บรู๊คมองหน้าเธอด้วยแววตาเลิ่กลั่ก ราวกับไม่รู้จะวางตัวอย่างไรในสถานการณ์นี้ และตอนนี้เขาก็พอจะเดาออกแล้วว่าเสียงที่ดังอยู่หน้าห้องเป็นของใคร
แต่ก่อนที่เขาจะเอ่ยปากห้าม ปิ่นมุกกลับทำในสิ่งที่เขาไม่คาดคิด เธอเอื้อมมือไปบิดลูกบิดประตู เปิดออกอย่างใจกล้า เพราะอยากเห็นหน้าของคนที่กล้าเรียกชื่อแฟนของเธอด้วยน้ำเสียงหวานเยิ้ม
“พี่บรู๊คคะ...พี่บรู๊ค”
“กรี๊ดดดดด”
เสียงหวีดดังขึ้นพร้อมกับความเงียบงันที่ตามมา ทั้งสามคนชะงักงันในจังหวะเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเมย์ นิสิตสาวปีหนึ่งผู้เพิ่งได้ตำแหน่งดาวคณะ หรือคู่รักที่ยืนอยู่ในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ยตรงหน้าประตู
เพลี้ย!!!! ไอ้เลว เสียงฝ่ามือกระทบแก้มดังสะท้อนไปทั้งชั้น คนที่ได้สติเร็วที่สุดคงเป็นเธอ... ปิ่นมุก
เธอตบลงไปที่แก้มของบรู๊คเต็มแรง เพราะสิ่งที่ได้ยินมาก่อนหน้านี้ มันปรากฏชัดเจนเกินกว่าจะปฏิเสธได้
ทุกอย่างเป็นไปตามที่เพื่อนสาวทั้งสองของเธอสืบมาไม่มีผิด
ไอ้พี่บรู๊ค... มันกำลังตามจีบแม่ดาวคณะคนใหม่อยู่จริงๆ และตอนนี้เธอก็ไม่จำเป็นต้องได้ยินคำแก้ตัวอะไรอีก
แค่ผู้หญิงคนนั้นมายืนอยู่ตรงนี้... ทุกอย่างก็ชัดเจนเกินพอแล้ว
แถมดูเหมือนว่ายัยนั่นจะตกเป็นของไอ้พี่บรู๊คก่อนเธอเสียด้วยซ้ำ
ไม่อย่างนั้น คงไม่มีทางกล้ามาหามันถึงห้องในสภาพนี้แน่
“ปิ่น...ฟังพี่ก่อน”
“กูไม่จำเป็นต้องฟังมึงป่าววะ...ไอ้บรู๊ค!” เธอพูดกับเขาด้วยความโมโห
“แล้วเธอก็ไม่ต้องมากรี๊ดดดดใส่หน้าฉัน คนเหี้ยๆ แบบนี้ฉันไม่คิดอยากได้ว่ะ” เธอพูดพร้อมชี้หน้ายัยดาวคณะคนใหม่ และเดินมาหยิบกระเป๋าสะพายที่มันตกอยู่บนโซฟา รีบแทรกตัวทั้งสองคนที่กำลังยืนอึ้ง ออกจากห้องบ้าๆ นี้ให้เร็วที่สุด
เธอกลั้นน้ำตาเอาไว้ ไม่ฟังเสียงที่บรู๊คตะโกนเรียกตามหลังจนเดินไปถึงลิฟต์ รอให้ลิฟต์ปิดลง และปล่อยโฮออกมาอย่างสุดที่จะกลั้น
“พี่บรู๊คคะ...จะไปไหน” เมย์พยายามดึงตัวบรู๊คเอาไว้ ที่เขาจะเก้าตามปิ่นมุกไปเพื่อจะอธิบาย
“ไอ้เวร...” เธอคิดว่าเธอจะหยุดคนเลวๆ อย่างไอ้พี่บรู๊คได้ แต่เปล่าเลยมันเหี้ยอย่างที่เขาล่ำลือเอาไว้จริงๆ ฉันไม่น่าไปเลือกคนอย่างมันเลย
หลังจากวันนั้นมันพยายามโทรมาหาฉัน และมารอที่หน้าคณะ แต่ฉันพยายามหลบหน้ามัน และบล็อกทุกช่องทางการติดต่อ
จากวันที่รถไฟชนกันโครมใหญ่มันก็ยังตามรังควานฉันไม่เลิก ฉันเดินกับผู้ชายคนไหนมันก็จะพูดแบบนั้น ทั้งๆ ที่วันนั้นฉันก็ยังไม่ได้มอบความบริสุทธิ์ให้มันเลยสักนิด
และดูเหมือนว่ามันจะแค้นที่ฉันตบหน้ามัน และก็ไม่ได้ฉันในคืนนั้น หลังจากนั้นไม่ว่าฉันจะควงใครมันก็จะเข้ามาพูดประโยคนั้นซ้ำๆ อย่างกับคนจองเวร
ความจริงฉันอยากจะเอาลูกน้องพ่อมากระทืบมันอยู่เหมือนกัน แต่ฉันก็พยายามอดทนไปก่อน ให้มันถึงที่สุดแล้วค่อยว่ากัน
แต่ตอนนี้มันทำให้พี่มาร์ติน เข้าใจฉันผิดเข้าไปอีก ทำยังไงฉันจะหยุดไอ้พี่บรู๊คมันได้นะ คนหวงก้างอย่างพี่บรู๊คเมื่อไรมันจะหยุดพูดใส่ฉันแบบนั้น แล้วปล่อยฉันไปสักทีนะ
ความคิดของเธอหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงข้อความแจ้งเตือน
ติ้ง....
“ถึงห้องหรือยัง?”
เธอหยิบมือถือขึ้นมาจากกระเป๋า ระหว่างจอดรถสนิท
“ถึงแล้ว” เธอพิมพ์ตอบอีธานไป พรางนึกส่ายหัวที่คนอย่างเขาพิมพ์ข้อความถามเธอมา
“ไม่ต้องกวนประสาทฉันนะ ฉันยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่” เธอพิมพ์ข้อความดักคอเขาเอาไว้ เพราะว่าวันนี้เธอก็เหนื่อยจริงๆ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จเลยซะสักอย่าง
“อารมณ์ไม่ดีเหรอ?....ฉันทำให้เธออารมณ์ดีได้นะ”
“บอกว่าอย่ากวนประสาทไง”
เธอเอามือถือยัดไปในกระเป๋าสะพาย ตอนนี้ไม่อยากอ่านข้อความอะไรจากเขาทั้งนั้น
ปิ่นมุกรีบเก็บของทุกอย่างเข้าที่ และเดินลงรถตรงไปที่ลิฟต์ของคอนโดทันที
เธอกดไปชั้น 15 ก่อนที่จะยืนหันหน้าเข้ามุมของลิฟต์ โดยไม่สนใจว่าคนที่เดินตามเธอเข้ามาติดๆ คือใคร
“ฉันบอกว่าฉันช่วยเธอได้ไง?” เสียงทุ้มเข้มเอ่ยขึ้น จนคนที่ยืนเอาหน้าเข้ามุมด้วยความเศร้าถึงขั้นตกใจ
“นาย!” เธอหันมามองหน้าเขาด้วยความตกใจสุดขีด
“ฉันเอง”
“นายมาที่นี่ทำไม?”
“ก็มาดูเธอไง”
“ไม่จำเป็น...กลับไป”
ติ้ง...เสียงลิฟต์จอดที่ชั้น 15
เธอเดินออกมา ส่วนเขาก็เดินตามเธอมาติดๆ
“กลับไปนะ...ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วย”
“ก็ร้อง” อีธานเลิกคิ้วพูดอย่างท้าทาย
เธอเดินหนีเขาจนมาถึงหน้าห้องของตัวเอง พลางนึกในใจว่าจะทำยังไงกับคนอย่างอีธานดี
“กลับไป”
อีธานแย่งคีย์การ์ดในมือของเธอไปแตะ และถือวิสาสะ เปิดประตูเข้าไปในห้อง
“ไอ้บ้า...ออกมานะ นายจะทำอะไร” ปิ่นมุกพยายามดึงเสื้อของคนร่างหนาเอาไว้ แต่มันก็ไม่เป็นผล
“ห้องหรูดีหนิ!”
เขาเดินสำรวจทั่วห้อง ก่อนที่จะทิ้งตัวลงที่โซฟายาวกลางห้อง
“นายจะเข้ามาในห้องฉันแบบนี้ไม่ได้นะ”
เธอมองหน้าเขาด้วยสายตาที่โกรธจัด เพราะนอกจากเพื่อนของเธอ อย่าง ขนมผิง คัพเค้ก และไอเดีย เธอก็ไม่เคยพาใครเข้ามาในห้องนี้ โดยเฉพาะผู้ชาย
“ขายคอนโดนี้ให้ฉัน”
“ไม่”
“หรือเธอจะให้มาร์ตินมันยึดบ้านพ่อของเธอ”
“...”
“ได้ข่าวว่าพ่อเธอหวงบ้านหลังนั้นมากกว่าลูกสาวอย่างเธอไม่ใช่เหรอ?”
เธอกำหมัดแน่น เพราะตอนนี้เหมือนเธอจะจนมุม
“อย่ามายุ่งกับฉัน”
“ฉันมีสองทางให้เธอเลือก ขายคอนโดนี้ให้ฉัน หรือ ยอมเป็นเมียฉัน”
อีธานสืบจนรู้ว่าสิ่งที่เธอรักมากคือห้องนี้ที่เป็นสมบัติของแม่ แต่เธอจะยอมแลกมันเพื่อบ้านของพ่อเธอนะเหรอ เขาพยายามยื่นข้อเสนอให้
แต่ดูเหมือนมันจะเป็นสิ่งที่เธอไม่อยากเลือกเลยสักนิด
ปิ่นมุกยืนเม้มปากแน่น พร้อมกับกำหมัดต่อหน้าคนร่างหนา
“ว้าย...”
“มานี่”
อีธานกระชากมือบางให้ล้มลงมาที่ตัก
“ไอ้บ้า...ปล่อย” เธอพยายามดิ้นหนี แต่เขาก็พยายามกอดร่างบางเอาไว้
“อย่าดิ้นแรง....มันจะแข็ง” เสียงทุ้มกระซิปไปที่ซอกคอขาว
เหมือนเขาจะกลั้นมันเอาไว้ ทั้งๆ ที่อารมณ์ขึ้นไวกว่าแสงเสียอีก
เธอชะงักนิ่ง และหยุดดิ้นอย่างอัตโนมัติ ทั้งที่ก้นเด้งยังจุ่มอยู่ที่เป้ากางเกงตุงๆ ของเขา
“ฮ่าๆ” เสียงหัวเราะระเบิดออกมาลั่น
“กลัวฉันอารมณ์ขึ้นขนาดนั้นเชียว?”
“ประสาท” เธอหันไปค้อนเขาควับ
ใครจะกล้าดิ้นต่อ ถ้าเขาพูดออกมาแบบนี้
“นายก็ปล่อยฉันสิ! จะแกล้งฉันทำไม?”
“ก็เธอมันน่าแกล้ง...” เขาพูดเย้าเธอเล่น ทั้งที่เธอนั่งจ้องหน้าเขาอยู่บนตัก
“...”
“ไม่แกล้ง...แต่เอาจริงได้ไหม?”
เขาพยายามโน้มใบหน้าไปใกล้ๆ ในตอนที่เธอเผลอมองหน้าเขากลับอย่างตะลึง
เธอชะงักนิ่งในความหล่อคมตรงหน้า ส่วนเขาก็ใช้จังหวะนี้ เอาริมฝีปากเข้าไปแตะใกล้ๆ
ปลายปากหยัก แตะได้แค่ไม่ถึงวิ เธอก็ได้สติ และดีดตัวหนี เอามือยันอกแกร่งของเขาเอาไว้
“ปล่อยนะ...นายมันบ้า”
อีธานรีบปล่อยกอดออก เพราะถ้าปล่อยให้มันเลยเถิดไปกว่านี้ เธอได้ตกเป็นของเขาแน่
มันไม่เกินความสามารถของเขาหลอก ถ้าเขาคิดจะล่วงเกินเธอจริงๆ แต่ตอนนี้เขาอยากถนอมเธอเอาไว้ก่อน ไม่อยากจะทำอะไรโดยที่เธอไม่เต็มใจ