“ปิ่นไม่ใช่ขโมย ปิ่นไม่เคยเอาของใคร” เธอเถียง
อยู่ ๆ ก็โดนหาว่าเป็นขโมยเสียอย่างนั้น ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เธอไม่คิดอยากได้อะไรด้วยซ้ำ
“โกหก ตอแหล ยังไม่ยอมรับเหรอว่าขโมยแหวนเพชรฉันไป” เขาตวาดดังลั่นห้อง ปิ่นฉัตรถึงกับสะดุ้ง ก้มหน้าปล่อยโฮ
“หนูไม่ได้หยิบอะไรมาทั้งนั้น หนูแค่ไปทำความสะอาดห้องคุณเสร็จ หนูก็ออกมาไม่เห็นมีกล่องอะไรเลยนะคะ” ปิ่นฉัตรยืนยันความบริสุทธิ์
“อะไรนะ ใครใช้ให้เธอเข้าไปวุ่นวายในห้องฉัน” เตชินท์ตะคอกใส่ปิ่นฉัตร หญิงสาวมัวแต่ก้มหน้าร้องไห้ ไม่ได้สังเกต จู่ ๆ มือใหญ่คว้าหมับที่หัวไหล่ทั้งสองข้าง ปิ่นฉัตรสะดุ้งหวาดกลัว ไม่ทันระวังก็ถูกเหวี่ยงเธอกระเด็นติดขอบประตูห้องน้ำ
ล้มกองหน้าห้องน้ำ เสียงร้องไห้ระงม พร้อมกับกระเถิบถอยห่าง เข้าในห้องน้ำ แต่ชายหนุ่มยังคงย่างก้าวตามติด ๆ ปิ่นฉัตรหูอื้อตาลายเธอกลัวสุด ๆ ไม่ได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มพูดทั้งนั้น
“เธอเอาแหวนชั้นไปไว้ไหน? ปิ่นฉัตร!” เขาตวาดอีกครั้ง
“หนูไม่รู้เรื่อง หนูไม่ได้เอาไปค่ะ” เธอยังปฏิเสธ
“เธอมันปากแข็งมากนักสินะ ฉันจะทำให้เธอยอมรับว่าขโมยแหวนฉันไปเอง ดูสิเธอจะยังโกหกได้อีกไหม”
ความหน้ามืดตามัว ทั้งโทสะโมโหร้ายบวกกับความมึนเมา ทำให้เขาลงมือกระชากเสื้อชุดนอนของปิ่นฉัตร ทั้งที่เธออ้อนวอนขอร้อง แต่คนขาดสติไม่สนใจไยดี ลงมือลูบไล้เนื้อตัว ยามที่ไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ปกปิด
ปากคล้ำประกบจูบกลีบปากสีสดไร้สิ่งแต่งแต้ม เขาบดขยี้จนปากปิ่นฉัตรแตก กลิ่นคาวเลือดและรสเค็มทำให้หญิงสาวได้ลิ้มลอง สองมือยกขึ้นหวังปัดป้องช่วยตนเอง กลับถูกรวบเหนือศีรษะ
เตชินท์ไม่สนใจคนใต้ร่าง แค่ได้ลิ้มลองความหวานในปาก
ก็ทำให้เขาเตลิดไปไกลจนกู่ไม่กลับ จากที่จะสั่งสอนกลับกลายเป็นเลยเถิด มือหยาบกระชากบราตัวจิ๋วร่นฐานเต้า ปากหยักถอยจูบมาขบกัดยอดปลายถัน สาวแรกเริ่มที่ซ่อนรูป ทำเอาเตชินท์ถึงกับหายใจติดขัด
“ปล่อยหนูคุณเต อย่าทำหนู” ปิ่นฉัตรน้ำตาไหลเปียกแก้ม อ้อนวอนขอร้องให้ชายหนุ่มหยุดการกระทำ
ชายหนุ่มก้มหน้าละเลงทรวงอกคู่สวยสมวัย ฟันจิกกัดเม็ดปลายถัน ความรู้สึกแปลกใหม่ส่งผลให้ปิ่นฉัตรมึนงง สองมือกำมือชายหนุ่มแน่น จากร่างหนาที่คร่อมตอนแรก
หลัง ๆ ล้มทาบทับร่างบาง เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นขอให้ปล่อย กลับกลายแปรเปลี่ยนเสียงครวญคราง กางเกงในตัวจิ๋วถูกรูดลงข้อเท้า
เขาหยอกเย้ากับทรวงอกคู่สวยจนหนำใจ ก็เงยหน้ามองหญิงสาวที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา ก่อนแสยะยิ้มเหี้ยม
“เธอจะบอกฉันหรือยัง ว่าเอาแหวนฉันไปไว้ไหน”
เขายังคงถามหาสิ่งของ
“หนูไม่ได้เอาไปจริง ๆ ค่ะคุณเต” เธอยังยืนกรานคำเดิม
“ดี ฉันจะทำให้เธอลืมฉันไม่ลงเลย สำหรับหัวขโมยอย่างเธอ”
เตชินท์ปลดเข็มขัดตัวเองออกพร้อมรูดซิปและสลัดกางเกงให้หล่นใต้สะโพก ปิ่นฉัตรตื่นกลัว ดวงตาเบิกโพลง น้ำตาไหลลงหางตา พร้อมดิ้นขยับหนียกมือไหว้ขอร้องให้เขาหยุดการกระทำ
“ฮึ ฮึ เธอต้องได้รับผลของการโกหกปิ่นฉัตร”
สวบ กึก พรวด
“กรี๊ด เจ็บ ๆ คุณเต หนูเจ็บ” ปิ่นฉัตรกรีดร้องด้วยความเจ็บ มันเจ็บเหมือนร่างกายเธอแตกเป็นเสี่ยง ๆ เธอหมดหนทางหนี นอนน้ำตาไหลพราก เธอไม่พร้อม ไม่มีการเล้าโลมใด ๆ
“อ่า แน่นฉิบ อย่าเรียกชื่อฉัน เด็ดขาดจำไว้” เขาสั่งห้ามเธอ ลำเอ็นแข็งขึงแทงพรวดเดียวสุดลำผ่านเยื่อบาง ๆ ภายใน เนื้ออ่อนนุ่มดูดรัดลำเอ็น
จนเขาแทบทนไม่ไหว ต้องถอยออกและดันเข้าใหม่ถี่ ๆ เด็กสาวผู้น่าสงสาร ถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวขโมย ไม่มีแม้โอกาสจะช่วยเหลือตัวเองได้
เธอปล่อยให้หลานเจ้าของบ้านย่ำยีเรือนกายอย่างไม่มีชิ้นดี หญิงสาวหลับตายอมแพ้ต่อโชคชะตา ชายหนุ่มไม่แม้จะฟังคำอธิบายของเธอด้วยซ้ำ
ปิ่นฉัตรได้แต่นอนนิ่ง รองรับการขยับเอวสอบที่รุนแรง แผ่นหลังบอบบางครูดไปกับพื้นห้องน้ำที่เป็นปูนหยาบ หญิงสาวโยกขึ้นลงตามแรงกระแทกกระทั้นของคนบนร่าง ความเจ็บแสบทำให้หญิงสาวต้องเม้มริมฝีปากแน่น
สองมือพยายามไขว่คว้าหาที่จับ เพื่อระบายความเสียวซ่าน แต่ไม่มีสิ่งใดช่วยได้ นอกจากจิกเล็บลงเนื้อกลางอุ้งฝ่ามือตัวเอง
เตชินท์ขยับสะโพกรุนแรงและดุดัน เขาเชิดหน้าขบกรามเป็นสันนูน คิดไม่ถึงยัยเด็กขี้โกหกจะทำให้เขา ไม่เป็นตัวของตัวเอง เสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นห้องน้ำ
ไม่มีแม้แต่เสียงครางของคนใต้ร่าง คนตัวโตเริ่มหงุดหงิด ถอนลำเอ็นออกจากร่องน้ำหวาน ดึงปิ่นฉัตรให้หันหลัง
“ว้าย เจ็บ” หญิงสาวร้องด้วยความเจ็บปวด
หัวเข่ายังไม่หาย พอโดนพื้นปูนยิ่งเจ็บไปใหญ่ ความไม่ประสาทำให้เตชินท์ต้องคอยจัดท่าทางให้ เพื่อสะดวกแก่เขา จากนั้นจ่อดันแท่งเอ็นและรัวสะโพกถี่ ๆ จนปิ่นฉัตรคะมำไปด้านหน้า
มือหนาคว้าเอวคอดกิ่วไว้ทัน ยามที่ความรัญจวนมวนไปทั่วทั้งร่าง หญิงสาวกัดแขนตัวเอง เพื่อระบายความซ่านเสียว มีบ้างที่หลุดเสียงคราง
“อื้อ อ่า” ก่อนเกร็งกระตุก เนื้อตัวชาวาบ ขนลุกเกรียว ในที่สุดก็ปล่อยน้ำสีใสอย่างห้ามไม่ได้ ไหลอาบแท่งเอ็น
หญิงสาวผู้น่าสงสาร ถูกรับบทลงโทษทั้งที่ไม่ได้ก่อ เธอเพลียอ่อนแรง ศีรษะถูกวางบนแขนตัวเองพร้อมดวงตาที่ปิดลง เสียงหายใจดังแข่งเสียงเนื้อกระทบกัน มือหนาตีสะโพกกลมมน ทำให้เธอสะดุ้งต้องยกศีรษะขึ้น
เตชินท์สาดความดิบเถื่อนใส่สาวแรกรุ่นอย่างดุเดือดร้อนแรง ภายในตอดรัดลำเอ็นเขาแน่น เสียงคำรามดังกึกก้อง พร้อมหยาดน้ำสีขุ่นขาวไหลหยดตาม
ยามที่เขาดึงลำเอ็นพร้อมเลือดที่ไหลปนออกมา ปิ่นฉัตรนอนคุดคู้กอดร่างตัวเองทันทีที่เขาปล่อยเธอเป็นอิสระ หน้าตาแดงก่ำเปรอะเปื้อนคราบน้ำตา ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงยุ่งเหยิงพันกันไม่น่ามอง
ชายหนุ่มมองร่างที่พึ่งให้ความสุขแก่เขา ก่อนแสยะยิ้มและยิ้มมุมปาก ปิ่นฉัตรเป็นสาวบริสุทธิ์ไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อน เตชินท์เริ่มบรรเลงบทลงโทษอีกครั้ง มือหยาบบีบหน้าหญิงสาว
ปากหยักก้มจูบสอดลิ้นในโพรงปากแสนหวาน ลำเอ็นแข็งโด่เสียดสีกลีบปากถ้ำ ชายหนุ่มเลื่อนมือมาจับจ่อขยับสะโพกตอกสุดลำ หญิงสาวสะดุ้งผวาพยายามร้อง แต่ปากถูกปิดจึงมีเพียงเสียงติดในลำคอ แรงอัดกระทุ้งถี่ ๆ จนแผ่นหลังหญิงสาวเสียดสีพื้นปูน เขาไม่สนใจ
สาดความดิบเถื่อนใส่คนไม่เคยจนปิ่นฉัตรนอนหายใจระรวย ปล่อยให้คนตัวโตทำตามที่อยากทำ เธอรู้แค่ว่ามีบางอย่างในตัวเธอเปลี่ยนไป ร่างกระตุกเกร็งแผ่นหลังยกเหนือพื้น ร้องครวญครางมือกำแน่น
“อ๊า อ๊า อ่า” ปล่อยน้ำสีใสพร้อมแผ่นหลังทิ้งลงพื้นที่เดิม สองขาถูกยกพาดบ่า แรงกระแทกดังตั๊บ ๆ เหงื่อเม็ดใหญ่หยดตามแรงส่ง เตชินท์คำรามดังลั่น ตอกอัดถี่ ๆ
น้ำสีขุ่นฉีดเข้าภายในไหลย้อนออกจำนวนมาก ลำเอ็นถูกถอนจากโพรงสาว สายตาเหี้ยมเกรียมจับจ้องยังร่างแน่งน้อย ที่นอนหายใจระรวย มือหนาจัดแจงเสื้อผ้าตัวเองอย่างใจเย็น
“อ้อ อย่าคิดหนีล่ะ ถึงเธอหนีฉันจะลากตัวเธอกลับมาใช้หนี้ให้ฉันจนครบ เพราะราคาแหวนนั้นทั้งชาติ เธอก็ไม่มีปัญญา ปิ่นฉัตร”