ถามเอาอะไร 2

1427 Words
เสียงลมหายใจหนักกระแทกออกมา พร้อมกับโทรศัพท์มือถือ ที่ถูกวางลงบนโต๊ะอย่างไม่ไยดี เมื่อนั่งมองหน้าจออยู่ร่วมห้านาที หลังจากได้รับข้อความตอบกลับมาสั้นๆ เพียงคำเดียวว่า “ค่ะ” และหลังจากนั้นปลายทางก็หายเงียบไป ไม่คิดจะพิมพ์อะไรตอบกลับมาแต่อย่างใด นำพาความคุกรุ่นของอารมณ์ให้ขุ่นมัวขึ้นเรื่อยๆ “หงุดหงิดอะไรของมึงเนี่ย นั่งทำหน้าอย่างกับคนปวดขี้” ณัฐรณอดสงสัยไม่ได้ เมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนรักดูหงุดหงิดไม่สบอารมณ์ เอาแต่นั่งมองโทรศัพท์ในมือจนถึงตอนที่มันวางอยู่บนโต๊ะ “ยุ่ง” “ถามก็ไม่ได้นะมึง เดี๋ยวนี้อารมณ์แปรปรวนใหญ่แล้ว อย่างกับคนแพ้ท้องแทนเมีย” พยัคฆ์ปรายตามองเพื่อนเล็กน้อย คว้าแก้วบรั่นดีขึ้นจิบ ไร้การตอบโต้กลับมา “เงียบใส่กูอีก หรือว่าคนที่มึงส่งรูปมึงกับเบญไปให้ดูเขา เขาไม่ตอบโต้กลับมา มึงก็เลยหงุดหงิด เพราะคิดว่าเขาจะไม่พอใจ ดิ้นทุรนทุรายใช่ไหม” พยัคฆ์ไม่ตอบ แต่กลับกระแทกแก้วเหล้าลงบนโต๊ะ และหยิบโทรศัพท์ที่ตัวเองโยนลงเมื่อไม่นานมาใส่กระเป๋ากางเกง “นี่เสือส่งรูปไปให้น้องคนนั้นดูเหรอ ส่งไปทำไมอะ” เบญญาเอ่ยถาม “ก็ส่งไปให้น้องพริกดู เพราะอยากให้น้องพริกเสียใจน่ะสิ อยากให้น้องพริกเข้าใจผิด คิดว่ามันกับเบญเป็นแฟนกัน” “เสือทำแบบนั้นทำไม เกิดน้องเขาเข้าใจผิดขึ้นมาอย่างที่ณัฐว่า จะทำยังไง” “เบญอย่าไปฟังไอ้ณัฐมันมากนักเลย มันก็พูดไปเรื่อย” “กูพูดถูกน่ะสิไม่ว่า พอน้องพริกเขาไม่โต้ตอบ ก็มาหงุดหงิดอารมณ์เสียอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ มึงแม่งโรคจิต” “มึงเลิกพูดถึงชื่อยัยพริกนรกนั่นสักที ผู้หญิงคนนี้แม่งทำให้ชีวิตกูเสียระบบหมด ทำให้พ่อตบหน้ากู ทั้งที่พ่อไม่เคยทำมาก่อน มึงคิดว่ากูควรทำดีกับคนแบบนี้ไหม” “บางทีน้องเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ได้นะเสือ” เบญญาเอ่ยแย้ง “ฟังไม่ขึ้นอะเบญ งั้นเราถามเบญเลยนะ ว่าถ้าเป็นเบญ เบญจะยอมมาเป็นเมียคนที่เบญไม่ได้รักไหม แถมยังต้องมาอุ้มท้องอีก” เบญญายิ้มแห้ง ที่พยัคฆ์พูดมาก็มีส่วนถูก แต่เบญญาก็ไม่วายจะแก้ตัวให้ “น้องเขาอาจจะมีความจำเป็น หรือมีเหตุผลบางอย่างที่เสือไม่รู้ก็ได้” “อะไรล่ะ” พยัคฆ์ย้อนถาม เบญญาก็สวนกลับทันควัน “ก็นี่ไง มันคือสิ่งที่เสือต้องไปหามา ทำไมเสือไม่ถามพ่อล่ะ ว่าน้องพริกเขามีความจำเป็นอะไรหรือเปล่า ถึงทำแบบนี้ แล้วน้องพริกเขาเป็นลูกเต้าเหล่าใคร แล้วทำไมอยู่ดีๆ พ่อเสือถึงไปพาน้องพริกมาได้” “เสือไม่สนหรอก ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครมาจากไหน เพราะไม่ว่าจะยังไง ผู้หญิงคนนั้นก็เข้ามาทำให้ชีวิตเสือไม่มีความสุขไปแล้ว อีกอย่างมันไม่มีผู้หญิงดีๆ ที่ไหนหรอกนะ ที่ยอมมาทำแบบนี้ ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงหิวเงิน หรือกร้านโลกจนไม่แคร์อะไร” “พอเถอะเบญ พูดจนปากฉีกมันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก เปลืองน้ำลายเราสองคนเปล่าๆ กูก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าเสือร้ายอย่างมึงจะตกหลุมรักเหยื่อที่มึงบอกว่าเกลียดไหม” “มึงคงไม่รู้ ว่ากูไม่มีทางรักคนที่ทำให้ชีวิตกูพังแน่ กูกลับล่ะ” พูดจบ ก็ลุกเดินออกจากโต๊ะไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย “เอ้า! ไอ้เสือ เสือ...ดูมัน คิดจะไปก็ไปง่ายๆ แบบนี้เลย” ณัฐรณส่ายหน้าให้เพื่อนอย่างอ่อนใจ “อาการหนักอาการ เบญล่ะกลัวจริงๆ กลัวว่าเสือจะหลงรักเหยื่อตัวเองเข้าสักวัน” “ซึ่งเราว่ามันมีทางเป็นไปได้สูงมาก เราไม่เชื่อหรอก ว่าคนที่อยู่ด้วยกันทุกวันมาแรมปี จะไม่มีความรู้สึกอะไรให้กันเลย” “ก็คงต้องรอดูกันต่อไป” เบญญาและณัฐรณหันมองหน้ากัน ก่อนทั้งคู่จะผ่อนลมหายใจออกมาพร้อมกัน ศยามลปิดหน้าจอไอแพดลง พร้อมกับมือที่ยกขึ้นปิดปากหาว หลังจากที่หญิงสาวนั่งเขียนรายการอาหาร ที่จะต้องซื้อในวันพรุ่งนี้เพื่อทำให้เสี่ยอำนาจทาน เหลือบสายตามองนาฬิกาก็ดึกดื่นเที่ยงคืนเข้าไปแล้ว หญิงสาวเก็บสมุดโน้ตไว้ที่โต๊ะข้างเตียง ปิดไฟและล้มตัวลงนอนพักผ่อน ทว่ายังไม่ทันได้ถึงห้านาที เสียงกุกกักด้านนอกห้องก็ทำให้ศยามลลืมตาขึ้น และรีบลงจากเตียงนอนค่อยๆ เปิดประตูห้องนอนแง้มออกดู “มีอะไร” “พริกต้องถามคุณเสือมากกว่าค่ะ ว่ามีอะไร ไหนบอกจะไม่กลับมาไง” คนถูกย้อนลืมคำพูดนี้ไปเสียสนิท “แล้วไง? นี่มันบ้านฉัน ฉันจำเป็นต้องทำตามที่พูดทุกอย่างเลยหรือไง ฉันจะกลับมานอนบ้านตัวเองมันผิดมากมั้ง” อยากจะกรีดร้องใส่หน้าและด่าสวนกลับไปว่า จ้า อยากทำอะไรก็ทำเลยจ้า เอาที่สบายใจเลยจ้า “เดี๋ยวพริกเตรียมชุดนอนให้แล้วกันนะคะ” “ไม่ต้อง ฉันทำเองได้ไปทำอะไรให้กินหน่อยสิ หิว” “ค่ะ” ศยามลเลือกที่จะทำอาหารที่ไม่หนักท้องมากให้พยัคฆ์ เพราะทานไม่นานชายหนุ่มก็ต้องนอน จึงเลือกที่จะทำอาหารที่ย่อยง่ายอย่างโจ๊กปลา “เสร็จหรือยัง มาแต่งตัวให้ฉันที” เสียงดังออกมาจากห้องนอน ทำให้คนที่กำลังตักโจ๊กใส่ชามส่ายหน้า ให้คนที่โตจนสุนัขเลียตูดไม่ถึง แต่ยังทำเหมือนตัวเองเป็นเด็กที่ใส่เสื้อผ้าเองไม่เป็น และศยามลก็อยากจะกรีดร้องออกมาอีกครั้ง เมื่อเห็นคนที่เรียกให้เธอมาแต่งตัวให้ สวมใส่กางเกงนอนเรียบร้อย รวมทั้งเสื้อก็เช่นกัน มีเพียงแค่กระดุมเสื้อเท่านั้นที่ยังไม่ได้ติด “เรียกพริกมาติดกระดุมเสื้อให้แค่นี้เหรอคะ” ปากเอ่ยถาม แต่มือก็ติดกระดุมให้ชายหนุ่ม คนถูกถามก้มลงมองเสี้ยวหน้าคนพูด ริมฝีปากหยักยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย “ก็มันขี้เกียจ” คำตอบที่ได้รับ ทำให้ศยามลเงยหน้าขึ้นมองอย่างเลี่ยงไม่ได้ “เสร็จแล้วค่ะ” “ที่เธอตอบฉันมาในไลน์ มันหมายความว่ายังไง” ไม่อยากจะยอมรับ ว่าเพราะคำตอบที่ได้รับกลับมาเพียงคำเดียว ทำให้พยัคฆ์ต้องรีบพาตัวเองมายืนอยู่ตรงนี้ “ก็ตอบไปแล้วไงคะ ว่าค่ะ” “แล้วค่ะของเธอมันหมายความว่ายังไงล่ะ” คนอยากได้คำตอบยังคงซักไซ้ต่อ “คุณเสือถามอะไรมา ก็หมายความว่าแบบนั้นแหละค่ะ คุณเบญน่ารักและเหมาะสมกับคุณเสือทุกอย่างค่ะ แค่นี้ใช่ไหมคะคำตอบที่คุณเสืออยากได้ พริกจะนอน” ไม่รอฟังคำตอบด้วยซ้ำ พูดจบก็ผละตัวเดินไปที่เตียงนอน ทว่ากลับถูกมือหนาคว้าเอวคอดกลับคืนมา วงแขนแกร่งรั้งร่างบางเข้ามาแนบชิด จนศยามลต้องยกมือขึ้นมายันอกแกร่งไว้ “และถ้าฉันจะจีบเบญ เธอว่าเบญจะชอบฉันไหม” แววตาเศร้าวูบไหวสั่นระริก เมื่อได้ยินสิ่งที่พยัคฆ์พูด หัวใจของหญิงสาวเจ็บจี๊ดเหมือนถูกเข็มทิ่มแทง มองสบสายตากับชายหนุ่มไม่ยอมหลบ จ้องเข้าไปในดวงตาเฉยชาคู่นั้น จนเห็นว่าภายในความเฉยชา ยังมีความเยาะเย้ยเธออยู่เต็มไปหมด “นั่นมันเป็นเรื่องของคุณกับคุณเบญ พริกคงตอบแทนคุณเบญไม่ได้หรอกค่ะ รีบออกไปทานข้าวต้มเถอะ เดี๋ยวจะเย็นซะก่อน ปล่อยค่ะ พริกง่วงแล้วอยากนอน” “ฉันก็ไม่เคยคิดจะรั้งเธอไว้เหมือนกัน” พยัคฆ์เดินออกจากห้องไปแล้ว ทว่าคนที่บอกว่าง่วงนอน ยังคงยืนนิ่งอยู่กลางห้องเช่นเดิม นัยน์ตาของหญิงสาวแดงก่ำเอ่อคลอด้วยน้ำตา ก่อนเจ้าตัวจะเงยหน้าเพื่อไล่น้ำตาให้กลับเข้าไป ในเมื่อเขาไม่คิดจะรั้งเธอไว้ เมื่อถึงเวลาเธอก็ไม่คิดจะอยู่ขวางหูขวางตาเขาเหมือนกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD