหนจะคิ้วคม ผิวหน้านั่น ทหารจริงเหรอ ทำไมหน้าเนียนกว่าหน้าฉันเมื่อก่อนอีกล่ะ โชคดีที่ไม่ได้เอาร่างเดิมมา ไม่งั้นคงดูไม่ได้เลย’
“ซีซี เป็นอะไรไปลูก รีบเข้าไปทักทายท่านนายพลกับคุณนายกู้ก่อน”
“ค่ะคุณแม่”
เธอเดินตามคุณนายตงเข้าไป และทักทายครอบครัวตระกูลกู้ คุณนายกู้ที่ยิ้มตามมารยาทให้พวกเธอ เหมือนกับไม่อยากต้อนรับเท่าไหร่
“สวัสดีค่ะท่านนายพล”
“คุณนายตง”
“สวัสดีค่ะ”
แต่คุณนายกู้หันไปมองตงหลินซี ที่วันนี้เธอแต่งตัวดีจนแปลกตา อีกอย่างชุด และเครื่องประดับน้อยชิ้นที่เธอสวม กลับทำให้คุณนายกู้รู้สึกสะดุดตา จนต้องเอ่ยทัก
“คุณหนูหลิน ชุดของหนูวันนี้ ดูสวยสะดุดตามากเลย นี่หนูไปสั่งตัดชุดที่ไหนเหรอจ๊ะ”
“ขอบคุณค่ะคุณนายกู้ แต่ชุดนี้หนูตัดเย็บเองค่ะ”
“อะไรนะ ตัดเองเหรอ”
เกิดเสียงหัวเราะดังขึ้น เมื่อทุกคนได้ยินว่าตงหลินซี ตัดเย็บชุดนี้ด้วยตัวเอง ก็ใครจะไปเชื่อในเมื่อเธอเป็นคนขี้อวดและคุยโวไปทั่ว แต่เอาเข้าจริง ๆ กลับทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง
และนี่ก็ไม่ใช่เรื่องแรก ที่เธออ้างว่าทำเอง แม้แต่คุณนายกู้ ก็อดกลั้นขำไม่ได้ คุณนายตงและพ่อของเธอ ก็ได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ เพราะลูกสาวมักจะทำแบบนี้อยู่บ่อย ๆ
“ทำไมคะ ไม่เชื่อฉันเหรอคะ”
“เอ่อ ไม่จ้ะ ๆ ไม่ใช่แบบนั้น แต่ว่าชุดนี่สวยมากจริง ๆ แม้จะไม่สวมเครื่องประดับมาก เอ๊ะ… เข็มกลัดอันนี้ กับไข่มุกนี่”
“ค่ะ สร้อยไข่มุกของคุณแม่ ฉันตัดออกมาและเย็บเป็นเกสรดอกไม้ ส่วนเข็มกลัดนี่ ฉันไม่ชอบใส่ แต่ชุดมันเรียบเกินไป ก็เลยเอามาทำเป็นตัวผีเสื้อ สีของทับทิมสีแดง มันตัดกับสีไข่มุก ส่วนดอกไม้ผ้าไหมแก้ว ก็เย็บแบบง่าย ๆ แค่ใช้เทคนิคการเย็บ และดึงให้เป็นช่อ มันไม่ได้ยากเลย เด็กเจ็ดขวบเรียนแป๊บเดียวก็ทำได้แล้ว”
หึ!
เสียงหัวเราะเล็ก ๆ นั่น ทำให้ตงหลินซีหันไปมอง เธอแค่เห็นเขายิ้ม แม้ว่าจะเป็นยิ้มที่เยาะเล็ก ๆ แต่เธอกลับใจเต้นแรง อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขายืนอยู่กับคุณนายกู้ ถ้าอย่างนั้นเขาก็คือ…
“หานเซียวไม่เอาน่ะ อย่าเสียมารยาทสิ เอาล่ะคุณหนูตง ฉันเชื่อแล้วว่าชุดนี้หนูทำเอง”
“แต่สายตาของคุณ…”
“เอาล่ะเราไปหาที่นั่งกันก่อนดีกว่า ซีซีพอเถอะ อย่ายืนอยู่ตรงนี้เลยนะ ไปกันเถอะค่ะท่านนายพล คุณนายกู้”
“เชิญค่ะ”
สายตาของคุณนายกู้ ดูไม่เชื่อเธอเลยสักนิด แม้ว่าสิ่งที่เธอพูด จะดูเหมือนความจริง หรือว่าเป็นเพราะถูกพูดออกมา จากปากของตัวตลก อย่างตงหลันซี ที่ขึ้นชื่อว่า “สวยแต่โง่” คนนี้ ถึงทำให้ทุกคน แม้แต่เขาก็ยังมองเธอด้วยสายตาดูถูก
แต่พอได้นั่งคุยกับพวกเขา เธอถึงได้รู้ว่าไม่ใช่แค่ดูถูกเธอ แต่พวกเขาโดยเฉพาะสองแม่ลูกตระกูลกู้ ไม่เคยให้เกียรติตระกูลตง ที่เป็นพ่อค้าเลยต่างหาก
“ผมว่าเรื่องนี้ ท่านนายพลก็น่าจะทราบดีนะครับ ที่จริงยิ่งเร็วก็ยิ่งดี ผมจะได้ให้ซีซีเตรียมตัวได้ทัน”
“เรื่องนี้ผมคิดว่า…”
กู้หานเซียวที่พึ่งจะยกบรั่นดี ขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมด วางแก้วลงและหันมายิ้มเหยียด ๆ ให้กับพ่อของเธอ "ตงซานหัว" ด้วยน้ำเสียง ที่ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่นัก
“ก่อนจะพูดเรื่องอื่น ข่าวที่ว่าก่อนหน้านี้ไฟไหม้ เรือส่งสินค้าตระกูลตง สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ยังมีคนรอการชดใช้จากพวกคุณ ไม่ทราบว่าเรื่องนี้ ตระกูลตงคิดว่าจะจัดการยังไงต่อครับ”