ตอนที่ 5 เล่นตัว

1724 Words
หลังจากที่ปิ่นมุกขับรถกลับไปมหาลัย เธอเดินเข้าไปที่คณะของตัวเอง เพื่อที่จะเดินเข้าไปสมทบกับเพื่อนที่ใต้ตึกคณะ อย่างคัพเค้ก กับ ขนมผิง เสียงพูดคุยของเพื่อนนักศึกษาดังเจื้อยแจ้วไปทั่วบริเวณ บางกลุ่มกำลังนั่งทำรายงาน บางกลุ่มก็นั่งเล่นโทรศัพท์รอเวลาขึ้นเรียน เมื่อเดินเข้ามาที่ตึกคณะ เธอก็เห็นเพื่อนสนิทสองคนยืนโบกไม้โบกมือรออยู่ตรงโต๊ะหินอ่อนใต้ตึก คัพเค้ก สาวร่างเล็กที่มักจะพูดจาแซวแรง ๆ แต่จริงใจ กับ ขนมผิง เพื่อนสาวสายติสท์ที่ชอบแต่งตัวไม่เหมือนใครแต่หัวใจอบอุ่น “มาแล้วเหรอคะ เพื่อนสาว!” คัพเค้กรีบโบกมืออย่างดีใจ ปิ่นมุกส่งยิ้มให้เพื่อนๆ ก่อนทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ปล่อยกระเป๋าลงบนโต๊ะม้าหินอ่อน หายใจออกแรงๆ เหมือนคนหมดแรง “วันนี้ฉันต้องไปซ้อมหรีดด้วยว่ะ เหนื่อยชะมัด” เธอบ่นอุบ “เอาน่าแก…ทนหน่อยดิ ไหน ๆ ก็ได้เป็นหรีดมหาลัยแล้ว ยังไงก็มีโอกาสได้เจอผู้ดีๆ สักคนแน่นอน” คัพเค้กยักคิ้วล้อเพื่อน ปิ่นมุกกลอกตา “ฉันไม่อยากเจอใครแล้วว่ะ เข็ดแล้วจริงๆ” คำพูดนั้นทำให้บรรยากาศรอบโต๊ะเงียบลงเล็กน้อย เพราะทั้งคัพเค้กและขนมผิงต่างก็รู้ดีว่าเพื่อนสาวของพวกเธอเพิ่งเจ็บหนักจากความรักครั้งก่อน “แกอย่าไปเหมารวมดิวะ” ขนมผิงพูดเสียงนุ่ม พยายามให้กำลังใจ “คนที่แกเจอมันแค่เหี้ยเอง แต่ผู้ชายดีๆ ยังมีอีกตั้งเยอะแยะนะเว้ย อย่าเพิ่งปิดใจ” คัพเค้กเสริมทันที “ใช่ๆ เดี๋ยวแกซ้อมหรีดไปเรื่อยๆ ก็ต้องมีหนุ่มตาคม กล้ามแน่น เดินผ่านมาเป็นของแถมแน่ๆ” คำพูดนั้นทำให้ปิ่นมุกหลุดหัวเราะออกมา แม้รอยยิ้มจะจางๆ แต่ก็ช่วยคลายบรรยากาศตึงเครียดลงได้บ้าง “แกจะไม่ให้โอกาส พี่แว่นคณะแพทย์หน่อยเหรอวะ ฉันเห็นเขามองแกมาตั้งนานแล้ว” คัพเค้กรีบเสนอ ทั้งที่รู้ว่าหนุ่มแว่นคนนั้นไม่ใช่สเปคเพื่อนสาวเลยสักนิด “พวกแกนี่นะ…ชอบทำให้ฉันหวั่นไหวอยู่เรื่อย” เธอส่ายหัว ทั้งสามคนนั่งคุยเล่นกันต่ออีกสักพัก ก่อนที่โทรศัพท์ของปิ่นมุกจะสั่นขึ้น เสียงไลน์แจ้งเตือนดังขึ้นหนึ่งครั้ง เธอก้มลงไปดูแล้วถอนหายใจเบาๆ “ใครวะ?” คัพเค้กถามทันที “รุ่นพี่ชมรมหรีด โทรตามให้ไปซ้อมอีกแล้ว” ปิ่นมุกบ่นอิดออด “นี่ก็ซ้อมทุกวันเป็นเดือนแล้วนะ รู้สึกตัวเองแทบไม่ได้พักเลย” “ก็เพราะบอลประเพณีกำลังจะมานั่นแหละ” ขนมผิงเอ่ยอย่างเข้าใจ “แต่แกลองคิดอีกมุมสิ ถ้าแกยืนเชียร์อยู่ข้างสนาม คนมองแกทั้งมหาลัยเลยนะ” คัพเค้กรีบเสริม “แถมเผลอๆ มีหนุ่มวิศวะหล่อๆ อีกมหาลัยอาจจะตามแกกลับมาด้วยก็ได้นะ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้น แกก็เอามาเดินควงให้รอบมหาลัย และก็เอามาเย้ยหน้าไอ้พี่บรู๊คมันเลย” ปิ่นมุกถอนหายใจ “พวกแกก็เอาแต่เชียร์ผู้ชายให้ฉัน ฉันจะไม่หลงใครง่ายๆ อีกแล้วล่ะ” “สวยๆ อย่างแก คงไม่โสดนานหรอกฉันว่า” ขนมผิงพูดให้กำลังใจเพื่อนรักสุดๆ แม้ปากจะพูดออกไปอย่างนั้น แต่ในใจเธอก็อดคิดขึ้นมาไม่ได้ที่เพื่อนเอ่ยถึงเด็กวิศวะ เธอคิดถึงพี่บรู๊คหนุ่มฮอตหน้าตาดีที่อยู่คณะวิศวะที่ตอนนั้นเธอหลงเขาหนักมากจนตกลงเป็นแฟนทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาเจ้าชู้ขนาดไหน แต่ภาพของเด็กวิศวะอีกคนที่เธอไปเจอมาวันนี้กับวนเวียนอยู่ในความคิด อีธาน ผู้ชายปากร้าย นิสัยเถื่อน ที่เธอมักจะปะทะคารมด้วยเสมอ ไม่รู้เพราะอะไร ยิ่งเถียงกันมากเท่าไหร่ ภาพของเขากลับยิ่งชัดเจนในความคิดมากขึ้นเท่านั้น เธอรีบสะบัดหน้าไล่ความคิดนั้นออกไป ก่อนจะหยิบกระเป๋าลุกขึ้นยืน ‘หยี...ฉันไปนึกถึงหมอนั่นได้ไง?’ “เอาล่ะ ฉันต้องไปแล้ว ไม่งั้นรุ่นพี่ด่าตาย” คัพเค้กยักคิ้ว “โชคดีนะเพื่อนสาว ขอให้วันนี้เจอผู้ชายดีๆ สักคน!” ขนมผิงยิ้มอ่อนโยนพร้อมแตะไปที่บ่าของเพื่อนอย่างแผ่วเบา “อย่าเครียดมากนะ คิดซะว่าได้ออกกำลังกาย” ปิ่นมุกยิ้มตอบเพื่อนๆ แม้ในใจยังรู้สึกหนักอึ้งอยู่ก็ตาม เธอเดินออกไปจากใต้ตึกมุ่งหน้าสู่ลานซ้อมหรีด เสียงพูดและเสียงหัวเราะของเพื่อนสองคนยังแว่วตามหลังมา ลมเย็นๆ ยามเย็นพัดผ่าน เธอกอดกระเป๋าแน่น สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนก้าวไปสู่การซ้อมอันเข้มข้นอีกครั้ง “เฮ้อ...เหนื่อยมาก” เธอทิ้งร่างลงหลังจากที่รุ่นพี่ให้หยุดพักการซ้อม 10 นาที ทว่าแทนที่จะหยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่ม หรือทักทายเพื่อนร่วมทีม เธอกลับหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดแชทของคนๆ หนึ่งที่เธอจำเป็นต้องพึ่งพาเขาในตอนนี้ แม้ในใจเธอจะไม่ชอบวิธีการพูดจา หรือท่าทีกวนประสาทของผู้ชายคนนี้เลยสักนิด แต่เขาก็เป็นทางเดียวที่เธอจะติดต่อไปหามาร์ตินรุ่นพี่ต่างสถาบันที่เธอให้ความสำคัญ อีธาน : มือบางรีบกดเข้าไปที่หน้าโปร์ไฟล์ที่มีรูปผู้ชายทรงเท่ห์ ใส่แว่นตาดำ สวมด้วยเสื้อช็อปสีแดงสดทันที เธอเปิดหน้าต่างแชทเพื่อที่จะดูการคอนเฟิร์มนัด แต่กลับไร้วี่แวว “ไอ้บ้า” เสียงหายใจแรง และพูดด้วยความหงุดหงิด “หนินาย...นัดพี่มาร์ตินให้ฉันได้ไหม?” เธอพิมพ์ไปอย่างรวดเร็ว ใจสั่นขึ้นแรงกว่าปกติ ในเวลาเดียวกันที่ตึกวิศวะ ชายหนุ่มร่างสูง ใบหน้าคมสันอย่างอีธาน กำลังนั่งทอดกายอยู่บนอัฒจันทร์ข้างสนามฟุตบอล เขาเพิ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเมื่อเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น เพียงแค่เห็นชื่อคนส่ง เขาก็หัวเราะหึ ๆ ในลำคอ ไม่ผิดจากที่เขาคิดเลย ว่าคนที่ส่งมาจะต้องเป็นปิ่นมุก เขาเปิดอ่านข้อความจนจบ แต่กลับไม่ตอบ เขายกคิ้วสูง พลางบ่นเบาๆ กับตัวเอง “หึ! ทีกับไอ้ติน เรียกพี่ ทีกับฉันเรียกจิกกระบาลว่านาย มันน่าไหม!” เขาวางโทรศัพท์ไว้ข้าง ๆ ทำท่าจะไม่สนใจ แต่เพียงไม่กี่วินาที เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นอีกครั้ง “นาย นาย นาย?” อีธานส่ายหัว หัวเราะเบา ๆ “เธอนี่มัน…” ข้อความใหม่โผล่มาอีกครั้ง “ชิ! อ่านแต่ไม่ตอบอย่างนั้นเหรอ? จะเล่นตัวไปถึงไหน?” คราวนี้เขายอมตอบบ้าง นิ้วเรียวยาวเคลื่อนไปบนหน้าจอ “เล่นตัว?” “เออ! ก็นายนั่นแหละ จะเล่นตัวไปถึงไหนไม่ทราบ” “ไอ้ตินมันเตะบอลอยู่ ไม่รู้มันจะเลิกตอนไหน” ปิ่นมุกพิมพ์กลับอย่างเร็วราวกับนั่งเฝ้าหน้าจอ “ตอนนี้มันแค่หนึ่งทุ่ม ฉันก็ยังซ้อมหรีดไม่เสร็จเหมือนกัน ยังพอมีเวลา แล้วนายจะนัดเขามาหาฉันได้ไหม?” “ดูอารมณ์ก่อน” “อารมณ์ใคร?” “อารมณ์ฉันเนี่ยแหละ” ปิ่นมุกกัดริมฝีปากแน่น แก้มร้อนผ่าว “นี่นาย!” เธอพยายามโทรหาเขาทันที สายเพิ่งดังไม่กี่ครั้งเขาก็กดรับ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร เธอก็รัวคำพูดออกมาเป็นชุด “นายอย่ามากวนประสาทฉันนะ ไหนนายบอกว่าจะนัดเขามาเจอฉันไง? นายมันเชื่อถืออะไรไม่ได้สักนิดเลย ไอ้....” “โอ๊ยยยย...แม่คูณ ที่มหาลัยไม่มีคนพูดด้วยหรือไงคร้าบบบ ถึงได้ขยันพูดขนาดนี้” เขาตอบด้วยเสียงที่กวนประสาท “อีธาน...นายจะกวนประสาทฉันไปถึงไหน?” “ฉันไปกวนอะไรเธอมิทราบ...เธอโทรมากวนฉันเองนะ แค่นี้ ฉันจะไปเตะบอล” “เดี๋ยวก่อน…” “อะไร?” เธอพยายามสูดหายใจลึกๆ ทำใจให้เย็นลง ทั้งที่ตอนนี้อยากจะต่อยหน้าคนปลายสายที่ทำน้ำเสียงกวนประสาท และเล่นตัวกับเธอไม่เลิก “ถ้านายนัดพี่มาร์ตินให้ฉันได้ ฉันจะเลี้ยงข้าวนาย” เสียงหัวเราะในลำคอดังลอดออกมา “ข้าวฉันเคยกินแล้ว และมีเงินซื้อกินเองไม่ต้องลำบากเธอหรอกมั้ง” “งั้นฉันเลี้ยงหนัง หรือจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ นายนัดเขาให้ฉันหน่อยนะ นะอีธานนะ” คำพูดสุดท้ายเต็มไปด้วยความอ้อนวอน น้ำเสียงที่ไม่ค่อยได้ใช้กับเขาทำให้อีธานชะงักไปชั่วขณะ เขาไม่ได้ตอบทันที แต่กลับมองชื่อของเธอบนหน้าจอ ที่เขาเมมไว้ว่า ‘เมีย’ รอยยิ้มมุมปากก็ปรากฏขึ้น ปิ่นมุกรีบตอบแทบจะทันที “จะให้ฉันทำอะไรก็ได้! เลี้ยงข้าว เลี้ยงหนัง หรือ…” เธอชะงักนิดหนึ่งก่อนจะกลืนคำบางคำลงไปด้วยความอาย “ถามจริงๆ เธอจะคุยอะไรกับมัน อย่าบอกนะว่าเธอจะเอาตัวเข้าแลกน่ะ?” เธอเม้มปากแน่น ก็เป็นเพราะเขาพูดในสิ่งที่เธอคิดจะทำ และก็เป็นการทำแบบไม่เต็มใจด้วยที่พ่อเธอบังคับมา “นายอย่ารู้เลย ฉันแค่ขอคุยกับเขาก่อน” อีธานหัวเราะเบาๆ พร้อมถอนหายใจ “โอเค…ฉันจะพามันไปเจอเธอตามร้านที่เธอบอก 3 ทุ่ม วันนี้ แต่เธอติดค้างฉันไว้แล้วนะ หลังจากนี้ฉันขออะไรเธอก็ต้องให้” “อืม....” เธอตอบเขาไปส่งๆ เพราะต้องการที่จะเจรจากับมาร์ติน เรื่องหนี้ของพ่อเธอก่อน ที่อีธานยอมรับนัดให้ เขารู้ว่าเธอต้องการอะไร และจะทำอะไร แต่เพื่อนของเขามันไม่เล่นด้วยกับเธอแน่นอน เพราะมันมีคนของมันอยู่แล้ว เขายอมนัดให้เพื่อให้เธอติดค้างเขา และจากนั้นเขาจะขอให้เธอทำอะไรก็ได้ อีธานยิ้มมุมปาก ก่อนที่จะเรียกมาร์ตินให้ขึ้นจากสนามบอล
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD