บทที่ 5 เคยพบพานแต่ไม่เคยสนทนา 1/2

1195 Words
เช้าวันถัดมาเป่ยเป่ยปลุกนายหญิงของตัวเองให้ตื่นขึ้น เพื่อทานยาที่หมอหลวงสั่งอย่างเคร่งครัด เว่ยเหยาเองก็ตื่นแต่โดยดี และพยายามทำใจให้ชินกับสิ่งที่ตัวเองเป็น เป่ยเป่ยมองนายหญิงเหมือนคนปกติ ดวงตานั้นยังกระจ่างใส หากไม่มีรู้ว่ามองไม่เห็นก็ไม่รู้เลยว่านายหญิงเจ็บป่วยอยู่ นางพ่นลมหายใจเบา ๆ แต่ดูเหมือนว่านายหญิงของตนจะได้ยินชัดนัก “เจ้าหนักใจแทนข้าหรือ ถอนหายใจเสียดังลั่น” เป่ยเป่ยขมวดคิ้ว นางเพียงพ่นเบา ๆ เหตุใดนายหญิงถึงได้ยินดังนัก “แล้วนั่นใครเดินมา...เจ้าไปดูสิ” เป่ยเป่ยมองหาล้วนไม่มีคนเดินมา เพียงแต่เดินมาระยะไกลโน้น แต่ทำไม... “นายหญิงได้ยินเสียงคนเดินหรือเจ้าคะ” เป่ยเป่ยถามเพื่อความแน่ใจ ว่าสิ่งที่นางคิดนั้นถูกต้องหรือไม่ บางทีตามองไม่เห็น ประสาทส่วนอื่นอาจจะรับรู้ได้ดีกว่า “อื้อ...เสียงดังเพียงนี้เจ้ามิได้ยินหรือ” “บ่าวชายเดินอยู่หน้าประตูไกล ๆ โน้นเจ้าค่ะ” เป่ยเป่ยบอกนายหญิงของตนเอง แล้วนางก็ขมวดคิ้วชนกันทันที “หรือว่านายหญิงจะได้ยินเสียงชัดขึ้นใช่ไหมเจ้าคะ” เว่ยเหยาคิดตามคำพูดของเป่ยเป่ย การที่นางสูญเสียประสาทบางส่วน แต่ประสาทส่วนอื่นทำงานได้ดีอย่างนั้นหรือ น่าตกใจจริง ๆ “ถ้าเช่นนั้น เดี๋ยวข้าจะลองทดสอบดีหรือไม่นายหญิง” เว่ยเหยาพยักหน้า เป่ยเป่ยมองหากระดิ่งลม แล้วเอาไปแขวนไว้ที่หน้าประตูเรือน ห่างจะเรือนนอนมากอยู่ แล้วนางก็วิ่งเข้ามาถามนายหญิง “นายหญิงได้ยินกระดิ่งลมไหมเจ้าคะ” เว่ยเหยานั่งนิ่งสักครู่ก็ยิ้มออกมา “ข้าได้ยิน...เจ้าเอาไปวางไกลหรือไม่” “ไกลมากเจ้าค่ะ” เว่ยเหยาตื่นเต้นกับความสามารถพิเศษที่เพิ่มขึ้นของนาง อย่างน้อยหากผู้ใดคิดร้าย นางได้ยินก่อนก็นับว่าเป็นเรื่องดีไม่น้อยเลยทีเดียว “ดี ดียิ่ง...เจ้ารีบไปเอาข้าวมาให้ข้ากินเร็ว” นางจะทดสอบว่านางได้ยินเสียงเป่ยเป่ยเดินไปถึงตรงไหน แล้วก็พบว่าความเคลื่อนไหวทั้งหมดในเรือนนางได้ยินไม่ขาดตกแม้แต่เสียงเดียว ความประหลาดนี้นับว่าดีต่อนางยิ่ง แม้จะสูญเสียดวงตาที่ทำให้มองเห็นไป แต่เหมือนสวรรค์ก็ไม่ใจดำกับนางนักให้ความพิเศษอื่นให้นางได้มีชีวิตต่อไปได้ วันนี้นางรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาทันที จึงทานอาหารได้มาก โจ๊กที่เป่ยเป่ยยกมานางทานได้หมดเลยทีเดียว ทำให้คนป้อนอย่างเป่ยเป่ยดีใจยิ่งนัก “นายหญิงเก่งมากเจ้าค่ะทานได้หมดถ้วยเลย นายหญิงนอนอีกหน่อยนะเจ้าคะ จะได้แข็งแรงเร็ว ๆ” เมื่อนายหญิงใบหน้าแช่มชื่น ความหวังของนางก็มีมากขึ้น ไม่แน่ว่ากินยาขับเลือดที่ขัดขวางการมองเห็นได้ นายหญิงจะกลับมาเป็นปกติ จวิ้นอ๋องมาเยี่ยมนางในตอนเช้า แต่มาแล้วนางยังหลับอยู่จึงได้สอบถามสาวใช้แทน “นางเป็นอย่างไรบ้าง” ปากพูดกับสาวใช้ แต่ว่าดวงตามองไปยังร่างของนางบนเตียงนอน “นายหญิงตื่นเช้ามาดื่มยาและทานอาหารแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้เพิ่งหลับไปหลังจากทานอาหาร” เป่ยเป่ยไม่ได้บอกว่านายหญิงมีความสามารถใดเพิ่มขึ้นมา เพียงแต่พูดแค่สิ่งที่ควรจะพูดก็เท่านั้น “เช่นนั้นก็ดี เราจะเข้าวังไปเฝ้าฝ่าบาท เจ้าก็ดูแลนางให้ดี ขาดเหลือสิ่งใดก็แจ้งพ่อบ้านหลี่ ข้าจะไม่ให้ใครมารบกวนพวกเจ้า” จวิ้นอ๋องกล่าวแล้วเดินออกไป ที่ไม่ให้ใครมารบกวน กลัวว่านางจะสะเทือนใจไปมากกว่านี้ ให้นางสุขภาพแข็งแรงกว่านี้เสียก่อน หากใครจะเยี่ยมก็แล้วแต่นางจะพิจารณาเป็นรายบุคคลไป ถ้อยคำของจวิ้นอ๋อง เว่ยเหยาได้ยินชัดเจน นางอนาถใจนัก เหตุใดเขาเพิ่งมาทำดีกับนางตอนนี้ ทำดีกับนางตอนที่นางมีประโยชน์เช่นนี้ นางทุกข์ใจนัก เมื่อสองเดือนก่อนที่คิดว่าตัดใจจากรักเขาข้างเดียวได้แล้ว ตอนนี้ทุกข์ใจว่าเขาคิดจะหาประโยชน์จากนาง นางเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งเพื่อขึ้นสู่อำนาจอย่างนั้นหรือ ในหัวใจของเว่ยเหยารู้สึกปวดร้าวรุนแรง ตอนนางหลับนางฝันถึงพี่อาหง ฝันถึงเรื่องราวตอนเด็ก ฝันถึงท่านแม่ ทุกคนยิ้มให้นาง แต่เมื่อนางเอื้อมมือหมายจะจับพวกเขาไว้ พวกเขาก็หายวับไปกับตา นางยืนร้องไห้เพียงลำพังเท่านั้น บางทีการไม่ต้องเติบโตมารับรู้เรื่องอันใดก็ดีกว่าสินะ ไฉ่กั๋วกง วันนี้ได้รับคำสั่งให้ไปดูนางยามที่เข้าประชุม หนึ่งคืออยากรู้ว่าหากจวิ้นอ๋องและไท่จื่อไม่อยู่ นางจะได้รับการดูแลดีหรือไม่ ไฉ่เฉินยิ่งกว่าเต็มใจเสียอีก รถม้าของไฉ่เฉินจอดที่หน้าประตูจวนจวิ้นอ๋อง เมื่อคนเฝ้าประตูเห็นป้ายจากฝ่าบาทก็รีบเปิดประตูทันที พ่อบ้านหลี่ไม่กล้าเสียมารยาท ด้วยรู้ว่าบุรุษผู้นี้มาเพื่ออันใด “คารวะท่านกั๋วกง มิทราบว่ามีอันใดให้ข้าน้อยรับใช้หรือไม่” พ่อบ้านหลี่กล่าวอย่างนอบน้อม “พาข้าไปเยี่ยมพระชายาก็พอ ฝ่าบาทมีรับสั่งให้ส่งเครื่องบำรุงมาให้พระชายา” เขากล่าวไปตามที่สิ่งได้รับบัญชาจากฝ่าบาทมาไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย พ่อบ้านหลี่จึงนำท่านกั๋วกงไปยังเรือนของพระชายา แต่เมื่อเห็นว่าเป่ยเป่ย สาวใช้ข้างกายของนางกำลังจะออกไปด้านนอกเขาจึงเรียกไว้ “เจ้าคือสาวใช้ของพระชายาใช่หรือไม่” “คารวะท่านกั๋วกง เป็นข้าน้อยเองเจ้าค่ะ” เป่ยเป่ย กล่าวอย่างนอบน้อมเช่นกันวันนี้ท่านกั๋วกงมาเพียงลำพัง ดังนั้นนางจึงต้องรั้งอยู่ก่อน มิสามารถออกไปด้านนอกอย่างที่ใจคิดได้แล้ว “แล้วเจ้าจะไปที่ใด” เป่ยเป่ยมองเหลือบตาไปที่พ่อบ้านแล้วก็ก้มหน้า เท่านั้นกั๋วกงก็เข้าใจดีว่า คงจะไปทำบางสิ่งที่บอกใครไม่ได้กระมัง จึงอำนวยความสะดวกให้นาง “ท่านพ่อบ้านหลี่ ช่วยไปแจ้งห้องครัวของท่านจัดเครื่องบำรุงของฝ่าบาทมาให้พระชายาด้วย” เขาให้คนยกของที่นำมาส่งให้พ่อบ้านหลี่ เป่ยเป่ยรับรู้ทันทีว่าท่านกั๋วกงคงอ่านใจนางออก การออกไปครั้งนี้นางไม่อยากให้ผู้ใดล่วงรู้ เมื่อท่านพ่อบ้านออกไปแล้ว เขาจึงเริ่มถามขึ้น “บอกข้าได้หรือไม่เจ้าจะไปที่ใด” “เรียนท่านกั๋วกง...เอ่อ...ข้า...” เป่ยเป่ยไม่รู้ว่าจะบอกคนผู้นี้ได้ไหม แล้วก็ไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของผู้ที่มาด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD