ตอนที่ 14 ตามหา

1293 Words
มาร์ตินถึงกับชะงักเมื่อได้ยินสิ่งที่บรู๊คพูดออกมา เพราะตั้งแต่เมื่อวานเขาเองก็ยังติดต่ออาริส แฟนเด็กของเขาไม่ได้เหมือนกัน “ไอ้บรู๊ค...มึงพูดมาให้ชัดดิ ว่าอาริสหายไปตั้งแต่ตอนไหน? “อย่ามาแถกูนะไอ้มาร์ติน! มึงเอาน้องสาวกูคืนมา!” เสียงบรู๊คตะโกนลั่นจนเด็กวิศวะทั้งสองสถาบันต่างขยับเข้ามาเขม่นใส่กันอย่างเอาเรื่อง “กูไม่ได้เล่น! กูแค่ถามว่า...เธอหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่!”น้ำเสียงมาร์ตินเริ่มสั่นเพราะห่วงแฟนเด็กใจจะขาด “กูไม่รู้โว้ย! เมื่อวานเธอไม่ได้กลับบ้าน น้องกูหายไปครบยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้ว...กูจะแจ้งความ” มาร์ตินกับอีธานมองหน้ากันอย่างครุ่นคิด อีธานพยักหน้าให้เพื่อน ก่อนที่มาร์ตินจะหันกลับไปพูดกับพวกที่ยืนล้อมกันอยู่เป็นกำแพงพร้อมปะทะ “ไม่มีอะไรแล้ว พวกมึงแยกย้ายไปเรียนเถอะ” เสียงของมาร์ตินนิ่งแต่เฉียบพอให้ใครๆ ไม่กล้าเถียงทว่า...บรู๊คกลับไม่ยอม “มึงจะไปไหน ไอ้เวร!” เขาตะโกนพลางรีบก้าวตามสองคนนั้นไปติดๆ “ไอ้บรู๊ค...มึงจะเอายังไงวะ” เลย์ที่ติดตามบรู๊คมาด้วยตะโกนถาม “พวกมึงกลับไปก่อน!” บรู๊คหันไปสั่งพรรคพวก “ไม่ต้องห่วงกู!” บรู๊คพยายามวิ่งตามไอ้สองคนข้างหน้าที่สาวเท้าไวกว่าปกติ เสียงฝีเท้าวิ่งกระทบพื้นคอนกรีตดังสะท้อนในทางเดิน “พี่ครับ” มาร์ตินพูดขึ้นขณะเปิดประตูเข้าไปในห้องโสต “ผมขอดูกล้องวงจรปิดหน่อยครับ” บรรยากาศในห้องโสตเงียบลงทันตา เมื่อชายร่างหนาสามคนในชุดเสื้อช็อปสีแดงสดก้าวเข้ามาพร้อมหน้าตาที่ดูขึงขัง ทั้งที่ก่อนหน้านี้พนักงานชายสองคนยังหัวเราะคุยกันอย่างออกรส เสียงพูดคุยที่เคยคลออยู่แผ่วหาย เหลือเพียงเสียงเครื่องปรับ อากาศที่ดังเบาๆ แทนที่ความครึกครื้นเมื่อครู่ด้วยความตึงเครียดบางอย่างที่ลอยอบอวลอยู่ในอากาศ “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอครับ?” พนักงานประจำห้องโสตถึงขั้นเลิกคิ้วแสดงสีหน้าที่มีแต่คำถาม “น้องสาวของผมหายตัวไป” บรู๊คชิงตอบ พนักงานหนุ่มพยักหน้า ก่อนลุกไปเปิดคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกล้องวงจรปิดทั่วมหาลัย เสียงพัดลมเครื่องดังเบาๆ ขณะภาพวิดีโอค่อยๆ ปรากฏบนจอ “พอจะรู้ไหมว่า วันที่เท่าไร? และเวลาไหน?” “เมื่อวาน ครับ พี่ช่วยดูตั้งแต่ 9 โมงเช้าเลยนะครับ” มาร์ตินตอบทันที เขารู้ดีว่าอาริสมีเรียน 10 โมง แต่เธออาจจะมาก่อนเวลาเพราะต้องมาหาเขาที่คณะก่อนเป็นประจำ และใช่เมื่อวานมันแปลกที่เธอไม่ได้เข้ามาหาเขา และเขาก็ติดต่อเธอไม่ได้เช่นกัน ยังแอบสงสัยว่าอาริสโกรธอะไรเขาหรือเปล่า พนักงานห้องโสต รีบเปิดกล้องตัวที่อยู่หน้าประตูมหาลัย บรู๊คกอดอกแน่น ดวงตาแดงก่ำจากความโกรธและความกลัวที่ปนกันจนแทบระเบิดออกมา “เดี๋ยวนะครับ น้องเขาเรียนอยู่คณะอะไรนะครับ” พนักงานห้องโสตถาม “นิเทศครับพี่” บรู๊คตอบ “พี่ช่วยดูกล้องที่อยู่ระหว่างคณะวิศวะ ไปถึงคณะนิเทศเลยนะครับ” “เจอแล้ว...นั่นแหละครับ ผู้หญิงคนนั้นน้องสาวผม” พนักงานกดเลื่อนเวลาในวิดีโอภาพจากกล้องมุมสูงเผยให้เห็นอาริสเดินถือถุงอาหารออกมาจากรถของเธอที่จอดอยู่ตรงตึกคณะนิเทศ และทุกอย่างมันก็ดูปกติ เธอเดินถือถุงอาหารมาทางคณะวิศวะของมาร์ตินจริงๆ “แล้วเธอจะหายไปตอนไหน?” ทุกคนต่างสงสัย “พี่ครับผมขอมุมกล้องตรงริมถนนคณะวิศวะด้วยครับ” มาร์ตินพูดเสียงเข้ม เขานึกขึ้นมาได้ว่าเขาเจอกับถุงอาหารร้านดังที่อยู่แถวบ้านอาริสตกอยู่บริเวณนั้น พนักงานห้องโสต รีบเปิดกล้องตัวที่อยู่ตรงถนนริมทางเดินตามที่มาร์ตินบอกทันที “เดี๋ยว...ตรงนั้น” อีธานพูดพลางชี้นิ้วไปที่หน้าจอ ร่างอาริสเหมือนกำลังมองใครบางคนที่อยู่นอกมุมกล้อง จากนั้น...เธอก็รีบเดินออกไปอีกทาง มาร์ตินให้พนักงานที่ควบคุมกล้องวงจรปิดหยุดภาพ เธอสวมชุดนิสิตสีขาวเรียบพอดีตัว แสงแดดเย็นสะท้อนบนกระโปรงพลิ้วทุกอย่างดูปกติ...จนเธอเดินจะมาถึงคณะวิศวะ หยุดชะงักตรงต้นไม้ และเดินออกมาจากคณะวิศวะอย่างรวดเร็วจนขวางกับรถตู้สีดำสนิทคันนึงเข้า เหมือนเธอก้มหัวขอโทษ...แต่ “ไอ้เหี้ยใครวะ?” บรู๊คพุ่งเข้าไปที่หน้าจอ เมื่อเห็นน้องสาวตัวเองถูกชายฉกรรจ์ลากขึ้นไปที่รถ และทุกคนที่อยู่ในห้องนั้นต่างตกใจ ที่มีคนทำการอุกอาจในมหาลัยที่มีผู้คนพลุกพล่านได้ขนาดนี้ “พี่ครับช่วยซูมไปที่ป้ายทะเบียนรถหน่อยครับ” มาร์ติน พยายามตั้งสติระงับอารมณ์โกรธ ทั้งที่พี่ชายของเธอเหมือนจะสติหลุดไปแล้ว “พยายามดูแล้วครับ แต่ป้ายทะเบียนมันเบลอ...” พนักงานตอบอย่างจนใจ มาร์ตินเพ่งมองไปที่ป้ายทะเบียนอีกครั้ง เขามองเห็นอะไรรางๆ “ไอ้เหี้ย...ใครมันลากน้องกูไปวะ?” บรู๊คกำมือแน่นพร้อมดวงตาที่แดงก่ำ “ไอ้อีธาน...” “ว่า?” “กูพอจะรู้แล้วว่ามันเป็นใคร” เสียงของมาร์ตินแผ่วต่ำ แต่เต็มไปด้วยแรงอาฆาต “ใคร/ใคร” เสียงทั้งสองประสานกันถาม “มึงตามกูมา และเตรียมคนของเราให้พร้อม เราจะไปบุกเพชรบุรีกัน” ทั้งบรู๊ค และอีธาน ยังคงมีสีหน้าที่นิ่งอึ้ง “พี่ครับ เรื่องนี้ผมขอให้เป็นความลับก่อนนะครับ” พนักงานห้องโสดรีบพยักหน้าตอบรับ ส่วนมาร์ตินก็สาวเท้ายาวก้าวนำออกไป ทิ้งให้สองคนนั้นต่างฉงน จนมาร์ตินต้องถอยหลังกลับมาเรียกเตือนสติ “พวกมึงจะยืนงงอีกนานไหม?” “ไปๆ ไอ้บรู๊คไป...มึงจะไปช่วยไหมน้องมึงอ่ะ?” ระหว่างทางเดิน อีธานโทรสั่งลูกน้องให้มารวมตัวกันที่หน้าคณะวิศวะ ไม่นานรถตู้จำนวน 10 คัน พร้อมทั้งชายฉกรรจ์ชุดดำก็มาจอดเรียงรายอยู่หน้าคณะ พวกเขาทั้งหมดจำนวนนับสิบ ลงมาโค้งคำนับมาร์ตินกับอีธานยังกับในหนังมาเฟียอะไรสักเรื่อง จนบรู๊ค กับ เด็กในคณะวิศวะที่อยู่ บริเวณนั้นถึงขั้นสงสัยและอึ้งไปตามๆ กัน “นี่พวกมึง” บรู๊คมองอาวุธปืนที่อยู่ที่เอวของลูกน้องของเขาทั้งหมด พลางคิดในใจกับคนที่เคยเป็นอาริกันมาตลอด “นี่กูมีอาริเป็นมาเฟียหรือเนี่ย” “ไอ้เหี้ยบรู๊ค มึงจะยืนอึ้งแดกอีกนานไหม?” อีธานเท้าสะเอวถาม ทั้งที่ทุกคนขึ้นรถพร้อมจะออกกันหมดแล้ว “ไปๆ กูไปด้วย” “มึงรู้แล้วเหรอว่าใครพาอาริสไป” อีธานนึกสงสัยเลยเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง “ป้ายทะเบียนมันคือเพชรบุรี ถึงมันจะขูดเอาตัวเลขออก แต่ตรงจังหวัดมันยังมีร่องรอยให้กูพอแกะรอยได้อยู่ และตอนนี้คนที่อยู่จังหวัดนั้นที่กำลังมีเรื่องกับกูอยู่ก็ไม่ใช่ใคร” “เสี่ยปืน” อีธานอุทานขึ้นมาเบาๆ “มึนแน่ใจแล้วเหรอวะไอ้ติน” อีธานถามเขาไปอีกครั้ง เขาไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น เพราะถ้าอาริสเป็นอะไรไปจริงๆ ไอ้ตินมันไม่ปล่อยคนทั้งตระกูลนั้นไปแน่ๆ รวมทั้งคนที่เขากำลังพยายามจะผูกมัดเธอด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD