“บอกมาเถิดข้ามิใช่คนของผู้ใด ฝ่าบาทเพียงห่วงใยนายเจ้าด้วยใจจริง ส่งข้ามาดูทุกวันไม่ให้ขาดแม้แต่วันเดียว”
เมื่อได้ฟังแล้วก็ทราบทันทีว่าท่านกั๋วกงไม่ใช่คนของใครในตำหนักหรือขององค์รัชทายาท จึงกล้าพูดออกมา
“เอ่อ...ท่านกั๋วกง นายหญิงให้ข้าไปหาสาวใช้ที่ไว้ใจได้มาเพิ่มอีกเจ้าค่ะ ข้ากำลังจะไปรับน้องสาว”
ไฉ่เฉินฟังเท่านั้นก็รับรู้แล้วว่า มีบางอย่างที่ไม่ถูกนักในจวนแห่งนี้ นางคงไม่สะดวกใจจะใช้คนของจวิ้นอ๋องกระมัง เช่นนั้นควรเป็นเขาที่หาให้นางเองจะดีกว่า
“เจ้าอย่าลำบาก ข้าจะให้สาวใช้ของข้ามารับใช้นายเจ้ามิต้องเป็นห่วง” เขาหันไปพยักหน้ากับคนของตัวเอง แล้วก็จากไป เหลือเพียงกั๋วกงที่ยังอยู่ที่เรือนแห่งนี้ เขาอยากพบหน้านางสักนิด อยากดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอันใด
เว่ยเหยาลืมตาขึ้นนางยังคงไม่เห็นเช่นเดิม แต่ได้ยินสิ่งที่เป่ยเป่ยพูดกับชายคนหนึ่ง นางไม่เคยได้ยินเสียงมาก่อน จึงเดินลงมาใช้มือปัดป่ายจับอากาศแล้วก็มาถึงประตูห้องนอน
“เป่ยเป่ยเจ้าคุยกับผู้ใด”
เสียงของนายหญิงทำให้เป่ยเป่ยหันกลับมาตาโต นายหญิงมองไม่เห็นมายืนอยู่ตรงหน้าประตูอันตรายยิ่ง
“นายหญิงอยู่นิ่ง ๆ เจ้าค่ะ เป่ยเป่ยจะไปเดี๋ยวนี้” เป่ยเป่ยรีบวิ่งเข้าไปหานาง แต่ทว่าช้ากว่าคนที่คุยด้วยกันเมื่อครู่ เขาก้าวเพียงสองสามก้าวราวกับบินได้ไปถึงตัวของนายหญิงแล้ว
“ออกมาเช่นนี้ได้อย่างไร ยังไม่หายดี” เสียงดุของเขาทำให้เว่ยเหยาไม่แน่ใจว่าคนที่มาคือผู้ใด
“ท่าน...ท่านคือผู้ใด” นางหันหน้าไปตามเสียงที่ได้ยินขมวดคิ้วเป็นปม จำได้ว่าจวิ้นอ๋องจะไม่ให้ผู้ใดมารบกวน
“ไฉ่กั๋วกง” เขาตอบสั้น ๆ ไม่ได้ขยายความนัก
“เป็นท่านกั๋วกง เว่ยเหยาคารวะท่านกั๋วกง” นางเป็นผู้น้อยจึงค้อมกายคารวะ แม้ว่าพระชายาจวิ้นอ๋องตำแหน่งเหมือนดูน่าเคารพแต่นั่นเป็นเพียงหน้ากากที่นางสวม เพราะเมื่อหน้ากากนี้ถูกเปลี่ยนมือให้กับผู้อื่น นางก็เป็นเพียงแค่สตรีแต่งงานแล้วนามว่าเว่ยเหยาเท่านั้น
“ท่านอย่าคารวะข้าเช่นนี้ ข้าต่ำต้อยกว่าท่าน”
เว่ยเหยายิ้มให้กับความใจดีของท่านกั๋วกง ท่านคงจะเป็นผู้ใหญ่ที่ใจดีสินะ
“น่าเสียดายที่ข้ามองไม่เห็น ท่านผิดกับเหล่าขุนนางอื่นที่อวดเบ่งอำนาจนัก แต่ข้าจะจดจำท่านไว้”
“ข้าเคยพบท่านแล้ว แต่ไม่เคยสนทนา ไม่คิดว่าพบกันอีกครั้ง ท่านก็ไม่อาจมองเห็นข้าเสียแล้ว” ไฉ่เฉินจำแววตาเศร้าคู่นั้นได้ดี นางสวดมนต์เพียงลำพัง แม้ไม่ยิ้มแย้มแต่ทำให้เขารู้สึกว่าละสายตาจากนางได้ยากยิ่งนัก
“พบที่ใดอย่างนั้นหรือ ตัวท่านมีกลิ่นของเหม่ยฮวา ในจวนท่านปลูกใช่หรือไม่” แม้กลิ่นจะจาง ๆ แต่นางก็รับรู้ได้นี่คงเป็นอีกอย่างกระมังที่นางได้มาหลังจากตาบอด
“เจ้าได้กลิ่นด้วยหรือ”
“อื้อ...” นางพยักหน้า แล้วรู้สึกว่าการสนทนากับบุรุษแปลกหน้าผู้นี้ก็ไม่เลวนัก มันทำให้รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
