Chapter 2

1443 Words
Chapter 2 คนคุมเด็กดื้อ...  รุ่งเช้า... @บ้านแพรดาว “อ๊า~ เซ็กซี่ชะมัดเลยเรา” หญิงสาวเอ่ยชมตัวเองด้วยความพึงพอใจ เมื่อเธอมองตัวเองในชุดนักศึกษารัดรูปที่กระจกบานใหญ่ เธอบิดสะโพกซ้ายบิดสะโพกขวาทำราวกับว่ากำลังถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสาร หญิงสาวหมุนตัวไปมาอยู่แบบนั้นด้วยความตื่นเต้น เพราะวันนี้เธอจะกลายเป็นนักศึกษาเฟรชชี “โอ้โห...นี่เจ๊แพรแต่งตัวจัดเต็มตั้งแต่เปิดเทอมวันแรกเลยเหรอ?” เมื่อแพรดาวเดินเข้ามาในห้องอาหาร พริกหวานน้องสาวของแพรดาว เธอทำตาลุกวาวอย่างตื่นตาตื่นใจ เมื่อเธอเห็นแพรดาวสวมเสื้อนักศึกษารัดรูปกับกระโปรงทรงเอตัวสั้นจิ๋ว ซึ่งทำให้รูปร่างที่แสนเพอร์เฟกต์ของแพรดาวยิ่งดูเซ็กซี่เย้ายวนตาเป็นอย่างมาก จนทำให้พริกหวานไม่อาจละสายตาจากพี่สาวของเธอได้เลย "มันแน่นอนอยู่แล้วน้องรัก" แพรดาวยักไหล่ด้วยสีหน้ายิ้มๆ ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้นั่งข้างคุณแม่ของเธอ "งื้อ...หนูอยากใส่ชุดนักศึกษาแบบเจ๊บ้างจัง เมื่อไรจะจบมัธยมสักทีเนี่ย" พริกหวานยู่ปากพูดอย่างน่ารัก “ทุกวันนี้แกก็ใส่ชุดนักเรียนสั้นๆ ไม่ต่างจากเจ๊แพรนักหรอกยัยพริกหวาน...” พัตเตอร์น้องชายของแพรดาวส่ายหน้าอย่างระอาให้กับน้องสาวฝาแฝดของเขา เขาไม่ชอบเลยเวลาที่เห็นพี่สาวและน้องสาวของเขา ชอบใส่ชุดรัดรูปจนตกเป็นเป้าสายตาของชายหนุ่มหลายคน แต่พัตเตอร์ก็พูดอะไรมากไม่ได้ เพราะมันเป็นความชอบของทั้งคู่ “จิ๊! แกไม่ขัดฉันสักวันจะได้ไหมไอ้เตอร์” พริกหวานพูดราวกับกำลังน้อยใจพี่ชายฝาแฝดของเธอ “โธ่ๆ...พูดแค่เนี่ยน้อยใจเหรอวะ ง้อนะครับพริกเผ็ดของพี่ เอ๊ย! พริกหวาน...หึๆ...” พัตเตอร์หัวเราะในลำคอเบาๆ “หยุดเล่นกันได้แล้วลูก รีบกินข้าว จะได้รีบไปโรงเรียน” พลอยใสเอ่ยขึ้น เมื่อลูกฝาแฝดของเธอหยอกล้อเล่นซนราวกับเด็กๆ อยู่ที่โต๊ะกินข้าว “ครับ / ค่ะ คุณแม่” พัตเตอร์และพริกหวานตอบรับพลอยใสพร้อมกัน ก่อนจะนั่งกินข้าวเงียบ ๆ “น้องแพรขึ้นไปเปลี่ยนกระโปรงนักศึกษาตัวใหม่ดีไหมลูก เอาไว้หนูขึ้นปีสองหรือผ่านช่วงรับน้องไปก่อน หนูค่อยเปลี่ยนมาใส่กระโปรงสั้นแบบนี้” พลอยใสเอ่ยบอกลูกสาวคนโตของเธอ เพราะพลอยใสนั้นรู้ว่าแพรดาวชอบแต่งตัวเซ็กซี่เป็นอย่างมาก และพลอยใสก็ไม่ได้เป็นคุณแม่หัวโบราณที่จะไม่เข้าใจการแต่งตัวของลูกสาว เพียงแค่อยากให้ผ่านช่วงรับน้องไปก่อนก็แค่นั้นเอง “อืม…ป๊าก็เห็นด้วยกับแม่หนูนะ เอาไว้หนูขึ้นปีสองแล้วค่อยใส่แบบนี้นะลูก” วาโยผู้เป็นพ่อของแพรดาวเอ่ยบอกลูกสาวของเขาด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “มันน่าเกลียดไปเหรอคะป๊า หนูคิดว่าใส่แบบนี้มันดูสวยเซ็กซี่ดีออก” แพรดาวเบ้ปากคว่ำเล็กน้อย เพราะเธอคิดว่าคุณพ่อและคุณแม่ของเธอไม่เห็นด้วยกับการแต่งกายแบบนี้ “ลูกสาวป๊าสวยมาก แต่ป๊าคิดว่ากระโปรงมันสั้นไปหน่อย” วาโยเอ่ยบอกลูกสาวของเขา “ใครๆ เขาก็ใส่แบบนี้กันทั้งนั้นแหละป๊า” “หนูเริ่มดื้อกับป๊าแล้วนะแพรดาว” วาโยเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง เมื่อแพรดาวเริ่มจะไม่ฟังสิ่งที่ตนพูด “หนูขอโทษค่ะป๊า ฟอด! ไม่โกรธหนูนะ หนูจะไปเปลี่ยนกระโปรงตัวใหม่เดี๋ยวนี้เลยค่ะ” แพรดาวเลื่อนเก้าอี้ออกและลุกขึ้นไปยกมือไหว้แนบอก พร้อมทั้งหอมแก้มผู้เป็นพ่อของเธอด้วยแววตาออดอ้อนเอาใจ และในขณะที่เธอกำลังจะหมุนตัวเพื่อขึ้นไปเปลี่ยนกระโปรงตัวใหม่ แม่บ้านก็เดินเข้ามาในห้องอาหารเสียก่อน “คุณแพรดาวคะ คุณไรเฟิลมาถึงแล้วค่ะ” แม่บ้านเอ่ยบอกแพรดาว “ว้ายย...ป๊า พี่เฟิลมาแล้ว งั้นหนูไปก่อนนะคะ บ๊ายยยย...” แพรดาวเธอหมุนตัวไปหยิบกระเป๋าแบรนด์หรูด้วยความร้อนรน เพราะเกรงว่าไรเฟิลที่เธอนับถือเสมือนเขาเป็นพี่ชายจะรอนาน จากนั้นหญิงสาวก็วิ่งรีบออกไปจากห้องอาหารทันที ทำให้วาโยและพลอยใสต้องส่ายหัวกับความดื้อรั้นของลูกสาวคนโต แพรดาวนั้นเหมือนเด็กที่ว่านอนสอนง่าย แต่ใครจะรู้ว่าเธอนั้นมีนิสัยดื้อรั้นเอามากๆ “มาตรงเวลาเลยนะคะพี่ชายสุดหล่อของหนู” เมื่อแพรดาวเข้ามาในรถ เธอก็ดึงเบลต์มาคาดตัว โดยที่ยังไม่ได้หันไปมองหน้าเจ้าของรถแม้แต่น้อย เพราะเธอมั่นใจว่าเป็นรถสปอร์ตคู่ใจของไรเฟิล เพราะไรเฟิลนั้นขับรถสปอร์ตคันสีขาว ส่วนพี่ชายฝาแฝดของเขาขับรถสปอร์ตคันสีดำ กึก~ เสียงกดล็อกรถสปอร์ตดังขึ้น จากนั้นชายหนุ่มที่อยู่บนรถก็เอ่ยทักทายหญิงสาวน้ำเสียงดุดันด้วยความไม่ชอบใจนัก เมื่อเห็นการแต่งกายของเธอ “แต่งตัวแบบนี้ จะไปเรียนหรือจะไปอ่อยใคร?” “...” แพรดาวหันขวับไปมองเจ้าของเสียงทันที เมื่อเสียงที่เธอได้ยินเมื่อครู่ไม่ใช่เสียงของไรเฟิล แต่กลับเป็นผู้ชายปากร้ายที่เธอไม่อยากอยู่ใกล้เขา และเร็วกว่าความคิด มือบางก็จะเอื้อมมือเพื่อไปเปิดประตูจะลงจากรถ แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อรถสปอร์ตขับเคลื่อนออกไปจากบ้านของเธอด้วยความเร็ว “จอดรถเดี๋ยวนี้ ฉันไม่อยากไปกับพี่เวย์” แพรดาวแทนตัวเองด้วยสรรพนามที่ห่างเหิน