2 เรียกว่ามวยถูกคู่

1302 Words
“อะไรนะ 50 ล้านเหรอคะพ่อ” พอนึกถึงเลขศูนย์หลายตัวก็ทำตาเธอลายไปหมด ในหัวว่างเปล่าไม่รู้จะเถียงกลับไปยังไง ได้แต่หันไปสบตาผู้เป็นพ่อที่ก้มหน้ายอมรับอย่างไร้ข้อปฏิเสธ นี่มันบ้าไปกันใหญ่แล้ว.. พิมรักหันมองเทียนอี้ที่ไร้ซึ่งปฏิกิริยาตอบกลับ นอกจากใช้สายตาไร้ซึ่งอารมณ์ร่วมมองเธอไม่วางตา “ที่รีสอร์ทของเราไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเข้าพักหลายเดือนแล้ว พ่อเลยยืมเงินทุนหนึ่งก้อนมาลงทุนทำร้านกาแฟ” “.....” “แต่พอเอาเข้าจริงก็สู้ค่าที่ไม่ไหว สินค้าที่สั่งผลิตหน้าร้านก็ขาดทุนยับ ยอมลดราคาขาดทุนแต่ก็ยังไม่ได้ทุนคืนอยู่ดี” พลกฤตยอมรับความล้มเหลวต่อหน้าลูกสาว หลังพยายามต่อสู้กับปัญหาขาดทุนมานานหลายเดือน พิมรักยื่นมือไปกุมมือพลกฤตเอาไว้ เธอไม่เคยรู้เรื่องนี้จากปากพ่อตัวเองเลย เพราะเอาแต่ก้มหน้าทำงานหนักไม่เว้นวัน “พ่อพยายามแล้ว แต่สุดท้ายมันก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า แล้วพ่อก็ไม่ได้อยากให้ลูกต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย” น้ำเสียงของผู้เป็นพ่อสั่นเครือ สายตาฉายชัดถึงความเครียดสะสมจนแทบจะระเบิดออกมาเป็นน้ำตา “ทำไมทำหน้าตื่นขนาดนั้นล่ะคุณหมอ” “.....” “เงินแค่นี้เอง” เงินตั้งห้าสิบล้านแต่คนบางคนดันใช้คำว่าแค่เหรอ.. พิมรักข่มอารมณ์หนักกับคำพูดของอีกฝ่าย ตวัดสายตามองเทียนอี้ที่ทำหน้าไม่ทุกข์ร้อนอะไร เดี๋ยวแม่ก็จิ้มให้ตาบอดสักที สำหรับมหาเศรษฐีที่มีกินมีใช้ตลอดชาติ ห้าสิบล้านอาจเป็นเพียงเงินเล็กน้อยในบัญชี แต่สำหรับเธอตอนนี้มันคือหนี้ก้อนโตที่รั้งเอาไว้ต่างหาก “แล้วที่พักพิงใจไม่มีนักท่องเที่ยวเลยเหรอคะพ่อ” “เป็นเพราะพิษเศรษฐกิจช่วงนี้น่ะลูก” ผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจหลายอย่าง ทำให้นักท่องเที่ยวบางตาลงไปเยอะมาก ค่าซ่อมแซมและเงินเดือนพนักงานก็ยังต้องจ่ายเหมือนเดิมมาตลอดหลายเดือน ไม่แปลกหากจะขาดทุนย่อยยับขนาดนี้ คุณหมอสาวหลุบตาครุ่นคิดหนัก ท่ามกลางสถานการณ์กดดันที่เทียนอี้จงใจใช้ความเงียบทำให้อึดอัดมากขึ้น “ฉันจะหาเงินทั้งหมดมาใช้คืนให้แน่นอนค่ะ แต่ขอเวลาให้หน่อยได้มั้ยคะ” พิมรักยื่นข้อเสนอด้วยสีหน้าเชิงอ้อนวอน หวังว่าคนตรงหน้าเธอคงไม่ใจร้ายถึงขั้นขูดเลือดขูดเนื้อกัน อย่างน้อยก็ขอให้มีความเมตตาต่อกันบ้างเถอะ.. “พ่อกำลังประกาศขายรีสอร์ทพักพิงใจ ถ้ามีคนซื้อก็คงขาดอีกสัก 30 ล้าน” “จะขายพักพิงใจได้ยังไงคะ พิมไม่ยอมหรอก นั่นมันคือสิ่งที่พ่อกับแม่สร้างด้วยกันเลยนะคะ” สาวเจ้ารีบส่ายหน้าปฏิเสธความคิดนั้นทันที ครอบครัวของพิมรักเติบโตมาจากธุรกิจที่พ่อกับแม่สร้าง เธอรู้ดีว่าผู้เป็นพ่อตั้งใจดูแลรีสอร์ทพักพิงใจมามากแค่ไหน มันเป็นแหล่งรวมความทรงจำมากมายตั้งแต่เด็ก ทั้งพ่อและแม่เธอช่วยกันสร้างมากับมือ.. ในตอนนี้ที่แม่ไม่อยู่บนโลกแล้ว พักพิงใจก็เป็นสถานที่ความทรงจำเดียว ที่ทำให้พลกฤตรู้สึกไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป “ฉันจะหาเงินมาคืนให้ค่ะ แต่ขอเวลาให้หน่อยได้มั้ยคะ” แม้จะพูดไปแบบนั้นเพื่อประนีประนอม แต่ความจริงคือยังมืดแปดด้าน ไม่รู้ว่าจะหาเงินก้อนมหาศาลนั้นมาจากที่ไหน ลำพังแค่เงินเดือนของแพทย์ก็คงไม่พอ.. “ที่จริงก็มีทางเลือกอยู่” “หมายความว่ายังไงคะ” “เอาตัวเธอมาแลกสิ” สีหน้าตายด้านของเทียนอี้กำลังทำพิมรักโกรธจัด ถ้อยคำที่พ่นออกมาไม่ต่างอะไรจากคำดูถูก ทำเอาเธอถึงกับกัดฟันจนอยากข่วนหน้าเขาให้เป็นรอยสักที ไม่น่าเสวนาด้วยเลยสักนิด เทียนอี้เอาขาที่ไขว่ห้างลง พลางโน้มตัวมาข้างหน้าแล้วประสานมือเข้าหากัน สีหน้าบ่งบอกว่าจริงจังไม่ได้ล้อเล่น “มาเป็นของเล่นให้ฉันสัก 6 เดือนแลกกับเงิน 50 ล้านที่ไม่ต้องดิ้นรนหามาคืน ไม่คิดว่าคุ้มค่าหรอกเหรอ” “คุ้มค่าเหรอ คุณพูดออกมาได้ยังไง” เธอแทบจะพุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้ออีกฝ่าย ไม่รู้ว่ากล้าพูดประโยคพวกนั้นออกมาด้วยสีหน้าตายด้านได้ยังไงกัน เงินห้าสิบล้านแลกกับตัวเธอหกเดือนงั้นเหรอ.. พิมรักรีบสะบัดศีรษะให้กับความคิดไม่เข้าท่า เวลาตั้งหกเดือนเลยนะ หมอนี่จะพาเธอไปต้มยำทำแกงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถึงจะแอบตาโตเพราะเม็ดเงินก็เถอะ “คิดว่าฉันจะเอาตัวเข้าแลกเพราะเงินของคุณเหรอ” “พ่อเธอไงยอมแลก ถึงได้เรียกฉันมาคุย” “อะไรนะ” “อีกอย่างเธอคิดว่าตัวเองมีค่าขนาดนั้นเลยหรือไง” ใบหน้าร้ายลึกนิ่งสงบจนดูน่ากลัว มุมปากสวยกระตุกยิ้มเล็กน้อย แต่กลับรู้สึกเหมือนมีรังสีอำมหิตแผ่กระจายออกมารอบกาย สายตาคู่คมจ้องมองริมฝีปากรูปกระจับ เห็นปากนิดจมูกหน่อยแบบนี้แต่เถียงเก่งใช้ได้เลยทีเดียว ค่อยสมน้ำสมเนื้อกับเขาหน่อย คนชอบเอาชนะแบบเทียนอี้ พอได้เห็นคู่กรณีที่เป็นคนคล้ายกันแบบนี้ มันทำให้เขารู้สึกมีกำลังวังชาขึ้นเยอะเลย “ตีราคาตัวเองสูงเกินไปแล้วคุณหมอคนสวย” “.....” “แต่คนที่เลือกผู้ชายแบบนั้นมาทำพันธุ์ จะฉลาดพอยอมรับข้อเสนอของฉันได้หรือเปล่า หือ” พิมรักกำหมัดแน่นจนขึ้นข้อขาว ในหัวจินตนาการว่าจิกทึ้งผมอีกฝ่ายแล้วเรียบร้อย แต่ความจริงคือผู้เป็นพ่อรั้งแขนเธอไว้ไม่ให้ความคิดในหัวชนะได้ โกรธจนน้ำตาคลอไปหมดแล้ว.. “ฉันว่าตัวเองฉลาดพอต่างหาก” “งั้นเหรอ” “ใช่ ฉลาดพอที่จะไม่เกลือกกลั้วกับคนแบบคุณ” เทียนอี้ไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ ไม่ได้สะทกสะท้านกับคำพูดของพิมรักแต่อย่างใด ราวกับรู้ว่าปลายทางสุดท้ายคนฝีปากกล้าจะต้องมาสยบต่อหน้าเขาอยู่ดี ยังไงเธอก็หนีไม่รอดเงื้องมือเขาหรอก.. เพราะเทียนอี้คือคนที่พร้อมจะทุ่มเงินเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ปรารถนามาครอบครอง แล้วสิ่งที่มาเฟียหนุ่มอยากได้ในตอนนี้ก็คือคุณหมอคนสวยตรงหน้านี่ไง ร่างสูงหยัดกายลุกจากที่นั่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย พลางกดสายตามองสองพ่อลูกคล้ายว่ากำลังจะตัดสินชี้ชะตา “ตามใจ เธอจะไม่รับข้อเสนอนี้ก็ได้ แต่เงินพร้อมดอกเบี้ยทั้งหมดต้องคืนภายในสิ้นเดือนนี้เท่านั้น” “สิ้นเดือนนี้เหรอ!” “ใช่ ภายในสิ้นเดือนนี้” นี่มันบ้าไปแล้ว.. เงินตั้งห้าสิบล้านแต่ให้เวลาไม่กี่วัน แบบนี้มันไม่เรียกว่ารีดเลือดกับปูไปหน่อยหรือไงกัน “สิ้นเดือนนี้มันอีกแค่สองอาทิตย์เองนะ ฉันจะไปหาเงินก้อนขนาดนั้นมาได้จากที่ไหน” “นั่นมันปัญหาของเธอ” “ไอ้..” “พิม” พลกฤตรีบคว้าแขนลูกสาวไว้ หากช้ากว่านี้พิมรักได้กระโจนเข้าไปหาอีกฝ่ายแน่นอน ไม่แน่หูซ้ายของเทียนอี้ก็อาจจะไม่ปลอดภัย ลูกสาวตัวแสบคงขบกัดอย่างแน่นอน.. เจ้าของไหล่กว้างเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงสาว หยิบนามบัตรออกมาจากเสื้อสูทแล้ววางไว้บนโต๊ะ ที่เขียนกำกับเป็นตัวภาษาอังกฤษว่า ANGEL WING CLUB “ถ้าเปลี่ยนใจก็ติดต่อมาแล้วกัน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD