ตอนที่ 7 วิกฤติตระกูลตง

1596 Words
ตระกูลตง เมื่อทั้งสามคน เดินเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลตงแล้ว หลินซีก็ไม่รอช้าที่จะหันมาถาม คนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของเธอในชาตินี้ แม้ว่าชาติก่อน เธอจะไม่เคยมีพ่อแม่เลยก็ตาม “พ่อคะ ตอนนี้หนูอยากรู้ว่าร้านผ้าไหมของเรา เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เล่าให้หนูฟังได้ไหมคะ” “เอ่อ ซีซีแม่ว่าคืนนี้ก็ดึกแล้ว ไปพักผ่อนเถอะนะ” “แม่คะ! หนูโตแล้ว อีกอย่างเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ถ้ากู้หานเซียวกล้าพูดแบบนั้นออกมา โดยไม่กลัวคนจะรู้ นั่นแสดงว่าร้านผ้าไหมตระกูลตง มีปัญหาจริงใช่ไหมคะ” “เอ่อ เรื่องนี้...” “ช่างเถอะ ช้าเร็วยังไงลูกก็ต้องรู้ ในเมื่อลูกอยากจะรู้ เราก็ไปคุยกันต่อข้างบนเถอะ” ตงซานหูตัดสินใจ เล่าเรื่องทุกอย่างให้ลูกสาวฟัง ถ้าเป็นหลินซีก่อนหน้านี้ เขาคงไม่คิดจะเล่าออกมา แต่คืนนี้เขากลับเห็นว่า ลูกสาวโตพอที่จะรับรู้เรื่องในครอบครัวแล้ว “พ่อว่าอะไรนะคะ ทำไมจู่ ๆ เราถึงถูกโกง กี่ล้านนะคะ” “ห้าล้านหยวน พวกมันร่วมมือกับพวกมาเฟียฮ่องกง เอาเรื่องก็ไม่ได้เพราะอิทธิพลมันมีเยอะมาก ตอนนี้นายพลกู้กำลังสืบข่าวอยู่ ว่ามันเอาเงินของเราไปทำอะไร พวกเรากำลังสงสัยว่า มันเอาไปซื้ออาวุธเถื่อนเพื่อแฝงตัวเข้ามากับพวกมีอิทธิพลในกวางโจว” พ่อเธอถูกหลอกโดยนายทุนต่างชาติ ที่อ้างว่าจะนำผ้าไหมเข้ามา แต่ต้องวางเงินก่อนห้าล้านหยวน ซึ่งพ่อของเธอไว้ใจเจ้าของเรือ ที่ทำธุรกิจร่วมกันมาเกือบสิบปี จึงยอมกู้เงินโดยใช้ที่ดินค้ำประกันกู้เงินออกมา สุดท้ายทั้งเงิน เรือและของก็หายไปกับตา ซึ่งเรื่องนี้ นายพลกู้ซึ่งเป็นคนแนะนำเจ้าของเรือให้เขา จึงรู้สึกผิดกับตระกูลตงอย่างมาก เพราะเจ้าของเรือ คือญาติผู้น้องของเขาเอง “กู้เจิ้ง” “นี่เป็นสาเหตุ ที่พ่อเอาไปต่อรองเรื่องงานหมั้นของหนูกับกู้หานเซียวเหรอคะ แล้วเขารู้เรื่องนี้ไหม หรือว่า...” “เรื่องนี้มีแต่นายพลกู้ที่รู้ กู้หานเซียวไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น แต่ที่พวกเราเสี่ยงที่จะล้มละลาย ก็เพราะว่าหลังจากนั้น เรือส่งสินค้าที่กำลังจะมาส่งให้เรา ถูกเผาจนไม่เหลืออะไรเลย สินค้าบนนั้นมีมูลค่าประมาณห้าล้าน เราต้องรับผิดชอบทั้งหมด ก็เลย…” “ว่าอะไรนะคะ ถูกปล้นเงินไป แล้วยังถูกเผาเรือเหรอ ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่เขาพูดวันนี้ ก็คือเรื่องนี้เหรอคะ” “ซีซีลูกใจเย็น ๆ ก่อนนะ สิบล้านหยวนอาจจะฟังเป็นเงินมากก็จริง” “ไม่ค่ะหนูไม่ได้ตกใจ และไม่โวยวาย แค่อยากจะถามว่า พ่อมีแนวทางจะแก้ไขเรื่องนี้ไหมคะ” ทั้งคู่หันมามองลูกสาวในวัยยี่สิบสอง ที่เรียนอะไรก็ไม่จบสักอย่าง สุดท้ายเขาต้องใช้เงิน เพื่อซื้อวุฒิการศึกษามาให้เธอ แต่วันนี้ตงหลินซีที่ไม่เคยสนใจเรื่องธุรกิจ กลับมานั่งคุยเหมือนคนที่มีสติ กับเขาที่เป็นพ่อของเธอ “พ่อกำลังคิดว่า อาจจะต้องยอมขายร้านผ้าไหม และบ้านที่นอกเมืองอีกสองหลัง” “มันไม่ได้ขายง่ายขนาดนั้นน่ะสิคะ อีกอย่าง…” เธอรู้ว่าหลังจากนี้ พื้นที่ตรงนี้จะมีมูลค่าสูงมากขนาดไหน ในยุคที่เธออยู่ ที่ดินตรงกวางโจวราคาสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ และยังเป็นที่ต้องการ ถ้านับจากช่วงเวลนี้ ก็เหลืออีกไม่กี่ปี เธอไม่มีทางปล่อยที่ดินทำเลทองแบบนี้ไปหรอก “ที่ดินที่พ่อเอาไปค้ำ อยู่ที่ไหนคะ” “ในเมืองเซินเจิ้น ไม่ใช่ที่ดีอะไรหรอก พ่อก็เลยคิดว่า อาจจะต้องปล่อยไป อีกอย่างร้านผ้าไหม ก็ต้องใช้ทุนสูงในการดูแล” “เดี๋ยวก่อนนะคะ เราคุยกันทีละเรื่อง แก้ปัญหาทีละจุดก่อนตกลงไหม ถ้าพ่อกับแม่เอาทุกอย่างมามัดรวมกันแล้วแก้ มันจะพังหมดนะคะ” “อะไรนะ นี่ลูก…” “เริ่มจากเรื่องโดนโกงก่อน ตอนนี้เราจัดการทางไหนได้บ้างคะ” “ตอนนี้นายพลกู้ พยายามส่งคนไปที่ฮ่องกง เพื่อจะสืบเรื่องนี้อยู่ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ น้องชายของนายพลกู้ ที่หายไปพร้อมกับเงินก้อนนั้น แต่วันนี้กู้หานเซียว กลับยกเรื่องเรือสินค้าที่ถูกไฟไหม้มาพูด คิดว่าคงอยากจะเลี่ยงงานหมั้น เพราะเรากำลังจะล้มละลาย” “เรื่องหมั้นโยนทิ้งไปก่อนเถอะค่ะ ใครจะไปมีอารมณ์คิดเรื่องไร้สาระนั่นกัน ถ้าอย่างนั้นแสดงว่า นายพลกู้รู้ดีว่าญาติตัวเอง เป็นคนที่รู้เรื่องทั้งหมด ถ้าอย่างนั้น พ่อก็แค่ติดตามจากเขา” “อืม เรื่องนี้พ่อจัดการเอง” “อีกเรื่อง ที่ดินที่เซินเจิ้น” “มันเป็นที่ติดทะเล ตอนแรกก็ไม่คิดว่า มันจะมีมูลค่ามากขนาดนั้น ที่จริงเงินกู้น่ะ เราได้มายี่สิบล้านหยวน แต่ก็ต้องแบ่งเอาไว้บริหารร้านผ้าไหมด้วย ก็เลย…” “ถ้าอย่างนั้นแสดงว่า เงินที่เราใช้จ่ายกันอยู่ ก็คือเงินกู้ก้อนสุดท้ายที่เหลืออยู่เหรอคะ” “ใช่จ้ะ แต่ถ้ายังไม่ได้เงินคืนมาล่ะก็” “ที่ดินผืนนั้น พ่อกับแม่คิดว่า จะได้ใช้ประโยชน์อะไรไหมคะ “ที่ติดทะเล และอยู่ไกลแบบนั้น เดิมทีคิดจะเอาไว้สร้างที่พักตากอากาศ แต่มาตอนนี้เราแทบจะไม่ได้ไปไหนเลย ก็เลยคิดว่าคงไม่ได้ใช้ ต่อให้มีก็ต้องเสียค่าดูแล ไหนจะภาษีที่ดินอีก” “ถ้าอย่างนั้น เราก็ต้องรีบขายที่ดินผืนนั้นออกไปค่ะ” ""ว่ายังไงนะ"" “ก็ในเมื่อเราได้ประโยชน์จากมันมาแล้ว อีกอย่างก็เป็นสินทรัพย์ ก่อนจะถูกยึด ถ้าเราขายได้มากกว่ายอดหนี้ ก็สามารถใช้หนี้ได้หมด” “นั่นมัน…ยากมากเลยนะซีซี” “ตอนนี้ที่คิดได้ ก็มีแค่วิธีนี้เท่านั้น สิบล้านหยวนไม่ใช่เงินน้อย ๆ นะคะพ่อ ที่จะหาไปคืน และตอนนี้เราก็ต้องไปเจรจากับทางธนาคารด้วย” “เจรจาเหรอ” "ค่ะ ต้องไปเจรจาว่าเราจะช่วยธนาคารขายที่ดินผืนนี้ พอได้คนที่ซื้อแล้วหักหนี้กัน ก็ใช้คืนส่วนที่เหลือ ดีกว่าเราต้องเอาเงินทั้งหมดที่มีไปให้เขา" “นี่ลูก… รู้เรื่องพวกนี้มาจากไหนกัน” หลินซีลืมตัว เพราะเมื่อก่อนเธอต้องจัดการทุกอย่างในชีวิตเอง แม้ว่าจะอายุไม่มาก แต่ประสบการณ์ชีวิต ที่ทรหดมากกว่าคนอื่น ทำให้เธอรู้เรื่องกฎหมายพวกนี้ดี “เอ่อ แม่ล่ะก็ แม่คิดว่าหนูไปงานสังคมแบบนี้บ่อย ๆ จะไม่รู้ว่าในวงสังคมคุยเรื่องอะไรกันบ้างเหรอคะ หนูก็แค่จำ ๆ เขามา และคิดว่ามันมีประโยชน์ ก็เท่านั้นเอง” “แต่ผมว่าผมเห็นด้วยกับลูกนะ เพราะคนที่นั่นก็พูดแบบนี้เหมือนกัน” คุณนายตงหันมามองหน้าสามี เธอคิดไม่ถึงเลยว่า เขาหมดหนทางจนรับฟังเรื่องที่ลูกสาวพูดไปเรื่อยเปื่อย หรือว่าเขาเชื่อหลินซีจริง ๆ กันแน่ “ไม่ต้องมองแบบนั้น พรุ่งนี้คุณกับผมไปที่ธนาคารแต่เช้า เพื่อคุยเรื่องนี้ก็แล้วกัน” “หนูไปด้วยค่ะพ่อ” “อะไรนะ จะไปด้วยเหรอ” “ค่ะ” ทั้งสองคนแปลกใจมาก กับท่าทางที่เปลี่ยนไปของลูกสาว ซึ่งทั้งคู่ไม่เคยคิดว่า หลินซีจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ แต่นี่เป็นแค่หนึ่งในไม่กี่เรื่อง ที่เธอทำให้พวกเขาแปลกใจ เพราะหลังจากที่ไปคุยกับธนาคาร พวกเขากลับยอมรับเงื่อนไขของตงหลินซี และเธอยังเป็นคนเจรจาด้วยตัวเองอีกด้วย “นี่มัน….” “คุณคะ ฉันแทบจะไม่อยากเชื่อเลยว่า ธนาคารจะยอม” “เขาไม่ได้เสียอะไรเสียหน่อย เราก็แค่ช่วยขายทรัพย์สินให้เขา แม่รู้ไหมคะว่า เจ้าหน้าที่แอบบอกหนูว่า ถ้าสามารถขายที่ดิน ได้มากกว่าราคาประเมินที่เขาตั้งไว้ อาจจะปิดหนี้ทั้งหมดให้เราได้ และยังได้เงินกลับมาด้วย” จากเด็กสาวไม่เอาไหน ที่เอาแต่เที่ยวเล่น ซื้อของสุรุ่ยสุร่าย แต่งตัวสวยและออกงานสังคมแทบทุกวัน กลายเป็นคนที่ดูมีความรู้ ทำให้คุณนายตงและตงซานหู แทบจะไม่เชื่อถ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเอง หรือว่าตลอดเวลามานี้ ลูกสาวของพวกเขา ไม่ได้ออกงานสังคมเฉย ๆ แต่เธอไปเพื่อเก็บความรู้ สะสมความสามารถเอาไว้ “นี่เราจะไปไหนกันต่อคะ” “ถ้าลูกไม่อยากไปที่ร้าน ก็กลับบ้านเลยก็ได้นะ” “ร้านเหรอคะ พ่อหมายถึง “ร้านผ้าไหมตระกูลตง” เหรอคะ ไปสิคะหนูอยากไปที่ร้านเดี๋ยวนี้เลย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD