เพล้ง!!!
เสียงแก้วน้ำใบหรูราคาแพงถูกปัดกระเด็นร่วงหล่นลงจากโต๊ะอาหาร แตกกระจายเต็มพื้นด้านล่าง เศษแก้วคมกริบแตกละเอียดอยู่ตรงหน้าของหญิงสาวที่ยืนก้มหน้าก้มตาไม่พูดสิ่งใด
ผิวเท้าที่แสนบอบบางไม่มีสิ่งใดห่อหุ้มถูกเศษแก้วบางส่วนกระเด็นบาดจนทิ้งร่องรอยไว้ แต่ที่น่าแปลกใจกว่าคือผิวกายบางส่วนกลับมีรอยช้ำอยู่บ้างแล้ว บ่งบอกว่าร่างกายของเธอต้องเจออะไรแบบนี้มาก่อนหน้านี้จนเคยชิน
“รสชาติแบบนี้…เธอคิดว่าฉันจะกินเข้าไปได้เหรอ?” แววตาดุร้ายของหญิงสาวเจ้าของการกระทำมองเหยียดมาที่เธอ หล่อนสะบัดผมสั้นสีน้ำตาลแดงทรงสวยระดับประบ่ากลับมาที่จานข้าวและอาหารที่เหลือ ยกมือเรียวที่แต่งแต้มเล็บเจลสีแดงสดสวยขึ้นมาวางบนโต๊ะอาหาร ก่อนจะกวาดทุกสิ่งอย่างเทลงมาอีกครั้ง
เพล้งงงงง!!!
“วันนี้เธอไม่ต้องกินข้าวนะนับดาว” หลังจากกวาดสิ่งของร่วงแตกกระจายเต็มพื้นจนหมดสิ้น โรสก็พูดเอ่ยออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะยิ้มอย่างพึงพอใจ หางตาเฉี่ยวหันมองสาวเจ้าของชื่อที่ยืนสั่นเหมือนจะเป็นลมล้มลงซะตรงนี้ให้ได้เพราะไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้า “เธอทำอะไรไม่ได้เรื่องก็ไม่ต้องกินข้าว”
“คะ…คุณโรสคะ แต่ว่าคุณหนูนับดาวเธอยังไม่ได้ทานอะไรเลยนะคะ” คนรับใช้อายุรุ่นราวคราวเดียวกับนับดาวมองสถานการณ์อย่างเป็นห่วงจึงเอ่ยขัดขึ้น
“นี่…สายบัว เธอคงไม่อยากอดข้าวอีกคนสินะ ถ้าอยากกินข้าวก็ทำงานของตัวเองให้ดีก็พอ ก่อนที่ฉันจะไล่เธอออก!”
“...” สายบัวก้มหน้างุดด้วยความกลัว ก่อนจะเดินถอยออกไปแม้ในใจจะอยากช่วยนับดาวแค่ไหนก็ตาม
โรสหยัดกายเพรียวสวยในชุดเดรสกำมะหยี่เรียบหรูยืนขึ้น ชูคอระหงส์อย่างหยิ่งยโส ก่อนจะเอ่ยคำพูดด้วยน้ำเสียงทะนงตน
“ฉันจะย้ำอีกครั้ง บ้านหลังนี้และสมบัติทุกอย่าง ณ ตอนนี้ฉันเป็นเจ้าของ เป็นเจ้านายของทุกคนที่นี่ แม้ว่าเมื่อก่อนมันจะเคยเป็นของใครก็ตาม แต่ตอนนี้ฉันคือเจ้าของโดยชอบธรรมแต่เพียงผู้เดียว ถึงแม้จะมีเธอ…นับดาว แต่เธอไม่ใช่ผู้ที่ได้รับอภิสิทธิ์ใด ๆ”
ทุกคนที่ยืนอยู่ภายในบ้านก้มหน้าก้มตาหลบความอึดอัดตรงหน้า
“...” นับดาวเองก็ก้มหน้าไม่พูดสิ่งใด ริมฝีปากที่แตกและแห้งผากเม้มเข้าหากันแน่นจนชาไปหมด มีเพียงกลิ่นคาวเลือดที่ชัดเจนในโพรงปาก
มือสองข้างที่มีแต่รอยลอกและช้ำแดงจากการใช้น้ำยาทำความสะอาดกุมประสานกันไว้ ผมยาวสลวยที่เคยได้รับการดูแลอย่างดีและการตัดแต่งหน้าม้าซีทรูที่น่ารักเบา ๆ สมกับเป็นลูกคุณหนูผู้สูงศักดิ์ บัดนี้มันกลับยุ่งเหยิงมีสภาพแห้งแข็งกระด้างบ่งบอกว่าไร้การดูแลอย่างชัดเจน
“ฉันให้เธอซุกหัวนอนอยู่ที่นี่ก็มากพอแล้ว”
“ค่ะคุณโรส” นับดาวเอ่ยเสียงสั่น ไม่รู้ว่าเพราะเธอไม่ได้กินอะไรลงท้องหรือเพราะเธอสะเทือนใจที่ตอนนี้ทุกอย่างในชีวิตได้เปลี่ยนไปขนาดนี้
“ก็ดีจ้ะนับดาว” โรสเอ่ยเสียงหวานจนน่าขนลุก ก่อนจะเดินกรีดกรายหลบเศษแก้วที่หล่นอยู่ อ้อมมาด้านหลังของนับดาวที่ยืนใส่ชุดเก่า ๆ นับดาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือเรียวสวยของโรสจับที่ไหล่ของเธอ
“เห็นแก่ที่ฉันเคยเป็นอาสะใภ้ของเธอ ฉันคงไม่ปล่อยให้เธอเป็นอะไรไปหรอกนะนับดาว ฉันต้องดูแลเธอในฐานะลูกของคุณรพีที่เคยเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ และในฐานะหลานของคุณศศิซึ่งเป็นอดีตสามีของฉัน” โรสเอ่ยกระซิบข้างหูของนับดาวอย่างแผ่วเบา ทำแววตาน่าสงสารต่อหญิงสาวตรงหน้า “ทำตัวให้มีประโยชน์บ้างนะนับดาว เธอจะได้มีค่าพอให้ฉันเลี้ยงดูไว้”
“…”
คำพูดรุนแรงบาดลึกจิตใจทำเอาคนใช้และบริวารรอบ ๆ ที่ยืนอยู่ ต่างรู้สึกหดหู่และสงสารอดีตคุณหนูที่แสนเพียบพร้อมอย่างนับดาว ทว่าทุกคนล้วนแต่ปากกัดตีนถีบอยู่แล้ว ไม่มีใครกล้าเข้าไปทำท่าทีเห็นใจนับดาวต่อหน้าโรส เพราะกลัวจะตกงานไร้เงินประทังชีวิต
“ฉันจะกลับมาที่นี่อีกทีค่ำ ๆ นะสายบัว” โรสเดินออกไปหยิบกระเป๋าแบรนด์เนมใบสวยที่วางไว้บนโต๊ะทานข้าว หลังจากวางอำนาจในที่แห่งนี้เสร็จ “อย่าลืมเก็บกวาดให้เรียบร้อย อย่าทำตัวไร้ประโยชน์แบบใครบางคน”
“ค่ะคุณโรส” สายบัวก้มหน้ารับคำอย่างรีบร้อน ไม่นานโรสก็เดินออกไปจากตัวบ้านหรูหลังใหญ่แห่งนี้
พรึ่บ!
“กรี๊ด! คุณหนูนับดาว!” สายบัวรีบวิ่งมาที่ร่างของหญิงสาวที่เป็นลมนอนสลบกองอยู่กับพื้น เศษแก้วเศษจานที่แตกอยู่บาดไปตามเรือนผิวของเธอจนเลือดไหลไม่น้อย คนรับใช้อีกสองสามคนที่ยืนอยู่ รีบวิ่งเข้ามาประคองร่างของเธอไปปฐมพยาบาลที่ห้องพักอย่างไม่รอช้า
เวลาผ่านไปนับชั่วโมง ภายในห้องสี่เหลี่ยมที่มีของใช้ง่าย ๆอย่างเตียงราคาถูกและพัดลมตัวเล็ก ๆ ที่เปิดไว้ ยังมีหญิงสาวที่นอนพักอยู่บนเตียงโดยมีสายบัวนั่งเฝ้าอยู่ข้าง ๆ ในมือถือยาดมไว้คอยยื่นให้นับดาวสูดดมเป็นระยะ
“พี่บัว…” นับดาวค่อย ๆ ลืมตาตื่น โดยเรียกคนข้างกายก่อนเป็นคำแรก
“คุณหนูรู้สึกตัวแล้วเหรอคะ? บัวเป็นห่วงแทบแย่”
หญิงสาวพยายามขยับตัวที่อ่อนแรงเพื่อหยัดกายนั่ง เธอไล่สายตาหวานเป็นประกายแต่แฝงความเศร้าไปตามแนวผิวของตน ก็พบว่าขาทั้งสองข้างและแขนบางส่วนถูกพันผ้าพันแผลไว้
“นี่มัน…”
“คุณหนูเป็นลมไปค่ะ บัวและพี่ ๆ คนอื่นรีบพยุงกันใหญ่ ยังดีที่คุณหนูไม่เป็นอะไรไปมากกว่านี้ แต่แขนขาก็มีที่โดนแก้วบาด บัวให้คนมาช่วยทำแผลให้เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“ขอบคุณนะคะพี่สายบัว” นับดาวเอ่ยขอบคุณด้วยน้ำเสียงถ่อมตัวและซาบซึ้งในน้ำใจของสายบัว
“ขอบคุณอะไรกันคะ คุณนับดาวเป็นคุณหนูนะคะ คุณเคยเป็นเจ้านายของพวกเรา นี่คือสิ่งที่เราควรทำค่ะ จริง ๆ เราควรทำได้มากกว่านี้แต่…” เสียงของสายบัวสั่นเครือ หล่อนรู้ดีว่าช่วยเจ้านายของหล่อนได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่นั่นไม่ได้ทำให้นับดาวถือโทษโกรธเคืองบริวารของเธอเลย
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่บัว ดาวเข้าใจค่ะ”
“ฮือ…คุณหนู” สายบัวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แต่นับดาวพยายามยิ้มและส่ายหน้าว่าไม่เป็นไรจริง ๆ
“ดาวขออยู่คนเดียวสักพักได้ไหมคะ ดาวขอพักอีกสักยี่สิบนาที เดี๋ยวดาวจะออกไปช่วยทำงานบ้านช่วงเย็นค่ะ”
สายบัวมองหน้านับดาวอย่างเป็นห่วงและรู้สึกผิดที่ช่วยอะไรไม่ได้มาก หล่อนพยักหน้าหงึกหงักเป็นการตอบรับคำขอ ไม่นานก็เดินออกไปจากห้อง เหลือไว้แต่เพียงนับดาวที่นั่งอยู่บนเตียงนอน
หญิงสาวล้มตัวลงนอนอย่างช้า ๆ อีกครั้ง เลื่อนมือโอบกอดร่างกายที่บอบบางและอ่อนแอของตนเองไว้ด้วยความสั่นเทา ค่อย ๆ หลับตาที่แสนอ่อนล้าลงในความเงียบงัน ก่อนที่ไม่นานหยดน้ำตาจะค่อย ๆ ไหลซึมออกมาเปรอะแก้มนวลของหญิงสาว
ภาพความทรงจำวันเก่า ๆ ของเธอกำลังย้อนกลับเข้ามาในหัว ความทรงจำที่แสนพิเศษดุจความฝัน ที่ตอนนี้มันไม่มีอีกแล้ว ไม่มีวันจะเป็นแบบนั้นได้อีกแล้ว…