หญิงสาวมักจะแทนตัวเองว่า น้องแพรหรือหนูกับใครต่อใคร แต่กับเขา เธอมักจะแทนตัวเองว่า ‘ฉัน’ จนรันเวย์รู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งกับความสองมาตรฐานของเธอ “แล้วคิดว่าฉันอยากไปกับเธอนักหรือไง ฮะ! ถ้าไอ้เฟิลมันไม่ขอร้องให้ฉันไปส่งเด็กที่ไม่รู้จักโตอย่างเธอ ฉันก็ไม่มีทางไปส่งเธอให้เป็นภาระตัวเองหรอก” รันเวย์พ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่อย่างหงุดหงิด และพ่นวาจาใส่หญิงสาวอย่างร้ายกาจ เมื่อเธอทำราวกับว่าจะเป็นจะตายเมื่อต้องอยู่กับเขาเพียงลำพัง แต่พอกับน้องชายฝาแฝดของเขา เธอกลับออดอ้อนมันจนน่าหมั่นไส้ “...” “แล้วแต่งตัวแบบนี้ ไม่รู้หรือไงว่าเด็กปีหนึ่งควรแต่งกายแบบไหน ใส่สั้นแบบนี้ก้มทีก็เห็นยันกางเกงใน อยากโชว์มากหรือไงวะ” รันเวย์ปรายตามองเรียวขาขาวเนียนเพียงเล็กน้อย ก่อนจะลอบกลืนน้ำลายลงคออยู่อึกหนึ่ง “ยุ่ง…” แพรดาวกอดอกทำหน้ามุ่ยและหันหน้าหนีมองออกไปนอกรถ เมื่อทำอะไรคนอย่างเขาไม่ได้ ทั้งๆ ที่ภายในใจเธออยากจะกรีดร้องใส่หูของเขาให้แตกไปเลย ปากเสียดีนัก... “เหอะ...” รันเวย์แสยะยิ้มออกมา ก่อนที่เขาจะเปิดสปีกเกอร์โฟนในรถ เพื่อต่อสายหาณิชาเพื่อนของเขา เพราะณิชาคงจะมีกระโปรงที่มันยาวกว่าแพรดาวใส่อยู่ตอนนี้แน่ ครั้นจะรอให้ห้างเปิดก็คงไม่ทันการณ์ ตืดดดด ตืดดดด (ฮัลโหลเวย์ มีอะไรถึงโทรหาฉันแต่เช้า) “ไปมหาลัยยัง?” (อืม...กำลังจะไปเนี่ย มีอะไรหรือเปล่า) “มีกระโปรงนักศึกษาตัวยาวๆ มั่งเปล่า” (มีสิ พึ่งซื้อมาใหม่เลย นายถามทำไม นายจะใส่หรือไง) “พูดมาก เดี๋ยวให้ไอ้เฟิลจัดการเลย” (ไอ้บ้านี่ นายอย่ามาขู่ฉันเลย ฉันไม่กลัวไอ้บ้าเฟิลหรอก) “หึๆ...อย่าพึ่งไปมหาลัยนะ เดี๋ยวฉันเข้าไปหา เตรียมกระโปรงไว้ด้วย สิบนาทีเจอกัน” เมื่อรันเวย์พูดจบ เขาก็กดวางสายทันที โดยที่ไม่แม้แต่จะเอ่ยบอกลาปลายสายเลยสักนิด “ฉันไม่เปลี่ยนนะพี่เวย์ เลิกเจ้ากี้เจ้าการเรื่องการแต่งตัวของฉันสักทีเถอะ ฉันจะแต่งตัวยังไงมันก็เรื่องของฉัน...” แพรดาวรีบเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ เมื่อเธอฟังบทสนทนาที่รันเวย์คุยกับเพื่อนสาวของเขาจบ “แล้วใส่กระโปรงตัวยาวเหมือนคนอื่นเขา มันจะตายหรือไงวะ” รันเวย์เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน “เออ! จะตาย ยิ่งฉันอยู่ใกล้พี่ ฉันยิ่งอยากตาย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD