องก์ที่ ๒

3532 Words
"เลวที่สุด ทำไมผู้ชายพวกนี้มันถึงปากหมาแบบนี้นะ ไม่ได้รู้จักมักจี่กัน มาแซวกันแบบนี้ได้ยังไง" ผมบ่นออกมาเมื่อเข้าไปในห้อง เพื่อนสาวก็ทำหน้าตาอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา อยากจะกรี๊ดใส่สักที เวลาบอกให้ลงไปซื้อนะไม่มีตัวไหนยอมลง ทีแบบนี้หูตั้งมาแต่ไกลเชียว "มีไรแก ทำหน้ายังกะตูด" "จะอะไรล่ะ ก็ไอ้พวกกุ๊ยนั่งกินเหล้าอยุ่ร้านเจ๊แกน่ะสิ มันแซว คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ด้วย" "ต๊าย มีผู้ชายเหรอยะ รู้งี้ฉันลงเองดีกว่า" อีพัทครับ แหมนะ สะดีดสะดิ้งขึ้นมาทันที "ก็ลงไปสิแก พวกมันยังไม่ไปหรอก บ้านๆ เถื่อนๆ ดูไม่สะอาด ถูกสปีชี่แกเลยนี่" ผมเหน็บ บางทีก็หมั่นไส้มันนะ อีพัทนี่เรื่องแรดหาตัวจับยาก มันบอกต้องรีบเก็บแต้มไว้ ก่อนที่จะหมดยาง เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังในคราวต่อๆไปว่าวีรกรรมของมันเด็ดดวงแค่ไหน "เอาอะไรอีก ไปอีป้า" "แหม อี... หูผึ่งเป็นกะทิเลยนะยะ เอาอะไรมายัดปากหน่อยก็ดีแก" อีป้าร้องออกมา มันกำลังแต่งสวนตรงระเบียงอยู่ อีป้ามันเป็นคนรักต้นไม้ ระเบียงหลังห้องนี่นึกว่าป่าย่อมๆนี่เอง ทั้งไม้ดอกไม้ประดับ ไม้เลื้อยไม้เถาเต็มไปหมด ให้นั่งอยู่ระเบียงคนเดียวผมไม่นั่งแน่ๆเพราะกลัวว่าจะมีสัตว์เลื้อยคลานออกมาทักทายแม้จะอยู่สูงถึงชั้น ๑๒ ก็ตามที "แกจะไปใส่ใจมันทำไมแก เสียงนกเสียงกา เขาแซวแกก็แสดงว่าแกดูดีสิ" แต่นะมันก็ยังดีที่รู้จักสร้างกำลังใจให้กับผม คงจะจริงอย่างอีป้ามันบอก "ไหนผู้ชาย ไม่เห็นมีสักหน่อแก โมเมหรือเปล่ายะ" อีพัทกลับขึ้มาท่าทางหัวเสีย "ใครเขาจะรอหล่อน มาๆ กินเหล้าก่อน เดี๋ยวลงก่อน" ก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงผมยังร้องไห้เสียใจอยู่เลย แต่ตอนนี้ไม่รู้สิ พอได้พูดได้เมาท์กับเพื่อนสนิท มันซาๆลงนะความเสียใจที่มี ยิ่งกึ่มๆไวน์ตีกับเบอร์เบิ้น อืม ก็ดีนะ เริ่มมึนแล้ว จนผมเองเผลอหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ พอตื่นมาก็รู้สึกเวียนหัวเพราะฤทธิ์ของเหล้าและไวน์เมื่อตอนเย็นแน่ ผมควานหาโทรศัพท์มากดดูเวลา เพิ่งจะเที่ยงคืนกว่าๆเอง รู้ไหม พอไม่มีฤทธิ์ของเหล้าผมก็หวนวกกลับคืนคิดเรื่องเดิม คำถามต่างๆมากมายมันผุดขึ้นในหัว ผมนอนดิ้นไปมาน้ำตาไหลออกมา อ่อนแออีกแล้ว ผมต้องไปอาบน้ำเผื่อว่าบางทีน้ำมันจะช่วยล้างความอ่อนแอที่อยู่ในใจและน้ำตานางเอกให้ออกไปเสียที ให้ตายเถอะ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยร้องไห้ฟูมฟายมากมายขนาดนี้ ตอนเจ้าฟินาเคิลตาย(หมาตัวโปรด พันธุ์อัลเซเชียน) ผมยังร้องไห้ไม่เท่านี้เลย ไอ้เรย์มันเป็นใครกัน คิดแล้วก็เจ็บใจที่สุด ไอ้สาระเลว "พรุ่งนี้แกไม่ทำงานเหรอนาย" อีป้าถามมันคงได้ยินเสียงผมอาบน้ำ ธรรมดาอาบไม่ได้ดังขนาดนั้นหรอกครับ แค่เปิดน้ำให้มันสาดใส่ตัวนานไปหน่อย จนมือเหี่ยว ตัวเหี่ยวไปหมด "ไม่อ่ะ ลาสองวันไม่มีใจไปทำงาน" "อ่ะนะ ผัวทิ้งแค่นี้เสียการเสียงานเลยนะแก" "ก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้หรอกนะ แต่ฉันก็ไม่อยากให้ใครเห็นฉันในสภาพเหมือนศพแบบนี้ แล้วอีพัทล่ะแก กลับแล้วเหรอ" "โอ๊ย อีนั่นแรดไปซาวน่าแล้วแก มันบอกมันคัน" มาคิดๆดูแล้วใช้ชีวิตแบบอีพัทนี่ก็ดีเหมือนกันนะ ไม่ต้องยึดติดกับใคร ไม่ต้องมาแคร์ความรู้สึกใคร อยากทำอะไรก็ทำ ไม่เคยเห็นมันเจ็บเพราะรักเลยสักครั้ง ไม่ใช่มันหน้าตาไม่ดีนะ ผมว่ามันเป็นคนหน้าตาดีมากคนหนึ่ง ตาโตๆเหมือนแขกคิ้วหนาปากแดง ผิวขาวๆมีกล้ามอีกต่างหาก แต่มันก็ไม่ได้สนใจจะยึดตัวเองไว้กับใคร เพราะมันบอกว่าไม่อยากเป็นทุกข์เพราะใคร รักใครไหม มันเคยนะ เพราะเคยเห็นมันเดทกับคนอมริกันตอนเรียนอยู่คนหนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็เปลี่ยนไม่ซ้ำหน้า แต่เอาเถอะนั่นมันอีพัทให้ผมใช้ชีวิตอย่างมันคงไม่ได้ เพราะให้ผมนอนกับใครไม่เลือกหน้าอย่างมันก็คงไม่ได้ ไม่มีทาง ยังไงเสียขอทีละดุ้น แต่ขอให้ดุ้นนั้นมีคุณภาพอย่าให้เหมือนของไอ้เรย์แค่นั้นดีกว่า "ฉันนอนก่อนนะแก อย่าคิดมากล่ะ รีบนอนสิไหนบอกแกจะไปเก็บของไม่ใช่เหรอแก" "อืม แกนอนเถอะ ฉันไม่เป็นไร" ผมบอกอีป้าไปทั้งที่นั่งกอดเข่าอยู่บนโซฟา สายตาก็มองไปเรื่อย มันไม่เจ็บเท่าไหร่แล้วล่ะแต่เหมือนมันจะเป็นขาลงของอารมณ์ มองเห็นอะไรทำไมมันดูหดหู่เสียจริง นี่น่ะหรือที่เขาว่ายามรักน้ำต้มผักยังว่าหวาน ยามชังอันน้ำตาลยังว่าขม ผมรู้สึกอย่างนั้นอยู่จริงๆ ตอนนี้ไม่ได้เสียใจที่มันทิ้งแล้ว แต่รู้สึกเจ็บใจว่าทำไมคนที่ดีอย่างผม ต้องโดนมันเขี่ยทิ้งแบบไร้เยื่อใยแบบนี้ ผมตื่นมาสายโด่งเพราะไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุก ออกมาหากาแฟกินไม่เห็นอีป้า มันคงไปทำงานแล้ว ผมชงกาแฟแล้วออกไปนั่งที่ระเบียงมองนั่นมองนี่ไปเรื่อยๆ ตอนนี้เองที่ผมได้กลับมาคิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด นับจากวันแรกที่ผมได้เจอหน้ามัน เพราะอะไรผมถึงรักมันมาก เพราะอะไรผมถึงไว้วางใจมัน เชื่อในคำหวาน เชื่อในคำว่าคู่ผัวตัวเมียที่มันสาธยายกรอกหู จนผมคล้อยตามไม่เชื่อฟังพ่อแม่ หนีตามมันมาหางานทำที่นี่ ยิ่งคิดยิ่งแค้นในใจ จะทำยังไงดีให้มันเจ็บได้เท่าที่ผมเจ็บ ผมขับรถออกจากบ้านตอนเกือบเที่ยง เพื่อที่จะไปเก็บของที่คอนโดฯที่ผมเป็นคนจ่ายค่าเช่าเอง ตั้งใจว่าจะกวาดมาให้หมดไม่มีเหลือแม้แต่ยาสีฟัน คอนโดฯที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นมุมไหน แต่ทำไมวันนี้ผมถึงรู้สึกว่ามันดูแปลกตาไปมากเหลือเกิน ผมถอนหายใจอยู่หน้าประตู ก่อนจะเอากุญแจห้องออกมาไข เพื่อเปิดระตูเข้าห้องไป ในมือก็มีกล่องเตรียมขนสุดพลัง "เอ๊ะ ทำไมต้องดับเบิ้ลล็อค ไม่ไปทำงานเหรอ" ผมบ่นอยู่คนเดียว ก่อนจะกดกริ่งเพื่อที่จะเข้าห้องตัวเอง นานเกินสามนาที "ปังๆๆๆ" เคาะสิครับเลือดเริ่มขึ้นหน้า มันจะทำอะไรอยู่ไม่สนใจแล้ว แต่ผมอยากรีบเข้าไปในห้องเพื่อเก็บของให้เสร็จ สักพักเสียงปลดล็อกประตูก็ดังขึ้น "มีไรพี่ มาหาใคร" คนที่เปิดประตูออกมาไม่ใช่เรย์ แต่มันเป็นเด็ก เด็กมากจนผมผงะตกใจ "เอ่อ" ผมอึ้งไปเลยถอยหลังไปก้าวหนึ่งเพื่อดูหมายเลขห้อง นี่มันห้องผมนี่ แล้วไอ้เด็กนี่ อ้อ "มาหาใคร นี่มันห้องพี่นะ แล้วเราเป็นใครเข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง" ผมมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง เพราะรู้แล้วด้วยสมองประมวลผลอย่างรวดเร็ว ว่าเด็กนี่ต้องเป็นเด็กที่ไอ้เรย์มันกกอยู่แน่ๆ "อ้อ พี่น่ะเองเหรอ ที่เฮียเขาบอก กอดขาเขาร้องห่มร้องไห้อ่ะ" ผมเม้มปากแน่น เพราะสายตาที่มันมองผมมันเย้ยหยันผมเต็มที่ ให้ตายเถอะเกิดมายังไม่เคยโดนใครมองต่อหน้าด้วยสายตาแบบนี้เลย "นั่นมันเรื่องส่วนตัว ท่าทางเรายังเรียนอยู่นี่ ไม่ไปเหรอโรงเรียนน่ะ หรือว่ามากกผู้ชายจนลืมเรื่องเรียน" "ไม่ใช่เรื่องของพี่ จะมานานไหม ผมจะนอน จะทำอะไรก็รีบทำ" ดูมันทำ มันเดินหันหลังให้ผม ทำหน้าเบื่อเหมือนกับว่าผมเป็นก้อนของเสียที่ปล่อยจากก้นมัน ผมเริ่มกัดปากตัวเอง "มันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของพี่หรอกนะ แต่ของที่เธอใช้อยู่น่ะ มันของพี่ ถ้าไม่อยากให้ยุ่ง ถอดออกมา จะเอาไปเช็ดขี้หมาแถวบ้านล้างเสนียด" มันหันกลับมาทันทีสายตาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อผม "ของพี่หรอกเหรอ ถึงว่า คันๆ" มันถอดเสื้อออกทันที ต่อหน้าผม โยนเสื้อลงพื้นแล้วรู้ไหมมันทำยังไง มันเอาเท้าเขี่ยออกให้พ้นทางแล้วเชิดหน้าใส่ "ทำไมทำแบบนี้ ไม่มีมารยาท" ผมร้องออกมาปรี่เข้าไปผลักอกมัน "โอ๊ย ก็เสื้อของคนเก่าน่ะ ไม่อยากใส่ เสนียดเหมือนกัน" "มึง!! โป๊ก" ผมง้างมือขึ้นกระชากผมที่มันไว้ทรงวัยรุ่นปรกหน้าดันให้ไปโขกกับผนังห้องอย่างแรง มันทรุดตัวลงทันทีเอามือกุมหน้า "สัดเอ๊ย" "ลองดีกับกูใช่ไหม มึงเป็นใคร กล้าดียังไงมาทำแบบนี้กับกู" "เชี่ย ปล่อย ปล่อย" ผมถ้าของขึ้นแล้วก็นะ ใครจะมายืนให้เด็กเพิ่งจะเกิดเมื่อวาน มายืนด่าทำท่ากร่างใส่ ใครพอใจจะทำก็ทำไปเถอะไม่ใช่ ไอ้นายคนนี้แน่นอน ผมกดคอมันลงกับพื้นห้องขึ้นคร่อมเลยคราวนี้ น่าเสียดายที่หัวมันไม่แตกแค่ปูดๆขึ้นมาเท่านั้นเอง "ปล่อย โอ๊ย ยอมแล้ว ผมยอมแล้ว" มันร้องไห้ ผมเริ่มรู้สึกตัว รีบเบามือลง มันปัดมือผมออกแล้วคลานออกไปให้ห่างตัว "อีเชี่ย อีแก่ แก่ไม่ดูสารรูปตัวเอง แก่เหี่ยวขนาดนี้ ใครจะไปแดกมึงลง อีเชี่ย" ผมอ้าปากค้าง เพราะทันทีที่มันลุกขึ้นทรงตัวได้ มันก็วิ่งเข้าห้องแต่ก่อนเข้าห้องมันเอ่ยออกมา รู้ไหม ผมอายุ ๒๘ เพิ่งจะ ๒๘ เมื่อตอนต้นตุลาคมนี่เอง ตั้งแต่จำความได้ ไม่เคยมีใครว่าผมแก่ มีแต่คนบอกหน้าอ่อนกว่าอายุ มันเป็นใคร ผมยืนนิ่งคงเพราะรับสภาพไม่ได้ ทำไมนะเวลาโดนว่าอย่างอื่นไม่โกรธเท่านี้ ตอนนี้รู้สึกว่าหูร้อนหน้าแดง เลือดในกายมันไหลเร็วเสียเหลือเกิน "ปังๆๆ เปิด มึงว่าอะไรนะ เปิด" ที่ทุบไม่ใช่มือนะผมเอาเท้าถีบ โกรธจัดมากถึงมากที่สุด คนที่แย่งแฟนไปคือเด็กมัธยม ย้ำแค่เด็กมัธยม ผมยอมรับนะว่ามันเป็นเด็กหน้าตาดีคนหนึ่ง ผิวพรรณรูปร่าง หาที่ติได้ยาก และผมก็เข้าใจและยอมรับสภาพนะว่ามันเด็กกว่าผม สิบกว่าปีได้ แต่ที่ไม่เข้าใจคือมันไม่ได้เกรงกลัวผมเลย มันมองผมเหมือนเพื่อนของมันที่สู้มันไม่ได้ มองมองผมด้วยหางตาแล้วแสยะปากใส่เหมือนว่ามันได้เขี่ยผมออกจากไอ้เรย์แล้ว ผมไม่ได้เสียดายหรอกนะไอ้เรย์น่ะ ตอนนี้แค่อยากจะเอาเลือดปากของมันออกมาแล้วจะเอาเท้าขยี้ต่อหน้าต่อตามัน โกรธมาก "ออกมาเดี๋ยวนี้ มึงแน่จริงมึงออกมา" ผมเริ่มเหมือนคนบ้าทุบห้องอย่างบ้าคลั่ง แต่มันก็ไม่ยอมเปิด จนผมเริ่มเหนื่อย "นาย ทำอะไร นายเป็นบ้าอะไร" ผมหันไปตามเสียงที่ดังมาจากประตูเข้าห้อง ไอ้เรย์นั่นเอง "อย่ามีเรื่องที่นี่นะนาย ทำไมเป็นคนแบบนี้" มันปรี่เข้ามาจับมือผมไว้ นี่ผมกลายเป็นคนแบบนี้สำหรับมันไปแล้วหรือ "อะไรเรย์ เรย์รู้เหรอว่าเด็กนี่มันว่าอะไรนาย" "ว่าอะไร เบียร์เขาบอกว่านายมาหาเรื่องเขานะ ทำไมเป็นคนแบบนี้ เรื่องระหว่างเรามันจบแล้วนะนาย น้องเขาไม่รู้เรื่องด้วยนะ" "เรย์" ผมสับสนไปหมดแล้ว จากโกรธเมื่อครู่เป็นชาไปทั้งหน้า "กลับไป เราขอร้องอย่ามาโวยวายที่นี่" "เรย์ ปึ๊ก" ที่ตบหน้ามันน่ะไม่ได้แบมือนะครับกำแน่นๆเลยล่ะ "นาย จะมากไปแล้วนะ" "เข้ามาสิ ลืมไปแล้วเหรอว่านายทำได้มากแค่ไหน" ผมยื่นหน้าให้มันท้าทายเต็มกำลัง อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนที่เรียนและได้คาราเต้สายดำมาอย่างผม กับคนที่ไม่เป็นมวยอย่างมัน ใครกันจะเจ็บ "กร่าง" มันพูดออกมาเบาๆ สายตามองผมอย่างเกลียดชัง นี่น่ะหรือคนเคยรักกัน นี่น่ะหรือคนนอนร่วมเตียงเคียงข้างกันมาตลอดห้าปี "นี่น่ะหรือคนที่ทำให้เรย์เปลี่ยนใจ เด็กคนนี้น่ะเหรอ เรย์แน่ใจแล้วเหรอ" "ทำไม น้องเขาเป็นยังไง แต่เราว่าอย่างน้อยน้องเขาก็ไม่ทำตัวแบบนายนะ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่เรารักมานานจะเป็นคนชอบหาเรื่องคนอื่นแบบนี้" "เรย์ นายไม่ได้หาเรื่องมันนะ มันมาว่านายนะ" "เอาเถอะนาย นายจะกลับได้ยัง" ผมเม้มปากแน่นอยากจะเตะก้านคอมันสักที เจ็บใจที่สุด "กลับแน่ แต่นายมาขนของ หรือว่าหลงเด็กจนความจำเสื่อมไปแล้วว่าของในห้องนี้ส่วนใหญ่เป็นของใคร" "อ้อ ที่แท้ก็หวงของ เชิญ" มันเชิดหน้าเบะปากใส่ผม "ไม่ได้หวงนะเรย์ หรือถ้าเรย์อยากได้ ก็โอเคนะ นายให้ แต่ก่อนเอาน่ะขอกรวดน้ำก่อนนะ เรย์กับน้องเขาจะได้รับไง" "นาย" มันทำท่าจะปรี่เข้าผมก็เชิดหน้าขึ้นสู้ เอาสิ อยากจะรู้เหมือนกัน แหมยืนด่าอยู่ได้ ทีด่าคืนทำเป็นรับไม่ได้ "เก็บไปให้หมดนะ ถ้าไม่หมดก็ไปเอาที่ขยะ" "ได้ หมดแน่ แต่ขอเข้าห้องนอนก่อนได้ไหม เพราะของในนั้นเยอะ" ผมเมินหน้าหนีไม่อยากให้มันเห็นตอนที่ผมโกรธ นานๆครั้งผมถึงจะแสดงกริยาอาการแบบนี้ "เบียร์ๆ เปิดให้เฮียหน่อยครับ" หมั่นไส้ ดูมันเรียกกัน ผมยืนเม้มปากแน่น "เฮีย พี่เค้าใจร้ายมากเลยอ่ะ เค้าตบหน้าเบียร์ด้วย เบียร์บอกแล้วใช่ไหมว่าเบียร์ไม่อยากมาที่นี่ ฮึกๆ" มันโผเข้ากอดไอ้เรย์แล้วร้องไห้ ผมยืนมองตาค้าง "สตอ" "พอได้ไหมนาย จะเก็บเอาอะไรก็เก็บไป โถหัวปูดเลยเจ็บไหมครับคนดี" ไอ้เรย์มันเพิ่มความโกรธให้ผม เหมือนมันคอยเติมเชื้อไฟอยู่ตลอดเวลา ผมเดินกลับไปเอากล่องที่ถือมาด้วยในตอนแรกแล้วเดินเข้าห้องไป เสื้อผ้า เครื่องใช้ น้ำหอม แม้แต่ผ้าเช็ดเท้าผมก็เอา ตู้เสื้อผ้าแลดูโล่งไปถนัดตา "แกทำกับฉันแบบนี้ใช่ไหมไอ้เรย์ รู้จักคนอย่าง นายพลน้อยไป" ผมยืนจ้องมองเสื้อผ้ามันอยู่ด้วยสายตาที่เปรียบได้ก็คงเป็นไฟที่กำลังจะเผาไหม้เสื้อผ้ามัน ผมเดินเข้าไปในห้องเก็บของที่ใช้เก็บพวกเครื่องใช้ในห้องทุกอย่าง เพราะเวลาซื้อจะซื้อมาตุนทีละเยอะๆทีเดียว "เสื้อสวยนี่ ซักแห้งกับไฮเตอร์หน่อยนะเรย์" ผมไม่ได้ร้ายนะ ปกติเป็นคนไม่คิดอะไรกับใครนะ แต่แบบนี้ผมคงไม่มาทนนั่งเป็นนางเอก ร้องห่มร้องให้เรียกร้องสิทธิเสรีภาพกับคนอย่างมันหรอกนะ ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะบอกว่า ถ้าฉันไม่ได้ใครก็อย่าหวังว่าจะได้ หรือถ้าฉันไม่ได้เธอก็อย่าหวังว่าจะมีความสุข สำหรับนายพลคนนี้ ไม่มีทาง ไม่มีวัน ถ้าผมไม่ได้ก็แสดงว่าไอ้นี่มันด้อยคุณภาพไปแล้วน่ะสิ เพราะมันไม่มีค่าอันใดจะมาคู่ควรกับผมอีกต่อไป ไม่ได้มั่นนะ แต่เด็ดเดี่ยว อย่าให้ผมต้องร้ายนะ จะทำให้มันวอดวายทั้งสองคนไม่ต้องผุดต้องเกิดกันไปเลย ผมสาดไฮเตอร์ขวดใหญ่ยักษ์ลงไปบนเสื้อกับกางเกงหรืออะไรก็ตามแต่ที่ห้อยอยู่ในตู้เสื้อผ้าจนชุ่ม แล้วก็เดินไปเก็บอย่างอื่นต่อ มันสองคนยังออดอ้อนกันอยู่นอกห้อง ดีไม่ต้องเข้ามาดูตอนนี้หรอก พอเสร็จจากห้องนอนผมก็เดินลากกล่องออกมา ของใช้ส่วนตัวผมนี่ก็เยอะใช้ได้นะ กล่องเดียวท่าจะไม่พอผมจึงเดินไปที่โซฟาที่มันทั้งสองกำลังปลอบกันอยู่ "แป๊บเดียวนะ อย่าเพิ่งหน้ามืด เดี๋ยวก็เสร็จแล้วล่ะ หรือถ้าทนไม่ไหว ทำตรงนี้เลยก็ได้นะ ยางอายน่ะคงไม่เหลือแล้วสิ" ผมหันไปมองไอ้เด็กคนนั้นที่มันซุกหน้าลงอกของไอ้เรย์แต่มันแสยะปากใส่ผม "เฮีย" มันทำท่าครางออกมาอีกเหมือนเคย "พี่ครับ นี่ห้อง ๑๔ ทับ ๔ นะครับ" ผมกดโทรศัพท์ลงไปเคาท์เตอร์เพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องขนของ พอเสร็จก็วางหูแล้วหันมามอง ไม่รู้สิตอนนี้ผมไม่เหลือเยื่อใย ไม่หรอกเยื่อใยมันไม่ได้ขาดไปง่ายดายเช่นนั้น แต่คิดว่าตอนนี้โมโหจนมองไม่เห็นอะไรในตัวของมัน นอกจากความน่ารังเกียจที่ผมกำลังมองมันอยู่ ผมเก็บของรวมกันไว้ พอยามขึ้นมาพร้อมกล่องที่ผมขอไปเขาก็ช่วย จะเชื่อไหมว่าห้องโล่งมาก เหลืออยู่ห้องสุดท้ายคือห้องน้ำ "งกเนอะคนเราน่ะเฮีย ถึงว่าไม่มีคนเอา" คือว่าผมเองก็พยายามจะไม่ไปยุ่งกับเขาแล้วนะ แต่ดูมันพูด มันเป็นใครมาจากไหน ได้ อยากงัดกับนายพล จัดไป ผมเก็บของในห้องน้ำเสร็จก็เดินเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง "ขอเช็คของหน่อยนะ ว่าเหลืออะไรบ้าง" ผมพูดไปอย่างนั้นล่ะ แต่เดินเข้าๆห้องไปแล้ว ขวดน้ำหอมของไอ้เรย์มีอยู่สองขวด ผมเองเป็นคนหน้าโง่ซื้อให้มัน เพิ่งซื้อให้นะ ตอนแรกก็ยังเห็นใจเพราะคิดว่าของที่เราให้เขาไปแล้วมันก็เป็นของเขา เพราะผมเองไม่ใช่คนหวงของอะไรมันก็รู้ แต่อย่าเอาเลยไอ้สารเลว ผมเอามือปัดลงพื้นทั้งสองขวด ขวดหนึ่งแตกแต่อีกขวดมันทน ยอมที่ไหนผมหยิบขึ้นมาแล้วปาลงกับพื้น "อุ๊ย หอมจัง" "นาย ทำอะไร" มันวิ่งเข้ามา ทำหน้าตาตื่น "โทษทีไม่ทันระวัง เออ น้อง ไหนบอกคันไงใส่เสื้อผ้าพี่น่ะ ถอดแต่เสื้อนะเรา กางเกงด้วยจ๊ะ" ผมไม่ได้สนใจไอ้เรย์ หันไปมองเด็กคนนั้นด้วยสายตาเหมือนอย่างที่มันมองผมในตอนแรก "เฮีย" มันปรี่เข้าหาผัวมัน "ถอด จะได้เอาไปเผาให้ไงจ๊ะ อยากได้มากไม่ใช่เหรอของคนอื่นน่ะ พี่ก็ชอบแจกนะพวกของเหลือเดนแบบนี้น่ะ" "เฮีย" "มากไปแล้วนะนาย ออกไป เก็บของพอหรือยัง" "ไม่ต้องไล่หรอกจ๊ะเรย์ ไปแน่ อ้อ ค่าห้องน่ะอย่าลืมจ่ายเขานะ ยังไงก็เอาใจช่วยนะ ขอให้รักกันนานๆ" ผมสะบัดหน้าเดินออกจากห้อง "ต่ำทรามมากเฮีย เฮียคบกับเขาได้ยังไง นิสัยแย่มาก" "ใช่ เฮียตาบอดไปน่ะเบียร์" ผมหยุดกึกลงก่อนจะก้าวออกจากห้อง "ฮึฮึ จำชื่อฉันไว้ให้ดี จำหน้าฉันไว้" "ไม่จำให้รกสมองหรอก คนไร้ประโยชน์ โดนเขี่ยทิ้ง" "แกก็คอยดู เกิดเมื่อวานอย่างแก จะมาลองดีกับฉัน ได้ นับวันเจ็บรอเลยก็แล้วกัน" ผมเดินออกนอกห้องไปแล้ว พี่ยามเขาก็เดินนำหน้าไปกดลิฟท์ให้ "ไอ้นาย ทำไมมึงทำแบบนี้" เสียงมันร้องด่าวิ่งออกมาจากห้อง ผมแสยะยิ้มรอเลย "มึงทำแบบนี้ทำไม" มันวิ่งมาเกือบมาถึงตัวหน้าตานี่ไม่ต้องบรรยาย แต่มันก็หยุดกึกลงก่อนถึงตัวเพราะผมหันหน้าไปหามันแล้วพยักหน้าให้ "แล้วจะทำไม นี่มันแค่เริ่มต้นนะเรย์"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD