ตอนที่ 5 การปรากฏตัวของเขา

1706 Words
@ห้องSuperVIP “งั้นเราก็ตกลงตามนี้นะครับ ผมจะส่งของให้ทางนั้นในอีกสิบวัน มันต้องใช้เวลาในการจัดการหน่อยครับ แต่คุณแฟรงค์ไม่ต้องห่วง เพราะต่อให้ช้าสุดมันก็จะไม่เกินสิบวันแน่นอน คุณรอรับที่ประเทศปลายทางได้เลย” มาเฟียหนุ่มในชุดสูทสีดำสนิททั้งตัวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มราบเรียบ เขาใส่เสื้อด้านในเป็นเชิ้ตราคาแพงสีดำเปลือยกระดุมด้านบนสามเม็ด ให้ความรู้สึกสบาย ๆ แต่ก็ดูดีมีภูมิฐาน ความชั้นสูงของเขาทำให้คู่สนทนารู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างมากสำหรับการพูดคุย “รับทราบครับคุณเอเดน ขอบคุณสำหรับการตกลงการค้าในครั้งนี้ครับ คุณนี่ช่างเป็นมืออาชีพสมกับที่หลาย ๆ คนในวงการล่ำลือกันมาจริง ๆ” แฟรงค์เอ่ยชมจากใจจริง “แต่ผมขอโทษด้วยที่นัดมาในสถานที่แห่งนี้ ตอนแรกผมจะนัดอีกที่ แต่ติดปัญหานิดหน่อย หวังว่าคุณจะไม่ถือสา” “ผมไม่ซีเรียสเลยครับ คุณไม่ต้องคิดมาก” เอเดนยิ้มเล็กน้อยพร้อมส่ายหน้าเบา ๆ “ครับ งั้นวันนี้ผมคงไม่รบกวนคุณต่อแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” “ครับ ด้วยความยินดี ไว้โอกาสหน้าหวังว่าจะได้ร่วมงานกันอีก” เอเดนยืนขึ้นพร้อมคู่ค้าทางธุรกิจ ทั้งสองยื่นมือข้างหนึ่งกระชับจับกันเล็กน้อยเป็นการกล่าวลา ไม่นานแฟรงค์ก็เดินออกไปเหลือเพียงแต่เอเดนที่นั่งอยู่อีกสักพัก เขายกแก้ววิสกี้บนโต๊ะกระดกจิบเล็กน้อย สายตาไล่เช็กข้อมูลทางการค้าในโทรศัพท์มือถืออีกนิดหน่อย จนแน่ใจว่าไม่มีอะไรต้องห่วง เอเดนมองดูเวลาในหน้าจอแสดงเวลาตีหนึ่งครึ่งพอดี คิดว่าควรกลับเพนต์เฮาส์ได้แล้ว มือขวาคนสนิทที่ยืนอยู่มุมห้องเห็นสัญญาณสายตาของเจ้านายหนุ่ม ก็รู้ทันทีว่าเขาจะกลับแล้ว รีบย่างกรายมาเปิดประตูกระจกให้เจ้านายหนุ่มทันที “จะแวะไหนอีกไหมครับ” มือขวาคนสนิทเอ่ยถามขณะเปิดประตูค้างไว้ “ไม่ละ เดี๋ยวกลับเลย” เอเดนตอบในขณะเดินออกมาจากห้องด้วยน้ำเสียงราบเรียบปกติ เจ้าของใบหน้าหล่อคมหันหน้ามองบรรยากาศภายในคลับแห่งนี้ด้วยท่าทีนิ่งสงบ นัยน์ตาสีครามคมกริบไม่ได้สนใจสิ่งใดในที่แห่งนี้มากนัก เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบไว้ในปาก มืออีกข้างควานหาไฟแช็กสีเงินเงางามในกระเป๋า ยกขึ้นจุดประกายไฟที่ปลายบุหรี่ และสูดกลิ่นไอของมันก่อนจะพ่นควันฟุ้งออกไปในบรรยากาศ เอเดนเดินไปเรื่อย ๆ ตามพื้นที่ของร้านเพื่อมุ่งหน้าสู่ประตูทางออก ในขณะที่มือข้างหนึ่งยังคีบบุหรี่สูบไปด้วย แม้แสงสีและไฟในร้านจะไม่สว่างมากนักแต่ก็ไม่อาจบดบังรัศมีความหล่อเหลาของเขาได้ นั่นทำให้ระหว่างทางเดินมีสาว ๆมากมายพยายามส่งสายตาให้เขาอย่างไม่หยุดหย่อน ทว่าเขาก็ไม่ได้สนใจมันมากนัก จนกระทั่งมีสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาในชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเดินถึงทางออกในอีกไม่กี่ก้าว “มีอะไรเหรอครับนาย” แซคถามทันทีเมื่อจู่ ๆ เจ้านายหนุ่มก็ตวัดสายตาคมมองไปที่อีกด้านของตัวคลับ ปลายเท้าค่อย ๆ ชะลอก่อนจะหยุดอยู่กับที่ เอเดนมองไปที่ห้องกระจกใสที่อยู่ถัดไปไม่ไกลนัก นัยน์ตาสีครามหรี่มองเล็กน้อยในขณะที่ริมฝีปากยังคงคาบบุหรี่มวนเดิมอยู่ เดิมทีเขาไม่ค่อยอยากยุ่งเรื่องของใครเท่าไร แต่สิ่งที่ผ่านสายตาเขาในตอนนี้มันทำให้เขารำคาญใจเล็กน้อย ภาพของกลุ่มนักธุรกิจสองสามคนที่นั่งอยู่เบื้องบนโซฟาพร้อมอาการหัวเราะร่า กับหญิงสาวรูปร่างบอบบางคนหนึ่งที่นั่งอยู่กับพื้นด้านล่างเหมือนสัตว์เลี้ยง สีหน้าของเธอช่างดูสิ้นหวังและล่องลอยจนเหมือนคนไร้จิตวิญญาณ แววตาของมาเฟียหนุ่มไม่ได้แสดงอาการแบบใด เขาเพียงพ่นควันบุหรี่ฟอดสุดท้ายก่อนจะโยนมันลงกับพื้นและใช้เท้าค่อย ๆ เหยียบมันอย่างช้า ๆ ในขณะที่สายตาเรียบนิ่งยังคงมองอยู่ที่ใบหน้าหญิงสาวคนนั้น “สวัสดีค่าคุณเดวิด” เจ๊ผู้ดูแลสาว ๆ เดินเข้ามาภายในห้องกระจก หลังเดวิดใช้ให้ลูกน้องไปตามมา เพื่อที่จะเลือกนับดาวไปใช้บริการ “ฉันต้องการผู้หญิงคนนี้” เดวิดลุกขึ้นยืนกอดอก ตวัดหน้าไปทางนับดาวที่ใส่เพียงเดรสเกาะอกสีขาวตัวสั้นซึ่งถูกบังคับให้นั่งอยู่ที่พื้น ร่างกายอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงของเธอสั่นเทาพร้อมลมหายใจหอบเหนื่อย “ได้สิคะคุณเดวิด ดิฉันจะจัดนางให้คุณเดวิดถึงห้องพักเลยค่ะ” หญิงผู้ดูแลยิ้มหวานพร้อมขายนับดาวให้เดวิดอย่างไม่อิดออด “อีกอย่างเนี่ย น้องผู้หญิงคนนี้เป็นเด็กใหม่นะคะ ถึงสภาพมอมแมมดูไม่ปังเท่าไร แต่ความจริงนางสวยบริสุทธิ์ผุดผ่องหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์เลยนะคะคุณเดวิด” หนุ่มนักธุรกิจเมื่อได้ยินดังนั้นก็มีแรงพลุ่งพล่านอยากได้นับดาวยิ่งขึ้นไปอีก เขาเดินเข้ามาใกล้ ๆ นับดาวที่นั่งไร้เรี่ยวแรงต่อต้านใด ๆ ยื่นมือจับปลายคางมนให้เชิดหน้าขึ้น แววตาที่แดงก่ำร้องไห้จนช้ำไปหมดไม่ได้ทำให้คนเลวพวกนี้สงสารใด ๆ “ของดีนี่ จัดมาเลย ยังไงก็ต้องได้คนนี้” เดวิดเหยียดยิ้มอย่างพอใจ “ได้เลยค่าคุณเดวิด ให้ส่งตัวไปที่ห้องหรือจะให้จัดตรงนี้เลยคะ ถ้าจะเอาตรงนี้เดี๋ยวดิฉันจะปิดม่านให้ค่ะ” ผู้ดูแลเอาอกเอาใจพวกคนเหล่านี้อย่างออกนอกหน้า เธออยากจะขายนับดาวแทบแย่เพราะกลัวจะขาดทุน นี่เป็นโอกาสที่ดียังไงก็ต้องส่งนับดาวไปให้ผู้ชายพวกนี้ให้ได้ “เอาตรงนี้ก็ดี หึหึ” “โอ้ ได้เลยค่า” “กรี๊ด!!! ออกไป! อย่ามายุ่งกับฉัน!” นับดาวกรีดร้องเหมือนคนบ้าเมื่อทุกอย่างกำลังพังจนเกินรับได้ เพียะ!!! หญิงผู้ดูแลยกมือขึ้นตบหน้านับดาวจนเลือดกบปากเพื่อให้นับดาวหยุด “หุบปาก! เลิกบ้าแล้วทำงานซะ ชีวิตแกมันไม่มีทางเลือกแล้ว” “...” นับดาวรู้สึกว่าโลกใบนี้มันไร้ความหวังแล้ว สำหรับเธอมันมีเพียงความมืดมิดที่ครอบครองทุกลมหายใจ เธอไม่มีใครให้ยึดเหนี่ยว เธอไม่มีใครคอยปกป้อง ขนาดตัวเองเธอยังไม่สามารถปกป้องได้ ชีวิตที่ไม่ใช่ชีวิตของเธอ ชีวิตที่เหมือนตายทั้งเป็น ชีวิตที่เลือกอะไรไม่ได้ แววตาสีน้ำตาลที่เคยฉายแววเป็นประกายงดงาม ตอนนี้มันมีเพียงความว่างเปล่า ไร้ความรู้สึกใด ๆ อีก นับจากวินาทีนี้จิตวิญญาณและร่างกายของเธอกำลังจะกลายเป็นแค่สิ่งของไร้ค่าชิ้นหนึ่ง นับดาวหัวเราะในลำคอพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลรินลงมาไม่หยุด เธอไร้ทางไปแล้ว เธอยอมแพ้ให้กับชีวิตที่น่าสมเพชนี้… เปลือกตาน้อย ๆ ของนับดาวค่อยปิดลงสู่ความมืดอย่างจำนน ในขณะที่ผ้าม่านสีดำในห้องใสค่อย ๆ ถูกเคลื่อนออกมาเพื่อปิดบังกิจกรรมน่าขยะแขยงต่อไปที่จะเกิดขึ้นภายในห้อง มือหนาของนักธุรกิจค่อย ๆ ลูบไล้สัมผัสไปที่ไหล่มนของหญิงสาวที่มีสภาพไร้จิตวิญญาณด้านล่างอย่างหื่นกระหาย ก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนมืออีกข้างมาเกี่ยวพันที่ปลายผมของเธอช้า ๆ นับดาวหลับตาไม่มองสิ่งใด มีเพียงน้ำตาที่ยังคงไหลซึมเป็นคำตอบ ชีวิตเธอไม่มีความหมายอีกแล้ว เธอถูกกระทำจากคนโหดร้ายต่าง ๆ จนเกินเยียวยาแล้ว จิตใจของเธอแตกสลายนานแล้ว “เดี๋ยวสิ…” แต่ในขณะนั้นเสียงทุ้มราบเรียบก็ดังขึ้นที่ประตูห้อง หยุดชะงักทุกการกระทำของเดวิดที่กำลังคุกคามหญิงสาวที่ไร้ความหวัง ทุกคนหันไปมองเป็นตาเดียว ปรากฏร่างกายแกร่งในชุดสูทสีดำที่ยืนกอดอกพิงผนังกระจกอยู่ด้วยแววตายากคาดเดา แววตาสีครามเย็นชาระคนดุดันมองผ่านม่านไรผมสีน้ำตาลตรงไปที่หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงพื้นห้อง ก่อนจะตวัดกลับมาที่หน้าเดวิด “มึงเป็นใครวะ” เดวิดหยุดมืออย่างอารมณ์เสีย ผละจากนับดาวและเดินเข้ามาอย่างเอาเรื่องแต่ถูกขัดขวางด้วยมือขวาคนสนิทอย่างแซค “ยกผู้หญิงคนนี้ให้กู แล้วกูจะปล่อยพวกมึงไป” เอเดนว่าพลางเดินเข้าไปอย่างไม่เกรงกลัวใคร ปลายเท้าเดินไปหยุดอยู่ที่ด้านหน้าของคนร่างเล็กที่นั่งอยู่อย่างไร้จิตวิญญาณ สภาพของเธอหม่นหมองสูญสิ้นทุกความหวังในโลกแล้ว มาเฟียหนุ่มค่อย ๆ ย่อตัวนั่งลงในระดับเดียวกับเธอด้วยท่าทีสุขุม ใบหน้าคมมองไปที่ใบหน้าที่น่าสงสารของหญิงสาวซึ่งยังคงหลับตาตรงหน้า เขายิ้มบาง ๆ อย่างใจดีก่อนจะเอ่ยบางประโยคออกไป “สวัสดี... เธอสนใจจะไปกับฉันไหม?” “...” เสียงทุ้มที่ฟังดูใจดีและเบาสบายนั้นทำให้นับดาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้น แววตาเศร้าหมองของเธอค่อย ๆ ฉายภาพคนตรงหน้า ความรู้สึกวูบไหวแปลก ๆ ปรากฏขึ้นในแรกพบทันที เขายิ้มเล็กน้อยเมื่อสบตาเธอ แววตาของหญิงสาวนี้ช่างเหมือนลูกแมวน้อยที่ถูกทอดทิ้งไว้กลางพายุใหญ่ มันทั้งงดงาม หม่นหมอง และว่างเปล่าในเวลาเดียวกัน มาเฟียหนุ่มยื่นฝ่ามือหนาแบลงมาตรงหน้านับดาว คล้ายกับว่าต้องการให้เธอเลือกว่าจะตกลงหรือไม่ “แค่เธอบอกว่าจะไปและยินยอมมอบชีวิตที่เหลือให้ฉัน... ฉันก็จะพาเธอออกไปจากนรกแห่งนี้ทันที”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD