หลายวันต่อมา
09.11 AM.
"นั้นจะไปไหนน่ะโรส"
"บริษัทไงคะ"
ฉันละสายตาจากแลมโบกินี่สีส้มของตัวเองพร้อมหันมองแม่ด้วยสายตานิ่งเรียบ
"จะไปทำไมกันอยู่บริษัทก็มีลุงดูแลอยู่"
"แต่หนูก็เป็นผู้บริหารนะคะแม่"
เรื่องเดิมๆที่ต่อให้พูดต่อให้บอกแม่สักพันครั้งก็ไม่ทำให้แม่เข้าใจได้ ฉันเสยผมตัวเองก่อนจะสวมแว่นและกดเปิดประตูรถ
"ไม่ต้องรอทานข้าวนะคะ"
"แล้วคุณยักษ์ล่ะพี่เขาโทรมาหรือติดต่อมาบ้างไหม?"
"ไม่นะคะ"
ฉันตอบตามจริงพร้อมก้าวขึ้นรถก่อนจะปิดประตูรถด้วยความหงุดหงิด ต่อให้แม่ถามยังไงเขาก็ไม่โทรมาหรอกเพราะตั้งแต่วันที่เราไปกินข้าวดูตัวกันครั้งนั้นนี่ก็เกือบจะครบอาทิตย์แล้วเขาก็ยังไม่โทรมา
จริงๆคือฉันไม่ได้รอเพราะรู้ว่ายังไงเราก็ไม่เหมาะกันแต่แม่นี่สิตามยิกๆเลยอ่ะนี่เลยทำให้ฉันหงุดหงิดแต่เช้าทั้งๆที่อารมณ์ดีที่จะได้ไปทำงานแล้วเชียว
เวลาต่อมา
เอี๊ยด!
ฉันกดเปิดประตูออกพร้อมก้าวลงจากรถที่หน้าบริษัทก่อนพนักงานเก็บรถจะรีบวิ่งมารับกุญแจรถเอารถไปเก็บให้ฉันจึงยื่นกุญแจให้และเดินเข้าถายในตัวตึกสูงสิบห้าชั้นที่ทำงานเกี่ยวกับการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ทั้งส่งออกและกระจายสินค้าไปในหลากหลายที่ในประเทศ..ที่นี่เป็นบริษัทของพ่อฉัน พ่อเป็นคนก่อตั้งแต่เพราะท่านจากไปด้วยอุบัติเหตุเมื่อสี่ปีก่อนตอนนี้คนที่ดำรงตำแหน่งแทนจึงเป็นลุงของฉัน
"โรส"
คิดถึงลุงลุงก็มา ฉันยิ้มกว้างพร้อมหันหลังกลับไปทักทายลุงตัวเองขณะที่เขาก็ยิ้มให้และเดินมาพร้อมผู้ช่วยเกือบสิบ..
"คุณลุงจะไปไหนคะเนี่ย?"
"จะไปประชุมน่ะมีตกลงราคากับบริษัทคุณยุทธจำได้ไหม?"
"อ่อ จำได้สิคะเมื่อปีก่อนแม่ยังพาไปดูตัวลูกชายเขาอยู่เลย"
ฉันตอบอย่างขำๆขณะที่ลุงก็ยิ้มให้พร้อมมองฉัน
"แล้วนี่เข้ามาเซ็นเอกสารหรอ?"
"มาดูตัวเลขดูนั่นดูนี่ตามประสาแหละค่ะโรสอยากแบ่งเบาภาระลุงไง"
"ลุงล่ะภูมิใจตัวหนูจริงๆโรสลูกหลานคนอื่นเขานี่ไม่เอาการเอางานเลยนะมีหนูนี่แหละดีที่สุด"
"ถ้าดีลุงก็ป้อนงานใหญ่ๆมาให้สักทีสิคะไม่ก็ให้โรสเป็นหนึ่งในผู้ช่วยลุงก็ได้นี่"
ลุงหัวเราะเบาๆก่อนจะจับให้ฉันและบีบเบาๆก่อนเดินผ่านหน้าฉันไปพร้อมบรรดาพวกผู้ช่วยเขาที่หันมองฉันและโค้งให้ตามมารยาทแต่เชื่อสิถ้าเขาไม่ใช่ลูกน้องลุงคนพวกนี้ไม่ก้มหัวให้ฉันหรอก
แต่ถามว่าแคร์ไหมอ่อไม่เลยสักนิด
"สวัสดีครับคุณโรส"
"วันนี้มีงานอะไรให้โรสทำไหมคะพี่คิน?"
พี่คินเขาเป็นพี่ในแผนกที่ฉันได้อยู่แต่มันเป็นแผนกฝ่ายการผลิตที่ควบคุมและดูแลการผลิตและคุณภาพของงานหากแต่มันไม่ใช่แผนกที่ฉันต้องการที่ที่ฉันอยากทำคือแผนกการเงินต่างหากล่ะ
"ก็มีแค่ลองไปตรวจหน้างานนั่นแหละครับคุณโรส"
"โอเคค่ะเดี๋ยวโรสลงตรวจช่วยงั้นพี่เอาเอกสารมาให้ดูข้อมูลหน่อยนะคะ"
"ได้ครับ"
ฉันพยักหน้าให้พี่คินก่อนจะเดินกลับเข้าห้องทำงานตัวเองด้วยความเบื่อหน่าย...จริงๆงานตรวจคุณภาพสินค้าก็ใช่ว่าจะไม่ดีแต่นี่มันไม่ใช่สายงานที่ฉันต้องการจริงอยู่แหละว่าฉันเพิ่งจบมาใหม่แต่ก็ใช่ว่าฉันจะไม่เคยฝึกงานนี่
"คุณโรสครับผมมีเรื่องจะปรึกษา"
ฉันเงยหน้าจากการตรวจสภาพเครื่องยนต์ก่อนจะเดินไปทางพี่คินที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าตัวกระบังหน้าของรถยนต์พร้อมชี้ตำหนิให้ดู
"มันเป็นรอยกรีดน่าจะเกิดจากตอนขนย้าย"
"คัดออกเลยค่ะ"
"เอ่อ...คือเรื่องที่ผมจะเรียนบอกคืองี้นะครับ" ฉันเลิกคิ้วมองพี่คินขณะที่เขาก็ยื่นหนังสือมาให้ "เป็นหนังสือภายในที่ส่งมาเมื่อวันจันทร์และจริงๆเขาไม่ต้องการให้ผมเรียนคุณโรสแต่ผมคิดว่าผมควรจะบอก"
ฉันรับหนังสือมาจากมือเขาและไล่สายตาอ่านในทุกบรรทัดในหน้ากระดาษ..ใจความสำคัญของการร่ายยาวของฝ่ายบัญชีคือต้องการให้ฝ่ายฉันมองข้ามตำหนิเช่นรอยกรีดที่มีแค่นิดเดียวเพราะไม่อยากเสียเงินแก้งานที่มีตำหนิแค่นิดเดียวแถมยังปล.แบบเน้นด้วยนะว่าไม่ให้ฉันเห็น
คงเพราะตั้งแต่ฉันเข้ามาทำงานในตำแหน่งนี้ฉันตรวจดีจนเกินไปล่ะมั้งเพราะฉันไล่ให้เอางานกลับไปแก้เยอะมากจนมันอาจทำให้ต้องเพิ่มเงินในการซื้อสินค้าอีกแต่ขอเถอะในเมื่อให้ฉันมาอยู่ในจุดนี้แล้วฉันไม่สามารถปล่อยงานที่ไร้คุณภาพออกสู่ตลาดได้เหมือนกัน
"ขอบคุณนะคะที่บอก"
ฉันเหยียดยิ้มตอบพี่คินขณะที่เขาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
"ทำงี้ผมคงโดนเบื้องบนด่าอีกแน่"
"เบื้องบนคือใครคะ?"
"โถ่คนโรสผมไม่ใช่ลูกเจ้าของบริษัทเหมือนคุณนะครับ"
"ถึงพี่จะไม่ใช่แต่พี่ก็เลือกทำสิ่งที่ถูกนิคะ เชื่อเถอะไม่มีใครทำไรพี่ได้หรอกถ้าโรสไม่อนุญาต"
ฉันขยิบตาให้พี่คินก่อนจะเดินถือกระดาษที่เป็นหนังสือภายในบริษัทเดินไปทางลิฟต์และกดเพื่อไปชั้นเจ็ดที่เป็นแผนกการเงินท่ามกลางสายตาของพนักงานที่กำลังมองมาอย่างหวาดๆเพราะพวกเขาต่างรู้ว่าถ้าฉันขึ้นมาด้านบนคือต้องมีใครสักคนโดนด่าแน่ และใช่วันนี้ถ้าหัวหน้าการเงินไม่หาคำอธิบายดีๆมาให้ฉันมียับแน่!
ครืน...
ประตูลิฟต์เปิดออกพร้อมกับฉันที่กระแทกส้นสูงเกือบห้านิ้วที่ทำเอาฉันสูงกว่าผู้ชายบางคนในที่ทำงานและแน่นอนว่ามันช่วยเสริมให้บุคลิกฉันดูน่าเกรงขามขึ้นแน่นอนเพราะแค่เดรสสั้นสีดำผ้ากำมะหยี่กับรองเท้าสีดำล้วนก็บ่งบอกอยู่แล้วว่ามาเพื่อฆ่าจริงๆ
"สวัสดีค่ะคุณโรส"
"หัวหน้าแผนกบัญชีอยู่ไหน?"
ผู้หญิงใส่แว่นตัวเล็กกว่าฉันมากรีบผายมือให้ฉันเดินไปทางห้องประชุมขนาดปานกลางของฉันก่อนฉันจะไปยืนที่หน้ากระจกใส่ที่สามารถมองออกมาเห็นฉันที่กำลังยืนถือแผ่นกระดาษสะบัดไปมาด้วยท่าทีกวนๆได้
คุณทศพลหัวหน้าแผนกการเงินลอบถอนหายใจทันทีเมื่อเห็นฉันที่กำลังยืนอยู่
"ประชุมอะไรกันมันสำคัญไหม?"
"ประชุมงบทั่วไปค่ะ"
"คงยังไม่ใช่งบไตรมาสสินะ"
ฉันเลิกคิ้วและเหยียดยิ้มมองคุณทศพลที่เดินออกมาด้วยใบหน้านิ่งเรียบแต่ไม่ยอมสบตากับฉัน
"จะให้คุยตรงนี้หรือที่ไหนคะ?"
"ที่ห้องครับ"
เขาตอบกลับเสียงเบาฉันจึงหมุนตัวหันหลังและเดินกลับไปทางห้องของคุณทศพลพร้อมเปิดประตูให้เขาเดินเขาไปก่อนก่อนตัวเองจะเดินตามพร้อมเอาแผ่นกระดาษไปวางที่โต๊ะตรงหน้าเขาโดยไม่ลืมที่จะยิ้มให้บางๆอย่างอารมณ์ดี
"จริงๆกระดาษแผ่นนี้ไม่ควรมาอยู่ในมือโรสนะคะแต่จู่ๆมันก็ดันลอยมาตามลมซะงั้น"
ฉันว่าจบก็นั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้าเขา
"ผมแค่อยากทำให้งานมันสำเร็จลุล่วงด้วยดี"
"เดี๋ยวนะคะ" ฉันยกมือห้ามให้เขาพูดพร้อมกับหรี่ตามองด้วยความงงงวย "โรสไม่เข้าใจว่าการที่โรสต้องปล่อยปละเลยงานที่ต่ำกว่ามาตรฐานนี่มันจะทำให้งานไม่สำเร็จยังไง?"
"งานมันล่าช้าครับคุณโรส"
"ลูกค้าสามบริษัทใหญ่ที่รับงานจากเราเขาสามารถรอได้และการผลิตไม่เคยออกมาล่าช้าตั้งแต่โรสเข้ามาดูแล"
"คุณโรสครับ.."
"การที่โรสตรวจดูงานในทุกขั้นตอนและจะดูแลเป็นพิเศษในตอนที่ตรวจสภาพสินค้าเพราะโรสต้องการให้คุณภาพมันออกมาดีที่สุดโรสไม่ต้องการให้ใครมาว่างบริษัทเราได้ว่าปีหลังๆมานี่บริษัทเราคุณภาพแย่ลงอย่างที่เคยได้ยิน"
ในทุกคำที่ฉันพูดออกมาฉันสบตากับคนตรงหน้าตลอดแต่ฉันไม่ได้แสดงออกถึงความก้าวร้าวฉันเพียงแค่ต้องการอธิบายในจุดที่ฉันรับงานจริงๆ
"ซึ่งการที่คุณทศพลทำสิ่งนี้ขึ้นมาเพื่อร้องขอให้ทางแผนกเราปล่อยปละเลยสินค้ามันเป็นสิ่งที่โรสรับไม่ได้จริงๆ"
"เพราะงบประมาณมันสูงครับลำพังผมก็ไม่อยากทำแบบนั้นแต่เพราะหลายปีมานี้บริษัทเราขาดทุนจนแทบจะพยุงตัวแทบจะไม่อยู่แล้วเพราะงั้นทางเราเลยต้องลดต้นทุนในเรื่องที่ควรจะลดลง"
"ไม่เข้าใจในเมื่อมันขาดทุนแล้วทำไมเราไม่ลดต้นทุนทางการผลิต?"
"ผม..ผมไม่สามารถตอบได้ในเรื่องนี้"
"ฉันไม่มีสิทธิ์ได้รู้อะไรเลยสินะ"
มือฉันกำแน่นก่อนฉันจะมองสบตาคุณทศพลที่กำลังมองอยู่และเหยียดยิ้มมองเขา
"ค่ะฉันทราบแล้วแต่มาตรฐานของฉันจะยังเหมือนเดิมและยิ่งคุณทำแบบนี้ฉันจะยิ่งตรวจเช็กสินค้าให้ดีมากขึ้น"
"คุณโรสครับ"
"ถ้ามีอะไรมากกว่านี้รบกวนให้ท่านประธานมาแจ้งดิฉันโดยตรงนะคะ"
ฉันขยับลุกพร้อมก้มหัวให้เขาตามมารยาทก่อนเดินเชิดออกมาอย่างไม่แคร์แม้ภายในใจจะยังเครียดเรื่องที่บริษัทขาดทุนอยู่..ทั้งๆที่ฉันเป็นผู้ถือหุ้นด้วยแท้ๆแต่ทำไมฉันไม่รู้
"จะปิดหูปิดตากันไปถึงไหน"
ฉันเม้มปากพลางกอดอกตัวเองแน่นก่อนเสียงโทรศัพท์ตัวเองจะดังขึ้นฉันจึงต้องหยิบมากดรับโดยไม่ทันได้ดูเบอร์โทรเข้า
"ฮัลโหล?"
(ทำไมเสียงหนูดูหงุดหงิดจังเลยคะ?)
ฉันหรี่ตาก่อนเอาโทรศัพท์ออกจากหูมาดูซึ่งเบอร์ที่โทรเข้าคือเบอร์ของคุณยักษ์..นึกว่าหลุดจากวงโคจรไปแล้วซะอีก
"โทษนะคะไม่คิดว่าคุณจะโทรมา"
(พี่ต้องโทรอยู่แล้วแหละค่ะเพียงแค่พี่ต้องเคลียร์งานก่อนเพราะงั้นไม่งอนนะคะคนดี)
"เป็นบ้าอะไรคะทำไมถึงพูดงั้น?"
(ซ้อมไว้ไงเพราะวันนี้พี่มาเพื่อยื่นข้อเสนอ)
เรียวคิ้วฉันขมวดเข้าหากันก่อนประตูลิฟต์จะเปิดออกฉันจึงเดินออกมาตรงลานกว้างของชั้นหนึ่งที่ๆคนเริ่มจะเยอะแล้วเพราะมันใกล้จะเที่ยงเต็มที
(หน้าปกติก็สวยอยู่แล้วนะทำไมพอขมวดคิ้วแล้วยิ่งสวยพี่งงจัง)
ฉันเงยหน้ามองตรงก่อนจะเจอกับร่างสูงที่กำลังยืนโบกมือให้อยู่ตรงหน้าและเขาไม่ใช่ใครที่ไหนเพราะเขาคือคนที่ฉันกำลังถือสายอยู่แต่ในมือเขาตอนนี้กลับเต็มไปด้วยดอกไม้และลูกโป่งซึ่งมันเด่น
แค่เขามายืนที่นี่มันก็แทบเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วแต่เขากลับมาพร้อมของพวกนั้นนี่...ข้อเสนอเขาคงไม่ธรรมดาแน่ๆ