พักเที่ยง
"วันนี้หน้าตาสดใสเป็นพิเศษนะ" ฝุ่นแซว "เดี๋ยวเศร้าเดี๋ยวเหงาเดี๋ยวดีใจ เป็นไบโพลาร์หรือเปล่าฮะ"
"เปล่าหรอก แต่วันนี้มีนัดไปดูหนัง"
"กับพี่ไทเทเหรอ"
"ใช่ เขาบอกจองตั๋ว VIP ไว้ให้ด้วย ถ้าวันนี้ฝุ่นว่าง ไปด้วยกันก็ได้นะ"
"ไม่เอาหรอก ไม่อยากไปเป็นก้างขวางคอ ไม่อยากเห็นควายกินหญ้า คนกินน้ำตา"
"พี่ไทเทเขาก็สำนึกผิดแล้วไง"
"เนี่ยยย! หลงผู้ชายจนไม่ลืมหูลืมตา"
ถึงเพื่อนสนิทอยากฝุ่นจะพูดกรอกหูยังไง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างยาหยีกับไทเทก็ไม่เคยสั่นคลอน เขาเป็นทุกอย่างในชีวิตเลยก็ว่าได้
หลังเลิกเรียน
คอนโดมิเนียมหรูกลางเมือง
"ตายจริง! ตัวพี่ร้อนมากเลยค่ะ" ยาหยีเดินทางกลับมาคอนโดพร้อมกับไทเท
"สงสัยพี่จะป่วยหนัก แค่ก แค่ก"
"ถ้างั้นเดี๋ยวหนูหายากับต้มน้ำร้อนให้นะคะ"
"ขอโทษนะที่วันนี้พี่พาไปดูหนังไม่ได้"
"ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกค่ะ ห่วงตัวเองก่อนไหม ตัวร้อนจี๋เลย เดี๋ยวหนูจะดูแลพี่เอง"
"ไม่เป็นไร! แค่ก แค่ก ไม่อยากให้เธอติดไข้ ช่วงนี้งานที่มหาลัยยุ่งมากไม่ใช่หรือไง เดี๋ยวพี่กินยาแล้วจะนอนหลับพักผ่อน"
ตัวเล็กร้อนใจ รู้สึกเป็นห่วงผู้ชายอันเป็นที่รักมาก รีบนำผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัว จัดยาพร้อมต้มโจ๊กใส่ใจทุกอย่าง โดยที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า เป็นเพียงการสร้างสถานการณ์
ไทเทนำไดร์เป่าผมปรับอุณหภูมิร้อน พ่นลมใส่ใบหน้ากับลำคอ แสร้งไอเล็กน้อยเพื่อความสมจริง สักพักก็แสร้งฟุบหลับ ตัวเล็กห่มผ้าให้ก่อนจะเดินทางกลับ ทันทีที่เสียงประตูปิดดัง ชายหนุ่มก็รีบกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง ยิ้มร้ายร่าเริง
ติก'
(เชอรี่ : {แนบโลเคชัน} รีบมานะคะ)
เวลาห้าโมงสิบนาที
นอกเมือง
หมู่บ้านซอยตัน
ยาหยีไม่ได้ไปดูหนังตามตั้งใจ จึงเลือกเดินทางกลับบ้านเพื่อแวะไปเยี่ยมแม่ มาถึงสลัมที่เคยอยู่ตั้งแต่เกิด ผู้คนแอร์อัด แถมยังมีแต่ขี้เหล้าเมายา ต้องเดินลัดสะพานเล็กข้ามคลองกว่าจะถึงที่หมาย เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวไม่กว้างเท่าไหร่
"ยาหยี" แม่รีบวางของลง แล้ววิ่งเข้ามากอดลูกสาว "เป็นยังไงบ้างลูก สบายดีไหม"
"หนูสบายดีค่ะ แล้วแม่เป็นยังไงบ้าง"
"ก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง"
"วันนี้หนูว่าง หนูแวะเอาเงินมาให้แม่ค่ะ"
"โถ่ลูก..เก็บเอาไว้ใช้เถอะ ไม่ต้องให้แม่"
"ตอนนี้หนูขายของกับรีวิวพอมีเงินพิเศษบ้าง แม่เอาไว้ใช้ซื้อกับข้าวนะคะ"
ผู้เป็นแม่ดีใจมากที่ได้พบเจอลูกสาว เนื่องจากการเดินทางปัจจัยหลายอย่าง ทำให้ไม่สามารถไปมาหาสู่กันได้บ่อยนัก อีกทั้งโทรศัพท์ก็ไม่มี เพราะซื้อกี่เครื่องก็พัง เนื่องจากโดนผู้เป็นสามีไถเงิน กับสิ่งของมีค่านำไปเล่นพนัน พอไม่ได้ดั่งใจก็ทุบตีเหมือนทุกครั้ง
"ยาหยี ลูกสาวพ่อ เฮือก~" เสียงยานพร้อมกลิ่นเหล้าโชยมาแต่ไกล ปรากฏว่าผู้เป็นพ่อ
"พ่อเมาอีกแล้วหรือคะ" ยาหยีขมวดคิ้วใส่
"จ้าาา ลูกร้ากกก~พ่อขอเงินหน่อย"
"หนูไม่มีหรอกค่ะ"
"ตอแหล! มึงแอบเอาเงินมาให้แม่มึงใช่ไหม กูก็เป็นพ่อมึงเหมือนกันนะเว้ยยย"
"เพราะพ่อทำตัวแบบนี้ไงหนูถึงไม่ให้ เมื่อไหร่พ่อจะเป็นผู้เป็นคนเหมือนคนอื่นสักที"
"อีนี่!!"
เคว้ง!
เท้าของชายวัยกลางคนเริ่มถีบทำลายข้าวของ ก่อนจะพุ่งมาเงื้อมมือจะตบลูกสาว แต่ผู้เป็นภรรยารีบเข้ามาขวางก่อนจะตะโกนเสียงดัง "กลับไปได้แล้วยาหยี! ไปสิลูก"
ตัวเล็กจ้องมองด้วยความปวดร้าว เห็นเหตุการณ์นี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าตั้งแต่ยังเด็ก สักพักรีบวิ่งออกไปแต่ไม่ไกล ก็เริ่มได้ยินเสียงคล้ายกับแม่ร้องเจ็บปวด คงโดนพ่อทุบตี
ยาหยีได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรมโหดร้ายนี้ โลกช่างไม่ใจดีกับผู้หญิงตัวเล็กๆ บ้างซะเลย
ในเมือง
ตลาด
พรุ่งนี้มีกิจกรรม ยาหยีได้รับหน้าที่ให้มาซื้อของตกแต่งอย่างกะทันหัน จึงเข้าตลาดเลือกของบางอย่าง จากนั้นก็เดินเรียบฟุตบาทมองหาแท็กซี่
'ขโมย!!'
เสียงเอะอะโวยวายดังมาแต่ไกล ผู้คนแตกตื่น ชายผอมบางแต่งตัวมอมแมม หิ้วกระเป๋าวิ่งตรงมาทางนี้ ยาหยีเห็นท่าไม่ดีรีบถีบถังขยะขวาง
"โอ๊ยยยย"
หมับ!
ได้ผลชะงัด เมื่อชายมอมแมมล้มลง แต่รีบลุกวิ่งหน้าตั้งออกไปทันที ทำให้กระเป๋ากระเด็นมาอยู่ข้างเท้า ยาหยีรีบหยิบขึ้นมาถือไว้
"นี่เธอ" เสียงหอบเหนื่อยเรียกคล้ายกับวิ่งตามมา "หน้าตาก็ดี ไม่น่าเป็นขโมย"
"เดี๋ยวนะคะ?! ใครขโมย" ยาหยีถาม
"ทำกันเป็นกระบวนการล่ะสิ"
"พูดอะไรคะ..ฉันไม่ได้ขโมยนะ!!"
"สวยแบบนี้ จะแจ้งตำรวจจับเข้าคุก หรือจะพากลับแล้วจับปล้ำดีนะ คืนกระเป๋าพร้อมกับส่งไอดีไลน์มา แล้วถือว่าหายกัน"
ชายหนุ่มกระตุกยิ้ม ใบหน้าหล่อเหลาแฝงเลศนัยบางอย่าง ความหล่อกระแทกตา ส่วนสูงน่าจะสักร้อยแปดสิบห้า ผิวขาว จมูกโด่ง แถมพูดจาคุกคามทั้งที่เพิ่งพบเจอกัน