“เจ้าชอบดอกเหม่ยฮวาหรือ” เขาถามเมื่อช่วยเป่ยเป่ยพยุงนางให้นั่งที่เก้าอี้
“ไม่ข้าไม่ได้ชอบ เพียงแต่ได้กลิ่น ข้าชอบกลิ่นของโม่ลี่ฮวา มันหอมชื่นใจกว่า” นางชอบดอกไม้เพียงบางชนิด แม้ว่าโมลี่ฮวาจะเป็นดอกไม้สีขาว แต่นางกลับชอบกลิ่นของมันยิ่งนัก
“เอาไว้คราวหน้าข้าจะเอามาฝาก” อย่างน้อยเขาก็รู้แล้วว่านางชอบดอกอะไร
“ท่านเป็นคนของฝ่าบาทใช่หรือไม่” เป่ยเป่ยเล่าให้นางฟังแล้วว่ามีผู้ใดเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง ฝ่าบาททรงมีเมตตานัก ยังคิดถึงนางซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับราชวงศ์แล้วด้วยซ้ำ
“แน่นอนว่าฝ่าบาทใส่ใจทุกคน” หากแต่นางไม่รู้ว่าฝ่าบาทใส่ใจไม่เพราะนางเป็นบุตรสาวขององค์หญิงเกาหยางเท่านั้น เพียงตรวจสอบความเคลื่อนไหวของทุกคนในราชวงศ์ว่าคิดก่อการอันใดหรือไม่
“ช่างเป็นฝ่าบาทที่ใส่ใจคนตัวเล็ก ๆ อย่างข้านัก ฝากท่านขอบพระทัยแทนข้าด้วย”
“มีสิ่งใดขาดอีกหรือไม่ ข้าจะได้นำมาให้ในคราวหน้า” นอกจากสาวใช้เขาก็อยากรู้เช่นกันว่านางขาดเหลือสิ่งใดหรือไม่กันนะ
“ย่อมไม่มี อื่นใดล้วนมีพร้อม ขาดก็แต่...” เมื่อคิดว่าตัวเองที่มองไม่เห็นความทุกข์ก็กัดกินหัวใจขึ้นมาดื้อ ๆ นางพยายามหักห้ามใจแล้ว แต่ทว่ากลับห้ามดวงตาไม่ให้มันเอ่อไหลน้ำใส ๆ ออกมาได้
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะนายหญิง ข้าจะเป็นตาให้ท่านเอง” เป่ยเป่ยเห็นดวงตาของนายหญิงเศร้าเช่นนี้ก็อดที่จะน้ำตาไหลไม่ได้ ร้อยวันพันปีจวิ้นอ๋องไม่เคยเสด็จมายังเรือนของเจ้านาย มิรู้อะไรดลใจเขาให้มาทำร้ายนายของตน
“ขออภัยท่านกั๋วกง เสียมารยาทแล้ว” นางยกมือขึ้นปาดน้ำตา แล้วก็ยิ้มให้
‘นางมองมายังเขาตรง ๆ เช่นนี้ทำเอาเขาใจสั่น เขาอยากให้นางมองเห็นเขาบ้างจัง จะมีวันนั้นไหมนะ...’
“มิเป็นอันใด สาวใช้ข้าจะจัดมาให้เจ้าอย่าห่วง และพวกนางไว้ใจได้” แน่นอนว่าเป็นสาวใช้ขั้น 1 ในจวนของกั๋วกง และย่อมรายงานทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้กับเขาฟังเช่นกัน
“ขอบคุณท่านกั๋วกง หากไม่รบกวนช่วยปิดเรื่องนี้เป็นความลับได้หรือไม่ ข้าไม่อยากให้ผู้ใดรับรู้”
“ย่อมได้” เขารับปากนาง เมื่อพ่อบ้านนำขบวนสาวใช้ยกของบำรุงมาวางเรียงราย เขาก็ขอตัวกลับทันที เพราะมารั้งอยู่ที่นี่นานแล้ว
“สมควรแก่เวลาแล้ว ข้ากลับก่อน ไว้ทูลฝ่าบาทให้ทราบถึงอาการท่าน หากมีคำสั่งฝ่าบาทข้าจะมาเยี่ยมใหม่” เขาอ้างคำของฝ่าบาทเพื่อให้พ่อบ้านที่ใบหน้าสงสัยครามครันคลายใจ
“ลำบากท่านกั๋วกงแล้ว ข้าคงส่งท่านมิได้ขอให้เดินทางปลอดภัย” เว่ยเหยากล่าวด้วยความสุขภาพ เมื่อมีคนอื่นนางก็รักษาระยะห่างกับท่านกั๋วกง ไม่รู้ว่าเขาไว้ใจได้ไหม แต่หัวใจนางสั่งว่าเขาเป็นคนดี