เรื่องจริงที่เจ็บปวด

1354 Words
เสียงหัวเราะดังในโสตประสาทหญิงสาว ดวงตาบวมช้ำค่อย ๆ หลับลงอย่างช้า ๆ เธอนอนเปลือยเปล่าบนพื้นห้องน้ำเย็น ๆ แบบนั้น ความเจ็บปวดทำให้เธอเคลื่อนไหวไม่ได้ ในที่สุดเธอก็หลับในสภาพที่ไม่มีเสื้อผ้าบนเรือนร่างสักชิ้น “อื้อ... โอ๊ย...” ปิ่นฉัตรรู้สึกตัว แค่ขยับตัวนิดเดียวเธอก็ร้อง เธออยากให้มันเป็นแค่ฝันร้าย แต่มันเป็นเรื่องจริง เสียงร้องไห้สะอื้นเบา ๆ เพราะเธอไม่มีแรง เธอค่อย ๆ พยุงตัวเอง หยิบเสื้อผ้าชุดเดิมที่มันขาด ขึ้นมาสวมใส่ลวก ๆ ก่อนค่อย ๆ คลานพาร่างออกจากห้องน้ำ มาถึงกลางห้องเธอก็สลบทันที เม็ดเหงื่อเกาะตามใบหน้ามากมาย แสงไฟคอยส่องสว่างเหมือนเช่นเคย เตชินท์กลับเข้าบ้านพัก ในสภาพดูไม่ได้ เสื้อเชิ้ตสีขาวมีหยดแดง ๆ หลายหยดบนเสื้อ ดวงตาเข้มเพ่งมองห้องที่เขาพึ่งออกมา เขาใช้เวลาพักใหญ่ ๆ ที่จะกลับมายังห้องพักหญิงสาวอีกครั้ง ซึ่งเวลานี้ตีสี่กว่า ๆ ทันทีที่ประตูเปิดออก เขาเห็นหญิงสาวนอนกลางห้อง โดยเหงื่อเกาะตามใบหน้า จิตลึก ๆ ให้เขาต้องอุ้มหญิงสาวมานอนที่เตียง ก่อนป้อนยาบางอย่างพร้อมยาแก้ไข้ให้เธอ จากนั้นจึงออกจากห้องเธอไป ป้าอร... แม่บ้านเดินสวนกับเตชินท์ ชายหนุ่มจึงเอ่ยถาม “ป้าอรครับ เมื่อวานใครเป็นคนไปทำความสะอาดห้องผมครับ” น้ำเสียงที่ดูปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เมื่อวานป้าสั่งให้ยัยแป้งบอกหนูปิ่นเป็นคนขึ้นไปทำความสะอาดค่ะ ทำไมเหรอคะ” แม่บ้านถามด้วยความสงสัย “ไม่มีอะไรครับ ป้าไปทำงานต่อเถอะครับ” เตชินท์นั่งดื่มกาแฟเงียบ ๆ คุณย่านวลปรางที่กำลังเดินลงบันไดมาเห็นเข้าพอดี จึงเดินไปนั่งข้าง ๆ แม่บ้านที่ทำความสะอาดจึงวางมือจากงานที่ทำ เดินเข้าไปถาม “คุณท่านจะรับชาไหมคะ” “อื้อ” สั้น ๆ แต่รู้ความหมาย แม่บ้านวัยสามสิบปลาย ๆ รีบเข้าครัว ยกถาดน้ำชามาวางบนโต๊ะ และกลับไปทำงานต่อ “ตาเต กลับดึกรึเมื่อคืน” ท่านเห็นบ้านพักชายหนุ่มก็เปิดไฟช่วงกลางดึกเมื่อคืน “ครับ” หลานชายตอบสั้น ๆ “คุณย่าครับ คนงานใหม่คุณย่า รู้จักเธอดีมากน้อยแค่ไหน” เตชินท์ยังถามเรื่องเกี่ยวกับปิ่นฉัตรอีกครั้ง “แกถามทำไมอีกตาเต แกไม่สังเกตหรือ หนูปิ่นมาทำงานที่นี่ก็หลายเดือน เข้ากับคนอื่นได้ดี มีแต่แกนี่แหละ ไม่ชอบเขา” คุณย่าไม่อยากให้หลานชายอคติกับหญิงสาวให้มากนัก อย่างไรก็ต้องเจอกันอีกนาน “คุณย่าไว้ใจเธอได้มากน้อยแค่ไหนครับ” เขาคงถามเป็นนัย ๆ “ของอะไรแกหายหรือตาเต” คุณย่านวลปรางถามตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม พร้อมยกน้ำชาขึ้นดื่ม “เมื่อวานเด็กคุณย่า ขึ้นไปทำความสะอาดห้องผม” “อะไรแกหายล่ะ” เหมือนคุณย่านวลปรางรู้ทัน จึงชิงตัดหน้าถามขึ้นก่อน “แหวนเพชรของผมหายครับ” “แหวนเพชร” คุณย่านวลปรางทวนอีกครั้ง “ทำไมแกไม่เก็บให้เรียบร้อย” “ผมเตรียมไว้ให้ของขวัญวันเกิดแพรวครับ” เขาเตรียมจะขอแฟนสาวแต่งงานในวันเกิดของเธอ “ฮึ คงจะรักจะหลงแม่นางแบบมากสินะ” คุณย่านวลปรางประชด “ทำไมคุณย่าถึงไม่ชอบแพรวครับ” คำถามที่เขาอยากรู้ “แกมองไม่ออกหรือว่าแม่นั่นน่ะ ไม่ได้รักแกจริง เธอเข้าหาแกก็เพื่อหวังผล ไม่รู้แหละย่าไม่ชอบไม่ถูกชะตา” คนแก่อาบน้ำร้อนมาก่อนย่อมมองออก “คงไม่เหมือนเด็กคุณย่า แม่นั่นคงหวังทำดีแล้วฉกฉวยของมีค่า แล้วหนีหายละมั้งครับ” ชายหนุ่มเหน็บแนม “เดี๋ยวฉันถามเอง ว่าแต่วันนี้แกหยุดแล้วจะไปไหน” วันอาทิตย์ปกติหลานชายจะอยู่บ้านไม่ค่อยออกไปไหน เตชินท์เงียบไม่ตอบแต่ยกกาแฟขึ้นดื่ม สายตามองหาใครบางคน ปกติเขาจะได้ยินเสียงหล่อนในครัว แต่วันนี้ช่างดูเงียบผิดปกติ เมื่อหวนนึกถึงเรื่องเมื่อคืนทำให้เขาร้อนใจ จนต้องลุกขึ้น คุณย่านวลปรางแปลกใจกับท่าที “เป็นอะไรตาเต ย่าตกใจหมด” คุณย่าชายตามองหลานชาย “อ้อ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวย่าจะสอบถามหนูปิ่นเอง” เมื่อหญิงสาวถูกกล่าวหาว่าเป็นเด็กของตัวเอง คุณย่านวลปรางจึงจะทำการสอบถามเอง “ขอบคุณครับ” ก่อนจะเดินกลับไปยังบ้านพักตัวเอง คุณย่านวลปรางถอนหายใจ ตั้งแต่รับหญิงสาวเข้ามาทำงานบ้าน หลายครั้งที่ใช้ทำความสะอาดขึ้นลง ก็ไม่เห็นมีปัญหา ข้าวของอยู่ครบทุกอย่าง แล้วมันจะเป็นไปได้หรือที่ปิ่นฉัตรจะไปหยิบฉวยเอาของหลานชาย และนี่ก็วันหยุดของหญิงสาว คุณย่านวลปรางยังคงเชื่อใจว่าหญิงสาวไม่ใช่คนที่เอาไป มันอาจหลงลืมจำที่เก็บไม่ได้ หรือเพราะความไม่ชอบปิ่นฉัตรเป็นการส่วนตัวของหลานชาย เลยหาเรื่องให้กับหญิงสาวหรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ คุณย่านวลปรางต้องสอบถามกับปิ่นฉัตร เวลาสิบนาฬิกา ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ท่ามกลางเม็ดเหงื่อผุดเกาะตามใบหน้า ร่างแน่งน้อยนอนขดคุดคู้ รอยแดงเป็นจ้ำช้ำตามเนื้อตัว หลับใหลบนเตียงขนาดสามฟุตครึ่ง พัดลมเพดานตัวเก่าถูกเปิดช่วยระบายอากาศ “ฮึก อือ” ครั้นพยายามพลิกร่าง ความเจ็บปวดรวดร้าวทั่วร่าง ความร้อนแผ่ทั่วทั้งตัวรวมทั้งที่นอนก็ได้รับความร้อนไปด้วย ปิ่นฉัตรลืมตาขึ้นช้า ๆ แสงสว่างลอดผ่านหน้าต่างบานเกล็ด หญิงสาวครางเบา ๆ ยามที่พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง ร่างทั้งร่างแทบแตกสลาย หัวที่หนักอึ้งรวมทั้งดวงตา เธอค่อย ๆ ฝืนสังขารพาร่างโซซัดโซเซ ไปห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดเนื้อตัว พลันสมองประมวลเรื่องราวเมื่อคืน น้ำตาก็ไหลเอ่อล้นเป็นทางยาว จนมันหยดลงบนชุดนอนเมื่อคืน สองมืออันสั่นเทาถอดเสื้อผ้า พลางสูดปากด้วยความเจ็บที่แผ่นหลัง สายน้ำถูกปล่อยไหลผ่านไม่นาน ความหนาวเหน็บทำให้เธอรีบคว้าผ้าขนหนูพันรอบอก ทุกการย่างก้าวปวดร้าวยังจุดสวาทจนขาสั่น เสื้อยืดพอดีตัวและกางเกงขาสั้นถูกนำมาสวมใส่ ปิ่นฉัตรกลับมานั่งบนที่นอนเช่นเดิม เธอเห็นบางอย่างวางบนตู้ข้างเตียง เธอหยิบขึ้นมาดูมันเป็นแผงเหมือนยาทั่วไป แต่มันมีแค่หนึ่งเม็ด อีกเม็ดเหมือนหายไป เธอพลิกอ่านถึงได้รู้ว่ามันเป็นยาคุมฉุกเฉิน แล้วมันมาอยู่ในห้องเธอได้อย่างไร หรือว่าเขาเอามาไว้ให้ หญิงสาวไม่มัวแต่จะคิด รีบแกะเม็ดที่เหลือหย่อนลงปากตามด้วยขวดน้ำที่อยู่ข้างกัน “พี่ปิ่น กินข้าวยังคะ” แป้งที่กำลังเดินมาชวนหญิงสาวไปกินข้าว เห็นปิ่นฉัตรกำลังปิดประตูพอดี “อ้าว แป้ง” รอยยิ้มที่ไม่ค่อยสดใส แป้งเห็นผิดปกติ เธอเพ่งมองอยู่นาน “พี่ปิ่นไม่สบายหรือเปล่าพี่” แป้งยื่นมือมาจับแขน จนต้องรีบปล่อยอย่างไว เสียงไอแห้ง ๆ ทำให้ปิ่นฉัตรต้องหลับตา มือค้ำกำแพงห้อง “ไหวไหมพี่ปิ่น ไม่ไหวก็ไม่ต้องไป เดี๋ยวหนูไปเอาข้าวเอายามาให้ที่นี่” แป้งเป็นห่วง จึงอาสาไปเอาข้าวกับยามาให้ “ขอโทษนะแป้ง พี่ปวดหัวครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะไม่สบายเลยแป้ง” เธอบอกอีกคนตามตรง “อื้อ ตัวร้อนด้วย รอที่ห้องนี้แหละ รอหนูแป๊บนึง เดี๋ยวหนูมา” แป้งรีบวิ่งมาทางห้องครัว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD