bc

เมื่อผมรับบทเป็น...นางร้าย

book_age18+
156
FOLLOW
1K
READ
badboy
drama
bisexual
heavy
office/work place
betrayal
enimies to lovers
multiple personality
sassy
affair
like
intro-logo
Blurb

องก์แรก

"นาย เราเลิกกันเถอะ"

รู้ไหมผมเกลียดคำพูดจำพวกนี้มากที่สุดในชีวิต ไม่อยากจะได้ยิน ไม่อยากจะรับฟัง ผมต้องเป็นคนที่พูดมันออกมาสิ คนที่ควรจะพูดคำเหล่านี้ควรจะเป็นผม รับไม่ได้

"ทำไมเรย์ นายทำอะไรผิด นายทำอะไรไม่ดีเหรอ เรย์ถึงอยากเลิกกับนาย"

ผมก็นะยังโง่ถามเขาออกไปแบบนี้อีก ในเมื่อคนไม่มีใจ มันหมดใจกันแล้วจะไปถามเอานิยายอะไร แต่ก็นะอยากรู้อยู่ดี ผมข้องใจ อยากรู้ว่าทำไม

"นายดีเกินไป"

"เรย์ ดีเกินไปหมายความว่ายังไง เรย์พูดเล่นใช่ไหม เรย์หลอกนายเล่นใช่ไหม"

ผมเหมือนจิตหลุด ร้องออกมาเขย่าแขนเขา เหมือนนางเอกในละครตอนที่ถูกเขาเขี่ยทิ้งนั่นล่ะครับ ใจเต้นสั่นระริก แต่อีกใจก็นะ ดีเกินไปเหรอ พูดออกมาได้ยังไง ไม่มีใครดีเกินไปหรอกนะ มีแต่ดีไม่พอ เลวที่สุด แต่ก็ต้องบีบน้ำตาทำท่าแบบนี้เผื่อว่ามันจะสงสารเห็นใจบ้าง

"พอเถอะนาย เราไม่ได้รักนายแล้ว"

"เรย์ เรย์มีคนใหม่ใช่ไหม เรย์มีคนอื่นใช่ไหม"

ผมเริ่มคร่ำครวญร้องไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว

"นาย คือ เอ่อ"

"เอ่ออะไร ใช่ไหม ทำไมล่ะเรย์ นายไม่ดีตรงไหน ทำไมทำแบบนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ๕ ปี มันไม่มีความหมายอะไรเลยเหรอ"

ผมเริ่มดึงเรื่องเก่าขึ้นมาพูดเผื่อว่าเรื่องเก่าๆมันจะไปกระตุ้นต่อมใต้สมองของมันได้บ้าง

"แล้วตลอดเวลาที่ผ่านมา เราก็ดูแลนายอย่างดีมาตลอดนะ แค่เราคิดว่ามันถึงทางตันแล้ว"

"ทางตัน ทางตันอะไรเรย์ เห็นแก่ตัวไปไหม เราไม่เคยทะเลาะกันเลย แล้วนี่อะไร ทำไมเรย์เปลี่ยนไปแบบนี้"

"พอทีเถอะนาย ใช่เรามีคนใหม่ เราเบื่อ เราเหมือนคบกันมานานแล้ว มันไม่ไปไหนสักที เราว่าเราควรจะแยกกันอยู่สักพักนะ"

ผมเม้มปากแน่นน้ำตาเอ่อ ตอนนั้นมันปวดใจนะ ปวดมากสั่นไปหมดหัวใจเต้นแรง เกิดมาไม่เคยมีใครบอกเลิก มันเจ็บแบบนี้นี่เอง

"เรย์ มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม เรย์ อย่าทิ้งนายไปนะ นายจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีเรย์"

chap-preview
Free preview
องก์ที่ ๑
องก์แรก "นาย เราเลิกกันเถอะ" รู้ไหมผมเกลียดคำพูดจำพวกนี้มากที่สุดในชีวิต ไม่อยากจะได้ยิน ไม่อยากจะรับฟัง ผมต้องเป็นคนที่พูดมันออกมาสิ คนที่ควรจะพูดคำเหล่านี้ควรจะเป็นผม รับไม่ได้ "ทำไมเรย์ นายทำอะไรผิด นายทำอะไรไม่ดีเหรอ เรย์ถึงอยากเลิกกับนาย" ผมก็นะยังโง่ถามเขาออกไปแบบนี้อีก ในเมื่อคนไม่มีใจ มันหมดใจกันแล้วจะไปถามเอานิยายอะไร แต่ก็นะอยากรู้อยู่ดี ผมข้องใจ อยากรู้ว่าทำไม "นายดีเกินไป" "เรย์ ดีเกินไปหมายความว่ายังไง เรย์พูดเล่นใช่ไหม เรย์หลอกนายเล่นใช่ไหม" ผมเหมือนจิตหลุด ร้องออกมาเขย่าแขนเขา เหมือนนางเอกในละครตอนที่ถูกเขาเขี่ยทิ้งนั่นล่ะครับ ใจเต้นสั่นระริก แต่อีกใจก็นะ ดีเกินไปเหรอ พูดออกมาได้ยังไง ไม่มีใครดีเกินไปหรอกนะ มีแต่ดีไม่พอ เลวที่สุด แต่ก็ต้องบีบน้ำตาทำท่าแบบนี้เผื่อว่ามันจะสงสารเห็นใจบ้าง "พอเถอะนาย เราไม่ได้รักนายแล้ว" "เรย์ เรย์มีคนใหม่ใช่ไหม เรย์มีคนอื่นใช่ไหม" ผมเริ่มคร่ำครวญร้องไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว "นาย คือ เอ่อ" "เอ่ออะไร ใช่ไหม ทำไมล่ะเรย์ นายไม่ดีตรงไหน ทำไมทำแบบนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ๕ ปี มันไม่มีความหมายอะไรเลยเหรอ" ผมเริ่มดึงเรื่องเก่าขึ้นมาพูดเผื่อว่าเรื่องเก่าๆมันจะไปกระตุ้นต่อมใต้สมองของมันได้บ้าง "แล้วตลอดเวลาที่ผ่านมา เราก็ดูแลนายอย่างดีมาตลอดนะ แค่เราคิดว่ามันถึงทางตันแล้ว" "ทางตัน ทางตันอะไรเรย์ เห็นแก่ตัวไปไหม เราไม่เคยทะเลาะกันเลย แล้วนี่อะไร ทำไมเรย์เปลี่ยนไปแบบนี้" "พอทีเถอะนาย ใช่เรามีคนใหม่ เราเบื่อ เราเหมือนคบกันมานานแล้ว มันไม่ไปไหนสักที เราว่าเราควรจะแยกกันอยู่สักพักนะ" ผมเม้มปากแน่นน้ำตาเอ่อ ตอนนั้นมันปวดใจนะ ปวดมากสั่นไปหมดหัวใจเต้นแรง เกิดมาไม่เคยมีใครบอกเลิก มันเจ็บแบบนี้นี่เอง "เรย์ มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม เรย์ อย่าทิ้งนายไปนะ นายจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีเรย์" ผมเริ่มเล่นบทดราม่าโผเข้ากอดตัวของมัน แต่มันทำยังไงรู้ไหม มันปัดออก ปัดออกเหมือนว่าผมเป็นของเหม็นเน่า ผมไม่สนใจไม่ให้กอดเอวก็ลงมากอดขาร่ำไห้อยู่ "พอเถอะนาย เราไม่ได้อยากทำแบบนี้หรอกนะ นายจะอยู่ที่นี่ต่อก็ได้นะ แต่ว่าเราอยากจะบอกนายว่าเดี๋ยวแฟนใหม่เราจะย้ายเข้ามาอยู่ด้วย" "เรย์ อย่าทำแบบนี้ ได้โปรด อย่าทิ้งนายไป อย่าทำแบบนี้" ถ้าดึงร่างตัวเองออกมาจากตรงนั้นได้แล้วยืนมองว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ มันคงน่าสมเพชเวทนาตัวเองเป็นที่สุด คนอย่างผมไม่น่าเชื่อว่าจะมีวันนี้ วันที่กอดขาผู้ชายอย่างมันร้องขอความเห็นใจ แล้วมันเห็นใจผมไหม ไม่เลยท่าทางของมันนอกจากจะยักเท้าออกจากการเกาะกุมของผมแล้วมันยังแสยะปากใส่ผมอีก ผมกลายเป็นสิ่งปฎิกูลที่มันไม่ต้องการอีกต่อไป "เรย์อย่าไปเลย นายขอร้อง นายจะปรับปรุงตัวเองใหม่ นายจะยอมทุกอย่างเพื่อเรย์" ผมยังไม่ลดละความพยายาม ฟูมฟายออกมาด้วยความหวังที่ริบหรี่เต็มทนว่ามันจะสะท้อนใจหรือระลึกถึงความหลังครั้งเก่าบ้าง "มันสายไปแล้วนาย เราหมดใจให้นายแล้ว" ผมปล่อยมือทันที อย่างน้อยก็ดีนะที่ได้ยินจากปากของมัน ผมจะได้เลิกโง่สักที เจ็บก็เจ็บอยู่แต่ทำยังไงได้ มันไม่เอา มันหมดรักแล้วเราจะรั้งขามันไว้ทำไม เพื่ออะไรจะไปเรียกร้องความเห็นใจจากสัตว์เลือดเย็นอย่างมันน่ะเหรอ "เขาเป็นใครเรย์ เขาดีกว่านายจริงเหรอ" ผมเองก็เป็นแบบนี้ หัวใจยังไม่ได้สะสางผมก็จะไม่ยอมลงง่ายๆเหมือนกัน น้ำตายังเอ่อนองเต็มหน้าอยู่ หน้าตาคงดูทุเรศมากในสายตาของมันเพราะมันยกริมฝีปากขึ้นสูงตลอดเวลา "น้องเขาไม่เหมือนนายหรอก เรารู้แต่ว่าน้องเขารักเรา" "รักเรย์ แล้วนายล่ะเรย์ นายก็รักเรย์นะ เรย์เอานายไปไว้ตรงไหน" "โอ๊ยพอซะทีนาย เรารำคาญ จะให้พูดกี่รอบว่าไม่รักแล้ว จะให้บอกอีกกี่ทีว่าหมดใจแล้ว นายถึงจะยอมฟัง" มันแหกปากออกมาคงจะรำคาญจริงๆ ผมเองอึ้งอ้าปากค้างอยู่ ตลอดเวลา ๕ ปีที่อยู่กันมาเฉกเช่นสามีภรรยามันไม่เคยแสดงอาการแบบนี้ใส่ผมเลย ผมไม่เคยเจอ ผมอึ้งตาค้าง มันคงเหมือนรู้ตัวว่าคงพูดแรงไป "เราขอโทษละกันนาย นายจะค้างที่นี่ก็ได้นะ เราจะไปค้างข้างนอก" มันเดินออกจากห้องไปแล้ว ผมทำอะไรผิด เป็นคำถามแรกที่ผุดขึ้นในหัว นี่ผมทำอะไรผิดไปหรือ ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมคอยดูแลห่วงใยเอาใจใส่มันมาตลอด ประคับประคองรักของเราให้คงอยู่ไม่มีเรื่องที่ต้องให้บาดหมางแคลงใจกัน แล้วผมทำอะไรผิด หรือว่าที่ผมไม่ได้ไปเที่ยวกับมันวันนั้น มันงอนผมเหรอ หรือว่าเป็นเพราะผมไม่ได้จัดชุดทำงานให้มันวันนั้น วันที่ผมปวดหัวน่ะเหรอ ผมเริ่มทบทวนความทรงจำ ทรุดร่างลงกับพื้น สายตามองกวาดไปรอบๆห้อง ทำไม ทำไม คำๆนี้มันวนเวียนอยู่ในหัวไม่ยอมไปไหน ของทุกอย่างในห้องมันคือความทรงจำที่ดีของเรา แต่วันนี้มันเหมือนแค่ของไร้ค่าซึ่งพอเขาคนใหม่เข้ามามันคงเก็บทิ้ง "ไอ้สาระเลว" ผมครางออกมา อยากจะด่ามันมากกว่านี้ แต่คิดอะไรไม่ออกมากนัก "อีป้า มันทิ้งชั้น แก มันทิ้งชั้น" พอมีสติผมก็กดโทรศัพท์ไปหาเพื่อนที่สนิทที่สุด ผมเรียกมันว่า อีป้า ทั้งที่มันเป็นผู้ชาย ก็เกย์เหมือนกันนี่ล่ะครับ แต่มันอาวุโสกว่าใครในกลุ่ม ถามว่าแก่ไหม ก็ไม่นะเวลามีเรื่องอะไรไม่สบายใจ นอกจากอีกพัทแล้วก็จะมีอีป้านี่ล่ะที่ผมระบายได้ อีป้าเป็นคนที่ค่อนข้างมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ออกแนวๆกึ่งๆทางฝรั่งและไทยผสมกัน เพราะมันมีสามีเป็นคนอเมริกัน แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอกนะ ปีหนึ่งๆแฟนมันจะมาสองครั้งต่อปี ผมรู้จักอีป้าได้เพราะอีพัทนั่นเอง ส่วนตัวผมแล้วผมเคยอยู่ที่เมืองไทยตอนเรียนมัธยมต้น แต่ไปต่อมัธยมปลายกับมหาวิทยาลัยที่อเมริกา พ่อแม่ผมเขาลงหลักปักฐานอยู่ที่โน่น มีร้านอาหารไทยอยู่ในเมืองคองคอร์ด มลรัฐแคลิฟอร์เนีย รู้จักอีพัทตอนเรียน มหาวิทยาลัย สนิทกันเพราะผมชอบที่มันแรดได้ใจ และที่นั่นผมก็ได้เจอกับไอ้เรย์ ความจริงชีวิตผมจะไม่ได้เบนเข็มมาอยู่ที่นี่หรอกนะ เพราะจบแล้วพ่อผมเขาจะฝากให้ทำงานกับเพื่อนที่โน่น แต่เพราะมันนั่นล่ะ เพราะความรักลมๆแล้งๆ เพราะความจอมปลอมทั้งหลายทั้งมวลที่มันวาดภาพขึ้นมาเสียสวยงามให้ผมตายใจและตัวผมเองก็โง่เชื่อเสียสนิทใจเพราะเหตุนั้นผมถึงดั้นด้นตามมันมาอยู่ที่นี่ ญาติเชื้อก็ไม่มี บ้านก็ขายไปแล้ว คอนโดฯนี่ก็เช่าเขาอยู่ แล้ววันนี้มันก็เฉดหัวผมออกจากที่นี่เพียงเพราะมันเจอคนใหม่ นี่น่ะหรือสิ่งตอบแทน "ใจเย็นๆแก มีอะไร" อีป้าก็พูดตามแบบฉบับของมันเหมือนเคย "มันไล่ฉันออกจากที่นี่แล้วแก มันทิ้งฉัน มันมีคนใหม่" "ตายจริง ทำไมทำแบบนี้ล่ะไอ้เรย์ เห็นหน้าตาดีๆแบบนี้ไม่น่าทำกันลงเลย" "มันเลวไง แกฉันจะทำยังไงดี" "จะทำยังไงล่ะ แกก็ย้ายก้นออกมาจากมันสิ จะไปทนอยู่ทำไม ในเมื่อเขาไล่แล้ว มาอยู่กับฉันก่อน" นี่เพื่อนนะ แค่เพื่อนที่รู้จักกันไม่นานเท่ามันแต่ทำไมผมรู้สึกว่ามันมีน้ำใจกับผมเหลือเกิน แล้วคนที่รักกันอยู่ด้วยกันมา ๕ ปีล่ะ มันมีอะไรให้ผม นอกจากแสยะปากใส่ ผมตัดสินใจรีบออกจากห้องไปคว้าเสื้อผ้าไปได้แค่ไม่กี่ตัวเพราะร้อนใจ คิดอะไรไม่ออก ผมต้องกลับมาเก็บของออกจากที่นี่แน่นอนแต่ขอไปตั้งหลักก่อน ดูสิว่ามันจะทำยังไงเหมือนกัน เพราะของทุกอย่างผมเป็นคนซื้อยกเว้นก็แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆที่ทางคอนโดฯเขามีให้ แต่นอกนั้นผมเป็นคนซื้อหมด แม้แต่ค่าเช่าผมก็เป็นคนจ่าย ลำพังเงินเดือนอินทีเรียต๊อกต๋อยอย่างมันหรือจะสู้เลขาฯนายใหญ่ของธนาคารต่างชาติอย่างผมได้ รถผมก็ผ่อนให้มันไม่พอนะดาวน์ให้อีกต่างหาก โง่นะผมรู้ดีก็เพราะคำว่ารักคำเดียวนี่ล่ะ รักคำนี้ที่มันตอกอกผมอยู่ตอนนี้ ดี เลิกก็เลิกอยากจะรู้เหมือนกันว่าคนใหม่ของมันจะทำได้อย่างผมไหม "ไหนแกว่ามาซิ ทำไมมันถึงเปลี่ยนไปแบบนี้" อีป้าถามขึ้นเมื่อผมถึงห้องของมัน ห้องของมันเป็นคอนโดฯเหมือนกันแต่เป็นสองห้องนอนเพราะสามีมันซื้อให้แต่ยังผ่อนไม่หมดหรอก นับว่าเป็นโชคดีไปเพราะผมจะได้อาศัยนอนอีกห้อง "จะทำไมล่ะแก อยู่ดีๆมันก็มาบอกว่าเลิกกัน เพราะมันบอกว่ามันไม่ได้รักฉันแล้ว มันมีคนใหม่ไงแก" ผมยังคร่ำครวญอยู่ ไม่รู้ทำไมนะเวลาพูดเรื่องนี้ผมก็จะสำออยขึ้นมา คงเป็นเพราะมันยังใหม่อยู่ ความเจ็บปวดมันยังสดๆร้อนๆเป็นแผลอยู่ในใจ แสบได้ใจจริงๆ "แล้วมันไปเอาใครที่ไหนมาเป็นเมียวะ มันดีกว่าแกเหรอ" "ฉันไม่รู้ ยังไม่เคยเห็น แต่คงดีกว่าล่ะแก ฉันไม่เคยทำร้ายน้ำใจมันเลยนะตลอดเวลาที่คบกัน ไม่คิดเลยว่ามันจะทำแบบนี้กับฉัน" "เฮ้อ นี่ล่ะเกย์น่ะแก มันไม่มีอะไรผูกมัดกันไว้นี่ อย่าว่าแต่เกย์เลยผู้หญิงผู้ชายก็เป็นสมัยนี้สื่อมันแรง รักเดียวใจเดียวมีแต่สมัยก่อนโน่นล่ะ อย่าไปคิดมากเลย มันอยากไปก็ให้มันไป สักวันมันจะคิดได้เองล่ะ ว่ามันได้ทิ้งสิ่งที่มีค่าที่สุดไป" "แกว่ามันจะกลับมาไหม" ผมส่งสายตาที่คิดว่าเป็นประกายแห่งความหวังออกไป ประกายของความเขลาเงารักบังตา "กลับมาแล้วแกจะเอาไหมล่ะนาย" อีป้าย้อนกลับมาทันที ผมนิ่งไป จริงสินะ ผมจะเอามันเหรอถ้ามันกลับมา "ไม่รู้ แต่ฉันยังรักมันอยู่นะแก" "แล้วไง รักมันแล้วมันล่ะ รักแกไหม ถ้ารักมันคงไม่เฉดหัวแกออกมาแบบนี้หรอกนะ รู้ก็รู้ว่าแกมีมันคนเดียว" พูดแล้วก็แค้นขึ้นมาในใจ ยังจำคำพูดของมันก่อนที่ผมจะตัดสินใจตามมันมาได้ดี "เราจะไม่ทอดทิ้งนาย เราสัญญา" สัญญากับผีน่ะสิ พลิกลิ้นได้เร็วขนาดนี้ เจ็บใจเหลือเกิน จากที่เจ็บเพราะโดนมันทิ้งก็กลายมาเป็นเจ็บใจแทน "แกว่าฉันควรจะทำยังไงแก" "ก็ไม่ต้องทำไร อยู่เฉยๆ ทำงานไป ไม่ต้องคิดมาก" "ไม่คิดไม่ได้หรอกแก ฉันอยู่กับมันมา ๕ ปีนะ ไม่ใช่ ๕ วัน" "เออรู้ แล้วยังไงแก ต่อให้อยู่กับมันสัก ๕๐ ปีแล้วยังไง ก็เขาไม่เอาน่ะ" ผมปล่อยโฮออกมาทันที แทงใจเหลือเกิน เพื่อนนะเพื่อนไม่ได้กลัวว่าจะเจ็บช้ำใจเลย ย้ำอยู่ได้ กรี๊ดใส่ดีไหมเนี่ย "เห็นไหม แกก็ยังตัดใจไม่ได้อยู่ดี โทรฯหาอีพัทดีกว่าให้มันมาด่าแก" อีป้าเดินเข้าห้องนอนของมันไปแล้ว ปล่อยให้ผมร้องไห้คร่ำครวญอยู่เพียงลำพัง เจ็บนะเจ็บจนไม่รู้จะสาธยายคำไหนออกมาบอกดีถึงจะให้คนอื่นๆได้รู้ว่าเจ็บ คนรักกันทำกันได้แบบนี้เลยหรือ "ว่าไงค้า คุณนาย" เสียงอีพัทแปร๋นมาตั้งแต่หน้าประตูห้อง "ว้าย ร้องไห้ อะไรกันยะอีนาย ผัวทิ้งแค่นี้ทำเป็นร้องไห้" "นี่เบาๆหน่อยแม่คุณ คนมันกำลังเสียใจ" อีป้าปรามไว้เพราะมันเห็นผมซุกหน้าลงกับฝ่ามือตัวเองอีกครั้ง "แหม เข้าใจค่า เข้าใจดี ฉันก็เคยนี่ไงฉันถึงพูดได้ เอาน่าแกไม่เป็นไรหรอก ก็แค่ผู้ชายเฮงซวยคนเดียวสนใจทำไม มีผู้ชายอีกเป็นล้านรอหล่อนอยู่นะ เลือกเอาสิ วันละคนยังได้เลย" "แหม ใครเขาจะร่านแรดเหมือนหล่อนล่ะอีนี่" "ว้าย เขาไม่เรียกร่านค่า เขาเรียกสนองตอบต่อความต้องการที่ซ่อนอยู่ภายในของตัวเอง คนที่สนองให้กับตัวเองแบบนี้เขาเรียกคนฉลาดย่ะ ไม่ใช่ร่าน" "นั่นล่ะ ที่เขาเรียกร่าน" ทั้งสองเถียงกันกัดกันตามประสา ถ้าผมยังปกติอยู่ก็คงจะร่วมวงด้วย แต่ตอนนี้เสียใจเลยต้องซุกหน้าต่อไป "เออๆ ชั้นร่าน ร่านแล้วไงยะ ร่านอย่างชั้นก็ยังดีกว่ารักเดียวใจเดียวแล้วมานั่งฟูมฟายเหมือนอีนายนี่" ยิ่งมันพูดมันยิ่งสะกิดใจ "นายแกก็รู้นี่ว่าเกย์มันเป็นยังไง แกจะเสียใจน่ะชั้นไม่ว่าหรอกนะ แต่อย่าให้มากไป คนเรารักกันน่ะมันเป็นเรื่องของคนสองคน ถ้าวันใดอีกฝ่ายหมดใจ เขาก็ไม่เรียกว่ารักแล้วล่ะ แต่จะเรียกเป็นอย่างอื่น รักชนิดอื่นน่ะ แกทำใจซะเถอะนะ ไอ้เรย์มันก็หล่ออยู่หรอกนะ แต่มันใฝ่ต่ำเองช่วยไม่ได้" "นั่นสิแก มาๆกินไวน์กันหน่อย ย้อมใจ" "กรี๊ด เยส เผื่อคืนนี้จะออกหากิน" "แหม เชียวนะยะ" สองคนกรี๊ดใส่กัน ผมแอบอมยิ้มออกมา เฮ้อ มาคิดดูดีๆแล้วมันก็ไม่ได้มีอะไรนะ ผมว่ามันต้องผ่านไป แค่คนมันไม่รัก แค่คนมันหมดรัก แล้วยังไง เอาเถอะ ร้องไห้เสียใจพอแล้ว จะทำร้ายตัวเองไปก็เท่านั้น มันก็คงไม่กลับมาหรอก "นี่แก ทำไมแกไม่ทำให้มันรู้ล่ะ ว่ามันได้ชวดเพชรไป" อีพัทพูดขึ้นระหว่างที่เรานั่งจิบไวน์แดงอยู่กลางห้อง "ทำไงอ่ะแก" "ทำกันแบบนี้มันต้องชำระความนะยะ จะปล่อยให้เลิกก็เลิกง่ายๆไม่ได้หรอกนะ แหมทีมาตามจีบเขานี่อะไรก็ยอมทำนะไอ้เรย์" "ทำยังไงแก" ผมทำตาโตถามขึ้น "ก็เย้ยมันหน่อยสิยะ หาผู้ชายดีๆหล่อๆ รวยๆกว่ามัน" "แหม อีนี่ ยังกะผู้ชายพวกนั้นมันเดินอยู่ตามถนนงั้นล่ะ มันไม่ใช่นิยายนะยะหล่อน" อีป้าดอดขึ้น ผมพยักหน้าเห็นด้วย "รู้ค่า แต่แกจะยอมให้มันเสวยสุขง่ายๆเหรอ ไม่คิดจะทำอะไรหน่อยเหรอแก" "ทำอะไร" "ก็แก้เผ็ดมันไง" "พอเถอะแก อย่าไปจองเวรจองกรรมกับเขาเลย หมดกรรมกันแล้ว" "ว้าย โน่นค่ะอีป้า เข้าฌานไปเลย สวดมนต์แล้วเหรอหล่อนน่ะถึงกระแดะมาจิบไวน์" อีพัทกรี๊ดขึ้นเสียงดัง ผมเองก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ "ไม่รู้สินะ ถ้าเป็นชั้นน่ะ แม่จะทำให้รู้เลยว่ามันคิดผิด" "แล้วทำยังไงล่ะแก พุดมาเสียทีสิ" "คิดไม่ออกค่า" "อี!!!!" ผมกับอีป้ารุมด่ามัน พออยู่กับเพื่อนๆแล้วก็ค่อยสบายใจหน่อย ไม่คิดอะไรมาก ได้คุยได้ระบายออกก็ค่อยยังชั่ว มีหัวเราะบ้างตามการสนทนาของเพื่อนๆ อีป้ามันก็อัดบุหรี่เข้าปอดเหมือนเคย "ฉันลองหน่อยสิแก" "อะไรอกหักแค่นี้ริจะดูดบุหรี่" "ทำไม ก็อยากจะลอง" ผมแหวเสียงใส่มัน อีป้ามันคงรำคาญเลยยื่นบุหรี่ให้ตัวหนึ่ง ผมก็ดูด ไม่ได้ไอหรือทำท่าเหมือนในละครนะ เพราะแต่ก่อนเวลาไปเที่ยว เพื่อนๆของผมมันดูดกันทั้งนั้น เห็นมันดูดก็พอรู้ว่าเขาดูดกันยังไง เรื่องเลวๆบางเรื่องไม่ต้องสอนหรอก อีกอย่างเรื่องไม่ดีน่ะทำกันง่ายจะตาย พอบุหรี่เข้าปอดมันเหมือนโดนทุบหัวยังไงไม่รู้มึนหัวทันทีเหมือนหน้ามืด "แรงว่ะแก" "ก็แกไม่เคย" ผมไม่ยอมแพ้ดูดต่อ พอดูดไปสักพักก็ชิน อันของดีไม่ดีเราควรจะใช้วิจารณญาณส่วนตัวพิจารณาได้ว่าควรเข้าหาหรือไม่ แต่อันนี้ผมเลือกเอง ไม่คิดจะสูบจริงจัง แต่แค่อยากจะให้หัวมันมึนใจมันชาก็เท่านั้นเอง "มันหมดแล้วนะแก ถ้าอยากสูบอีกหล่อนลงไปซื้อเลย เออ ซื้อน้ำแข็งก้อนขึ้นมาด้วยนะ พอดีมีเบอร์เบิ้นเหลืออยู่" อีป้าบอก ผมหน้าหงิกขึ้นทันที "ตรงไหนล่ะแก" "ก็หน้าตึกน่ะเลี้ยวซ้าย มีร้านของชำอยู่" "อีพัท พาลงไปหน่อย" "โอ๊ย ไม่ได้หรอกแก ชั้นเมาไวน์" "อย่ามากระแดะ ชั้นก็เมาเร็วอย่าพูดมาก" ผมเดินไปลากแขนมันให้ลุกขึ้นจากโซฟา มันไม่ยอมแม้ผมต้องออกแรงมากเป็นพิเศษแต่มันก็ไม่ยอม สรุปผมก็ต้องลงมาคนเดียว พอลงมาหน้าหอถึงรู้ว่ามันเพิ่งจะ ๕ โมงเย็น บรรยากาศดีนะแถวนี้ ถนนอ่อนนุชแม้จะมีรถติดกันแจตรงถนนหน้าตึกแต่ก็ไม่เลวร้ายนัก ฝั่งตรงข้ามเป็นโชว์รูมรถญี่ปุ่น ไปทางซ้ายสินะ ร้านขายของชำอยู่ตรงหัวมุมพอดี ผมเดินเข้าไปในร้าน มีกลุ่มคนนั่งอยู่ก่อนหน้าแล้วประมาณห้าคน ท่าทางคงเป็นช่างประจำโชว์รูมรถฝั่งตรงข้ามนั่นเอง "มีบุหรี่ไหมครับ" ผมถามออกไปไม่ได้สนใจมองใคร เพราะรู้ว่าตาคงแดงๆเหมือนคนเพิ่งร้องไห้มา "หน้าขาวจังว่ะ เป็นตุ๊ดแหงเลย ขาก็ไม่มีขนโกนแน่ๆ ตุ๊ดนี่น่าทุเรศนะกูว่า" เสียงลอดมาจากข้างหลัง มันคงไม่ได้ว่าผมหรอก ไม่สนใจ เพราะมีน้องนีอีกนางยืนอยู่ข้างๆ "ของมันแน่อยู่แล้ว มาจากตึกนี่มีแต่ตุ๊ด แรดๆทั้งนั้น กูเห็นชอบออกหากินเวลากลางคืนอยู่ประจำ" เอ๊ะ มันชักยังไงๆอยู่นะ ตึกไหนวะที่มันเอ่ยถึง "น้องๆ เขาแซวน่ะ" เอ่อ อีเจ๊คนขายนี่ก็นะนี่อุตส่าห์ทำหูทวนลมแล้วนะ ผมเม้มปากหันขวับไปมอง แทนที่มันจะหยุดเห่านะกลับหัวเราะเสียงดัง ผมรีบสั่งของไปตามที่เพื่อนบอกมาจ่ายเงินเสร็จก็เดินออกมานอกร้าน "เขาไม่เรียกแซวหรอกเจ๊ แบบนี้เขาเรียกเห่า" "เฮ้ย" วิ่งสิครับ จะอยู่รอให้มันจับทำเมียหรือ ผมยังไม่พร้อมที่จะมีผัวพร้อมกับ ๕ คนหรอกนะ เสียงฝีเท้าของมันเหมือนจะวิ่งตาม "หยุดนะ" เสียงของเจ๊เจ้าของร้านแหวขึ้นดังพอที่จะให้ผมหันไปมอง ในมือก็ถือของพะรุงพะรังอยู่ "พวกมึงไปว่าน้องเขาเอง ยังอยากจะกินเบียร์ที่นี่อีกไหม อย่าไปทำอะไรน้องมันนะ" ผมซึ้งใจอีกครั้งเป็นหนที่สองในรอบวัน อยากจะกราบเจ๊แกงามๆสักที ได้ใจเหลือเกิน พวกมันหยุดกึกมองผมอย่างเคียดแค้น ส่วนผมน่ะเหรอ ยักไหล่นิดหน่อยแล้วก็เดินให้เหมือนเคส มอสให้มากที่สุด ผมเป็นคนยังไงน่ะเหรอ เดี๋ยวก็จะได้รู้กัน

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

マイBLノーベル เขียนนิยายให้กลายเป็นรัก

read
1K
bc

Change you!!! เปลี่ยนจากนายให้กลายเป็นสาว

read
1.8K
bc

Spicy Short Story Set 3 รวมเรื่องสั้นเผ็ดซี้ด ชุดที่ 3

read
1K
bc

ทาสเรือนพระยา

read
1K
bc

The Night with the Beast ราตรีอสูร

read
1K
bc

เริ่มแรกจากงานวิวาห์

read
2.8K
bc

My Doctor อกเคยหักเพราะรักหมอ

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook