หลายชั่วโมงต่อมา...
“ผมจะรออยู่ที่รถนะครับคุณก็รีบเข้าบ้านไปเก็บของได้แล้ว เพราะนายให้เวลาคุณมาแค่หนึ่งชั่วโมงกรุณารักษาเวลาด้วย”
“คุณกลับไปก่อนไม่ได้เหรอคะคือว่าฉันจะต้องไปเยี่ยมน้องชายที่โรงพยาบาลอีก”
“ถ้าคุณอยากไปจริง ๆ คุณต้องโทรไปขออนุญาตนายก่อนครับผมตัดสินใจแทนไม่ได้”
“ค่ะ เดี๋ยวฉันจะลองโทรหาเขา แล้วนี่คุณไม่ตามเขาไปที่บริษัทด้วยหรือคะ” เพราะหลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาเขาก็ไม่อยู่ในห้อง พอเธอสอบถามเขาจากบอดีการ์ดก็รู้มาว่าเขาต้องเข้าไปในบริษัทเพราะมีประชุมด่วน
“นายไม่ได้มีผมเป็นลูกน้องคนเดียวนะครับ”
“อ๋อค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” เธอเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับวางกระเป๋าลง และเดินเข้ามาในห้องเพื่อเก็บเสื้อผ้าเข้ากระเป๋า เพราะคุณรามสูรบอกว่าเธอต้องไปอยู่ที่นั่นกับเขาจนกว่าสัญญาจะสิ้นสุดลง ‘แล้วถ้าพระเพลิงฟื้นมาจะบอกเขายังไงดีเนี่ย’ เธอนั่งเก็บของไปพร้อมกับนึกไป ไม่รู้ว่าจะโกหกน้องตัวเองว่ายังไงดี แต่ก่อนจะคิดอะไรอีก เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อต่อสายหารามสูร ขออนุญาตเขาไปหาน้องชายที่โรงพยาบาล
ครืดดดด ครืดดดด
ขณะที่เขากำลังนั่งประชุมอยู่ในห้อง เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังลั่นขึ้นมา เขายกมือขึ้นเพื่อให้พนักงานที่กำลังพรีเซนต์งานอยู่นั้นหยุดก่อน ทำให้พนักงานที่กำลังพรีเซนต์งานอยู่หยุดชะงัก แล้วทุกคนในห้องหันมาหาเขาโดยไม่ได้นัดหมาย
เขาล้วงหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อขึ้นมาดูว่าใครโทรมา พบเป็นเบอร์ของพระพายที่โชว์อยู่บนหน้าจอ เขาแสยะยิ้มมุมปากออกมาและกดรับสายทันที การกระทำของเขานั้นทำให้พนักงานที่นั่งอยู่ในห้องทั้งหมดรู้สึกตกใจมาก เพราะตั้งแต่ทำงานร่วมกันมาไม่เคยเห็นเจ้านายยิ้มออกมาแบบนี้เลย เพราะเขาค่อนข้างเป็นคนที่จะยิ้มยาก และเจ้าระเบียบพนักงานทุกคนเลยไม่ค่อยได้เห็นมุมนี้ของเจ้านายเท่าไรนัก
“ครับ”
[พายขอไปเยี่ยมน้องที่โรงพยาบาลได้ไหมคะ]
“นานไหม”
[พายจะกลับก่อนบ่ายสองค่ะ]
“ผมอนุญาตครับ”
[ขอบคุณค่ะ]
“จริงสิครับ แล้วตอนนี้เก็บของเสร็จหรือยัง”
[กำลังเก็บค่ะ แล้วคุณทำอะไรอยู่]
“ผมกำลังประชุมอยู่”
[งั้นพายจะวางเลยนะ ไม่อยากรบกวนเวลางานคุณ]
“ไม่เป็นไรหรอกครับสำหรับคุณมันพิเศษเสมอ ไว้เจอกันตอนเย็นนะครับรีบกลับด้วยล่ะ”
พอเขาไปตัดสายไปแล้ว เขาก็กดปิดโทรศัพท์และเก็บใส่กระเป๋าเสื้อตัวเองทันที
“เชิญพรีเซนต์งานต่อเลยครับ”
“ค่ะ” พนักงานก็ทำการพรีเซนต์งานต่อไป ส่วนเขาก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง จนเวลาล่วงเลยมาหลายชั่วโมงการประชุมก็สิ้นสุดลง
“นายจะกลับเพนท์เฮ้าส์เลยไหมครับ”
“ไปโรงพยาบาล” เขาเอ่ยตอบต่อบอดีการ์ดออกไป เพราะตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ในรถที่โรงจอดรถของบริษัทอยู่
“นายเป็นอะไรหรือเปล่าครับทำไมต้องไปโรงพยาบาล”
“.....” เขาหันไปมองหน้ากวินลูกน้องคนสนิทอีกคนของเขา ด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเท่าไร
“ผมถามอะไรนายผิดหรือเปล่าครับ”
“มึงจะต้องให้กูบอกทุกอย่างเลยหรือไง กูคิดดีแล้วที่ให้อิทธิไปตามพระพายถ้าส่งมึงไปคงจะไม่ได้เรื่องอะไรสักอย่าง โง่สิ้นดีเดี๋ยวกูจะให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทนมึงแล้วจะส่งมึงไปเฝ้าไร่องุ่นที่เชียงรายแทน”
“…..”
“ไปโรงพยาบาลที่น้องชายพระพายรักษาตัวอยู่”
“คะ...ครับนาย” กวินรีบสตาร์ตรถขับออกมาลงถนนใหญ่และรีบขับตรงมายังโรงพยาบาลโดยทันที
@โรงพยาบาล
หลังจากที่เดินทางถึงโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วเขาก็เดินตามทางมาเรื่อย ๆ เพื่อมายังห้องที่น้องชายของพระพายพักรักษาตัวอยู่ พอใกล้จะถึงแล้วสายตาเขามองเห็นพระพายที่กำลังยืนมองเข้าไปในห้องที่ตัวเองไม่สามารถเข้าไปได้
“พายครับ”
“คุณรามมาได้ยังไงคะไหนบอกว่าประชุมอยู่ไง”
“พอดีว่าตอนที่คุณโทรไปประชุมใกล้จะเสร็จแล้วครับ”
“แล้วนี่คุณมาทำไมคะ”
“ผมมารอรับคุณกลับบ้านด้วยไง”
“เมื่อกี้คุณหมอมาบอกว่าได้วันผ่าตัดการเปลี่ยนถ่ายหัวใจของน้องชายของพายเรียบร้อยแล้ว คุณเป็นคนจัดการให้ใช่ไหมคะ”
“ครับ”
“ทำไมมันเร็วแบบนี้ล่ะคะ เราเพิ่งจะคุยกันเมื่อวานเองขอบคุณนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับเรื่องไหนที่ผมสัญญาเอาไว้ ผมไม่เคยผิดสัญญา”
“ขอบคุณจริง ๆ แล้วพายก็ขอบคุณเรื่องที่ย้ายโรงพยาบาลให้น้องพายด้วย ตอนรู้ครั้งแรกพายตกใจมาก”
“ผมอยากจะเซอร์ไพรส์คุณไง แต่ถ้าคุณอยากขอบคุณผมจริง ๆ คืนนี้ค่อยขอบคุณก็แล้วกัน”
“แต่เรา...”
“คุณอยากเข้าไปหาน้องในห้องไหม”
“แต่คุณหมอบอกว่าไม่ให้เข้าเยี่ยมนะคะ ให้แค่ยืนมองจากหน้าห้อง”
“มันไม่มีอะไรที่ผมทำไม่ได้ เข้าไปไหม”
“พายอยากเข้าไปค่ะ”
“อิทธิไปจัดการให้ที” เขาก็หันไปสั่งให้ลูกน้องไปจัดการเรื่องที่จะให้พระพายเข้าไปหาน้องชายในห้อง
“ครับนาย” อิทธิเดินออกไป ไม่นานก็เดินกลับมา “เชิญไปเปลี่ยนชุดในห้องนั้นได้เลยครับ”
“ไปสิครับเดี๋ยวผมจะเข้าไปเป็นเพื่อน”
“ค่ะ”
เธอเดินตามรามสูรมาเรื่อย ๆ จนถึงห้องเปลี่ยนชุดที่เป็นชุดสำหรับเข้าห้องปลอดเชื้อเท่านั้น
“นี่ค่ะสำหรับพวกคุณสองคน”
“ขอบคุณค่ะ” เธอรับชุดมาเปลี่ยนให้เรียบร้อย และไม่ลืมที่จะทำความสะอาดมือของตัวเอง
“เสร็จหรือยังครับพาย”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“งั้นก็ไปกัน” เธอเดินตามรามสูรมาเรื่อย ๆ จนเข้ามาในห้องที่น้องชายของตัวเองนอนอยู่ พอได้เข้ามาแล้วเธอก็รีบเดินมาหาน้องชายของตัวเองที่ตอนนี้นอนไม่ได้สติ ใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือด
“เป็นยังไงบ้างเพลิงเจ็บมากไหม พี่ขอโทษนะ”
“คุณจะขอโทษทำไม คุณไม่ได้เป็นคนทำให้น้องของคุณเป็นแบบนี้นะ”
“พายสงสารน้องจังเลยค่ะเขาต้องเจ็บมากแน่ ๆ เห็นแล้วพายอยากจะเป็นคนที่เจ็บแทนเขาเลย”
“ไม่พูดแบบนั้นสิครับถ้าน้องชายของคุณได้ยินที่คุณพูด เขาคงไม่สบายใจแน่”
“อีกสองวันก็จะได้ผ่าตัดแล้ว ถ้าเขาผ่าเปลี่ยนหัวใจเรียบร้อยแล้วเขาจะกลับมาหายดีเป็นปกติไหมคะ”
“เรื่องนี้ผมก็ไม่สามารถที่จะให้คำตอบคุณได้ แต่ผมจะกำชับหมอที่เป็นคนรักษาให้น้องชายของคุณ ให้เขาทำดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้”
“ค่ะ”
“เราก็เข้ามาเยี่ยมกันนานแล้ว เราควรจะออกไปกันได้แล้วนะครับ"
"ค่ะ พี่ไปก่อนนะ เดี๋ยวอีกไม่นานเพลิงก็จะฟื้นขึ้นมาแล้วพี่รอเราอยู่นะ"