ทั้งที่ภายในใจยังคงรู้สึกเสียใจปนกับความสับสน แต่กลับเริ่มมีรู้สึกเสียวซ่านแทรกเข้ามาในร่างกาย อย่างที่เธอไม่เคยเป็นมาก่อน
ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวเริ่มที่จะพร้อม และเปลี่ยนจากอาการขัดขืนเป็นค่อยๆคล้อยตาม เห็นได้จากมือบางเริ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของเขาอย่างสะเปะสะปะ นั่นทำให้อิทธิ์คลี่ยิ้มเล็กน้อยอย่างพึงพอใจ เมื่อพบว่าร่างกายของหญิงสาวพร้อมแล้วสำหรับเขา ร่างสูงจึงจัดการค่อยๆดันท่อนเอ็นอุ่นเข้าไปจนสุดลำ
" เจ็บ!! ฉันเจ็บ เอาออกไป " ฟางข้าวร้องออกไปด้วยความเจ็บปวด ตอนนี้ร่างกายของเธอเหมือนถูกผ่าออกเป็นเสี่ยงๆ
" อย่าเกร็ง ค่อยๆผ่อนคลายนะ เดี๋ยวเธอก็จะไม่เจ็บแล้ว" ชายหนุ่มปลอบโยนด้วยเสียงกระเสร่า พร้อมกับขยับท่อนเอ็นเข้าออกช้าๆ เบาๆ เพื่อให้หญิงสาวได้คลายความเจ็บปวด
ของเหลวสีแดงเริ่มไหลซึมออกมาจากช่องทางรักของหญิงสาว ที่ถึงแม้ตอนนี้เธอจะเริ่มผ่อนคลาย แต่ก็ยังคงมีความรู้สึกเจ็บแปลบอยู่เล็กน้อย
" แน่น ดีจริงๆ " อิทธ์ไม่เคยรู้สึกดีขนาดนี้มาก่อน เพราะที่ผ่านมาผู้หญิงที่แดนส่งมาให้ก็จะผ่านงานมาอย่างโชกโชน พร้อมกับความเชี่ยวชาญเรื่องบนเตียง ต่างกับผู้หญิงคนนี้เหลือเกิน ที่ทั้งไร้เดียงสาและบริสุทธิ์
ความรู้สึกของฟางข้าวในขณะนี้มีทั้งความเจ็บปวดและความเสียวซ่านอย่างที่ไม่เคยพบพาน เธอเกลียดร่างกายของตนเอง ที่รู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับเขา ทั้งที่เขากำลังขืนใจเธออยู่
เมื่ออิทธิ์รู้สึกว่าร่างกายหญิงสาวเริ่มผ่อนคลายและให้ความร่วมมือกับเขามากขึ้น ชายหนุ่มจึงเร่งจังหวะ เปลี่ยนจากขยับท่อนเอ็นจากช้าๆ เป็นเร็วขึ้น จนในที่สุดทั้งคู่ไปถึงฝั่งฝัน
" อือ....." ทั้งคู่ครางออกมาเกือบจะพร้อมกัน น้ำสีขุ่นถูกปลดปล่อยลงไปบนเครื่องป้องกัน ขณะทีฟางข้าวก็มีความรู้สึกล่องลอยเหมือนอยู่ในความฝัน อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ฟางข้าวยังคงมึนงงกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น ว่าทำไมเธอไม่ต่อต้านอีกฝ่ายแถมยังรู้สึกสุขสมไปกับเขาอีก ทั้งที่ชายหนุ่มได้ทำการพรากสิ่งที่รักที่สุดไปจากเธอ สิ่งที่เธอหวงแหนมาทั้งชีวิต
อิทธ์ไม่ปล่อยให้ฟางข้าวได้คิดอะไร ชายหนุ่มได้เริ่มบทรักบทใหม่อีกครั้ง แต่ต่างกันที่ครั้งนี้เขาไม่ได้สวมสิ่งป้องกันเพราะเขามั่นใจว่าหญิงสาวนั้นสะอาดบริสุทธ์เพียงพอสำหรับเขา ส่วนเรื่องอื่นจะเป็นเช่นไร เขาค่อยคิดแก้ไขอีกทีก็แล้วกัน ตอนนี้ขอตักตวงความสุขจากผู้หญิงที่เขารู้สึกว่าติดใจในความไร้เดียงสาของเธอเข้าแล้วเสียก่อน
ทั้งคู่หลับไปในช่วงเกือบสว่าง หลังจากผ่านบทรักไปไม่รู้กี่ครั้ง ฟางข้าวตอนนี้ร่างกายบอบช้ำจากการผ่านศึกหนักมาทั้งคืน พร้อมกับความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากที่สติสัมปัชชัญญะได้กลับมาอีกครั้ง
แต่ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เช้าวันนี้ฟางข้าวก็ต้องรีบไปส่งอัญฑิกาที่สนามบิน หญิงสาวพยายามจะก้าวลงจากเตียง ด้วยร่างกายที่บอบช้ำเพื่อไปห้องน้ำ แต่ร่างบางก็ไม่มีแรงแม้จะยืน ร่างของเธอทรุดฮวบลงมากองกับพื้น เนื่องจากเหตุการณ์อันหนักหน่วงที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
"ตุ๊บ .." เสียงทรุดลงข้างเตียงของหญิงสาวทำให้อิทธ์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ก่อนจะมองไปที่ร่างบางซึ่งพยายามจะลุกขึ้นยืนด้วยความลำบาก
" จะไปไหน " ชายหนุ่มถามด้วยความรู้สึกเป็นห่วง เพราะสภาพของเธอตอนนี้ แทบจะไม่มีแรงลุกขึ้นยืนเอง
" ฉันจะไปห้องน้ำ " ฟางข้าวตอบไปด้วยความเคืองขุ่น เธอไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าชายหนุ่ม ผู้ที่พรากพรมจรรย์ไปจากเธอ
" เธอเป็นใครกันแน่ เธอไม่ใช่คนที่แดนส่งมาใช่มั้ย " อิทธ์ถามพร้อมกับความสงสัย ทั้งที่ในใจของชายหนุ่มมีคำตอบให้กับคำถามนี้อยู่แล้ว
" ฉันไม่รู้จักแดนอะไรที่คุณพูดถึงหรอก ฉันเป็นเพื่อนอัญฑิกา ฉันพยายามจะบอกคุณแล้ว แต่คุณไม่ฟังฉันเลย ฉันขอร้องอ้อนวอนคุณไม่รู้กี่ครั้ง แต่คุณก็ไม่ยอมหยุดมัน " ฟางข้าวตอบไปพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มคลอเคล้ารอบดวงตาอีกครั้ง
อิทธ์ได้ยินดังนั้นก็ตกใจมาก เขาเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยสิ่งที่ครุ่นคิดอยู่ในใจออกมา
" ฉันขอโทษจริงๆ ฉันหยุดมันไม่ได้ ฉันพร้อมจะรับผิดชอบเธอ ให้โอกาสฉันเถอะนะ " อิทธ์กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง และยิ่งเหลือบมองไปเห็นคราบเลือดบนผ้าปูที่นอน ยิ่งทำให้ความรู้สึกผิดมันเกาะกุมใจของชายหนุ่มมากขึ้นทุกที เพราะความขาดสติของเขา ถ้าเพียงชายหนุ่มสนใจฟังสิ่งที่เธอพยายามจะอธิบายสักนิด เหตุการณ์แบบนี้คงไม่มีวันเกิดขึ้น
" ไม่จำเป็น คุณไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรเกี่ยวกับตัวฉัน ขอแค่อย่าบอกใครว่าเกิดเรื่องนี้ขึ้นก็พอ ฉันจะถือว่าทำทานให้หมามันกิน " ฟางข้าวกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงกร้าว เธอไม่ต้องการอยู่กับคนที่ไม่ได้รักเธอ และยิ่งความรับผิดชอบเพราะเกิดจากความผิดพลาดแล้ว ยิ่งไม่มีวันที่ฟางข้าวจะตอบตกลง
" เธอกล้าดียังไงมาปฏิเสธฉัน ไม่เคยมีใครกล้าปฏิเสธฉันหรอกนะ และที่สำคัญเมื่อคืนเราสองคนก็เข้ากันได้ดีนี่นา " อิทธ์รู้สึกโกรธและเสียหน้ามาก เพราะในชีวิตของเขามีแต่ผู้หญิงเข้าหามาตลอด และไม่เคยมีใครกล้าปฏิเสธเขา เขาจึงพูดให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บใจ แม้ความรู้สึกจริงๆของชายหนุ่ม ยังคงอยากจะรับผิดชอบผู้หญิงตรงหน้าก็ตาม
ฟางข้าวได้แต่หน้าแดง ทั้งอาย ทั้งโกรธ แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ เพราะทั้งหมดที่เขาพูดมามันคือเรื่องจริง เธอคิดได้ดังนั้นจึงหันมาสบตากับชายหนุ่ม พร้อมกล่าวสิ่งที่เธอต้องการออกไป
" ฉันขอคุณแค่อย่างเดียว เลิกยุ่งกับฉัน ถือซะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น " ฟางข้าวที่ทำตัวเหมือนเข้มแข็ง แต่ในใจตอนนี้ปวดร้าวเหลือเกิน ความรู้สึกหลากหลายกำลังประดังเข้ามา
หลังกล่าวจบเธอพยายามลุกขึ้นเดินเพื่อไปเข้าห้องน้ำอย่างทุลักทุเล พร้อมกับน้ำตาที่เริ่มไหลรินออกมาอาบสองแก้ม เธอไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าชายหนุ่ม ไม่อยากรู้ไม่สนใจว่าเขาคนนี้เป็นใคร
เธอรู้แค่เพียงอย่างเดียวว่า เธอจะไม่มีวันให้อภัยเขากับการกระทำครั้งนี้
อิทธ์ทำได้แค่เพียงมองตามร่างบาง ที่กำลังพยายามเดินไปที่ห้องน้ำด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่