ที่ใต้ตึกคณะศิลปศาสตร์ รมิดาจูงมือน้องอชิเดินมาหยุดที่ม้านั่งไม้ใต้ต้นไม้ใหญ่ อากาศร่มรื่นช่วยบรรเทาความร้อนในยามสาย เธอหยิบขนมกับนมกล่องสำหรับเด็กออกมาจากกระเป๋าเป้ใบเล็กของน้องอชิ ตรวจดูว่าเตรียมของทุกอย่างครบถ้วนหรือยัง
“อชิครับ หิวมั้ย? ป้าดาเตรียมนมกับขนมไว้ให้นะครับ” เธอถามพลางยิ้มอ่อนโยน
“ยังไม่หิวฮะ ป้าดา” เด็กน้อยตอบเสียงใส แต่ก็ยอมรับนมกล่องไปถือไว้
ขณะนั้นเอง เสียง ติ้ง! ดังขึ้นจากโทรศัพท์มือถือของรมิดา เธอหยิบขึ้นมาดู พบว่าเป็นข้อความจากพี่รหัสของเธอเอง—พี่ศรัณย์พร (พี่แป้ง)
พี่แป้ง: “ดา พี่กำลังลงไปแล้วนะ รอแป๊บนึง”
รมิดาอ่านข้อความแล้วยิ้มบาง ๆ เธอพิมพ์ตอบไปอย่างรวดเร็ว “โอเคค่ะพี่แป้ง ขอบคุณมากนะคะ”
ไม่ถึงห้านาที หญิงสาวร่างสมส่วนในชุดนักศึกษามีเครื่องแบบครบถ้วนก็เดินตรงมาหา รมิดารู้จักพี่แป้งดีในฐานะพี่รหัสที่ทั้งขี้เล่นและใจดี เธอไม่ใช่คนที่ยอมใครง่าย ๆ แต่กับรุ่นน้องแล้ว เธอมักเต็มใจช่วยเสมอ
“รมิดา! นี่น้องอชิใช่มั้ย?” พี่แป้งพูดขึ้นทันทีที่มาถึง เธอก้มลงมองน้องอชิที่กำลังมองเธอด้วยตาแป๋ว
“ใช่ค่ะพี่แป้ง อชิ นี่คือป้าแป้งนะครับ ทักทายหน่อย” รมิดาพูดพลางบอกหลานชาย
“สวัสดีครับ ป้าแป้ง” น้องอชิยกมือน้อย ๆ ไหว้ด้วยความน่ารัก
พี่แป้งหัวเราะด้วยความเอ็นดู “โอ๊ย น่ารักจังเลย! ดา นี่เธอเอาหลานมาด้วยทุกวันแบบนี้จริง ๆ เหรอ?”
รมิดายิ้มเจื่อน ๆ “ค่ะพี่แป้ง บางครั้งก็ไม่มีใครช่วยดูน้องได้ เลยต้องพามาด้วย”
พี่แป้งถอนหายใจ “โอเค งั้นฝากหลานไว้กับพี่ เดี๋ยวพี่พาไปที่ห้องสมุดเอง เธอรีบไปเรียนเถอะ มันเลยเวลามาเป็นชั่วโมงแล้ว เดี๋ยวตามเนื้อหาไม่ทัน”
รมิดายิ้มขอบคุณ “รบกวนพี่อีกแล้วนะคะ ฝากน้องอชิด้วยนะคะ”
เธอหันไปหาน้องอชิ พลางย่อตัวลงระดับเดียวกับเขา “อชิครับ ไปอ่านหนังสือไดโนเสาร์กับป้าแป้งที่ห้องสมุดก่อนนะครับ เดี๋ยวป้าดาเรียนเสร็จแล้วจะรีบมารับ”
น้องอชิพยักหน้าด้วยความเชื่อฟัง “ครับ ป้าดา อชิจะรอนะ”
พี่แป้งมองเด็กน้อยด้วยรอยยิ้ม “ไปครับ อชิ เดี๋ยวป้าพาไปเลือกหนังสือดี ๆ”
รมิดาโบกมือลาทั้งคู่ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นอาคารเรียนด้วยความโล่งใจในใจลึก ๆ แม้ชีวิตเธอจะยุ่งเหยิงไปบ้าง แต่โชคดีที่เธอมีพี่รหัสอย่างพี่แป้งที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเสมอ
ขณะพี่แป้งจูงมือน้องอชิเดินไปยังห้องสมุด เธออดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา “อชิชอบไดโนเสาร์เหรอครับ?”
“ครับ ป้าแป้ง อชิชอบไดโนเสาร์มากที่สุด!” เด็กน้อยพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“งั้นป้าจะพาไปหาหนังสือเกี่ยวกับไดโนเสาร์เยอะ ๆ เลย ดีมั้ย?”
“ดีครับ!”
พี่แป้งหัวเราะเบา ๆ ขณะมองเด็กน้อยที่เดินเคียงข้างเธออย่างสดใสร่าเริง เธอรู้สึกได้ว่าแม้รมิดาจะต้องเผชิญกับชีวิตที่หนักหนาแค่ไหน แต่ความรักที่เธอมีให้น้องอชินั้นแท้จริงและลึกซึ้งอย่างไม่ต้องสงสัย
ณ ห้องเรียนของคณะศิลปศาสตร์
รมิดายืนลังเลอยู่หน้าประตูห้องเรียนของคณะศิลปศาสตร์ ความเงียบภายในห้องและเสียงเล็คเชอร์ที่ดังลอดออกมาทำให้เธอรู้สึกกดดัน เธอถอนหายใจ พยายามรวบรวมความกล้า ก่อนจะตัดสินใจผลักประตูเข้าไป
ทันทีที่ประตูเปิด สายตาทุกคู่ในห้องก็จับจ้องมาที่เธอ รมิดารู้สึกเหมือนเวลาเดินช้าลง เสียงขยับเก้าอี้ เสียงปากกาที่หยุดเขียนไปครู่หนึ่ง ยิ่งทำให้เธอประหม่า
“นักศึกษา” เสียงของอาจารย์สริตา ดังขึ้น อาจารย์ประจำวิชาวรรณกรรมเปรียบเทียบที่มีบุคลิกเคร่งขรึมและช่างสังเกต ดันแว่นขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยต่อ “คุณมาสายอีกแล้วนะคะ”
คำพูดนั้นทำให้รมิดายิ้มเจื่อน เธอโค้งศีรษะให้อาจารย์อย่างรู้สึกผิด “ขอโทษค่ะอาจารย์”
อาจารย์สริตามองนิ่ง ๆ แต่ไม่ได้ตำหนิเพิ่มเติม “ไปหาที่นั่งได้แล้วค่ะ”
รมิดารีบเดินไปหาที่นั่งตรงกลางห้องทันที พลางพยายามไม่สบตาเพื่อนร่วมชั้นที่บางคนแอบหัวเราะคิกคักอยู่เบา ๆ
ช่วงเวลาสามชั่วโมงผ่านไปอย่างเชื่องช้า อาจารย์อธิบายเนื้อหาเกี่ยวกับ “การตีความตัวละครในวรรณกรรมร่วมสมัย” แต่รมิดาก็ยังคงกระวนกระวายใจ เธอหยิบมือถือออกมาแอบพิมพ์ข้อความถึงพี่แป้ง
รมิดา: “พี่แป้งคะ น้องอชิงอแงมั้ยคะ?”
ไม่นานนักข้อความตอบกลับก็เด้งขึ้นมา
พี่แป้ง: “ไม่เลยจ้ะ น้องอชิน่ารักมาก กำลังนั่งดูรูปไดโนเสาร์เงียบ ๆ อยู่ ฝากไว้ทั้งวันก็ยังได้”
รมิดาอ่านข้อความแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอรู้สึกขอบคุณพี่แป้งในใจที่ช่วยดูแลน้องอชิให้เธอได้มีเวลามาเรียน
หลังจากที่อาจารย์อธิบายเนื้อหาเสร็จ ก็เริ่มถามคำถามเพื่อกระตุ้นการคิดวิเคราะห์ของนักศึกษา
“นักศึกษารมิดา ในฐานะที่มาสาย แถมยังเหม่อลอยในขณะเรียน ช่วยบอกบ้างได้ไหมคะว่าตัวละคร ‘อันนา’ ในเรื่อง Anna Karenina ของ Tolstoy สะท้อนความขัดแย้งของสังคมยุคนั้นอย่างไร?”
รมิดาอึ้งไปทันที เพราะเธอไม่ได้ฟังตั้งแต่ต้น การมาสายทำให้เธอพลาดเนื้อหาในช่วงแรก และตอนนี้เธอก็ไม่รู้จะตอบอะไรดี
ขณะที่รมิดาก้มหน้าหลบสายตา เธอก็สังเกตเห็นกระดาษแผ่นเล็กที่ถูกยื่นมาจากโต๊ะข้าง ๆ ในนั้นมีข้อความเขียนด้วยลายมือสวยและเป็นระเบียบ
“อันนาเป็นตัวแทนของความขัดแย้งระหว่างความรักที่ท้าทายบรรทัดฐานทางสังคมและหน้าที่ในครอบครัว เธอแสดงถึงการดิ้นรนเพื่อเสรีภาพส่วนตัว แต่กลับถูกกดดันจากศีลธรรมและค่านิยมของสังคมชนชั้นสูงในรัสเซีย”
รมิดามองไปที่คนส่งกระดาษ เธอเห็นชายหนุ่มหน้าตาดีในชุดนักศึกษาที่ดูสะอาดสะอ้าน เขายิ้มบาง ๆ ให้เธอราวกับกำลังช่วยเหลือแบบเงียบ ๆ
เธอตัดสินใจตอบคำถามทันที “ตัวละครอันนา สะท้อนความขัดแย้งระหว่างความรักที่ท้าทายบรรทัดฐานทางสังคม และหน้าที่ในครอบครัวค่ะ เธอแสดงถึงการดิ้นรนเพื่อเสรีภาพส่วนตัว แต่กลับถูกกดดันจากศีลธรรมและค่านิยมของสังคมชนชั้นสูงในรัสเซีย”
อาจารย์สริตาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความพอใจ “ดีค่ะ คุณรมิดา ตอบได้ดีทีเดียว”
เสียงกระซิบกระซาบจากเพื่อนร่วมชั้นเงียบลงเมื่ออาจารย์ชม รมิดาหันไปขอบคุณชายหนุ่มคนนั้นด้วยสายตาและเขาก็เพียงแค่พยักหน้าให้
“ขอบคุณนะคะ” รมิดากระซิบเบา ๆ
“ไม่เป็นไรครับ คราวหน้ามาให้ทันก็พอ” ชายหนุ่มพูดพลางยิ้มมุมปาก
รมิดารู้สึกเหมือนหัวใจโล่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็สงสัยว่าเขาเป็นใคร เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าเขาในห้องเรียน
หลังจากเสียงระฆังบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น รมิดารีบเก็บข้าวของใส่กระเป๋าแล้วลุกขึ้นยืนเพื่อเดินไปหาชายหนุ่มที่ช่วยเหลือเธอในชั่วโมงเรียนก่อนหน้านี้
“เอ่อ…ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยเรื่องคำตอบในห้อง” รมิดาเอ่ยพร้อมกับยิ้มเล็ก ๆ
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่กำลังเปิดดู เขายิ้มตอบอย่างเป็นมิตร “ไม่เป็นไรครับ ผมดีใจที่ได้ช่วยคุณ”
รมิดาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะถามอย่างสุภาพ “ว่าแต่…คุณชื่ออะไรเหรอคะ? เหมือนเราเรียนรุ่นเดียวกัน แต่ไม่เคยเจอกันมาก่อน”
ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ “ผมชื่อ ภีม ครับ ภีมวรินทร์” เขายื่นมือมาให้รมิดาอย่างเป็นกันเอง
รมิดาจับมือเขาเบา ๆ “ฉันชื่อรมิดา แต่เพื่อน ๆ เรียกว่าดา ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
“ดา…ชื่อน่ารักดีนะครับ” ภีมพูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ
รมิดายิ้มบาง ๆ “ขอบคุณค่ะ”
ภีมมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยนก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ผมไม่ค่อยเข้าเรียนเท่าไหร่ แต่หวังว่าต่อไปเราจะได้เจอกันบ่อย ๆ นะครับ”
รมิดาพยักหน้าเบา ๆ แต่ก่อนที่เธอจะตอบอะไร สายตาก็เหลือบไปเห็นนาฬิกาข้อมือของตัวเอง เธอเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเป็นเวลาบ่ายแล้ว
“ตายจริง! ฉันต้องรีบไปแล้วค่ะ น้องอชิคงหิวข้าวแล้ว” เธอพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“น้องอชิ?” ภีมขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย
“หลานชายของฉันค่ะ เดี๋ยวไว้เจอกันนะคะ” รมิดารีบบอกลา แล้ววิ่งออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
ภีมมองตามเธอไปจนลับสายตา ก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบา ๆ “ดา… ชื่อน่ารักดี”
เขายิ้มมุมปากน้อย ๆ และเก็บของลงกระเป๋า ทิ้งความสงสัยเกี่ยวกับหญิงสาวคนนี้ไว้ในใจ