3
ไม่มีน้ำยา ลีลาก็ห่วย
สองพ่อลูกเก็บข้าวของเตรียมออกจากบ้านพักคนงานอย่างที่ไม่มีใครระแคะระคาย เพราะเวลานี้ต่างคนต่างยุ่งอยู่กับการดูแลคฤหาสน์ และมานพตั้งใจว่าจะไปโดยไม่บอกลาใคร อย่างน้อยก็ยังไม่มีแก่ใจร่ำลาใครในเวลานี้
พิณลดาน้ำตาไหลไม่หยุดขณะมองบิดาที่เก็บข้าวของยัดใส่กระเป๋า นับตั้งแต่ออกมาจากห้องนอนของจรณ์พ่อก็ไม่ปริปากพูดกับเธอสักคำ และตอนนี้พิณลดาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ทนรับความเย็นชาจากคนที่รักไม่ได้อีกแล้ว
“พ่อคะ พิณขอโทษ” ร่างเล็กทรุดนั่งบนพื้น สองมือพนมไหว้แล้วก้มกราบที่ปลายเท้าของบิดา “มันเป็นความผิดของหนู เป็นความใจง่ายอย่างไม่น่าให้อภัย หนูขอโทษที่ทำให้พ่อเดือดร้อน”
“…”
“ที่หนูบอกกับคุณจรณ์ไปล้วนเป็นความจริง หนูไม่ได้วางแผน ไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้น ผิดที่หนูเมาและไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ พ่อจะตบตีหนูยังไงก็ได้ ขอแค่อย่าเกลียดหนูเลย หนูขอโทษนะคะ”
“ใครจะไปเกลียดลูกตัวเองลง” เสียงแหบเครือเอ่ยออกมาในที่สุด มานพยอบตัวลงแล้วไล้น้ำตาบนผิวแก้มเนียน
ลูกชอกช้ำเสียใจแค่ไหนมานพรู้ดี การแสดงออกของพิณลดาไม่ใช่มารยาเสแสร้ง เขาเลี้ยงเธอมาตั้งแต่แบเบาะ พิณลดาอยู่กับพ่อมากกว่าแม่ แม้ในวันที่บุพการีหย่าร้างกันพิณลดาก็เลือกจะอยู่กับพ่อ
“หนูขอโทษ”
“ไม่ต้องขอโทษแล้ว พ่อรู้ว่าพิณเสียใจ พ่อผิดเองที่ไม่ดูแลลูกให้ดี”
มานพไม่ชอบนักที่จรณ์ว่าร้ายและมองลูกสาวของเขาอย่างรังเกียจ พิณลดาแค่เด็กสาววัยสิบแปด นิสัยกวนบ้างแสบบ้าง แต่เธอไม่ได้แก่นแก้วกร้านโลก หัวอกคนเป็นพ่อย่อมไม่ยินดีที่ลูกถูกดูหมิ่นหยามเกียรติ
“หนูทำให้พ่อตกงาน ทำให้พ่อเดือดร้อน”
“ช่างเถอะลูก พ่อเองก็ทำงานที่นี่มาเกือบยี่สิบปีแล้ว นานพอที่ต้องเปลี่ยนที่เปลี่ยนทาง เปลี่ยนไปทำอย่างอื่นบ้าง”
“พิณไม่น่ามาที่นี่เลย ไม่น่ามาหาพ่อเลย”
“พอแล้ว เลิกโทษตัวเองเถอะ เราเก็บของแล้วรีบออกไปจากที่นี่กัน ค่อยมาลาเพื่อนป้าน้าอากันวันหลังก็ได้”
“งั้นพิณกลับหอเลยดีกว่า แล้วพ่อจะไปอยู่ไหนคะ หรือจะกลับเชียงราย”
พื้นเพเดิมของมานพมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่จังหวัดเชียงราย ส่วนพิณลดาเกิดและเติบโตที่กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันญาติพี่น้องก็ไม่มีมากเหมือนใครเขา เหลือก็แต่ป้ามาลัยซึ่งเป็นพี่สาวฝาแฝดของมานพ
“อืม พ่อก็คิดว่าจะกลับเชียงรายไปเยี่ยมพี่สาวสักหน่อย ไม่ได้กลับมาหลายปีแล้ว ระหว่างนี้พิณอยู่คนเดียวไปก่อนนะ ถ้าแม่มาสร้างความเดือดร้อนให้รีบโทร.บอกพ่อเลยนะ”
“ค่ะพ่อ” พิณลดาโผเข้าสู่อ้อมกอดอบอุ่น ความรู้สึกผิดท่วมท้นในอก พ่อไม่ควรต้องซวยเพราะเธอเลย
พิณลดาสะพายกระเป๋าผ้าสีขาวขึ้นไหล่ เธอมีเสื้อผ้าเพียงสองสามชุดและหนักพวกตำราเรียนเสียมากกว่า พิณลดามองบิดาที่ยังวุ่นวายกับข้าวของในห้องก่อนเดินออกไปเงียบๆ พ่อเธออยู่ที่นี่มาเกือบยี่สิบปีแน่นอนว่าคงมีสมบัติเยอะสิ่งเป็นธรรมดา
รองเท้าผ้าใบสีกาแฟเดินห่างจากบ้านพักได้เพียงสามก้าวก็หยุดชะงัก ร่างสูงหนึ่งร้อยแปดสิบห้ายืนกอดอกหน้าเข้มรออยู่ พิณลดาฉายความตกใจในแววตาเพียงแว็บเดียวก็เดินผ่านไปราวกับเขาเป็นเพียงอากาศ
“เดี๋ยวก่อน เธอลืมโทรศัพท์ไว้ที่ห้องฉัน”
พิณลดาเพียงคว้าโทรศัพท์เครื่องบางคืนแล้วจ้ำอ้าวออกไป จรณ์ได้แต่เหวอกับความไร้มารยาทของหล่อน ทำไมดูช่างแตกต่างกับคนที่ก้มหน้าสะอื้นไห้ในห้องเมื่อกี้
“ขอบคุณสักคำก็พูดไม่เป็นเหรอ”
พิณลดาหยุดเดินอีกครั้ง เธอแค่ไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่ต้องการเสวนากับผู้ชายคนนี้อีก สิ่งที่รู้สึกผิดที่สุดตั้งแต่เกิดมาสิบแปดปีคือการที่หลงผิดไปปลาบปลื้มผู้ชายที่ทั้งเฮงซวยและห่วยแตก!
พิณลดาเข้าใจแล้วสาเหตุที่เขายังโสดมาจนถึงปูนนี้ไม่ใช่เพราะอยากโสด แต่คงเพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนทนความใจร้ายแสนเย็นชาของเขาได้
พิณลดาแทนการเอ่ยขอบคุณด้วยการค้อมศีรษะเพียงเล็กน้อยแล้วก้าวเดินต่อ คราวนี้ผู้อาวุโสทนไม่ไหวจึงรั้งแขนเล็กไว้ พิณลดาสะบัดออกอย่างทันท่วงที
“เธอเป็นใบ้เหรอ พ่อเธอก็เป็นคนดีมีมารยาทนะ แต่ทำไมเธอถึง...”
“ด่าฉันคนเดียวได้ไหม อย่าลากพ่อมาหยามเหยียดเลยค่ะ” พิณลดาว่าจะปิดวาจาแต่ก็ต้องปรี๊ดแตกเมื่อเขาลามปามถึงคนที่เธอรัก
“หึ พูดได้แล้วสินะ”
“ขอตัวค่ะ”
“เดี๋ยวก่อน ฉันยังมีคำถาม”
“ไปถามพ่อฉันเถอะค่ะ”
“ถามพ่อเธอได้เหรอว่าลูกสาวของเขาเพิ่งเสียตัวเป็นครั้งแรกใช่ไหม”
จรณ์ได้เห็นผิวแก้มที่เปลี่ยนสีอย่างรวดเร็ว ทว่าดวงตาคู่นั้นกลับทั้งตกใจและเจือฉุน เขาผิดเองที่ถามออกไปตรงๆ แบบนั้น เป็นผู้หญิงคนไหนก็คงไม่พอใจ
“ทำไมคะ จะครั้งแรกครั้งไหนมันสำคัญกับคุณมากนักเหรอ”
“ไม่สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญคือเธออย่าลืมกินยาคุมฉุกเฉินล่ะ เมื่อคืนฉันคงไม่ได้ใส่ถุงยาง”
“รู้แล้วค่ะ ฉันไม่โง่หรอก ฉันกำลังจะไปซื้อยาคุมฉุกเฉินอยู่นี่ไง รับรองว่าลูกของคุณจะไม่มีวันปฏิสนธิในมดลูกฉัน” พิณลดาเหยียดริมฝีปากขณะลากสายตามองต่ำที่เป้ากางเกง “สบายใจได้เลยค่ะ คุณน่ะดูไม่มีน้ำยา ลีลาก็ห่วย ถ้าเด็กทะลุยาคุมมาเกิดได้ก็โคตรจะปาฏิหาริย์แล้วค่ะ”
“ว่าไงนะ!” ยัยเด็กคนนี้กล้าดีอย่างไรมาปรามาสเขา ลีลาห่วยงั้นเหรอ เหอะ! อยากจะจัดให้ร้องขอชีวิตอีกสักรอบ
“ตามนั้นค่ะ แค่หน้าตาดีและไอ้นั่นใหญ่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะลีลาเด็ด ลาแล้วค่ะ และไม่ต้องห่วงนะ ชาตินี้เราจะไม่ได้เจอกันอีก!”
คนจริงอย่างพิณลดาต้องด่าแล้ววิ่งหนีเท่านั้น จะว่าไปก็รู้สึกเจ็บแสบตรงกลางกายสาวอยู่เหมือนกัน เขาทั้งดุทั้งอึด พิณลดาก็ไม่เข้าใจว่าเมื่อคืนทนเขาได้อย่างไรตั้งหลายรอบ
“อย่าให้เจออีกนะ!”
จรณ์ตะโกนไล่หลังเด็กแสบที่วิ่งหนีอย่างไม่เหลียวกลับมามอง ความรู้สึกสงสารเห็นใจที่มีให้เธอก่อนหน้านี้เขาขอริบคืนทั้งหมด อวดดีอย่างที่สุด!
****