ไม่มีน้ำยา ลีลาก็ห่วย (2)

1356 Words
สามเดือนผ่านไป รถหรูนำเข้าจากยุโรปแล่นออกมาจากตึกสูงอันเป็นฐานที่ตั้งของบริษัทนาถสุวรรณกรูป ก่อนเหยียบเบรกกะทันหันเมื่อสายตาแลเห็นคนคุ้นเคยยืนอยู่หน้าบริษัท และชายคนนั้นก็มองเข้ามาในรถของเขาราวกับรอคอยอยู่ จรณ์จึงลดกระจกลง “มาทำอะไรที่นี่” “สวัสดีครับคุณจรณ์ โชคดีจริงๆ ที่เจอคุณพอดี ผมมาพบคุณจรณ์ครับ” “มีเรื่องอะไรอีก” หรือมีแผนแบล็กเมลเขาเรื่องคืนบาปเมื่อสามเดือนก่อน “เรื่องลูกสาวของผมครับ” “คุณต้องการอะไรอีก” เป็นเรื่องนี้จริงด้วยสินะ สามเดือนผ่านไปจรณ์ไม่เคยลืมสองพ่อลูกเลย โดยเฉพาะเด็กสาวคนนั้นที่ก่อกวนความรู้สึกเขา “ผมพูดตรงนี้ได้เลยใช่ไหมครับ” ด้านหน้าบริษัทในเวลาเลิกงานเต็มไปด้วยบรรดาพนักงานที่ทั้งยืนและเดินผ่านไปมา จรณ์เกลียดที่ตกอยู่ในภาวะเพลี้ยงพล้ำ จึงจำใจเรียกอดีตลูกน้องเข้ามานั่งในรถแล้วค่อยแล่นสี่ล้อออกไป “รู้สึกแปลกๆ ดีนะครับ และก็เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้นั่งรถหรูโดยมีเจ้านายเป็นคนขับ” “เข้าเรื่องเถอะ ผมไม่ได้มีเวลามาก ต้องการอะไรก็พูดมาตรงๆ” หนึ่งล้านบาทที่เข้าเซ็นเช็คให้คราวนั้นใช้หมดแล้วหรือไรถึงได้บากหน้ามาหาเช่นนี้ คิดไว้แล้วไม่มีผิดว่าเขาต้องถูกสองพ่อลูกแบล็กเมลแน่ “ลูกสาวผมท้องครับ” เอี๊ยด! เบรกรถถูกเหยียบกะทันหันเมื่อสัญญาณจราจรเปลี่ยนเป็นสีแดง เดิมทีจรณ์ตั้งใจจะเหยียบคันเร่งฝ่าไป ทว่ากลับกลายเป็นหยุดชะงักพร้อมกับลมหายใจของเขาที่ราวกับถูกพรากหายไป “คุณว่ายังไงนะ” “ลูกสาวผมท้องครับ เธอท้องกับคุณ” “บ้าจริง! ผมไม่อยากพูดแบบนี้เลยนะ แต่แน่ใจใช่ไหมว่าเธอท้องกับผม ไหนบอกว่าเธอจะกินยาคุมฉุกเฉิน แล้วทำไมถึงออกมาแบบนี้” อีกอย่างแค่ครั้งเดียวจะท้องได้เลยเหรอ จรณ์ไม่อยากจะเชื่อ “คุณจรณ์จะพาลูกผมไปตรวจที่คลินิกก็ได้นะครับ พิณตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเองวันนี้ประมาณห้ารอบ และผลออกมาก็ขึ้นสองขีดทุกรอบ ซึ่งผมยืนยันได้ว่าลูกผมกินยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว” มานพไปซื้อยาเองกับมือและยืนดูลูกกินยา ซึ่งเช้านี้พิณลดาก็กรีดร้องร่ำไห้จนเป็นลมเมื่อรู้แน่ชัดว่าตั้งครรภ์ “กินแล้วทำไมถึงยังท้องได้” “คุณจรณ์ไม่ทราบเหรอครับว่าไม่มีการคุมกำเนิดไหนได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ ลูกผมยังมีอนาคตอีกยาวไกลเธอไม่ควรต้องมาเจออะไรแบบนี้” “แต่เรื่องนี้คุณโทษผมฝ่ายเดียวไม่ได้ คืนนั้น...” “ผมทราบครับ ไม่ต้องรื้อฟื้นหรอก ทราบดีว่าลูกผมเป็นคนผิด” มานพทั้งเสียงแข็งและดวงตาระอุอ้าว ครั้งตอนยังเป็นลูกน้องเขาไม่เคยแสดงกิริยาก้าวร้าวกับผู้เป็นนายเลยสักครั้ง แต่วันนี้มานพไม่ได้อยู่สถานะนั้นแล้ว และจำเป็นต้องเข้มแข็งปนหน้าด้านเพื่ออนาคตของลูกสาว “คุณทำงานกับพ่อผมมานาน ขับรถรับส่งผมมาตั้งหลายร้อยหลายพันครั้ง เราเจอกันมาตั้งแต่ผมยังเป็นวัยรุ่น ดังนั้นคุณก็น่าจะรู้สันดานผมดีใช่ไหม รู้ใช่ไหมคุณมานพว่าผมไม่ใช่คนดีประเภทที่จะรับกระโดดงับความรับผิดชอบ คุณรู้ใช่ไหมว่าสิ่งสุดท้ายที่ผมต้องการคือการแต่งงานมีครอบครัว” “ผมทราบดีครับ และผมก็ไม่ได้คิดหวังให้คุณจรณ์มารับผิดชอบ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ขืนทำให้เป็นเรื่องใหญ่แบบนั้นคนที่จะได้รับผลกระทบและไม่มีความสุขที่สุดในชีวิตคงเป็นลูกสาวของผม” “คราวนี้ต้องการเท่าไหร่” เงินแก้ปัญหาได้เสมอสำหรับคนที่โตมากับเงินทองกองเท่าภูเขา มีอาณาจักรกิจการที่แวดล้อมอยู่ทั่วฟ้าเมืองไทย คนอย่างเขาไม่เคยมีสักครั้งที่เงินจบปัญหาไม่ได้ “ห้าล้านครับ” มานพเสนอตัวเลขออกไปพร้อมกับตัวรถที่เคลื่อนต่อเมื่อไฟจราจรเปลี่ยนสี “ไม่มากไปหน่อยเหรอ” จรณ์จ่ายไหวอยู่แล้ว เพียงแต่ขัดใจที่ต้องเสียไปกับเรื่องที่ไร้หลักฐาน ครั้นจะให้เธอไปตรวจแล้วเอาผลทางการแพทย์มายืนยัน จรณ์ก็ไม่อยากรับรู้อีก เพียงเท่านี้เขาก็รู้สึกผิดบาปมากพออยู่แล้ว สามเดือนที่ผ่านมาจรณ์ใช้ชีวิตด้วยการฝันถึงใบหน้าของเด็กสาวตัวแสบคนนั้นอยู่หลายครั้งหลายหน เธอเป็นความผิดพลาดที่เขาจดจำขึ้นใจ พร้อมกันนั้นก็รู้สึกผิดที่ไล่มานพออก ยิ่งรู้จากบิดาว่าก่อนหน้านี้ไม่นานมานพถูกภรรยาถอนเงินออกไปจนเกือบเกลี้ยงบัญชีแล้วหายไปกับผู้ชายคนใหม่ มานพร่ำไห้เสียใจเพราะเงินนั้นเก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิตเพื่อส่งเสริมให้ลูกสาวมีอนาคตที่สวยงาม จรณ์เพิ่งรู้จากบิดาอีกเช่นกันว่าเธอเป็นนักศึกษาแพทย์ปีหนึ่ง “อันที่จริงเธอยังอายุไม่ถึงสิบแปด” หากเลือกได้มานพก็ไม่อยากทำอย่างนี้กับอดีตเจ้านาย แต่ลูกสาวของตนก็น่าสงสาร อนาคตที่สดใสของเธอจะดับวูบกลางคันแบบนี้ไม่ได้ มานพจำต้องโกหกเพื่อเรียกค่าเสียหายให้สำเร็จ แม้ว่าสุดท้ายจะได้รับความเกลียดชังปนหยามเหยียดจากเจ้านายก็ตาม “ว่าไงนะ!” มานพกำลังจะบอกว่าเขาพรากผู้เยาว์อย่างนั้นเหรอ!? “ผมไม่ได้อยากจะมีปัญหากับคนระดับสูงที่มากด้วยอำนาจบารมีหรอกนะครับ แต่ตอนนี้ผมต้องการเงินจำนวนมาก ผมตกงาน และต้องการให้ลูกมีอนาคตต่อไป” “คุณต้องการเงินเท่าไหร่เพื่อที่จะไม่พูดเรื่องนี้อีกและเก็บเป็นความลับที่สุด ที่สำคัญต้องไม่ทำให้ผมต้องเดือดร้อนเพราะเรื่องนี้ ส่วนเด็กในท้องนั้น... ผมไม่ต้องการ” จรณ์ไม่กล้าสั่งอย่างชัดถ้อยชัดคำว่าให้ไปเอาเด็กออก ความรู้สึกข้างในกำลังมึนงงเหมือนเดินวนอยู่ในเขาวงกต “ผมทราบครับ ผมขอเรียกร้องห้าล้านบาทแลกกับการที่ผมกับลูกสาวจะออกจากวงโคจรของนาถสุวรรณไปตลอดกาล และสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณจรณ์เดือดร้อนอย่างแน่นอน” “ได้ ผมจะให้ตามที่คุณขอ แต่หากหลังจากนี้ยังมาเรียกร้องแบล็กเมลกันอีกล่ะก็... อย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ คุณอยู่กับครอบครัวเรามานานก็คงรู้ดี” “ครับ ผมทราบดี” จรณ์รู้ว่าตัวเองว่าไม่ใช่คนดี ประวัติก็หาได้ขาวสะอาดเหมือนลูกผู้ดีไฮโซคนอื่นๆ พ่อของเขาคือเจ้าสัวล้อมเดชผู้มากอำนาจบารมี ครอบครองกิจการเล็กใหญ่หลายแขนงในประเทศไทย ร่ำรวยทรัพย์สินและอิทธิพล ส่วนแม่ก็เป็นถึงหม่อมหลวง แต่ท่านเสียชีวิตไปนานหลายปีแล้ว อดีตของจรณ์เลยโตมาอย่างครบทุกรสชาติ อันธพาลก็เป็นมาแล้ว ยาเสพติดก็เคยยุ่งเกี่ยว ทำร้ายคนจนปางตายก็ทำมาแล้ว ถึงได้มีฉายาว่า ‘คุณชายมาเฟีย’ ซึ่งเป็นฉายาที่จรณ์ไม่เคยปลาบปลื้มเลย และวีรกรรมหัวรุนแรงนั้นก็ผ่านมานานตั้งแต่สมัยที่เขายังวัยรุ่น ปัจจุบันกาลเวลาและประสบการณ์ขัดเกลาเขาจนเป็นคนใหม่ แม้ไม่ได้ต่อยตีหรือยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ก็ไม่คิดว่าตนเป็นคนที่ดีพอจะเป็นสามีหรือพ่อของใครได้ และครั้งนี้เขาคงต้องขอเลวอีกครั้ง ถึงอย่างไรก็รับผิดชอบไม่ได้ จรณ์ไม่ต้องการชีวิตแบบนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD